กำเนิด ๔
(1) เล่มที่ ๙
[๑๖๙] ดูกรสารีบุตร กำเนิด ๔ ประการเหล่านี้แล
๔ ประการเป็นไฉน? คือ
อัณฑชะกำเนิด
ชลาพุชะกำเนิด
สังเสทชะกำเนิด
โอปปาติกะกำเนิด
ดูกรสารีบุตร ก็อัณฑชะกำเนิด เป็นไฉน?
สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ชำแรกเปลือกแห่งฟองเกิด
นี้เราเรียกว่า อัณฑชะกำเนิด
ดูกรสารีบุตร ชลาพุชะกำเนิดเป็นไฉน?
สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นใด ชำแรกไส้ [มดลูก] เกิด
นี้เราเรียกว่า ชลาพุชะกำเนิด
ดูกรสารีบุตร สังเสทชะกำเนิดเป็นไฉน?
สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นใด ย่อมเกิดในปลาเน่า ในซากศพเน่า ในขนมบูด หรือในน้ำครำ
ในเถ้าไคล [ของสกปรก]
นี้เราเรียกว่า สังเสทชะกำเนิด
ดูกรสารีบุตร โอปปาติกะกำเนิดเป็นไฉน?
เทวดา สัตว์นรก มนุษย์บางจำพวก และเปรตบางจำพวก
นี้เราเรียกว่า โอปปาติกะกำเนิด
ดูกรสารีบุตร กำเนิด ๔ ประการเหล่านี้แล
ดูกรสารีบุตร ผู้ใดแล พึงว่าซึ่งเราผู้รู้อยู่อย่างนี้ ผู้เห็นอยู่อย่างนี้ว่า
ธรรมอันยิ่งของมนุษย์ที่เป็นญาณทัสสนะ อันวิเศษพอแก่ความเป็นอริยะของพระสมณโคดมไม่มี
พระสมณโคดมทรงแสดงธรรมที่ประมวลมาด้วยความตรึก ที่ไตร่ตรองด้วยการค้นคิด แจ่มแจ้ง
ได้เอง
ดูกรสารีบุตร ผู้นั้นไม่ละวาจานั้นเสีย ไม่ละความคิดนั้นเสีย ไม่สละคืนทิฏฐินั้นเสีย
ก็เที่ยงแท้ที่จะตกนรกดังถูกนำมาฝังไว้
ดูกรสารีบุตร เปรียบเหมือนภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยศีล ถึงพร้อมด้วยสมาธิ ถึงพร้อมด้วยปัญญา
พึงกระหยิ่มอรหัตผล ในปัจจุบันทีเดียว ฉันใด
ดูกรสารีบุตร เรากล่าวข้ออุปไมยนี้ ก็ฉันนั้น
ผู้นั้นไม่ละวาจานั้นเสีย ไม่ละความคิดนั้นเสีย ไม่สละคืนทิฏฐินั้นเสีย ก็เที่ยงแท้ที่จะตกนรกดังถูกนำมาฝังไว้.