มีนิยายเล่ากันมาว่า
กาลครั้งหนึ่งเมื่อเทพยเจ้า ซีอุส (Zeus) เฮอร์เมส
(Hermes) และโพซีออน (Poseidon) ตระเวนท่องเที่ยวไปในพิภพ
ฮีริอุส (Hyrius) ผู้ครองนคร บัวโอเตีย (Boeotia)
ได้ถวายการต้อนรับเทพยเจ้าทั้งสามอย่างดียิ่ง ก่อนจะจากไปเทพยเจ้าซีอุสได้ทรงสัญญาว่าจะประทานทุกอย่างที่พระเจ้าฮีริอุสต้องการ
ฮีอุสจึงขอให้มีบุตรชายสักคนหนึ่ง เมื่อเทพยเจ้าทั้งสามได้ฟังแล้ว จึงปัสสาวะรดลงบนแผ่นหนังแล้วให้เอาแผ่นหนังไปผังดินไว้
ครั้นถึงเวลาครบ 9 เดือน ก็บังเกิดเป็นทารกออกมาจากพื้นดิน ฮีริอุสตั้งชื่อว่า
ยูไรอัน (Urion) ต่อมาเรียกว่า โอไรอัน
(Orion) เมื่อทารกเติบใหญ่ขึ้นเป็นนายพรานร่างสง่ากล้าหาญ ออกล่าสัตว์ไปตามที่ต่างๆ
พร้อมด้วยสุนัขคู่ใจ ต่อมาได้แต่งงานกับ ไซด์ (Side)
ซึ่งชอบโอ้อวดว่าตนงามกว่า เฮรา (Hera) จึงถูกพรากให้ไปจุติใต้พิภพ
หลังจากนั้นโอไรอันได้เดินทางไปยังเกาะ คิออส (Chios)
และเดความรักใคร่กับพระนาง มีโรปี (Merope)
ซึ่งเป็นธิดาสาวของพระเจ้า โอโนเปียน (Onopion)
ผู้ครองเกาะคิออส เมื่อบิดาทราบว่าโอไรอันชอบพอธิดาตน จึงบอกโอไรอันว่า
ถ้าสามารถปราบสัตว์ร้ายให้สิ้นไปจากเกาะเมื่อใดก็จะยกธิดาให้ตามปรารถนา
โอไรอันทราบเช่นนั้นก็ตั้งหน้าออกกำจัดสัตว์ร้ายที่มารบกวนผู้คนพลเมืองจนหมดสิ้น
พอโอไรอันปราบสัตว์ร้ายหมดสิ้นลง
พระเจ้าโอโนเปียนกลับบิดเบือนรังเกียจไม่ยกธิดาให้ แต่ให้จัดสุราอาหารเลี้ยงโอไรอันเป็นการใหญ่พอเห็นว่าโอไรอันเมามายไม่ได้สติแล้วก็สั่งให้พนักงานจับโอไรอันไปทุบตีและควักลูกตาทั้งสองข้างแล้วเอาตัวไปโยนลงในเหวเสีย
ด้วยผลกรรมดีที่กระทำด้วยความซื่อสัตย์
เทพยเจ้าจึงทรงปกปักรักษามิให้โอไรอันถึงแก่ความตาย และให้สายตาเป็นปกติดังเดิม
เมื่อโอไรอันได้บทเรียนจากความรักไม่สมหวังเช่นนี้ ก็แล่นเรือออกเผชิญโชคต่อไปยังเกาะ
ครีต (Cret) ณ ที่นี้ได้พบกับเทพสตรีมีสิริโฉมงดงามชื่อ
เดียนา (Diana) น้องสาวของอะพอลโล พระนางเดียนาโปรดการล่าสัตว์อยู่แล้ว
เมื่อได้มีโอกาสออกล่าสัตว์กับโอไรอันบ่อยเข้า ความคุ้นเคยก็เป็นความรักฝังใจระหว่างหนุ่มสาวขึ้น
อะพอลโลผู้พี่เมื่อทราบว่าน้องสาวรักโอไรอันซึ่งเป็นมนุษย์สามัญก็มีความรังเกียจยิ่งนัก
วันหนึ่งอะพอลโลชวนน้องสาวออกไปเดินเล่นตามชายหาด
เมื่อเห็นจุดดำๆ ลอยน้ำอยู่ไกลๆ จึงท้าให้ยิงธนูว่าจะถูกจุดนั้นหรือไม่
เดียนาผู้น้องได้ขื่อว่าเป็นนักแม่นธนู เมื่อถูกท้าทายเช่นนั้นก็หยิบลูกธนูขึ้นพาดสายปล่อยลูกธนูไปถูกตรงเป้านั้นอย่างแม่นยำ
พี่ชายเฝ้าแต่สรรเสริญในฝีมือเป็นอย่างยิ่ง ทำให้น้องสาวภูมิใจเสียนี่กระไร
ทั้งคู่เพลิดเพลินเดินเล่นเป็นครู่ พอวกกลับก็เห็นร่างอันปราศจากวิญญาณของโอไรอัน
ถูกคลื่นซัดมาติดหาด ตรงศีรษะยังมีลูกธนูของเดียนาฝังอยู่ เดียนามีความเศร้าโศกและโกรธแค้นในกลอุบายของพี่ชายคิดกำจัดโอไรอันอย่างยิ่ง
เพราะอะพอลโลทราบดีว่าเวลานั้นโอไรอันกำลังเล่นน้ำทะเลอยู่ไกล จึงชวนน้องมาเดินเล่นและท้าให้ลองฝีมือโอไรอันจึงต้องตายด้วยน้ำมือคนรัก
ที่สุดเดียนาได้วิงวอนจอมเทพจูปิเตอร์ ให้นำวิญญาณของโอไรอันและสุนัขตัวโปรดทั้งคู่ขึ้นไปปรากฏอยู่บนฟากฟ้าตราบจนทุกวันนี้
บางนิยายเล่าเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า
เทพยเจ้า แอสเคลปิอุส (Asclepius) ทรงช่วยเหลือให้โอไรอันฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก
ที่สุดเทพยเจ้าเซอุสก็เป็นผู้ปล่อยสายฟ้าฟาดลงมาทำให้โอไรอันถึงแก่ความตาย
นางนิยายเล่าว่าเมื่อโอไรอันกลับฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่งนั้นเขาโอ้อวดว่าเป็นนายพรานที่เก่งกล้าเคยปราบสัตว์ร้ายจนหมดสิ้น
ไม่มีสัตว์ใดในโลกจะกล้ามาประจัญหน้าเขา แม้แต่สิงโตยังจับมาถลกหนังได้ง่ายๆ
เทพเจ้าจูปิเตอร์ทนฟังความโอ้อวดไม่ได้จึงส่งแมงป่องลงมาใช้เหล็กไนน้อยๆ
ต่อยโอไรอันถึงแก่ความตายแล้วส่งวิญญาณของโอไรอันไปปรากฏเป็นกลุ่มดาวบนท้องฟ้าให้ห่างไกลจากกลุ่มดาวแมงป่องที่สุด
ดังปรากฏอยู่ในทุกวันนี้ว่า กลุ่มดาวทั้ง 2 นี้ อยู่กันคนละขอบฟ้าและไม่เคยปรากฏบนฟ้าพร้อมกันเลย
|