พิมพ์ทองม้วน |
ลักษณะของพิมพ์เป็นแผ่นเหล็กกลมหรือสี่เหลี่ยม
ประกบติดกันเป็นคู่มีด้ามยาวสำหรับถือเวลาผิงไฟ
ด้านใน ของพิมพ์จะมีลวดลายต่าง ๆ
กัน วิธีการใช้ ควรปิ้ง หรือผิงพิมพ์ให้ร้อนเสียก่อน ทาด้วยน้ำมันพืชหรือน้ำมัน โดยใช้ลูกประคบซึ่งทำจากผ้า สะอาดห่อกากมะพร้าว ชุบ น้ำมันเช็ดทาพิมพ์ เมื่อพิมพ์ร้อนจัดตักแป้ง 1 ช้อน ใส่ลง ตรงกลางพิมพ์ แผ่นที่ประกบ ด้านล่าง กดพิมพ์ประกบ กันให้สนิท แป้งที่ใส่จะไหลเป็นแผ่นบางไปทั่วพิมพ์ ปิ้งไฟทันทีจนกระทั่งสุกเหลืองดี ใช้มีดปลายแหลมแซะออกม้วนหรือพับ ถ้าม้วนก็เรียกว่าทองม้วน ถ้าพับก็เรียกว่าทองพับ ส่วนเกล็ดกระโห้ก็เป็น ลักษณะเดียวกัน แต่วิธีการทำและการเลือกพิมพ์จะแตกต่างกัน เกล็ดกระโห้จะใช้พิมพ์ไม่มีลาย แผ่นจะเล็กกว่า เพื่อให้เหมือนลักษณะเกล็ดปลาจริง ๆ |
พิมพ์ขนมไข่ |
ลักษณะของพิมพ์
พิมพ์ขนมไข่ส่วนใหญ่จะทำด้วยทองเหลือง
ประกอบไปด้วย
ช่องสำหรับหยอดแป้งลงไป ประมาณ 12
ช่อต่อ 1 พิมพ์
แต่ละช่องอาจจะประกอบด้วย
รูปดอกไม้ กลม รี หรือรูปเปลี่ยม
พิมพ์ขนมไข่จะมีฝา
ซึ่งทำด้วยทองเหลืองหนา
สำหรับใส่ถ่านซึ่งจะให้ความร้อนด้านบนของขนม
มีห่วงที่ฝา
ซึ่งจะใช้เหล็กงอยกฝาขึ้น
เวลาที่จะหยอดขนมหรือแซะขนมออกจากพิมพ์ วิธีการใช้ ล้างพิมพ์ให้สะอาด เช็ดด้วยน้ำมันให้ทั่ว ผิงไฟ โดยใช้ถ่านซึ่งคุแดงใส่ในเตาเกลี่ยพอประมาณ และ ใส่ด้านบนฝาของพิมพ์ด้วย ใช้ลูกประคบชุบน้ำมันเช็ดให้ทั่วบริเวณที่หยอดขนม ตักแป้งลงหยอดให้เต็มปิดฝา ควรระวังเรื่องการใช้ไฟเพราะขนมจะไหม้ พอขนมสุกใช้เหล็กโค้งงอคล้องที่ห่วงข้างบนใช้ซ่อมหรือไม้แหลมจิ้ม ขนมออกจากพิมพ์ เมื่อเสร็จจากการประกอบอาหารแล้ว ล้างพิมพ์ให้สะอาด ควรเช็ดพิมพ์ด้วยน้ำมันพืชอีกครั้ง พิมพ์จะไม่เป็นสนิมและทำขนมครั้งต่อไปแป้งจะไม่ติดพิมพ์ |
พิมพ์ดอกจอก |
ลักษณะของพิมพ์
เป็นทองเหลืองทำเป็นรูปดอกไม้โปร่ง
มีเหล็กยาวสำหรับถือติดกับตัวพิมพ์ วิธีการใช้ ดอกจอกเป็นขนมที่ต้องทอดในน้ำมันมาก ๆ ก่อนใช้ แช่พิมพ์ในน้ำมันร้อนจัด เพื่อให้พิมพ์ร้อนเสีย ก่อน เมื่อพิมพ์ร้อนแล้วจุ่มพิมพ์ลงในแป้งที่ผสมไว้ เพื่อให้แป้งเกาะพิมพ์เป็นรูปทรงก่อน จึงนำลงทอดในน้ำมัน ร้อนปานกลาง พอสุกค่อย ๆ ใช้ปลายมีดแซะขนมออกจากพิมพ์ ขนมจะหลุดง่าย ตักขนมขึ้นจากน้ำมันวางบนก้น ถ้วยขนาดเล็กเท่ากับถ้วยข้าวต้มที่คว่ำไว้ กลีบขนมจะบานออกเป็นรูปดอกไม้ เมื่อเย็นจึงเก็บบรรจุถุงหรือขวด โหลไว้เพื่อให้กรอบนาน ส่วนพิมพ์ล้างให้สะอาดก่อนเก็บทาด้วยน้ำมันอีกครั้ง แล้วจึงแขวนไว้ในที่ลมโกรก |
พิมพ์รูปเรือ |
ลักษณะของพิมพ์
หัวและท้ายจะเรียวแหลม
คล้ายรูปเรือ ใช้ทำขนมไทย เช่น
ขนมหน้านวล ขนมผิง วุ้นต่าง ๆ
ส่วนเบเกอรี่ ใช้ทำพวกพาย เช่น
พายสับปะรด วิธีการใช้ ถ้าเป็นขนมหน้านวลหรือขนมผิง ทาด้วยน้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูด้านในพิมพ์บาง ๆ ก่อนจะใส่ส่วน ผสมของแป้งและนำไปอบ ขนมจะไม่ติดพิมพ์ เวลาสุกขนมจะร่อนออกจากพิมพ์ได้ดี เมื่อใช้เสร็จแล้วล้างน้ำให้ สะอาด เช็ดให้แห้ง ซ้อนกันไว้ เก็บใส่กล่องเก็บไว้ในที่ไม่มีมด หนู หรือแมลงสาบ |
พิมพ์ลอดช่อง |
ลักษณะของพิมพ์
จะประกอบด้วยส่วนกระป๋องมีหู 2 หู
และมีที่กดแป้ง
รูที่ก้นพิมพ์จะมีขนาดกว้างประมาณ
2-5 มิลลิเมตร
ตัวกระป๋องอาจเป็นทองเหลือง
อลูมิเนียมและสแตนเลส ก็ได้
ส่วนใหญ่นิยมทองเหลือง
เพราะไม่ทำ ให้แป้งลอดช่องดำ
เวลาทำสมัยก่อนนิยมใช้กะลามะพร้าวขัดเจาะรูที่ก้น
และมีขายาวพาดที่ถัง
เวลาใช้ตักแป้งใส่
และใช้ทัพพีกด วิธีการใช้ ใช้ไม้ยาวขนาดพอที่พาดขอบถังหรือหม้อได้ 2 อัน สอดเข้าที่หูของพิมพ์วางพาดบนหม้อที่ใส่ น้ำเย็นไว้จนเกือบเต็ม ตักแป้งที่กวนไว้ ใส่พิมพ์ประมาณค่อนพิมพ์ ใช้ที่กดกดแป้ง ตัวลอดช่องจะออกมาตามรูที่ ก้นของพิมพ์ การกดต้องเว้นจังหวะให้พอเหมาะ มิฉะนั้นตัวลอดช่องจะยาวหรือสั้นเกินไปทำให้ไม่น่าดู |
พิมพ์ซ่าหริ่ม |
ลักษณะของพิมพ์เหมือนกับพิมพ์ลอดช่องทุกอย่าง
แต่รูที่เจาไว้เล็กกว่า
เพื่อให้เส้นซ่าหริ่มที่ออกมาสวยงาม ้ วิธีการใช้ เหมือนกับพิมพ์ลอดช่อง แต่การกดซ่าหริ่มต้องกดยาวให้หมดทีเดียว ถ้ากดไม่สม่ำเสมอเส้นซ่าหริ่ม ที่ออกมาอาจเป็นก้อนแป้งหรือเส้นขาดฝอยเกินไป |
พิมพ์ไม้ |
ลักษณะของพิมพ์
เป็นแท่งไม้ กว้างยาวประมาณ 2x6
นิ้ว หนา 1 ฝ นิ้ว
ขุดลงไปในเนื้อไม้
เป็นรูปลายต่าง ๆ เช่น นก ดอกไม้
ผลไม้ พิมพ์ชนิดนี้
เหมาะสำหรับใช้ทำขนมทองเอก
สำปันนี ถ้าพิมพ์ลายละเอียดเกิน
ขนมออก มาจะไม่สวย
เพราะจะเห็นลายไม่ชัดเจน
ถ้าลายหยาบแต่ลึก
ขนมที่ออกมาจะมีลายคมชัดสวยงามกว่า
และทำความ สะอาดง่ายด้วย วิธีการใช้ ใส่เนื้อขนมลงในช่องที่เป็นลวดลาย กดให้แน่นแกะออก ถ้าติดพิมพ์หรือขนมค่อนข้างแฉะ ใช้แป้ง มันโรยที่พิมพ์ การโรยแป้งไม่ต้องโรยมาก ถ้าโรยแป้งหนาไป ขนมออกมาจะไม่สวย เมื่อโรยแป้งเคาะแป้งออก ให้เหลือแค่ติดพิมพ์ จากนั้นกดเนื้อขนมลงไปและเคาะออก ขนมจะเป็นลวดลายตามต้องการ |
พิมพ์อลูมิเนียมรูปต่าง ๆ |
ลักษณะของพิมพ์
จะเป็นอลูมิเนียมรูปร่างต่าง ๆ
เช่น ถ้วยกลมจีบ ถ้วยสามเหลี่ยม
สี่เหลี่ยม รูปกระต่าย รูปปลา
พิมพ์ชนิดนี้ถ้าจีบถี่ ๆ
จะทำความสะอาดยาก
เวลาใช้เสร็จควรแช่น้ำให้สิ่งสกปรกที่ติดหลุดออกจึงล้าง
เหมาะที่จะ
ใช้เป็นพิมพ์วุ้นต่าง ๆ ขนมชั้น
ปุยฝ้าย เพราะทนความร้อนได้ดี วิธีการใช้ ถ้าใช้ทำวุ้นเรียงพิมพ์ลงในถาดหยอดวุ้นลงไป แล้วหล่อน้ำในถาด ถ้าทำขนมชั้นนึ่งพิมพ์ให้ร้อน ก่อนจึงหยอดแป้ง ถ้าทำปุยฝ้ายวางถ้วยลงในลังถึง กะระยะห่างพอให้ไอน้ำขึ้นได้ ใส่กระทงกระดาษลงในถ้วยจีบ หยอดแป้ง แล้วนำไปนึ่งในน้ำเดือดปุด ๆ หรี่ไฟลง |
พิมพ์ขนมเรไร |
ลักษณะของพิมพ์
ประกอบด้วยไม้ 2 ชิ้น ประกบติดกัน
มีบานพับติดสำหรับยกขึ้นใส่แป้ง
ข้างหนึ่งจะเจาะเป็น ช่องกลม
มีสังกะสีเจาะรูบุอีกที
อีกข้างหนึ่งจะมีไม้กลมยื่นออกมาขนาดเล็กกว่าช่องกลมอีกข้างหนึ่งนิดหน่อย วิธีการใช้ หงายพิมพ์ด้านที่มีสังกะสีเจาะรูขึ้น ใส่แป้งที่ปั้นเป็นก้อนกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ลงบนด้านที่มี ไม้ยื่นออกมา กดทับพิมพ์ลงเหมือนบีบกล้วยปิ้ง แป้งขนมก็เป็นเส้นหยิกออกมาทางรูสังกะสี ใช้สปาตูล่าแซะไป ใส่ในลังถึงนึ่งอีกที |
พิมพ์ขนมปลากริม |
ลักษณะของพิมพ์
เป็นแผ่นทองเหลืองหรือแผ่นสังกะสี
เจาะรูตรึงทั้ง 4 ด้านกับไม้ วิธีการใช้ พาดตะแกรงบนหม้อน้ำเดือด ใช้แป้งดิบกดลงบนตะแกรง แป้งจะเป็นเส้นตกลงไปในหม้อพอสุก แป้งจะลอยตักขึ้นแช่น้ำเย็น วิธีนี้อาจใช้กับการทำลอดช่องสิงคโปร์ก็ได้ |
กรวยหยอดฝอยทอง |
ลักษณะของพิมพ์
เป็นรูปกรวยมีด้ามถือที่ปลายกรวย
เจาะรูเดียวหรือ 2 รู
วัสดุที่ใช้ทำจะเป็นทองเหลืองหรือ
สแตนเลสก็ได้ วิธีการใช้ ใส่ไข่แดงที่ตีให้เข้ากันลงในกรวย ถือกรวยให้อยู่เหนือกระทะน้ำเชื่อมพอประมาณ โรยฝอยทองให้ เป็นวงกลมโดยนับรอบให้เท่ากัน เพื่อให้ฝอยทองมีขนาดแพที่เท่ากัน |
กรวยหยอดไข่แมงดาเทียม |
ลักษณะของพิมพ์
คล้ายกับกรวยหยอดฝอยทอง
เป็นรูปกรวยมีรูปลายกรวย 1 หรือ 2
รู แต่รุจะใหญ่กว่ากรวย
หยอดฝอยทอง
วัสดุที่ใช้ทำอาจเป็น ทองเหลือง
หรือสแตนเลสก็ได้
ถ้าไม่มีทั้งสองอย่างใช้ใบตอง
ม้วนเป็นกรวย
ก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน วิธีการใช้ ใช้ไข่แดงใส่กรวย ถือกรวยอยู่เหนือกระทะน้ำเชื่อม ใช้วิธีการหยอด ไม่ใช้วิธีการโรยเหมือน ทองหยอด ลักษณะของขนมที่ออกมาจะเป็นเม็ดกลม ๆ สีเหลืองใสเหมือนไข่แมงดา |
พิมพ์กดวุ้น |
ลักษณะของพิมพ์ จะเป็นอลูมิเนียม เหล็ก หรือทองเหลือง เป็นเส้นคมขดหรือดัดเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ ใบไม้ นก สัตว์ต่าง ๆ ใช้สำหรับกดลงไปบนขนมหรือของที่ไม่แข็งมาก เป็นการตกแต่งให้สวยงามที่ใช้กันมาได้แก่ กดลงไปบนวุ้นกะทิหรือวุ้นหวานต่าง ๆ ถ้ากดลงบนผักหรือผลไม้ แล้วนำไปประกอบอาหารก็เช่นกัน |
ถ้วยตวง |
มี 2 ชนิด คือ ถ้วยตวงของเหลว และถ้วยตวงของแห้ง ถ้วยตวงของเหลว ลักษณะ เป็นแก้วทนไฟ หรือพลาสติกใส มีขีดบอกระดับของเหลวที่จะตวง 1 ถ้วยตวง = 240 ซีซี การเลือกใช้ควรซื้อชนิดที่เป็นแก้วทนไฟ เพราะจะทนทานมีอายุการใช้งานนานกว่า ถ้าตวงของที่เป็นของร้อน เช่น น้ำร้อน น้ำมัน ถ้าใช้พลาสติกใสธรรมดา หรือแก้วธรรมดาจะแตกถ้าถูกความร้อนมาก ๆ |
ผ้าขาวบาง |
ลักษณะ
บางโปร่งเหมือนผ้ามุ้ง
มีสีขาวดูสะอาดมากกว่าสีอื่น ๆ
ซักสิ่งสกปรกออกได้ง่าย
แห้งเร็ว วิธีการใช้ ใช้กรองสิ่งสกปรกออกจากอาหาร ทบผ้าขาวบางสัก 2 ชั้น วางบนกระชอนเทน้ำเชื่อมลงเศษผงต่าง ๆ ก็จะติดอยู่บนผ้าขาวบาง วิธีนี้ใช้กรองกะทิที่มีเศษมะพร้าวดำ ๆ ได้ด้วย การนึ่งอาหาร ใช้ผ้าขาวบาง ชุบน้ำปูบน ลังถึงใช้แทนใบตองก็ได้ ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาด ๆ คลุมผักไว้ทำให้ผักสดเก็บไว้ได้โดยไม่เหี่ยว |
ลังถึง |
ลักษณะ
เป็นหม้อนึ่งด้านล่างก้นเรียบ
ใส่น้ำเพื่อให้เกิดไอ
ด้านบนก้นเจาะรูปขนาดใหญ่เพื่อให้
ไอน้ำขึ้นไป ทำให้อาหารสุก มี 2
ชั้น ฝา ทรงสูง
ส่วนใหญ่ทำด้วยอลูมิเนียม
เพราะน้ำหนักเบา
ทำความสะอาดได้ง่ายทนทาน
มีบ้างที่ทำด้วยสังกะสี
แต่อายุการใช้งานจะสั้นกว่า เพราะไอน้ำจะพุ่งใส่หน้าทำให้เกิดอันตรายและระวังน้ำจะหยดใส่หน้าขนมทำให้ขนมหน้าบุ๋มไม่สวย ถ้านึ่งครั้งต่อไปต่อจากครั้งแรก ให้เช็ดหยดน้ำบนฝาลังถึงให้แห้งสนิทจึงปิดฝา ใส่น้ำที่ก้นลังถึงประมาณ ฝ - พ ของลังถึงวางอาหารหรือขนมที่จะนึ่ง วางเรียงกันกะระยะให้ห่างกันพอสมควร เพื่อให้มีช่องให้ไอน้ำขึ้นมาทำให้อาหารสุก เช็ดฝาให้สะอาดปิดฝา เมื่ออาหารสุกเวลาเปิดฝา ให้เปิดฝาลังถึงออก นอกตัว |
ช้อนไม้ พายไม้ |
พายไม่ลักษณะ ปลายแบนยาวมีด้ามสำหรับถือ ใช้กวนหรือผสมส่วนผสม สำหรับช้อนไม้ ลักษณะคล้ายพาย แต่รูปร่างเป็นช้อนขนาดใหญ่ ทำด้วยไม้ ทั้งพายไม้และช้อนไม้ ส่วนใหญ่ใช้คู่กับกระทะทอง หม้อตุ๋น สำหรับกวน ขนม เช่น เปียกปูน ตะโก้ วุ้น หรือ ตุ๋นสังขยาทาขนมปัง |
ถ้วยตะไล |
ลักษณะเป็นถ้วยเคลือบดินเผา สีขาวขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 นิ้ว ก่อนใช้ต้องล้างให้สะอาด ใช้ทำขนมถ้วยฟู ขนมน้ำดอกไม้ ต้องนึ่งถ้วยให้ร้อนเสียก่อน ขนมจะหลุดออกจากพิมพ์ได้ง่าย ถ้าทำขนมปุยฝ้าย ใส่กระทงกระดาษ ลงในถ้วยอีกทีจึงหยอดแป้งลงไป เมื่อใช้เสร็จแล้วล้างน้ำให้สะอาด ใส่ตะแกรงผึ่งให้แห้งซ้อน กันไว้เก็บใส่กล่อง |
ถาดขนมสี่เหลี่ยม |
ลักษณะ เป็นถาดอลูมิเนียมส่วนใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีหู 2 ข้าง สำหรับจับ ใช้ได้ทั้งอบ ผิง หรือนึ่ง ส่วน ใหญ่ใช้ทำ ขนมชั้น ขนมหม้อแกง ขนมสาลี่ ใช้เสร็จแล้วล้างให้สะอาด ระวังเรื่องเศษอาหารที่ติดตามซอกมุมด้วย ถ้าหมักหมมนาน ๆ อาจเกิดเป็นพิษต่อร่างกายได้ |
ที่ตีไข่ |
มีทั้งชนิดที่ตีด้วยมือ
และใช้ไฟฟ้า
ที่ตีไข่ของไทยก็เหมือนกับของฝรั่งหรือของต่างชาติ
เพราะได้รับอิทธิพล
การทำขนมมาจากต่างชาติ
ส่วนใหญ่จะเป็นขนมที่มีส่วนผสมไข่เป็นหลัก
เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง
ได้รับ อิทธิพลมาจากโปร์ตุเกส
ขนมไข่ สาลี่
ก็ดัดแปลงมาจากพวกขนมเค้ก วิธีการใช้ ที่ตีไข่แบบใช้มือตี ต้องเลือกภาชนะที่ใช้ตี ปากไม่กว้างจนเกินไป เพราะไข่จะขึ้นฟูได้น้อย ภาชนะ ตลอดจนที่ตีไข่ต้องแห้งสนิท ไม่เปื้อนน้ำมันหรือไม่มีส่วนผสมที่เป็นน้ำหยดลงไปในไข่ การตีไข่ต้องตีให้อากาศ แทรกตัวเข้าไปในไข่ให้มากไข่จึงจะขึ้นดี โดยวิธีเข้าหาตัว ไม่ใช้วิธีตีกดลงไปตรง ๆ จะทำให้ไข่ขึ้นช้า ถ้าเป็นที่ตี ไข่แบบใช้ไฟฟ้าก็จะง่ายขึ้น เพราะจะมีสปิดบอกไว้แล้วที่ตัวเครื่อง เมื่อใช้แล้วทำความสะอาดตามซอกมุมให้ทั่ว ถ้าเป็นแบบใช้ไฟฟ้า อย่าให้น้ำถูกมอเตอร์เพราะจะทำให้ไฟฟ้าช็อตได้ ถ้าสกปรกมากก็ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดให้สะอาด |
ตะแกรงร่อนแป้ง |
ลักษณะเป็นตะแกรงกลมทำด้วยสแตนเลส ทองเหลือง หรือไม้ ไม่มีด้ามถือ ใช้ร่อนแป้ง น้ำตาล ในส่วนผสม ของขนมที่ต้องการความละเอียด ฟูเบา ขนมบางชนิดต้องฝนแป้งดิบ เช่น ขนมขี้หนูหรือขนมทราย ใช้ตะแกรง ร่อนแป้งร่อน จะได้เม็ดขนมที่ละเอียด ดีกว่าฝนด้วยกระชอนกรองกะทิเมื่อใช้เสร็จล้างน้ำใช้แปรงขัดสิ่งสกปรกที่ ตะแกรงออกให้หมด ผึ่งแดดให้แห้งสนิทก่อนนำมาใช้ครั้งต่อไป ถ้านำมาใช้ขณะที่ตะแกรงยังไม่แห้ง แป้งจะเกาะติดทำให้อุดตันร่อนแป้งไม่ออก |
กระชอนกรองกะทิ |
ลักษณะ คล้ายตะแกรงร่อนแป้ง แต่จะเป็นตะแกรงล้วน หรือทำด้วยอลูมิเนียมเจาะรู มีด้ามถือ มีหู สำหรับ พาดเกาะหม้อหรืออ่างเวลาคั้นกะทิ เมื่อใช้เสร็จล้างให้หมดกากมะพร้าวแขวนไว้ ผึ่งให้แห้ง |
กระต่ายจีน |
ลักษณะ
เป็นไม้กระดานแผ่นยาวมีเหล็กแหลม
หรือตะปู
ขนาดเล็กตัดปลายโผล่ขึ้นมาประมาณ
ฝ เซนติเมตร ใช้สำหรับขูดมะพร้าว
มันต่าง ๆ ที่ต้องการให้เป็นฝอย วิธีการใช้ มะพร้าวปอกเปลือก กะเทาะกะลาออกถ้าต้องการมะพร้าวขูดขาวก็ขูดผิวสีดำออก ขูดมะพร้าวที่ เป็นชิ้นกับกระต่ายจีน ลักษณะที่ได้จะคล้ายกับมะพร้าวที่ขูดด้วยเครื่องขูดไฟฟ้า ถ้าต้องการขูดมันสำปะหลัง หรือ มันอื่น ๆ ก็ทำลักษณะเดียวกัน |
มือแมว (หรือคันชัก) |
ลักษณะ
มือแมวขูดมะพร้าวจะคล้ายกับมือของแมวจริง
ๆ มะพร้าวที่ขูดออกมาจะเป็นฝอย
แต่ถ้าขูดมะพร้าว
อ่อนที่ใช้ทำข้าวเหนียวเปียก
ต้องให้ติดกันเป็นชิ้นใหญ่
ส่วนคันชัก
ใช้ขูดมะพร้าวทึนทึกให้เป็นเส้น
มะพร้าวที่ขูด ด้วยคันชัก
เส้นมะพร้าวจะใหญ่กว่าที่ขูดด้วยมือแมว วิธีการใช้ ใช้ขูดมะพร้าวทั้งกะลา โดยขูดเอาเนื้อขาว ๆ โดยขูดวงรอบนอกเข้าหาข้างในสุดจะขูดง่ายกว่าขูด สะเปะสะปะ |
แหนบจีบขนมจีบ |
ลักษณะ
คล้ายแหนบที่ใช้ถอนขน
แต่มีลักษณะแบนเรียบ
หรือมีลวดลายเพื่อความสวยงามทำด้วยทองเหลือง
หรือเหล็กใช้ทำขนมจีบ
ขนมช่อม่วง ปั้นสิบ วิธีการใช้ เมื่อปั้นแป้งเป็นโครงร่างตามต้องการ ใช้แหนบบีบริมให้เกิดรอยหยัก ในกรณีขนมปั้นสิบ ถ้าเป็น ขนมช่อม่วง ปั้นเป็นก้อนกลมและจีบตั้งแต่ส่วนกึ่งกลางของลูกกลม ให้เป็นกลีบดอกด้านใน และจีบไล่ออกมา เป็นกลีบดอกด้านนอก |
สปาตูล่า |
ลักษณะคล้ายพายไม้ไผ่บาง ยาว ทำด้วยสแตนเลสเป็นส่วนใหญ่ สปาตูล่านี้ ไม่ใช่เป็นอุปกรณ์ของขนมไทย ส่วนใหญ่ ใช้ในงานเบเกอรี่ แต่ขนมไทยบางชนิดต้องใช้พายไม้ไผ่บาง ๆ สำหรับแซะขนม เช่น ข้าวเกรียบปาก หม้อ ข้าวเกรียบอ่อน ขนมเรไร การหาไม้ไผ่มาทำเป็นพายให้พอดีที่จะปาดขนมได้ เรียบสะอาดเป็นเรื่องยาก จึงต้องใช้สปาตูล่าแทน เพราะถ้าใช้ไม้ไผ่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ และคุณภาพไม่สม่ำเสมอ |
เขียง |
เขียงที่ใช้ทำขนมหรือเรียกว่า เขียงหวาน ลักษณะจะกลมหรือเป็นรูปสี่เหลี่ยมแต่จะบางกว่าเขียงคาว เขียงคาว ส่วนใหญ่จะเป็นรูปกลมหนา ทำด้วยไม้มะขาม เพื่อความทนทาน งานหนักในการหั่นสับอาหารต่าง ๆ ส่วนเขียง หวานรูปร่างจะสวยและบอบบางกว่า เพราะงานที่ทำจะเป็นงานหั่นซอยเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น หั่นใบเตย ซอยใบ มะกรูด หั่นผลไม้ |
มีด |
มีดมีอยู่หลายชนิด ประกอบด้วย มีดสับ มีดปอกผลไม้ มีดคว้าน มีดสับ จะมีลักษณะใหญ่หนามีน้ำหนักมาก เพื่อให้มีแรงกดลงไป ช่วยย่นระยะเวลาในการสับให้สั้นขึ้น มีดหั่น จะคมบางเรียว ถ้ามีดหนาไปจะหั่นลำบาก ของ ที่หั่นออกมาจะไม่สวย มีดปอกผลไม้ ใช้มีดขนาด 1.5 ซ.ม. ยาวประมาณ 5 นิ้ว มีทั้งชนิดปลายแหลมและปลาย มน ควรลับมีดให้คมอยู่เสมอ เพราะผักและผลไม้ที่ปอกจะได้ไม่ช้ำ มีดคว้าน ปลายแหลมเล็กโค้ง ใช้สำหรับ คว้าน เมล็ด ผลไม้ แกะสลัก ผัก ผลไม้ หรือของอื่นที่ต้องการให้สวยงาม มีดต้องคมปลายต้องแหลมจะได้ลวดลาย ที่สวย |
อ่างเคลือบ |
อ่างเคลือบที่ใช้มีหลายขนาด ตั้งแต่เล็กจนถึงเป็นกะละมัง ขนาดใหญ่สำหรับใช้ล้างของ สาเหตุที่ต้องใช้อ่าง เคลือบเพราะขนมไทยบางชนิด มีส่วนประกอบของ น้ำปูนใส เกลือ ไข่ ถ้าใช้โลหะพวกเหล็ก หรืออลูมิเนียม สารประกอบของโลหะที่ทำภาชนะ อาจปนเข้าไปกับอาหาร อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ถ้าไม่ชอบอ่างเคลือบ อาจเลือกอ่างสแตนเลสก็ได้ แต่จะมีราคาแพงกว่า |
กระจ่าละเลงขนมเบื้อง |
ลักษณะ
ประกอบด้วยส่วนตัวกระจ่า
ซึ่งทำจากกะลา ขัดเงา ตัดออกมา
เป็นวงกลม
เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว
และด้ามเป็นไม้ดัดให้โค้งงอเล็กน้อย
เพื่อความสะดวกในการละเลง
แต่สมัยโบราณอาจมีการแกะสลักด้าม
เพื่อความสวยงามก็มี วิธีการใช้ ใช้ละเลงขนมเบื้อง ซึ่งต้องอาศัยศิลปะและความชำนาญ ในการละเลง ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน มาก ตั้งกระทะขนมเบื้องให้ร้อนเช็ดด้วยน้ำมันพอให้ลื่นไม่ติดกระทะ ใช้กระจ่าจุ่มแป้งแล้วมาละเลงให้เป็นวงกลม ต้องเร็วเพราะแป้งจะแห้งเสียก่อน |
ครก |
ครกที่ใช้เป็นครกหินหรือครกไม้ ครกดินก็ได้ตามแต่ละบ้านจะมี ส่วนใหญ่ไว้ใช้โขลกถั่วลิสงคั่ว งาคั่ว เผือกบด กล้วยบด |
หวี |
ลักษณะ
คล้ายหวีที่ใช้หวีผม
แต่ไม่มีฟัน
ด้านคมจะหยักวัสดุที่ใช้ทำเป็นสแตนเลส
เหล็กหรือทองเหลืองก็ได้
ถ้าเป็นเหล็ก
เวลาหั่นผักบางชนิดจะดำ
และจะเป็นสนิมได้ง่าย วิธีการใช้ ใช้หั่นผักหรือผลไม้ จะทำให้เกิดลวดลายหยักเหมือนแกะสลักไว้เป็นร่อง การใช้ ใช้หั่นเหมือนมีด เช่น หั่นฟักทองนำไปแกงบวด กล้วย มัน สำหรับฉาบ เมื่อใช้เสร็จล้างให้สะอาดตรวจดูตรงด้าม หรือซอกมุมจะเกิด สิ่งสกปรกอุดได้ง่าย |
มีดตัดวุ้น |
ลักษณะ
รูปร่างเป็นมีดมีด้ามถือ
แต่ฟันจะหยัก
และจะหนากว่ามีดฟันเลื่อยสำหรับตัดผักผลไม้
ส่วนใหญ่จะทำ ด้วยทองเหลือง วิธีการใช้ ตัดวุ้นเพื่อให้เกิดลวดลาย โดยตัดกดลงไป ไม่ตัดแล้วกดปาดเหมือนมีดทั่วไป เพราะจะทำให้ขนม เละและไม่มีลาย ใช้ตัดวุ้นหวาน วุ้นกะทิ หรือวุ้นที่ใช้ทำวุ้นกรอบ |
ไม้คลึงแป้ง |
ลักษณะ เป็นไม้ท่อนกลม คอดปลาย มีไม้เล็ก 2 ข้างพอเหมาะมือสำหรับจับคลึงไม้คลึงแป้งที่ดีต้องมีน้ำหนัก คลึงแล้วเรียบสม่ำเสมอ ถ้าไม่มีไม้คลึงแป้งใช้ขวดเปล่าคลึงแทนก็ได้ |
พายยาง |
ลักษณะ คล้ายพายไม้ แต่ทำด้วยพลาสติก ใช้สำหรับผสมส่วนผสมให้เข้ากัน หรือปาดส่วนผสมที่เลอะอยู่ปาก อ่างให้รวมอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ควรกวนผสมของร้อน หรือนำไปผัดแทนตะหลิว เพราะความร้อนจะทำให้พลาสติก ละลายปนกับอาหาร ทำให้เกิดอันตรายได้ |