- ข้าวสารเจ้า 1 1/2
ลิตร
- ข้าวสารเหนียว
1/8 ลิตร
- น้ำตาลทราย 1/2
กิโลกรัม
- น้ำตาลปี๊บ 1/8
กิโลกรัม
- น้ำมันสำหรับทากระทะ
เครื่องใช้เฉพาะ
ไข่ต้มใช้เฉพาะไข่แดง 1
ฟอง
กะลาหรือกระป๋องเจาะรูเล็ก ๆ
ถี่ ๆ สำหรับโรยเส้น
ไม้แหลมสำหรับแซะขนม 2 อัน
กระทะก้นแบน
(ถ้าไม่มีใช้กระทะก้นมนได้)
|
- นำข้าวสารเจ้าและข้าวสารเหนียว
ใส่ชามรวมกันซาวรวม กันให้ สะอาด
แช่น้ำไว้ 3 ชั่วโมง
- สงข้าวใส่ตะกร้าที่รองด้วยใบมะละกอ
แล้วปิดด้วยใบ มะละกอ เช่น
เดียวกัน วางตะกร้าในที่ร่ม
ใช้น้ำราดเข้าเย็น ทุกวัน
เพื่อให้ ข้าวเปื่อยยุ่ยทิ้งไว้ 3
วัน
- นำข้าวใส่ครกตำให้ละเอียด
หรือจะใช้โม่โม่ให้ละเอียดก็ได้
เมื่อละเอียดแล้วเติมน้ำ
คนให้แป้งกระจายตัว กรองด้วยผ้า
ขาวบาง
แล้วตั้งทิ้งไว้ให้แป้งนอนก้น
รินน้ำใสข้างบนออก ทิ้งไป
ส่วนแป้งนั้นให้ใส่ห่อผ้าทับน้ำต่อจนแห้ง
- เชื่อมน้ำตาลทรายและน้ำตาลปี๊บกับน้ำเล็กน้อย
ให้เป็น น้ำเชื่อม ข้น ๆ
วางพักไว้ให้เย็น
- เติมน้ำเชื่อมลงในแป้งทีละน้อย
นวดให้เข้ากัน ควร นวดนาน ๆ
ประมาณ 20 นาที
เติมน้ำเชื่อมต่อจนแป้งเหลว
เมื่อยกมือขึ้น
แป้งจะไหลเป็นสายไม่ขาดก็ใช้ได้
- ตั้งกระทะบนไฟอ่อน ๆ
ใชไข่แดงต้มผสมน้ำมันเช็ดกระทะ
ให้ ทั่วเพื่อป้องกันขนม
ติดกระทะ ถ้าขนมไม่ติดกระทะ
แล้วใช้
น้ำมันเช็ดกระทะเพียงอย่างเดียว
- เมื่อกระทะร้อน
ตักแป้งใส่กะลา
โรยเส้นลงบนกระทะโดย
ส่ายกะลาให้เป็นวงกลม
เมื่อเส้นซ้อนหนาพอควรจึงหยุด
โรยพอ
- เส้นสุกออกสีเหลืองนวล
ใช้ไม้แซะพับเป็นรูปสี่เหลี่ยม
นำขึ้นจากกระทะ
หมายเหตุ
1.
ก่อนตักแป้งใส่กะลาให้คนแป้งเสียก่อนทุกครั้ง
ถ้าแป้งนอนก้นเส้นจะขาดได้
2.
ถ้าขนมหวานจัดเกินไปเส้นจะขาดขณะที่โรยได้เช่นเดียวกัน |