ฝอยทอง


phoythong-2.JPG (19124 bytes)

Green_and_Black_Diamond.gif (591 bytes)  ขนมไทยอีกชนิดที่มีประวัติความเป็นมายืนยาว มีหลักฐานว่าเกิดขึ้นในรัชสมัย ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช   มีชาวโปรตุเกสนำสูตรขนมชนิดนี้เข้ามาเผยแพร่ ให้แก่คนไทยเรา  เช่นเดียวกับ ทองหยิบ  ทอดหยอด  ตามปกติ ขนมไทยแท้ ๆ มัก จะไม่เอา "ไข่"   เป็นส่วนผสมในการทำขนมกันนัก   ส่วนใหญ่เป็นแป้ง กะทิ   น้ำตาล มะพร้าว มากกว่าเป็นอย่างอื่น   เมื่อชาวโปรตุเกสเข้ามาทำการค้าขายกับ คนไทยใน ยุคนั้น ก็จะพาแม่บ้านมาด้วย   เลยได้สอนวิธีทำขนมให้กับคนไทย ปรากฏว่าเป็นที่ ถูกอกถูกใจทำกินกันมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนผสม วิธีการทำ
  1. ไข่เป็ด  10  ฟอง
  2. ไข่ไก่  5  ฟอง
  3. ไข่น้ำค้าง (หรือน้ำต้อย) เท่าที่เอาออก จากไข่  ประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำมันพืช  2  ช้อนชา
  5. น้ำตาลทราย  3  ถ้วยตวง
  6. น้ำดอกมะลิ  4  ถ้วยตวง
  1. ต่อยไข่ออกทั้งไข่ไก่และไข่เป็ด   แยกไข่แดงออก  และแยก เอาไข่ขาวที่มีลักษณะเป็นน้ำใส ที่เรียกว่า น้ำต้อย หรือ น้ำค้างออกเก็บไว้ต่างหาก
  2. เอาไข่แดงออกจากเยื่อหุ้ม แล้วเอาไปผสมกับไข่น้ำค้าง หรือน้ำต้อยที่แยกเก็บไว้   กวนให้เข้ากัน   แล้วใส่น้ำมันพืช กวนต่อไปอีกให้เข้ากันอีกด้วย
  3. เอาน้ำตาลทรายขยำกับเปลือกไข่ เอาน้ำลอยดอกมะลิใส่ลง ไปด้วย   ตั้งบนเตาไฟ เคี่ยวให้เป็นน้ำเชื่อม แล้วยกพักไว้
  4. กรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไฟอีกครั้ง ถ้ามีฟองให้ตักทิ้ง
  5. ตักไข่ที่กวนคนเอาไว้ใส่ลงในกรวยใบตองซึ่งทำขึ้น โรยไข่ ลงไปในน้ำเชื่อมด้วยการวนไปรอบ ๆ กระทะทอง
  6. เมื่อฝอยทองสุข ก็เอาไม้ไผ่ปลายแหลมสอดเข้าไปที่ตัวขนม ฝอยทองพับขึ้นจากน้ำเชื่อม พับเอาไว้เป็นแพ ๆ บนถาด
กลเม็ดเคล็ดลับ
ขนมไทยที่มีไข่เป็นส่วนประกอบสำคัญ   ตามสูตรควรจะเป็นไข่ เป็ด หรือไข่ไก่ ควรใช้อย่างนั้น ไม่สามารถใช้แทนกันได้ ที่สำคัญ ไข่ไก่ต้องมีความสดจึงจะได้ขนมที่อร่อย

phoythong.JPG (22934 bytes)


กลับไปที่รายชื่อขนมไทย

 

1