สังขยา


sangkaya.JPG (30152 bytes)


ส่วนผสม วิธีการทำ
  1. ไข่ไก่ต่อยแล้วตวง         1 ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลปึก         4 ถ้วยตวง
  3. กะทิข้น             3 ถ้วยตวง
  4. ใบเตยหอม         3 ใบ
  5. ถุงพลาสติกใช้สวมมือขณะขยำ
  1. ตวงไข่และน้ำตาลใส่ชามผสม ใส่ใบเตยหอมที่ล้างสะอาด ดีแล้ว ใช้มือขยำไข่กับน้ำตาลให้น้ำตาลละลาย โดยใช้ใบ เตยช่วย (สวมมือลงในถุงพลาสติกขณะขยำ)
  2. เติมกะทิคนให้เข้ากัน แล้วกรองด้วยผ้า ขาวบางใส่ในถ้วย ชาม หรือถาดก้นลึก
  3. นำขึ้นนึ่งในหม้อน้ำเดือด ใช้ไฟแรงเปิดฝาขณะนึ่งจนสุกใช้ เวลาประมาณ 45 นาที ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของ ภาชนะ
  4. สังขยาเสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูนได้สวย ทั้ง ขาว ดำ และเขียว
    หมายเหตุ
    Green_and_Black_Diamond.gif (591 bytes) สังขยาอาจใช้ไข่เป็ดได้ แต่จะมีกลิ่นคาว และเนื้อจะ แข็ง กว่าใช้ไข่ไก่ หรือจะใช้เฉพาะไข่ขาวก็ได้ ถ้าใช้น้ำตาล ทรายรสจะหวานแหลม ควรเติมเกลือ 1/2  ช้อนชา เพื่อดึง รสให้กลมกล่อม
    Green_and_Black_Diamond.gif (591 bytes) สังขยานอกจากจะนึ่งแล้วเสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูนแล้ว อาจดัดแปลงเป็นของหวานในรูปอื่น ๆ ได้อีกคือ
    1. นึ่งในกระทงใบตอง เสิร์ฟเป็นของหวาน โดยไม่มีสิ่งอื่น ประกอบ ต้องลดน้ำตาลลง ใช้เพียง 1/2   ถ้วยตวง
    2. นึ่งในผลฟักทอง หรือหั่นชิ้นฟักทอง เล็ก ๆ ปนลงในสังขยาแล้วใส่ถาดนึ่งเรียกว่าสังขยาฟักทอง
    3. นึ่งในผลมะพร้าวอ่อน เรียกว่าสังขยามะพร้าวอ่อน
    4. นึ่งในผอบเผือก เรียกว่าสังขยาเผือก
    5. หั่นขนุนเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ปนในสังขยาแล้วนึ่ง เรียกว่าสังขยาขนุน
กลเม็ดเคล็ดลับ
Green_and_Black_Diamond.gif (591 bytes)   สังขยาหน้าต้องย่นขรุขระที่เรียกว่าหน้าหยักเมื่อตักจะเห็นเนื้อ ภายในมีโพรงพรุนแทรกอยู่ทั่วไป และภายในโพรงมีน้ำเชื่อมขังอยู่
เนื้อสังขยาควรเหนียวไม่ยุ่ย รสหวาน กลมกล่อม หอมไข่และกะทิรวมกัน

 


กลับไปที่รายชื่อขนมไทย

 

1