ของขบเคี้ยว

Back Home Next

squirrel-1.JPG (11914 bytes)

 

ของขบเคี้ยวในหน้านี้คือโกอาน (koan)หรือปริศนาธรรม ขอเชิญญาติโยมขบกันได้ตามอัธยาศัย...

แปลจาก English Translation of Zen Classic Wumenguan

ladder-1.JPG (14820 bytes)
หมาจิ้งจอก

เมื่อไรก็ตามที่อาจารย์ไบซาง(๗๒๐-๘๑๔)มีรายการสนธนาธรรม จะมีผู้เฒ่าท่านหนึ่ง มาร่วมฟังดัวยเสมอ แกไม่เคย ปริปากพูดอะไรแม้แต่คำ เดียว เมื่อคนอื่นกลับ แกก็ จะกลับไปพร้อม กับคนอื่นๆ อยู่มาวันหนึ่ง บังเอิญ แกเป็นคน หลังสุดที่เดินออกจากห้อง อาจารย์จึงถือโอกาส ถามว่าแกคือใคร ผู้เฒ่าก็ตอบหน้า ตาเฉยว่า กระผมไม่ใช่มนุษย์ ในสมัยพุทธกาล กระผม อาศัยอยู่ในภูขาแห่งนี้ วันหนึ่งมีคนมาถามกระผมว่า คนร่ำรวยนั้นอยู่ ภายใต้กฎแห่งกรรมด้วยไหม กระผมตอบไปว่าไม่ กระผมจึงไปเกิดเป็น หมาจิ้งจอกอยู่๕๐๐ชาติ อาจารย์ได้โปรดชี้ทางสว่างให้ กระผมด้วย กระผมจะได้หลุดพ้นจากการเป็นหมาจิ้งจอกเสียที

ผู้เฒ่าจึงถามสืบต่อไปว่า คนร่ำรวยอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม หรือไม่  อาจารย์ไบซางตอบว่า "อันคนร่ำรวยนั้นก็ไม่ได้ตาบอดกับ กฎแห่งกรรม" จากคำตอบของอาจารย์ ผู้เฒ่าก็บรรลุธรรม ผู้เฒ่าค้อมศีรษะคำนับ อาจารย์ไบซาง แล้วกล่าวว่า "กระผมถอดร่างหมาจิ้งจอกออกออกแล้ว วานอาจารย์ช่วยจัดงานศพภิกษุให้ด้วย ซากหมาจิ้งจอก อยู่ที่อีกฟาก หนึ่งของ ภูเขา"

อาจารย์ไบซางจึงสั่งให้พระลูกวัดออกไปป่าวประกาศ ให้ชาวบ้าน ทราบ ว่าจะมีการทำศพพระ หลังจากการฉันพัตตาหารเพล ชาวบ้านต่าง งุนงงและ   ถกเถียงกัน ว่าเป็นไปได้อย่างไรกันที่มีพระมรณะภาพ เพราะไม่ได้มีพระ รูปไหนเจ็บป่วยก่อนหน้านี้

หลังจากฉันพัตตาหารเพล อาจารย์ไบซางก็พาพระลูกวัด จำนวนหนึ่ง ไปค้นที่อีกด้านหนึ่งของภูเขา ได้ซากหมาจิ้งจอกมาซากหนึ่ง อาจารย์ ์ไบซางจึงจัดการเผาศพหมาจิ้งจอกเรียบร้อย

คืนนั้น อาจารย์ไบซางเรียกประชุมเพื่อสรุปผลกิจกรรมที่ ทำไป เมื่อตอน กลางวัน ฮวงโบถามอาจารย์ไบซางว่า ท่านผู้เฒ่าตอบปัญหาผิด ต้องเกิด เป็นหมาจิ้งจอกถึง๕๐๐ชาติ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างแก ่คนที่ไม่เคยทำ อะไรผิด

อาจารย์ไบซางพูดว่า "มานี่ซิ แล้วจะบอก"

ฮวงโบเดินเข้าไปหาอาจารย์ พร้อมกับตบหน้าอาจารย์ไบซาง หนึ่งครั้ง

อาจารย์ไบซางตบมือดังลั่นแล้วพูดว่า "เมื่อก่อนเราคิดว่าเคราของคน ต่างชาติ นั้นมีสีแดง แท้ที่จริงแล้วมีคนต่างชาติเคราแดงอยู่หนึ่งคนที่นี่"

ตีความโกอานหมาจิ้งจอก

วูมัน (๑๑๘๓-๑๒๖๐ อาจารย์เซ็นผู้รวบรวมโกอานเหล่านี้) ให้ความเห็นว่า หากไม่มีกฎแห่งกรรม แล้วคนจะกลับลงไปเกิดเป็นหมาจิ้งจอกได้ อย่างไรเล่า หากคนเราเลือกที่จะมองโลกด้วยตาข้างเดียวได้ ก็คงจะเห็น ถึงความสวยสด ที่ผู้เฒ่า เกิดเป็นหมาจิ้งจอกอยู่ถึง๕๐๐ชาติ

สุนัขของเจาโจ

พระรูปหนึ่งถามอาจารย์เจาโจว่า "สุนัขสามารถที่จะบรรลุธรรม ได้หรือไม่"   อาจารย์เจาโจตอบว่า "ไม่"

เจาโจ (๗๗๘-๘๕๗) 

ตีความโกอานสุนัขของเจาโจ

อาจารย์วูมันให้ความเห็นว่า...

การบรรลุธรรมของสุนัข เป็นการแสดงถึงเจตน์จำนง เมื่อมีการตั้ง คำถาม ที่มีคำตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ คนถามก็ถึงกับสูญเสียร่าง และสลายความมี ชีวิต

นิ้วหนึ่งนิ้ว

เมื่อไรก็ตามที่อาจารย์จิวดิ(ประมาณปี๖๐๐)ถูกตั้งคำถาม ท่านจะให้คำตอบ ด้วยการชูนิ้วขึ้น มาให้ดูนิ้วหนึ่ง โดยไม่ยอมพูดอะไร ในที่สุด เด็กรับใช้คนหนึ่ง จะตอบคำถาม ที่คนภายนอกถามเกี่ยวกับอาจารย์จิวดิ โดยการชูนิ้วๆหนึ่ง ให้ดู วันหนึ่งอาจารย์จิวดิรู้เข้า จึ่งเอามีดตัดนิ้วของเด็กรับใช้ ทิ้งเสีย เด็กรับใช้ ก็วิ่งหนีไปด้วยความเจ็บปวด อาจารย์จิวดิรีบเรียกเด็กกลับมา เมื่อเด็ก มายืนอยู่ตรงหน้า อาจารย์จิวดิจึงยกนิ้วมือตัวเองให้ดู เด็กรับใช้เลย บรรลุธรรม ในบัดดล

เมื่อตอนที่อาจารย์จิวดิใกล้จะมรณภาพ ท่านบอกกับกลุ่มคนที่ เฝ้าดูว่า ท่านเองก็บรรลุธรรมโดยนิ้วหนึ่งนิ้วของ อาจารย์ของท่านเอง กล่าวจบ ท่านก็สิ้นลมหายใจ

ตีความโกอานนิ้วหนึ่งนิ้ว

อาจารย์วูมันให้ความเห็นว่า...

คนสามคนบรรลุธรรมโดยการเห็นอาจารย์ ของตัวยกนิ้วหนึ่งนิ้ว หากคนอื่น มองเห็นอย่างคนทั้งสาม ก็คงจะบรรลุธรรมได้เช่นกัน

ดอกไม้ของพระพุทธเจ้า

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ หยิบดอกไม้ขึ้นมาดอกหนึ่ง แล้วชูขึ้นแสดง ต่อฝูงชน ทุกคนต่างนิ่งเงียบ ยกเว้นพระมหากัสสปะ ซึ่งยิ้มออกมา พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า

เรามีสิ่งล้ำค่าจะมอบให้สำหรับผู้ที่มีดวงตาแห่งปัญญาที่ จะบรรลุนิพพาน คำสอนที่มีค่าที่สุดของเราเป็นสัจจธรรมที่ไม่มีรูปร่าง ไม่สามารถที่จะ บอก กล่าวได้ด้วยคำพูด แต่สามารถสื่อได้นอกรูปแบบ ท่านมหากัสสปะรับ เอาไปแล้ว

ดีความโกอานดอกไม้ของพระพุทธเจ้า

อาจารย์วูมันให้ความเห็นว่า...

พระพุทธเจ้าอ้างเอาอย่างหน้าด้านๆ   หากว่าไม่มีใครยิ้ม สัจจธรรมจะมีการ ถ่ายทอดได้อย่างไร   หากใครพูดว่ามีการถ่ายทอดสัจจธรรม ก็แสดงว่า พระพุทธเจ้าหลอกลวงชาวบ้าน หากใครพูดว่าไม่มีการถายทอด ทำไมพระพุทธเจ้าจึงยอมรับพระมหากัสสปะเพียงรูปเดียว

กินเสร็จก็ล้างถ้วยข้าว

พระรูปหนึ่งถามอาจารย์เจาโจว่า อาตมาเป็นพระบวชใหม่ อาจารย์ได้โปรด ชี้แนะหลักธรรมให้ด้วย

อาจารย์เจาโจจึงตั้งคำถามว่า "ท่านฉันข้าวหรือยัง" 

พระบวชใหม่ตอบว่า "ฉันเรียบร้อยแล้ว"

อาจารย์เจาโจจึงบอกว่า "งั้นก็ไปล้างถ้วยข้าว"

พระบวชใหม่ก็บรรลุธรรม

ตีความโกอานกินเสร็จก็ล้างถ้วยข้าว

อาจารย์วูมันให้ความเห็นว่า...

เพียงเพราะว่ามันเป็นสิ่งชัดแจ้ง

การบรรลุธรรมจึงล่าช้ายืดเยื้อ

เพียงแค่เขารู้ว่าไฟมาจากตะเกียง

ข้าวก็ควรจะถูกหุงสุกไปนานแล้ว....

 
ความเป็นธรรมดาคือหนทาง

อาจารย์เจาโจถามนานกวนว่า "อะไรคือหนทาง?"                 นานกวนตอบว่า   "จิตใจที่ธรรมดาคือหนทาง"          อาจารย์เจาโจจึงถามต่อว่า "แล้วจะสืบเสาะหาหนทางที่ว่าได้ไหม?"    นานกวนตอบว่า "หากว่าไปสืบเสาะหา ก็เมือนกับว่าหันหลังให้กับหนทาง"    อาจารย์เจาโจกล่าวว่า "หากไม่มีการเสาะหา แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า หนทางนั้นมีอยู่?"

นานกวนพูดว่า "หนทางไม่ใช่แหล่งที่เต็มไปด้วยวิชชา และก็ไม่ใช่แหล่งของอวิชชา ความรู้คือสามัญสำนึกจอมปลอม ความไม่รู้ก็เป็นเช่นเดียวกัน หากท่านมาถึงหนทางที่ว่า   ท่านจะพบแต่ความว่างเปล่า"

อาจารย์เจาโจก็บรรลุธรรม

 
ตีความโกอานกินเสร็จก็ล้างถ้วย

อาจารย์วูมันให้ความเห็นว่า...

ในฤดูใบไม้ผลิ ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยดอกไม้   ในฤดูใบไม้ร่วง ก็มีพระจันทร์.. ในฤดูร้อน อากาศก็เย็นสบาย...

หากไม่มีอะไรอยู่หยุดนิ่งในห้วงความรู้สึก....   ก็มีฤดูกาลที่ดีในโลกมนุษย์

 

Bootung's E-mail:  ykoans@yahoo.com

You are The Visitor # Since 9/4/1997
Last updated: March 29, 2000.
1