| หมาจิ้งจอก |
เมื่อไรก็ตามที่อาจารย์ไบซาง(๗๒๐-๘๑๔)มีรายการสนธนาธรรม
จะมีผู้เฒ่าท่านหนึ่ง
มาร่วมฟังดัวยเสมอ แกไม่เคย
ปริปากพูดอะไรแม้แต่คำ เดียว
เมื่อคนอื่นกลับ แกก็
จะกลับไปพร้อม กับคนอื่นๆ
อยู่มาวันหนึ่ง บังเอิญ แกเป็นคน
หลังสุดที่เดินออกจากห้อง
อาจารย์จึงถือโอกาส
ถามว่าแกคือใคร
ผู้เฒ่าก็ตอบหน้า ตาเฉยว่า
กระผมไม่ใช่มนุษย์
ในสมัยพุทธกาล กระผม
อาศัยอยู่ในภูขาแห่งนี้
วันหนึ่งมีคนมาถามกระผมว่า
คนร่ำรวยนั้นอยู่
ภายใต้กฎแห่งกรรมด้วยไหม
กระผมตอบไปว่าไม่
กระผมจึงไปเกิดเป็น
หมาจิ้งจอกอยู่๕๐๐ชาติ
อาจารย์ได้โปรดชี้ทางสว่างให้
กระผมด้วย
กระผมจะได้หลุดพ้นจากการเป็นหมาจิ้งจอกเสียที
ผู้เฒ่าจึงถามสืบต่อไปว่า
คนร่ำรวยอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม
หรือไม่ อาจารย์ไบซางตอบว่า
"อันคนร่ำรวยนั้นก็ไม่ได้ตาบอดกับ
กฎแห่งกรรม"
จากคำตอบของอาจารย์
ผู้เฒ่าก็บรรลุธรรม
ผู้เฒ่าค้อมศีรษะคำนับ
อาจารย์ไบซาง แล้วกล่าวว่า
"กระผมถอดร่างหมาจิ้งจอกออกออกแล้ว
วานอาจารย์ช่วยจัดงานศพภิกษุให้ด้วย
ซากหมาจิ้งจอก อยู่ที่อีกฟาก
หนึ่งของ ภูเขา"
อาจารย์ไบซางจึงสั่งให้พระลูกวัดออกไปป่าวประกาศ
ให้ชาวบ้าน ทราบ
ว่าจะมีการทำศพพระ
หลังจากการฉันพัตตาหารเพล
ชาวบ้านต่าง งุนงงและ
ถกเถียงกัน
ว่าเป็นไปได้อย่างไรกันที่มีพระมรณะภาพ
เพราะไม่ได้มีพระ
รูปไหนเจ็บป่วยก่อนหน้านี้
หลังจากฉันพัตตาหารเพล
อาจารย์ไบซางก็พาพระลูกวัด
จำนวนหนึ่ง
ไปค้นที่อีกด้านหนึ่งของภูเขา
ได้ซากหมาจิ้งจอกมาซากหนึ่ง
อาจารย์
์ไบซางจึงจัดการเผาศพหมาจิ้งจอกเรียบร้อย
คืนนั้น
อาจารย์ไบซางเรียกประชุมเพื่อสรุปผลกิจกรรมที่
ทำไป เมื่อตอน กลางวัน
ฮวงโบถามอาจารย์ไบซางว่า
ท่านผู้เฒ่าตอบปัญหาผิด
ต้องเกิด
เป็นหมาจิ้งจอกถึง๕๐๐ชาติ
จะเกิดอะไรขึ้นบ้างแก
่คนที่ไม่เคยทำ อะไรผิด
อาจารย์ไบซางพูดว่า "มานี่ซิ
แล้วจะบอก"
ฮวงโบเดินเข้าไปหาอาจารย์
พร้อมกับตบหน้าอาจารย์ไบซาง
หนึ่งครั้ง
อาจารย์ไบซางตบมือดังลั่นแล้วพูดว่า
"เมื่อก่อนเราคิดว่าเคราของคน
ต่างชาติ นั้นมีสีแดง
แท้ที่จริงแล้วมีคนต่างชาติเคราแดงอยู่หนึ่งคนที่นี่" |