|
- Heat
จากความร้อนโดยตรง
- Electricity จากไฟฟ้าแรงสูง
ลักษณะนี้อาจเกิดความผิดปกติภายในร่างกายด้วย
โดยที่ดูจากภายนอกไม่ทราบ
ได้แก่
ความผิดปกติเกี่ยวกับการหดตัวของกล้ามเนื้อ
ไตล้มเหลว เป็นต้น
- Chemical จากสารเคมี
ส่วนใหญ่คือ กรดแก่ หรือ
ด่างแก่ ได้แก่ กรดเกลือ
โซดาไฟ กรดเติมแบตเตอรี่
เป็นต้น
แบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ
- First-degree burns ผิวหนังแสบ ร้อน แดง
ปวด
หรืออาจเกิดพุพองขึ้นบ้าง
เกิดการทำลายของผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น
เกิดจากการโดนน้ำร้อนลวก
ไอน้ำร้อน โดนแดดเผา
- Second-degree burns
ผิวเป็นด่างๆดวงๆ
บางจุดขาว บางจุดแดง
เจ็บปวดมาก
มักมีตุ่มพุพองเกิดขึ้นด้วย
เกิดจากการโดนน้ำมันร้อน
สารเคมี สัมผัสของร้อน
- Third-degree burns
ผิวเป็นรอยไหม้
อาจปวดเล็กน้อย
หรือไม่ปวดเลย
เนื่องจากเส้นประสาทรับความรู้สึกถูกทำลาย
เกิดจากการสัมผัสของร้อนเป็นเวลานานๆ
, สารเคมีกัด,
กระแสไฟฟ้าแรงสูง
นอกจากนี้
ความรุนแรงยังขึ้นอยู่กับ
-
ความกว้างของบริเวณที่
Burns
- ตำแหน่งที่เกิดการ
Burns
ตำแหน่งที่สำคัญได้แก่
- จมูก คอ ปาก
ต้องการการรักษาทันที
ไม่ว่าจะเป็นระดับใด
เพราะอาจเกิดการบวม
ทำให้เกิดการหายใจติดขัดได้
- อวัยวะสืบพันธุ์
- ตา
- เกิดรอบลำตัว
- ถอดเครื่องเพชร กำไล แหวน
หรือเครื่องประดับอื่นๆ บริเวณนั้นทันที
มิฉะนั้นอาจเอาไม่ออก
เนื่องจากการบวม
- ห้ามใช้ น้ำมัน เนย
ผงโรยแผล ยาสีฟัน น้ำปลา ซีอิ๊ว
ทาเด็ดขาด
เนื่องจากทำให้แผลสกปรก
- ราดบริเวณที่ Burns ด้วย
น้ำเย็นโดยทันที ห้ามใช้
น้ำแข็ง หรือน้ำเย็นจัด
เนื่องจากอาจทำให้เกิดความชอกช้ำ
บาดเจ็บมากขึ้น
- ไปรับการฉีดวัคซีนกันบาดทะยัก
เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ถ้าท่านไม่ได้รับวัคซีนนี้ในช่วง
5 ปีมาก่อน
- ถ้าเป็นระดับต้น First-degree burns
ให้ใช้เจลว่านหางจระเข้
หรือ
ยาฆ่าเชื้ออื่นๆที่เหมาะสม
- ถ้าเป็นระดับสอง และ สาม
หรือ เป็นบริเวณสำคัญ
ควรปรึกษาแพทย์
เนื่องจากต้องการการรักษา
และใช้ยาฆ่าเชื้อที่ดีกว่าทั่วไป
เช่น Silversulfadiazine, Silver nitrate, Mafenide acetate
|