ทำไมจึงต้องทานยาปฏิชีวนะให้ครบเทอม

ทำไมต้องทานยาแก้อักเสบให้ครบเทอม?

ติชม หรือสอบถามได้ที่นี่ครับ

มีสาเหตุ 2 ประการหลัก คือ

ป้องกันการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย จากที่เคยใช้ได้ผล เชื้อแบคทีเรียจะพัฒนาการต่อต้านยาปฏิชีวนะ ซึ่งมีด้วยกันหลายๆวิธี ได้แก่
- สร้างสารไปทำลายยาก่อนที่ยาจะมาทำลายตัวเชื้อ
- ป้องกันไม่ให้ยาเข้าสู่ตัวเชื้อแบคทีเรีย
- ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอวัยวะของเชื้อแบคทีเรียในส่วนที่ยาจะมาออกฤทธิ์ ทำให้ไม่เกิดผล
ในการดื้อยานั้น ไม่ได้เกิดจากการทานยาไม่ครบเทอมแค่ครั้งเดียว แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดเมื่อไร ? อาจจะเป็นหลายเดือน หลายปี หลายสิบปีก็ได้ ดังนั้นจึงเป็นข้อเท็จจริงที่มองเห็นผลไม่ชัดเจน คนไข้จึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการทานยามากเท่าที่ควร
การเป็นเรื้อรัง การทานยาไม่ครบ ทำให้เชื้อที่สมควรจะถูกฆ่าจนหมด ก็ไม่หมด หลงเหลืออยู่ในบริเวณที่อักเสบนั้น รอวันที่จะกำเริบขึ้นมาใหม่ได้อีกถ้าร่างกายอ่อนแอลง

การกำหนดจำนวนวันที่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

เป็นเรื่องยาพอสมควรทีเดียว เพราะในโรคเดียวกัน อาจจะเกิดจากเชื้อคนละชนิดกันก็ได้ จึงมีการเจริญเติบโตไม่เหมือนกัน แต่ก็ยังโชคดีตรงที่ว่า ในการศึกษาพบว่า การติดเชื้อส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเชื้อตามที่ได้มีการรวบรวมสถิติไว้ นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับยาที่จะใช้ด้วยว่ามีคุณสมบัติทางยาเป็นอย่างไร

แต่ก็จะถือเป็นหลักเกณฑ์คร่าวๆคือ

ควรทานยาปฏิชีวนะจนกระทั่งอาการที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อ ได้แก่ น้ำมูกเขียวข้น เจ็บคอ เป็นต้น หายดีหมดแล้ว ทานยาต่อไปอีกประมาณ 2 วันเป็นอย่างน้อย

ในกรณีที่ทานยาไปประมาณ 2-3 วัน แล้วอาการไม่ดีขึ้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทานยาต่อไปอีก เพราะมักหมายถึงว่าเชื้อนั้นดื้อต่อยาที่กำลังใช้อยู่ ให้เปลี่ยนกลุ่มยาได้เลย