คุณผู้อ่านอยากทราบไหมคะว่าคู่สามีภรรยาเขาชมและติอะไรกันบ้าง
ถ้าอยากทราบก็เชิญอ่านต่อได้เลยค่ะ
พอย่างเข้าเดือนกุมภาพันธ์ทีไร เราก็มักจะนึกถึงวันที่ 14 กัน ซึ่งก็คือ
วันวาเลนไทน์นั่นเอง
ฉบับนี้ก็เลยอยากจะคุยเรื่องของความรักเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ
ว่ากันว่า ความรักในช่วงที่กำลังเป็นแฟนกันนั้น มันช่างหวานชื่น
ผิดกับเมื่อแต่งงานกันแล้วลิบลับ
ตอนเป็นแฟนกัน ลองให้ทั้งคู่บอกข้อเสียของอีกฝ่าย ที่คิดว่าจะทนไม่ได้
หากแต่งงานกันไปแล้ว ปรากฏว่าแต่ละฝ่ายมักจะนึกไม่ออก และบอกไม่ค่อยได้
ว่าอีกฝ่ายมีข้อเสียอะไรที่จะหนักหนาสาหัส ถึงขนาดทำลายชีวิตสมรสได้
ทั้งคู่จะยืนยันตรงกันว่าอยู่กันได้แน่ ไม่มีปัญหาแน่นอน
แต่เมื่อแต่งงานกันไปแล้วสักระยะหนึ่ง
คราวนี้ให้แต่ละฝ่ายลองบอกถึงข้อเสียของอีกฝ่าย
จะพบว่ายิ่งแต่งงานกันก็จะยิ่งบอกข้อเสียของอีกฝ่ายได้มากกว่าข้อดีและข้อเสียต่างๆ
บางครั้งก็ดูจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเสียเหลือเกินสำหรับเมื่อตอนเป็นแฟนกัน
แต่ทำไมหลังแต่งงานมันจึงกลายเป็นเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ก็ไม่รู้
ผู้เขียนเคยทำกิจกรรมกลุ่มสามีภรรยาประมาณ 40 คู่
เรียกว่าเป็นรายการเปิดใจกัน โดยให้แต่ละคนเขียนใส่กระดาษว่าคู่ของตนมีข้อดี
ข้อเสียอะไรบ้าง จากนั้นก็เอาคำตอบทั้งหมด ของฝ่ายสามีมารวมกัน
แล้วให้ตัวแทนสามีออกมาเล่าว่าคำตอบมีอะไรบ้าง โดยไม่ชี้เฉพาะ
ว่าคำตอบใดเป็นของใคร เมื่อตัวแทนฝ่ายสามีบอกเสร็จแล้ว
ตัวแทนฝ่ายภรรยาก็ออกมาเล่า คำตอบของฝ่ายภรรยาบ้าง เรียกว่าบอกแบบรวมกลุ่ม
จึงไม่สะเทือนใจใคร ให้เดากันเอาเองว่า คำชมหรือคำตินั้นควรจะเป็นของใคร
ทั้งสองฝ่ายจึงรับฟังกันได้ด้วยความสงบ
ไม่เกิดการทะเลาะวิวาทโต้เถียงกันแต่อย่างใด
ได้แก่ สวย ทำอาหารอร่อย รักลูก อบรมเลี้ยงดูลูกได้ดี
รักและซื่อสัตย์ต่อสามี ปรนนิบัติสามีได้ดี
มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปถึงญาติของสามีด้วย เป็นต้น
ได้แก่ ขยันทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เป็นหลักของบ้าน
เป็นผู้นำครอบครัวที่ดี เป็นที่ปรึกษาปัญหาต่างๆ ได้ เป็นต้น
ที่สามีอยากบอกให้รู้ ได้แก่ พูดมาก จู้จี้ขี้บ่น ชอบเซ้าซี้
ถามในสิ่งที่เขาไม่อยากบอก ขี้หึง
ชอบระแวงว่าสามีจะไม่ซื่อสัตย์ทั้งที่สามีก็ไม่เคยจะคิดนอกใจเลย เป็นต้น
ที่ภรรยาอยากให้แก้ไข คือ นอนกรนหนวกหู เงียบเฉย มีอะไรก็ไม่พูด
ไม่ปรึกษา ชอบกินเหล้า สูบบุหรี่ กลับบ้านผิดเวลาโดยไม่บอกล่วงหน้า
ชอบเที่ยวนอกบ้านแล้วอ้างว่าไปทำงาน ชอบพูดขึ้นเสียง หรือพูดคำหยาบเวลาโกรธ
เป็นต้น
คำพูดเสียดแทงใจที่ทั้งสามีและภรรยาไม่อยากได้ยินจากปากของอีกฝ่ายหนึ่งก็คือ
คำหยาบ พูดขึ้นเสียง พูดลำเลิกบุญคุณ รวมทั้งพูดเชิงตัดรอน เช่น
อย่ายุ่งน่า อยู่เฉยๆ เถอะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ เป็นต้น
นี่คือเรื่องจริงในชีวิตคู่ของสามีภรรยาเขาเปิดใจบอกกัน
และต่างฝ่ายก็รับฟังด้วยดี ไม่มีการโต้เถียงกัน
ส่วนจะนำไปแก้ไขปรับปรุงหรือไม่นั้น ผู้เขียนก็ไม่ทราบเหมือนกัน
แต่ถ้าครอบครัวใดอยากอยู่กันอย่างมีความสุขทั้ง พ่อ แม่ และลูก ก็น่าจะยอมรับ
และปรับปรุงตัวเองบ้างนะคะ
ส่วนคนที่เป็นแฟนกัน ยังไม่ได้แต่งงาน ก็น่าจะดูเป็นตัวอย่างเอาไว้บ้าง
เป็นการเตรียมตัวเตรียมใจรับสถานการณ์ล่วงหน้า
และถ้าจะให้ดีก็เตรียมการแก้ไขไว้แต่เนิ่นๆ
ชีวิตคู่ของคุณจะได้ราบรื่นและมีความสุขไปนานๆ ไงคะ
ขอส่งความปรารถนาดีให้ทุกคู่รัก ขอให้ครองรักกันยืนยาว
อดทนและถนอมน้ำใจกันให้มากๆ มีปัญหาอะไรก็ค่อยๆ แก้ไขกันไป
ขอให้นึกถึงช่วงที่ยังรักกันใหม่ๆ บ้าง เราคงไม่ตัดสินใจแต่งงาน
กับคนที่เลวบริสุทธิ์หรอก จริงไหมคะ นึกถึงส่วนดีของกันและกันให้มากๆ นะคะ
ขอให้โชคดีในความรัก
(update 14 กรกฎาคม
2001)
[ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 25 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2544
|