clinicrak.com   คลินิกรัก
เมื่อพี่อิจฉาน้อง


การที่พี่คนโตอิจฉาน้องคนใหม่ของครอบครัวนั้นเป็นเรื่องปกติ
และพบได้บ่อยในเด็กอายุ 1-3 ปี สิ่งสำคัญคือว่า คุณพ่อคุณแม่จะช่วยให้พี่นี้
เป็น " พี่ใหญ่ " ที่น่ารักของทุกคนในบ้านได้อย่างไร

คุณพ่อคุณแม่ควรเข้าใจว่าการที่พี่อิจฉาน้องนั้น เป็นเรื่องปกติที่พบได้เสมอในพี่คนโต ที่มีอายุ 1-3 ปี เพราะเขาเคยได้รับความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดเวลา แต่อยู่ๆ เมื่อมีน้องใหม่คุณพ่อคุณแม่ต้องแบ่งเวลาให้น้องคนเล็ก ทำให้ความสนใจที่เขา เคยได้จากคุณพ่อคุณแม่ลดลง เขาจึงต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ได้รับความสนใจกลับมาเหมือนเดิม เขาอาจต้องการให้คุณแม่กอด ให้อุ้มมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคุณแม่กำลังวุ่นกับการดูแลน้องใหม่ บางครั้งเขาจะแสดงพฤติกรรมถดถอย กลับไปเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ อีก เช่น ฉี่ หรืออึราดโดยไม่ยอมบอก ดูดนิ้วกลับไปดูดขวดนมอีกหลังจากที่เคยเลิกขวดนมได้แล้ว หรืออาจจะก้าวร้าวเพิ่มขึ้นเช่น แกล้งน้อง ชอบจับน้องแรงๆ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ และบางอย่างสามารถป้องกันได้บางพฤติกรรม ก็จะดีขึ้นเองใน 2-3 เดือน


การป้องกัน

เราสามารถเตรียมตัวลูกคนโตได้ตั้งแต่คุณแม่เริ่มตั้งท้องลูกคนเล็ก โดยบอกเขาว่า เขากำลังจะเป็นพี่ใหญ่ มีน้องเล็กอยู่ในท้องคุณแม่ ให้ลูกได้จับหน้าท้องขณะที่น้องดิ้น สร้างความรู้สึกที่ดีให้พี่มีต่อน้อง ให้พี่รู้สึกมีส่วนร่วมในการจัดเตรียมของเล่นและของใช้ของน้อง และให้รู้สึกว่าจะเป็น "น้อง" ของครอบครัว "เรา"

อย่าส่งลูกคนโตไปเนอสเซอรี่ หรือร.ร.ในช่วงใกล้คลอด หรือหลังคลอดใหม่ๆ และเช่นกันในการจัดห้องเพื่อรับน้องใหม่อย่าจัดให้พี่ต้องย้ายออกจกาเตียงหรือออกจากห้อง ที่เขาเคยอยู่เพื่อที่จะได้มีที่ให้แก่น้องคนใหม่หรือจากที่เดิมเขาเคยนอนกับคุณแม่ พอมีน้องเขาต้องออกไปนอนที่อื่นคนเดียว เพื่อไม่ให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นเพราะว่ามีน้องมาใหม่ เขาจึงถูกขับไล่ไสส่งออกไป

เมื่อคุณแม่ไปคลอดที่ร.พ.ให้โทรศัพท์กลับมาคุยกับลูกคนโตที่บ้านทุกวัน เล่าให้เขาฟังว่า คุณแม่เป็นอย่างไร และคิดถึงเขา ฯลฯ หรือให้ลูกได้มีโอกาสไปเยี่ยมน้องและคุณแม่ที่ ร.พ. พร้อมกับแวะดูที่ห้องเด็กอ่อน เพื่อให้เขาเห็นว่ามีคุณแม่คนอื่นๆ อีกหลายคนที่มาคลอดน้องที่นี่ และดูว่าเด็กทารกแรกเกิดคนอื่นๆ นั้นเป็นอย่างไร

เมื่อกลับถึงบ้าน ให้ใช้เวลาช่วงแรกพูดคุยทักทายและอยู่กับลูกคนโตสักพักหนึ่ง และอาจจะเตรียมของขวัญชิ้นเล็กให้แก่พี่คนโตโดยบอกว่า "เป็นของขวัญจากน้อง"

ให้โอกาสพี่ได้ใกล้ชิดจับต้อง และอุ้มหรือเล่นกับน้องบ้าง โดยมีผู้ใหญ่คอยดูแลตลอดเวลา ไม่ปล่อยพี่คนโตไว้กับน้องตามลำพังเป็นอันขาด เพราะด้วยความตื่นเต้น สนใจ อยากรู้ อยากเห็นหรือที่เรียกว่า เห่อน้อง อาจทำให้เกิดอันตรายได้ (โดยไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายน้อง)

พยายามหลกีเลี่ยงคำพูดบางอย่างที่อาจทำให้เกิดปัญหาในเด็ก เช่น " อย่าจับน้องนะ อยู่ห่างๆ น้อง ห้ามเข้าใกล้ ทำไมเราจึงยุ่งนัก อย่างนี้แม่ไม่รักแล้ว ถ้าไม่หยุดจะให้ (ป้า, พี่แดง ฯลฯ) เอาไปปล่อย (หรือเอาไปเลี้ยง) อย่างนี้ไม่เก่งเลย สู้น้องก็ไม่ได้ น้องน่ารักกว่า ฯลฯ "

ซึ่งนอกจากคุณพ่อคุณแม่ต้องระวังการใช้คำพูดที่จะกระทบต่อเด็กแล้ว ยังจะต้องเตรียมตัวผู้ใหญ่ คนอื่นๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทในการดูแลเด็กด้วย ซึ่งอาจเป็นคุณตา-ยาย, ปู่-ย่า, คุณลุง-ป้า, คุณน้า-อา หรือพี่เลี้ยง ที่บางครั้งอาจจะพูดในทำนองนี้โดยไม่ทันได้คิด หรืออาจจะพูดไปเพื่อแหย่พี่คนโตเล่น แต่หลายต่อหลายครั้ง ที่คนโตอาจจะไม่สามารถทำใจได้ และจะเกิดความ "ไม่ชอบน้อง" ขึ้น เพราะ "น้อง" เป็นสาเหตุให้ตนเองถูกดุ หรือไม่มีคนรัก

ให้พี่ได้มีส่วนร่วมในการดูแลน้อง เช่น ช่วยหยิบขวดนม หรือช่วยนำผ้าอ้อมไปไว้ที่ถังทิ้งผ้าอ้อม และอย่าลืมกล่าวชมเขาด้วยอย่างจริงใจ ว่าคุณพ่อคุณแม่ดีใจและภูมิใจที่เขาได้เป็นพี่ใหญ่ " เป็นผู้ช่วยคุณแม่ " ในการดูแลน้อง และให้พี่รู้สึกว่าน้องชอบที่มีพี่อยู่ใกล้ๆ เช่น "ดูซิ น้องชอบมากเลย ที่ลูกคุยกับน้อง"

แบ่งเวลา " พิเศษ " เพื่อที่คุณแม่จะได้มีเวลาอยู่กับพี่ตามลำพัง จะได้ให้ความสนใจแก่เขา ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีน้องคอยกวน ร่วมกันทำกิจกรรมที่เขาชอบ เช่น เล่านิทาน อ่านหนังสือด้วยกัน ไปเดินเล่น ฯลฯ

ถ้ามีโอกาสควรนำรูปหรือวิดีทัศน์พี่ ตอนที่เขายังเล็กๆ หรือตอนที่คุณแม่ให้นมเขา มาให้เขาดู เล่าให้เขาฟังว่าตอนเล็กๆ คุณพ่อคุณแม่ดูแลเขาอย่างที่กำลังดูแลน้องอยู่นี่เช่นกัน และบอกเขาว่า ตอนนี้ครอบครัวของเราใหญ่ขึ้น มีเขาเป็นพี่ใหญ่ที่เก่งขึ้น ช่วยดูแลน้องได้และมีน้องซึ่งต่อไปจะโตขึ้น และจะเป็นพี่น้องที่คอยช่วยเหลือกัน และเป็นเพื่อนเล่นกันได้ เหมือนครอบครัวอื่นๆ ที่เขารู้จัก

ขณะที่คุณแม่ดูแลน้องเล็กอยู่ คุณพ่อหรือผู้ใหญ่ท่านอื่น เช่น คุณตาสามารถชวนเขาไปเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ถ้ายิ่งมีเด็กโตคนอื่นที่มาเล่นกับเขาได้ด้วยก็จะยิ่งช่วยให้เขาเพลิน และเข้าใจคุณแม่ ยอมให้คุณแม่เลี้ยงน้องได้ โดยเขาไม่รู้สึกถูกทอดทิ้งอยู่คนเดียว

สำหรับพฤติกรรมถดถอยนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะเด็กต้องการทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ จากคุณแม่ โดยลองทำเป็นเด็กเล็กดูบ้าง เพื่อว่าคุณแม่จะได้มาดูแลเขา เหมือนกับที่คุณแม่ดูแลน้อง ส่วนใหญ่แล้วพฤติกรรมเหล่านี้จะดีขึ้นเองในเวลา 2-3 เดือน ขอให้เข้าใจเด็ก และอย่าไปดุว่าเด็ก เพราะจะทำให้เขารู้สึกไม่ชอบน้องมากขึ้น (เพราะเด็กจะไม่เข้าใจว่า ทำไม่น้องทำแล้ว คุณแม่โอ๋ เอาใจน้อง แต่พอเขาทำบ้างกลับโดนว่า)

ดังนั้นการเตรียมตัวมีสมาชิกใหม่ในครอบครัวนั้นเป็นสิ่งที่น่ายินดี และน่าตื่นเต้น แต่อย่าลืมนึกถึงหัวใจน้อยๆ ของผู้ที่ต้องกลายเป็นพี่ ด้วยความรักของคุณที่พร้อมจะเข้าใจ และให้โอกาสแก่ลูกเท่าๆ กัน จะทำให้ไม่เกิดบรรยากาศ " เมื่อพี่อิจฉาน้อง " อย่างปรับตัวได้อย่างดี กับสมาชิกใหม่ของครอบครัวในที่สุด


(update 17 กรกฎาคม 2001)
[ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 25 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2544]



[ BACK TO LIST]
1