การตรวจระบบทางเดินปัสสาวะ |
การตรวจที่นิยมใช้บ่อย ๆ มีดังนี้ คือ
1.IVP (Intravenous Pyelography)
เป็นการฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำเพื่อให้มีการขับออกทางไต ผ่านท่อหลอดไตลงสู่กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยในการศึกษารูปร่างและการทำงานของอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะได้ตามต้องการ โดยการถ่ายภาพเก็บไว้เป็นระยะ ๅ
การเตรียมผู้ป่วย
ข้อควรระวังในการตรวจ
2.RP(Retrograde Pyelography)
เป็นการตรวจหาพยาธิสภาพภายในช่องทางเดินปัสสาวะส่วนบน โดยการใช้กล้องส่องเข้าไปในท่อหลอดไต แล้วฉีดสารทึบรังสีเข้าตามสายสวนแล้วถ่ายภาพไว้
ข้อจำกัด
ข้อดี
3. VCUG(Voiding Cysto-Urethrography)
เป็นวิธีการตรวจทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งบอกทั้งรูปร่าง และการทำงานของกระเพาะปัสสาวะเและท่อปัสสาวะด้วย ซึ่งมีประโยชน์ช่วยหาสาเหตุในผู้ป่วยเด็กที่มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อย ๆ หรือผู้ใหญ่ที่มีปัญหาเรื่องปัสสาวะเล็ด
ทำการตรวจโดยการฉีดสารทึบแสงผ่านสายสวนปัสสาวะ เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะจนเต็มแล้วให้ผู้ป่วยพยายามปัสสาวะพร้อมทั้งถ่ายภาพเก็บไว้
ข้อแนะนำ
การตรวจระบบทางเดินอาหาร |
การตรวจที่นิยมใช้บ่อย ๆ มีดังนี้ คือ
การเตรียมตัว
ผู้ป่วยงดน้ำ งดอาหาร ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อให้ภาพที่ได้จากการตรวจมีความชัดเจนแปรผลได้ดี
ข้อดี
ข้อจำกัด
ในผู้ป่วยไม่รู้สติ หรือมีปัญหาการกลืนอาจทำให้เกิดการสำลัก แต่ถ้าจำเป็นต้องตรวจก็จะใช้สายส่งอาหารช่วย
2. การตรวจโดยการสวนแป้ง (Barium Enema , BE) เป็นการตรวจผิวเยื่อบุของลำไส้ใหญ่ โดยใส่แป้งผ่านสายสวนทางทวารหนักเข้าไป จนถึงลำไส้เล็กส่วนปลาย
ข้อดี คล้ายในการตรวจกลืนแป้ง
ข้อจำกัด
แผนกรังสีกรรม รพ.ค่ายสุรนารี โทร 273370-5 ต่อ 23335-6