Hokkaido

March 13-17, 2003

ไปฮอกไดโดตอนเดือนมีนาคมนี่ยังได้ทันเจอหิมะกองใหญ่ครับ สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับช่วงนี้คงไม่พ้นบ่อน้ำร้อน (ออนเซน) กับสกี สำหรับการไปในช่วงนี้เรียกได้ว่าถูกกว่าไปตอนหน้าร้อนช่วงมิถุนายน ถึงตุลาคม ผมไปโดยแบบ Package Tour รวมค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับโดย Japan airline ค่าไปออนเซนที่โนโบริเบทซึ หนึ่งคืน กับโรงแรมที่ซับโบโรสองคืนและค่า รถรับส่งคิดเป็นเงินไทยประมาณ 8000 บาทครับ ถูกกว่าไปเกาะภูเก็ตอีกครับ

ไปคราวนี้นอนที่ออนเซนสองคืน กับโรงแรมธรรมดาสองคืน(2800yen/คน/คืน)  สำหรับที่ออนเซน ราคาค่าที่พักก็จะรวมไปถึงการลงบ่อน้ำร้อน อาหารเช้ากับอาหารเย็น ผมไปออนเซนมาสองที่คือที่ Nobotibetsu กับที่ ริมทะเลสาบ Toya (ดูรูปที่ 6) ที่หลังนี่ใหญ่มากครับ มีทะเลเทียมอยู่ข้างใน มีสนามเทนนิส กับห้องอาหารขนาดจุ 1000 คนได้แบบหลวมๆๆ 

อาหารที่กิน กินแบบราชามากครับ กินอาหารทะเล กินปูทุกวัน ปูที่ญี่ปุ่นตัวใหญ่ยักษ์กว่าปูไทยมากมากครับเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า snow crab ปูขนก็มีครับ ไม่แนะนำให้ไปทานที่แบบ all-you-can-eat เพราะจะได้กินปูไม่สด และออกจะเหี่ยวๆ เย็นๆ แนะนะให้ไปที่ร้าน Kani hon Ke ครับ ไปกินตอนเย็นอาจถังแตกได้ แต่ว่าถ้าไปตอนกลางวันละก็ ราคาคุ้มค่าครับ ที่เห็นในรูปที่หนึ่ง เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชุดครับ เพราะอาหารชุดไม่มาพร้อมกันทีเดียวทำให้ ไม่สามารถถ่ายรูปทั้งชุดได้

สำหรับการเดินทางนอกเหนือจาก Package แล้ว ผมใช้การเช่ารถที่ Orix ครับเช่ารถ 4wd ชั้นนำมี car navigator ด้วยสองวัน 17000 เยนครับถูกกว่าเช่ารถกระป๋องตอนย้ายบ้านเป็นไหนๆ อีกอย่างหิมะเยอะมากครับ ควรปลอดภัยไว้ก่อน

สถานที่ท่องเที่ยวไม่ค่อยมีเมื่อเทียบกับที่เกียวโต ที่ซับโบโรก็มีหอนาฬิกา (รูป 2) , ศาลาว่าการ (รูป 3), กับเนินแกะ (รูป 4) ขับรถออกไปหน่อยก็จะไปถึง Otaru (รูป 5 )ที่เป็นแหล่งอาหารทะเล ผมไปกินร้านที่อยู่ใต้ทางรถไฟร้านแบบถูกๆ เลยครับ แต่อร่อยมากชื่อร้าน Isshintasuke เปิดใน guide book ก็มีแนะนำไว้ ที่ romantic ของที่นี่ก็คือที่ Unka เป็นแม่น้ำที่มีตึกเก่าๆ อยู่เรียงราย

ถ้ามีโอกาสขอแนะนำครับให้ไปฮอกไกโด ไม่ต้องไปตอนหน้าร้อนก็สนุกได้ครับ อุณหภูมิตอนที่ผมไปอยู่ในช่วง -4 องศาถึง 2 องศา กำลังเข้าฤดูใบไม้ผลิของที่ฮอกไกโดครับ

 

(1)

(2)

(3)

(4)

(5)

(6)


1