---

home l about thai indext l mail to me

---

แก้ข้อกล่าวหา

สืบเนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา มักเกิดมีข่าวเกี่ยวกับวงการท่องเที่ยวผ่านทางสื่อค่างๆออกมามากมาย
โดยที่ข่าวส่วนใหญ่ได้มุ่งเน้นไปที่มัคคุเทศก์ผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้นำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ
รวมทั้งคอยบริการและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆให้แก่นักท่องเที่ยวแต่ข่าวที่มักปรากฏอยู่เสมอคือ
มัคคุเทศก์มักจะเป็นผู้เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ทั้งมีการโกงสารพัดรูปแบบ เมื่อข่าวออกไปในลักษณะดัง
กล่าว แน่นอนว่า ความเสื่อมเสียก็คงไม่พ้นไปจากบรรดามัคคุเทศก์ทั้งหลายตัวผมเอง ในฐานะที่เป็น
มัคคุเทศก์คนหนึ่ง ทำมาหาเลี้ยงตัวด้วยอาชีพนี้มากว่า 18ปี จึงอยากจะขอใช้เวทีแห่งนี้ อธิบายความเป็น
มาของเรื่องทั้งหลายทั้งปวงที่ปรากฏออกมาเป็นข่าว โดยจะแยกเป็นหัวข้อดังนี้คือ

1 พานักท่องเที่ยวไปใช้บริการทางเพศ ทำให้ประเทศชาติได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้ถูก
มองว่า เมืองไทยเป็นเมืองที่เปิดเสรีทางเพศ

2 พานักท่องเที่ยวไปซื้อของในราคาที่แพง

จะขอชี้แจงเป็นข้อๆดังนี้

1 ที่กล่าวกันว่า พวกเราพานักท่องเที่ยวไปหาความสำราญทางเพศนั้น ขอถามว่า ถ้าเราไม่พา

ไป แล้วนักท่องเที่ยวจะไม่ไปยังงั้นหรือครับ ไม่มีทางเลย ธุรกิจทางเพศมันมีของมันมายังงั้น นักท่องเที่ยว
เอง ถ้าเราไม่พาไป เค้าก็ต้องไปของเค้าเอง แล้วเค้าจะไปกับใครล่ะครับ ก็อาจจะเป็นบรรดารถรับจ้างทั้ง
หลาย แต่ถ้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ใครจะเป็นคนรับผิดชอบครับ พาไปไหนก็ไม่รู้ บางทีพาไปเอาเด็กกลับมา
นอนที่โรงแรม พอตื่นนอนตอนเช้าปรากฏว่า ทรัพย์สินมีค่าหายไปตั้งมากมาย เหตุการณ์เหล่านี้มีเกิดขึ้น
เป็นประจำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวเองก็ไม่อยากจะไปกับคนอื่นเพราะอย่างน้อย เค้าก็ถือว่า
เค้าได้ซื้อทัวร์มาแล้ว การบริการอย่างนี้ควรจะต้องมีไว้รองรับด้วย หมายความว่า ให้ไปเป็นเพื่อนน่ะครับ
อย่างน้อย ก็ยังมีคนที่พูดกันรู้เรื่องอยู่ด้วย มีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขได้ นักท่องเที่ยวโดยมากมักไม่ชอบที่จะ ไปกันเองนะครับ ต้องการไปกับไกด์มากกว่า ผมหมายถึงพวกที่มีไกด์คอยบริการอยู้แล้วนะครับ พวกที่มา
อยู่กันเองนั้น เป็นอีกเรื่องนึงครับ

จริงๆแล้ว พวกผมก็ไม่ได้พาไปบ่อยนัก นานทีครับ จึงจะมีแบบนี้ซักครั้ง


ทีนี้ลองมาดูว่า ถ้าบรรดาไกด์ปฎิเสธที่จะพาไปล่ะครับ อะไรจะเกิดขึ้น ก่อนอื่นต้องเข้าใจวิธีการทำ

านกันก่อนนะครับว่า เมื่อเรามีแขกอยู่ในความดูแลของเรานั้น เราจะอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหลายวันครับ
มีทั้ง 5 วัน 7 วัน หรืออาจเป็น 15 วัน หรือเป็นเดือนก็ยังมี ถ้าเราปฎิเสธการบริการตรงนี้ แล้วเกิดพวก
ไม่พอใจขึ้นมา แล้วเวลาที่เหลือล่ะครับ เราจะอยู่กันยังไง เรื่องนี้ไม่ใช่ยกขึ้นมาลอยๆ มันมีเหตุการณ์เกิด
ขึ้นมาแล้ว เวลาที่เหลืออยู่ตั้งหลายวัน แขกกับไกด์คุยกันไม่รู้เรื่องเลยครับ อธิบายยังไงก็ไม่ยอมเข้าใจ ที่
เป็นเช่นนั้น เพราะแขกต้องไปหาบริการทางเพศเอาเอง แล้วไปเจอดีมา แล้วมาโทษไกด์ว่า ไม่ยอมพาไป
ต้องไปกับ taxi ซึ่งพูดกันไม่รู้เรื่อง ได้สาวมาคนนึงในราคาที่แพงบรรลัยโลก คือ คืนละ 5000 บาท แขก
ก็ไม่รู้ว่าราคาที่ควรมันควรจะเป็นเท่าไร เพิ่งจะมารู้ตอนหลัง แล้วตัวแขกเองก็ลืมร่มไว้ในรถ ก็เอาคืนไม่ได้
พอตอนเช้า เด็กไปแล้ว คือไปเปิดโรงแรมกันนอนใหม่น่ะครับ พอเด็กไปแล้วจึงพบว่า ตัวเองไม่ได้ถอด
ผ้าเลย หลับไปตอนไหนไม่รู้ กระเป๋าเงินอยู่บนที่นอน แต่ไม่มีเงินเหลืออยู่เลย พอจะเดาได้มั้ยครับว่าเกิด
อะไรขึ้น คงไม่ต้องสาธยายนะครับ แล้วลองคิดดูว่า ถ้าไกด์พาไปเอง เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นมั้ย ขอ
บอกว่า ก็มีโอกาศครับ แต่ก็เป็นการทุบหม้อข้าวตัวเอง ไม่มีใครทำหรอกครับ ของที่ลืมไว้ก็จะได้คืนด้วย
เพราะเรายังต้องหากินอีกนาน ถ้าไปทำแบบนั้นก็จบกัน เพราะเราไม่ใช่บุคคลที่ลอยไปลอยมา เราทำ
งานในรูปบริษัท มีการซื้อทัวร์ผ่านบริษัท ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น บริษัทจะเป็นผู้รับรองเป็นอันดับแรกแล้วจึงมา
ไล่เบี้ยเอากับไกด์ จึงรับประกันได้เลยว่า ไม่มีไกด์ที่ไหนทำอย่างนั้นครับ เพราะเราเองก็ต้องรับผิดชอบ
ในทุกอย่างที่เกิดขึ้น ความรับผิดชอบก็คือ เราจะโดนริบเงินประกันครับ บางบริษัท เราต้องวางเงินประ
กันถึง 50,000 บาท เห็นชัดมั้ยครับว่าเรามีกรอบที่แน่นหนาเพียงใด แต่กับพวก taxi นั้น พวกนี้ไม่ต้อง
รับผิดชอบอะไรเลย พาไปแล้วก็แล้วกัน ตามตัวไม่ได้ หายเข้ากลีบเมฆกันหมด

2 พานักท่องเที่ยวไปซื้อของในราคาแพง ข้อนี้ยอมรับครึ่งเดียวครับ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมี

ความต้องการซื้ออยู่แล้ว ถ้าปล่อยไปเอง แล้วไปโดนหลอกกลับมา ความผิดก็จะตกอยู่กับไกด์อีก หาว่า
ไม่ให้คำแนะนำที่ดี ทำให้ถูกหลอก เอากับเค้าซิ เราจึงจำเป็นต้องมีร้านที่เราเชื่อใจได้ มีมาตรฐานสินค้า
ราคาไม่แพงนัก แนะนำให้นักท่องเที่ยว อยากจะบอกว่า ตั้งแต่ทำมานะครับ ยังไม่เคยถูกฝรั่งบ่นเรื่องของ
ที่ซื้อไปเลย ทั้งเรื่องราคาและคุณภาพ เหตุผลก็คงจะเหมือนกับข้อ 1 ว่า เราไม่อยากให้นักท่องเที่ยวของ
เราถูกหลอก ส่วนราคาของในที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ว่าแพงนั้น นักท่องเที่ยวส่วนมากก็รู้ดีอยู่แล้ว และไม่เคย
มีนักท่องเที่ยวมีปัญหากับตรงนี้เลย มันเป็นของธรรมดาที่ราคาของในที่ท่องเที่ยวต้องแพงกว่าปกติ ไม่ว่า
บ้านเขาบ้านเรา ทุกคนยอมรับครับ แม้แต่ไกด์เอง บางครั้งยังต้องจ่ายราคาเดียวกันกับแขกเลยครับ ซึ่งมัน
ก็ไม่ได้แพงอะไรนักหนา เช่นน้ำ ขวดละ 10 บาท ข้าวผัดจานละ 50 บาท เป็นต้น ส่วนที่ว่าแพงมากกว่า
นั้น เช่น อาหารทะเลจานละเป็นพันบาท เรื่องนี้แย่หน่อยครับ ก่อนจะสั่งก็ต้องสอบถามราคากันให้ดีก่อน

มองอีกมุมนึงก็อาจจะมองได้ว่า แทนที่เราจะปล่อยให้เงินไปตกอยู่กับคนอื่น เราก็ควรจะเอาเสียเอง ไม่ดี
กว่าหรือ ถูกครับ แน่นอนเลยว่าถูกต้อง แต่ไม่ใช่ว่า เราจะเอาเงินเค้ามาเฉยๆนะครับ เรามีการตรวจสอบ
และมีความรับผืดชอบในปัญหาที่เกิดขึ้น เวลานักท่องเที่ยวไปกันเองกับคนอื่นเวลามีปัญหาขึ้นมา จะหา
ใครมารับผิดชอบล่ะครับ ก็คงไม่พ้นคนไทยทั้งประเทศอีกนั่นแหละ นี่ผมกำลังพูดถึงเรื่องค่าคอมมิสชั่น
นะครับ ถ้าจะถามว่า ไม่เอาไม่ได้หรือ เงินพวกนี้น่ะ ไม่เอาก็ได้อยู่ครับ แต่เรื่องนี้นี่ มันเป็นเรื่องธรรมดา
ไปซะแล้วครับ มันมีเรื่องคอมฯมาเกี่ยวได้ในทุกๆเรื่องตั้งแต่การซื้ออาวุธ หรือการอะไรก็แล้วแต่ แม้แต่ผู้
ใหญ่ในบ้านเมืองเอง เวลามีแขกจากต่างประเทศมาอยู่ในความดูแล ท่านยังพาไปซื้อของเลยครับ แล้วก็รับ คอมฯ อีกด้วย หรือแม้แต่ทางสถานฑูตเอง เวลาเค้ามีคนมา เค้าก็พาไปซื้อกันเอง แล้วก็รับคอมฯกันเอง
อย่างนี้ จะเรียกว่า เลว มั้ยครับ แม้แต่นักท่องเที่ยวเองเวลาที่พวกเค้าจะซื้อของ เค้าก็รู้อยู่แล้วว่า พวกไกด์ ได้คอมฯ แล้วก็ซื้อกันโครมๆไม่เห็นมีใครบ่นซักคน บางคนถึงกับถามว่าได้คอมมั้ย ถ้าไม่ได้ จะไม่ซื้อ เชื่อ มั้ยล่ะครับ

ที่ผมต้องอาศัยเวทีนี้ออกมาแก้ข้อกล่าวหา ก็เนื่องจากมีสื่อต่างๆออกมาโจมตีไกด์กันอย่างครึกโครม โดยที่พวกเราไม่มีโอกาศชี้แจงเลย ขอร้องละครับ เวลาเขียนข่าว กรุณาหาข้อมูลให้ดีก่อน หวังว่า ท่านทั้ง หลายคงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมได้พยายามอธิบายนะครับ

ขอบคุณครับ
TOM

---

ถ้าต้องการเป็นไกด์ โปรดเข้าไปดูที่นี่ก่อน