ศาลพระภูมิกับสุนัขเฝ้าบ้าน / 009

ศาลพระภูมิไม่ดีไปกว่าสุนัขเฝ้าบ้านตัวหนึ่ง ...... พระพยอมท่านพูดไว้

สำหรับคำตอบที่มีคนเข้ามาตอบไว้สำหรับข้อความนี้ ไปดู ที่นี่

ได้ชื่อว่าคนไท เราปฏิเสธกันไม่ได้เลยว่า ในสมัยโบราณก่อนที่เราจะรับเอาศาสนาจากลังกาเข้า
มาเป็นที่นับถือกันเป็นส่วนใหญ่นั้น คนไทยังคงนับถือผีกันอยู่เป็นที่แพร่หลาย แม้ในสมัยอาณาจักร
เขมร ซึ่งในบางครั้ง กษัตริย์เขมรก็นับถือพุทธหรือพราห์ม แต่ประชาชนทั่วไปก็ยังคงนับถือผีอยู่
อย่างเหนียวแน่น แม้เมื่อทั้งประชาชนและกษัตริย์ซึ่งต่างก็เปลี่ยนไปนับถือพุทธกันหมดแล้ว ประชา
ชนก็ยังคงนับถือผีอยู่เช่นเดิม โดยเอาคติเกี่ยวกับการถือผีและศาสนาพุทธเข้ามาผสมปนเปกันไป ซึ่ง
มันได้ซึมเข้าสู่สายเลือดของคนไทอย่างเหนียวแน่น ไม่อาจจะแยกออกว่า อันไหนคือผี อันไหนคือ
พุทธแท้ และพยายามสร้างเรื่องอภินิหารต่างๆให้สอดคล้องกับความเป็นพุทธที่เพิ่งรับเข้าไป ทำนอง
หาความชอบธรรมในการที่จะถือทั้ง 2 สิ่งไปพร้อมๆกัน

ล่วงมาจนถึงปัจจุบัน คนไทที่เป็นคนพุทธก็ยังต้องมีศาลพระภูมิไว้ประจำบ้านแทบทุกบ้าน ถือเป็น
เรื่องปกติ ซึ่งศาลพระภูมิที่ว่านี้ ก็เป็นวิวัฒนาการมาจากการนับถือผีของคนโบราณ และกล่าวได้ว่า
ศาลพระภูมิเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทโดยทั่วไป อย่างน้อยก็ยังมีอะไรบางอย่างที่บ้านให้
ระลึกถึงและพยายามไม่ทำอะไรที่ผิดทำนองคลองธรรม เดี๋ยวพระภูมิเจ้าที่จะโกรธเอา ประโยชน์ที่
ได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องทำความชั่วละน่า ผมจึงบอกได้ว่า ศาลพระภูมิ ยังงัยก็มีประโยชน์สำหรับคน
ไทยในด้านจิตใจ ใครบ้างที่จะบอกว่า เรื่องของจิตใจคนไม่ใช่เรื่องสำคัญ หากคนเราไม่มีที่ยึดเหนี่ยว
เอาไว้บ้างแล้วจะเกิดอะไรขึ้น มันคงเคว้งคว้างน่าดู

หากจะเปรียบศาลพระภูมิกับสุนัขเฝ้าบ้านถึงประโยชน์ที่ได้เราต้องดูด้วยว่า ประโยชน์นั้นคืออะไร
ด้านไหน หากจะพูดถึงเรื่องโจรผู้ร้าย แน่นอนว่าสุนัขย่อมมีประโยชน์มากกว่า แต่.. ประโยชน์ที่ได้
จากระหว่างศาลพระภูมิและสุนัขมันไม่ได้มีแต่เรื่องโจรผู้ร้ายอย่างเดียว แล้วถ้าเราจะพูดถึงเรื่อง
ความจำเป็นเรื่องสิ่งยึดเหนี่ยวของจิตใจมนุษย์ ใครจะบอกได้ว่าสุนัขย่อมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวได้
ดีกว่าศาลพระภูมิ

สิ่งที่ประกอบกันเป็นหน้าบรรณตามโบสถ์วิหารนั้น ส่วนหนึ่งคือสัญญลักษณ์ของนาคและพญาครุฑ
ซึ่งเป็นคติความเชื่อของฮินดู โดยที่คนพุทธก็ยอมรับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นการผสม
กลมกลืนระหว่างสอง 2 วัฒนธรรมอย่างยอดเยี่ยม

ในภาคเหนือก็มีตัวมกรา ที่เป็นสัตว์ที่ประดับอยู่ที่เราเรียกว่าบันไดนาคตามวัดในภาคเหนือรวมถึงใน
ศิลปเขมร ตัวมกราจะมีลำตัวยาว ทอดลำตัวไปตามราวบันได มีสี่ขา ที่ส่วนปาก ปากจะอ้า และมีเศียร
พญานาคโผล่ออกมาจากปากนั่นคือการผสมผสานของ 2 วัฒนธรรม คือวัฒนธรรมมังกรจากเมืองจีน
และวัฒนธรรมนาคที่รับมาจากแถบอินเดียและศีรลังกา

พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทก็เป็นการผสมผสานของ 2 วัฒนธรรมคือ วัฒนธรรมตะวันตกและวัฒน
ธรรมตะวันออก โดยมีรูปทรงอาคารเป็นแบบตะวันตก แต่มีหลังคาเป็นหลังคาทรงสถาปัตยกรรม
ไทยที่สมบูรณ์

พระพุทธรูป เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมระหว่างอินเดียและกรีก โดยแรกเริ่มพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหา
ราชผู้ซึ่งกรีฑาทัพเข้ามาในอินเดียได้เป็นผลสำเร็จ ได้ให้ช่างที่มาในกองทัพจัดการสร้างรูปเหมือนของพระ
พุทธเจ้าและรูปเหมือนดังกล่าวก็กลายเป็นวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

จากการผสมผสานวัฒนธรรมดังกล่าว จึงไม่เป็นเรื่องที่แปลกอย่างไรที่คนพุทธจะนับถือศาลพระภูมิ
ว่าเป็นสิ่งศักด์สิทธิ์ และเคารพบูชา ศาลพระภูมิเป็นที่เคารพบูชาของคนไทยโดยทั่วไปตั้งแต่เมื่อครั้ง
โบราณ แม้แต่พระเจ้าแผ่นดินจนถึงไพร่ เป็นความผูกพันของคนไทยที่เหนียวแน่นอย่างแยกกันไม่ออก
เพราะศาลพระภูมิเป็นความเชื่อดั้งเดิมของคนไทยก่อยที่จะรับเอาพระพุทธศาสนามานับถือกัน แล้วจึง
เอาทั้งวัฒนธรรมเรื่องศาลพระภูมิกับศาสนาพุทธเข้ามารวมและผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืน

การลบหลู่ศาลพระภูมิ คือการดูถูกและลบหลู่ภูมิปัญญาคนที่นับถือ รวมไปถึงพระเจ้าแผ่นดินด้วยว่า
เป็นพวกโง่เง่างมงาย ผู้ที่เอาศาลพระภูมิไปเปรียบกับหมาคือพวกที่เลวเหมือนสัตว์เดรัจฉาน เพราะ
เอาของที่ผู้คนทั่วไปเคารพนับถือไปเปรียบกับหมา รวมทั้งพระเจ้าแผ่นดินด้วย เพราะพระเจ้าแผ่นดิน
เองก็ยังต้องสักการะศาลพระภูมิหรือศาลหลักเมืองอยู่เสมอ

ถ้าท่านเห็นว่า ศาลพระภูมิไม่ดีไปกว่าหมา ถ้าท่านเห็นว่า ศาลพระภูมิก็คือแท่งปูนไม่มีอะไรดีไปกว่า
นั้นอยากจะถามว่า พระพุทธรูปคืออะไร พระพุทธรูปคือรูปหล่อที่เป็นทั้งโลหะหรือปูนปั้นเท่านั้น แล้ว
ท่านจะไปกราบไหว้ทำไม ทำไมไม่เปรียบเป็นหมูเป็นหมาซะเลยละว่า ไม่ดีไปกว่าหมา ทำไมท่านไม่
เหยี่ยวรดพระพุทธรูปซะเลย จะไปมัวกราบไหว้กันอยู่ทำไม ปล่าวประโยชน์

ถ้าท่านจะบอกว่า พระพุทธรูปคือรูปเสมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้า จึงสมควรแก่การบูชา แล้วทำไม
ไม่คิดบ้างว่า ศาลพระภูมิคือรูปเสมือนของเทพเจ้า

ท่านไม่นับถือเทพเจ้าที่คนอื่นนับถือ แล้วท่านเอาเทพเจ้านั้นมาเปรียบว่าไม่ดีไปกว่าหมา แล้วยกย่อง
พระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ท่านยังมีความเป็นคนอยู่อีกหรือไม่เลวชาติ ชั่วช้าหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ

ไม่ว่าท่านจะนับถือศาสนาใด ไม่ว่าจะเป็นพุทธ อิสลาม คริสต์ หรือฮินดู ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น ท่านไม่มี
สิทธิอันใดที่จะเอาศาลพระภูมิไปเปรียบว่าไม่ดีไปกว่าหมา เพราะท่านกำลังเอาสิ่งที่คนอื่นนับถือไป
ลบหลู่

สำหรับพระพยอม ท่านอาจจะมีวิธีและแนวทางในการสอนที่เป็นเอกลักษณ์ของท่าน แต่การที่ท่านพูด
ว่า ศาลพระภูมิไม่ได้ดีไปกว่าหมาเฝ้าบ้าน ท่านเอาสมองส่วนไหนกันครับที่กลั่นคำพูดนี้ออกมาได้ ท่าน
พูดเหมือนคนองปาก สักแต่ว่าพูด ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นที่เค้านับถือว่าจะเจ็บปวดเพียงใด ถ้า
ท่านกล้าที่จะพูดว่า ศาลพระภูมิไม่ดีไปกว่าหมา ท่านก็ไม่สมควรที่จะกราบไหว้พระพุทธรูปอีกต่อไปแล้ว
เพราะทั้งศาลพระภูมิและพระพุทธรูปต่างก็เป็นเพียงวัตถุเท่านั้นเอง ท่านยังจะกราบไหว้พระพุทธรูปอยู่
อีกทำไม

สำหรับทุกท่านที่เห็นว่า ศาลพระภูมิไม่ดีไปกว่าหมา ท่านกล้าหรือไม่ที่จะเยี่ยวรดศาลพระภูมิ กล้าหรือ
ไม่ที่จะทุบศาลพระภูมิที่อยู่ตามทางที่ไม่มีเจ้าของ ถ้าก็ขอให้บอกมา แล้วไปทำด้วยกัน จะเรียกผู้คนมา
เป็นสักขีพยานจะถ่ายวีดีโอไว้ด้วย

ผมขอตำหนิและต่อว่าพระพยอมแรงๆไว้ตรงนี้เลยว่า ท่านทำไม่ถูกที่พูดออกมาอย่างนั้น ท่านกำลังดูถูก
ภูมิปัญญาคนไทยและดูหมิ่นความคิดของคนไทยอย่างร้ายแรงที่สุด ท่านไม่ฉลาดเลยที่เลือกพูดออกมา
แบบนั้น มันแสดงถึงความด้อยในหลายๆด้านเช่น ความควรหรือไม่ควร จำเป็นเพียงไหนที่ท่านจะพูดถึง
ขนาดว่า ศาลพระภูมิไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าหมาเฝ้าบ้านตัวหนึ่ง ท่านกำลังเอาสิ่งที่คนไททั่วไปเคารพนับ
ถือไปเปรียบกับสุนัขไม่ว่าจะมองในแง่ไหน ผมก็ว่าไม่เป็นการสมควรเป็นอย่างยิ่ง ไม่พูดถึงเลยจะดีกว่า

ผมยังไม่อยากจะท้านะว่า สำหรับคนทั่วไป ถ้าให้เลือกระหว่างศาลพระภูมิกับหมาเฝ้าบ้าน ท่านจะ
เลือกกราบอะไร คงไม่มีใครบอกนะว่า ฉันจะกราบหมา