เป็นอาณาจักรที่ก่อตัวขึ้นมาทางตอนเหนือของประเทศไทยตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ตามตำนาน
กล่าวว่า สิงหนวัต ผู้มาจากกรุงราชครึ หรือ นครไทเทศ (ในมณฑลยูนนาน) ได้ร่วมมือกับ
พระยานาคชื่อ พันธุ สร้างเมืองขึ้นมาแล้วตั้งชื่อเมืองว่า พันธุสิงหนวัตินคร
และตั้งชื่ออาณา
จักรว่า โยนกนาคนครไชยบุรีราชธานีศรีช้างแสน อาจเป็นการตั้งชื่อให้คล้องกับยูนนาน
ซึ่ง
เป็นถิ่นฐานเดิมของคนไท เมื่อโยนกนครล่มสลายลงในราวศตวรรตที่ 7 ปู่เจ้าลาวจกจึงได้
ตั้งอาณาจักรใหม่ขึ้นมาเรียกว่า หิรัญนครเงินยางเชียงแสน
ตำนานสิงหนวัติได้กล่าวถึงคำเชียงแสนว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาฉันอาหารที่สิงหนวัติจัด
ถวายนั้น ช้างของ สิงหนวัติก็วิ่งออกไปทางทิศตะวันออกและร้องออกมาเป็นเสียงแสนสะเคียน
(ยังไม่ทราบว่า แสนสะเคียนแปลว่าอะไร) ในบริเวณที่ช้างวิ่งออกไปนั้น ก็เรียกกันว่าช้างแสน
และเพี้ยนมาเป็นเชียงแสนในสมัยปู่เจ้าลาวจกสร้างเมืองขึ้น มานั่นเอง บางตำนานกล่าวว่า
ช้างแสนหมายถึงดินแดนที่มีช้างแสนตัว
ในสมัยต่อมา พวกขอมดำได้เข้ามายึดอำนาจในเมืองพันธุสิงหนวัตินคร และเจ้าพรหมกุมาร
ได้ขับไล่พวกขอมได้ สำเร็จ โดยตามตีพวกขอมลงไปทางใต้ไม่หยุด เมื่อพระอินทร์ทรงทราบ
เช่นนั้น ก็เกิดกลัวว่าพวกขอมจะสิ้นเผ่าพันธุ์จึงเนรมิตกำแพงหินขวางหน้าเจ้าพรหมกุมาร
(กำแพงหินคือเมืองกำแพงเพชรในปัจจุบัน) ฝ่ายเจ้าพรหมกุมาร เมื่อได้กลับมาถึงเมืองแล้ว
ก็ได้ออกไปสร้างเมืองใหม่คือ เวียงชัยปราการ อยู่ทางทิศตะวันตกเพื่อเอาไว้ป้องกันเมืองสิง
หนวัติ ต่อมาเมื่อพม่ายกทัพเข้ามา เจ้าเมืองเวียงชัยปราการก็ทิ้งเมืองหนีไปทางตะวันออก
หลัง
จากนั้นก็ไม่มีใคร กลับมาฟื้นฟูอีกเลย
ตำนานเมืองเหนือได้กล่าวถึงต้นราชวงศ์ของพระยาเม็งรายว่า มีคนพวกหนึ่งลงมาจากสวรรค์
เพื่อมาปกครอง ผู้คนในเมืองนั้น เรียกกันว่า ลาวจก หมายถึงปู่เจ้าลาวจก
คำว่าจกคือจอบ
ปู่เจ้าลาวจกคือผู้มีอิทธิพลเหนือกว่า เพราะมีจอบให้เช่าทำการเกษตร ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็น
เรื่องที่สำคัญมาก ถ้าใครมีเทคโนโลยี่ที่ดีกว่า ก็สามารถ ที่จะมีอิทธิพลเหนือกว่าได้
เมืองที่ปก
ครองก็ตั้งชื่อว่าเมืองราวหรือลาว (ไม่ใช่ลาวในปัจจุบัน) แล้วจึงสืบทอดเชื้อสายปกครองแผ่น
ดินเรื่อยมาเรียกว่า ราชวงศ์ราวหรือลาว ต่อมาในสมัยขุนเจื๋องหรือท้าวฮุ่ง
ซึ่งเป็นราชบุตรจาก
เมืองภูกามยาว ต่อมาภายหลังจึงได้ไปครองเมืองเชียงแสน ได้รวมเอาดินแดนฝั่งตะวันออก
ของแม่น้ำโขงเข้ามารวมไว้ในอาณาเขต พอมีพวกแกว (เวียตนาม) เข้ามารุกราน
ขุนเจื๋องจึง
แต่งทัพออกไปต่อต้าน จนได้เจ้าหญิงแกวมาเป็นเมีย จากนั้นก็อยู่ที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำโขง
ไม่กลับมาอีกเลย และกลายเป็นวีรบุรุษของชาวลาวมาจนถึงทุก วันนี้ จึงนับได้ว่าราชวงศ์ราว
ได้แตกออกเป็น 2 สาย คือสายเดิมที่อยู่ทางลุ่มแม่น้ำกก และสายที่ข้ามไปอยู่ทางตะวัน
ออก
ของแม่น้ำโขง แล้วสร้างอาณาจักรขึ้นมาคือ ศรีสัตนาคนหุต (ล้านช้างร่มขาวหลวงพระบาง)
ซึ่งยังคงเรียกตัวเองว่า ลาว จนถึงทุกวันนี้ ส่วนลาวทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำโขงเรียกตัวเองว่า
ลาวจนถึงสมัยพระยาเม็งรายเท่านั้น หลังจากที่ทรงสร้างอาณาจักรล้านนาแล้ว
จึงทรงให้เลิก
เรียกตัวเองว่าลาว โดยใช้คำว่า ไทล้านนา แทน
จากตำนานสิงหนวัติและพงศาวดารเมืองเหนือทำให้ทราบว่า ดินแดนโยนกนครมีอาณาเขต
ครอบคลุมภาคเหนือทั้งหมด โดยมีเมืองที่อยู่ตามลุ่มแม่น้ำต่างๆในภาคเหนือเป็นบริวาร
แต่
จากการขุดค้นทางโบราณคดี ก็ยังไม่อาจ ชี้ชัดได้ว่าเมืองสิงหนวัติอยู่ที่ไหนแน่
เพราะตำนาน
กล่าวแต่เพียงว่า โยนกนครได้ล่มลงกลายเป็นหนองน้ำ เพราะ ชาวเมืองต่างพากันกินปลา
ไหลเผือกทั้งเมือง หลังจากนั้นจึงได้เกิดมีเวียงเปิกษา (ปรึกษา) ขึ้นมาแทน
ในตำนานเมือง
เหนือยังกล่าวด้วยว่า พระยาเม็งรายเป็นกษัตริย์ที่ครองเมืองเชียงแสน แต่ก็ยังไม่อาจจะพิสูจน์
ได้ว่าเมืองเงินยางเชียงแสนนั้น อยู่ที่ไหนแน่ เพราะลักษณะศิลปะที่พบในเมืองเชียงแสนนั้น
ไม่มีอะไรที่มีอายุเกินกว่า 700 ปีเลย หมายความว่าเมืองเชียงแสนที่พบนี้สร้างขึ้นมาหลังจาก
พระยาเม็งรายสร้างเมืองเชียงใหม่แล้วทั้งสิ้น มีบันทึกว่า ราชบุตรของเจ้าเมืองเชียงใหม่ได้พบ
ซากของเมืองโบราณที่นี่ จึงได้สร้างเมืองขึ้นใหม่ที่เมืองเชียงแสนนี้
ซากเมือง ที่พบในนั้นอาจ
เป็นเมืองเชียงแสนในอดีตก็เป็นได้