แนวทางการปฏิบัติของหน่วยเพื่อการออกปฏิบัติการสนาม
ด้วยการปฏิบัติราชการนอกที่ตั้งปกติเป็นหน่วย สภาพแวดล้อมต่างๆ อาทิ ภูมิอากาศ,แหล่งน้ำพาหะนำโรค ย่อมจะเลวกว่า
ที่ตั้งปกติ อีกทั้งยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับปัจจัยด้านการยุทธและที่สำคัญ
ยิ่งคือขีดจำกัดของ สป.ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง สป.หลายๆประการล้าสมัย ปางประการต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะ ดังนั้นจึงปรากฏ
อยู่เสมอว่าการปฏิบัติด้านเวชกรรมป้องกันในสนามมักมีอุปสรรค โดยที่อุปสรรคหรือปัญหาเหล่านั้นสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้
หากมีการเตรียมการเป็นอย่างดี แนวทางการปฏิบัติของหน่วยเพื่อการออกปฏิบัติการในสนามนี้จะสามารถใช้เป็นแนวทางหลักเพื่อ
ประกอบการพิจารณากำหนดการปฏิบัติส่วนรายละเอียดของแต่ละหน่วยต่อ
แนวทางการปฏิบัติก่อนออกปฏิบัติการ Pre-Operation
1.จุดสำคัญที่ผู้บังคับหน่วยควรให้ความสนใจ
1.1 กำลังพลที่จะออกปฏิบัติการมีสุขภาพร่างกายเป็นอย่างไร มีใครป่วยเป็นโรคประจำตัวอะไรบ้าง มีใครป่วยด้วยโรคร้ายแรง
อย่างเช่นมาลาเรียบ้าง มีใครใช้ยารักษาโรคเป็นประจำบ้าง
1.2 กำลังพลที่จะออกปฏิบัติการโดยเฉพาะระดับผู้บังคับบัญชามีทัศนคติต่อการป้องกันโรคมากน้อยเพียงไร อันเป็นสิ่งที่แสดง
ถึงความพร้อมทางจิตใจของกำลังพลในการที่จะปฏิบัติการตามมาตรการด้านเวชกรรมป้องกันต่างๆ อย่างเต็มที่โดยพิจารณาไปพร้อมๆ
กับการพิจารณาด้านการยุทธ
1.3 พื้นที่ที่กำลังพลจะออกปฏิบัติการมีสภาพภูมิประเทศ/ภูมิอากาศเป็นอย่างไร มีโรคติดต่อในพื้นที่อะไรบ้าง มีสัตว์/พืชมีพิษอะไรบ้าง
มีพาหะนำโรคชนิดใดบ้าง มีแหล่งน้ำที่เหมาะสมหรือไม่ มีสถานพยาบาลจำนวนเท่าไร และตั้งอยู่ที่ใดบ้างในบริเวณใกล้เคียง
1.4 จากข้อมูลที่ได้ในข้อ 1.1,1.2,1.3,ผู้บังคับหน่วยสามารถนำมาประเมินโอกาสการสูญเสียที่มิใช่สาเหตุจากการรบ(Disease and
Non Battle Injuries;DNBI) โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสุขภาพต่างๆ อาทิจากโรคประจำตัว จากการใช้ยา และจากการติดโรคติดต่อร้ายแรง
เช่น โรคมาลาเรีย ว่ามีมากน้อยเพียงไร อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้หรือไม่
1.5 จากข้อมูลในข้อ 1.4 จะเป็นที่มาของมาตรการด้านเวชกรรมป้องกันที่ทุกหน่วยสามารถบังคับใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์กำลังพล
และสถานการณ์สิ่งแวดล้อม
2. แนวทางการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุแต่ละจุดสำคัญในข้อ 1.(ก่อนการออกปฏิบัติการ)
2.1 หนทางของการได้มาซึ่งข้อมูลในข้อ 1.1 และ 1.2 สามารถปฏิบัติได้หลายหนทาง แต่วิธีการที่สะดวกและมีความถูกต้องตามหลักวิชาคือ
การใช้แบบสอบถาม ซึ่งหน่วยอาจจะกำหนดขึ้นเองหรือหารือกับหน่วยงานที่มีความชำนาญในการกำหนดขึ้น หรืออาจร้องขอการสนับสนุนจากหน่วย
เวชกรรมป้องกัน กองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยที่มีหน้าที่ให้การสนับสนุนในการบริการทางเวชกรรมป้องกัน เป็นส่วนรวมแก่หน่วยต่างๆ ทั่วกองทัพบกได้
2.2 หนทางของการได้มาซึ่งข้อมูลในข้อ 1.3,1.4 และ 1.5 นั่น ต้องดำเนินการสำรวจปัจจัยต่างๆ โดยอาจใช้เจ้าหน้าที่เสนารักษ์ดำเนินการเป็นการ
ล่วงหน้าจากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคาระห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ อย่างครอบคลุม อันจะได้มาซึ่งมาตรการต่างๆ อาทิมาตรการควบคุม
มาตรการการสุขาภิบาล โดยอาศัยคำแนะนำของกรมแพทย์ทหารบกที่มีอยู่อย่างถูกต้องแล้วการปฏิบัติในข้อนี้หากหน่วยพิจารณาเห็นว่าเกินขีดความ
สามารถ หน่วยสามารถร้องขอการสนับสนุนให้หน่วยเวชกรรมป้องกัน กองทัพบก ปฏิบัติให้ได้
2.3 การร้องขอการสนับสนุนจากหน่วยเวชกรรมป้องกัน กองทัพบก เพื่อการนี้หน่วยสามารถร้องขอมายังกรมแพทย์ทหารบก เพื่อสั่งการมายัง
หน่วยเวชกรรมป้องกัน กองทัพบกได้ แต่จะเป็นการดีอย่างยิ่งหากได้ประสานให้ทราบก่อนที่จะออกปฏิบัติการเป็นระยะเวลานานพอสมควร
แนวทางปฏิบัติเมื่ออยู่ในสนาม During-Operation
หากได้มีการเตรียมการที่ดีตั้งแต่ก่อนออกปฏิบัติการแล้วจุดสำคัญขณะที่อยู่ในสนามจะมีเพียง 2 จุดคือ
- การกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามมาตรการ การเวชกรรมป้องกัน ทั้งนี้ต้องให้มีความสอดคล้องกับการปฏิบัติด้านยุทธการ
- การเฝ้าระวังการเจํบป่วยต่างๆ ซึ่งเมื่อพบว่ามีการเจ็บป่วยแล้วต้องรีบดำเนินการทันที
- แต่หากประสพปัญหาอุปสรรค แม้ว่าจะได้เตรียมการอย่างดีแล้วหน่วยควรรีบหาหนทางแก้ไขเมื่อหน่วยได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเกินขีดความสามารถหรือ
ปัญหามีแนวโน้มจะลุกลามเป็นปัญหาสำคัญที่ยากแก่การแก้ไข หน่วยสามารถร้องขอการสนับสนุนจากหน่วยเวชกรรมป้องกัน กองทัพบกได้เช่นกัน
แนวทางปฏิบัติเมื่อกลับเข้าสู่ที่ตั้งปกติ Post-Operation
- ตรวจสอบกำลังพลที่ออกปฏิบัติการว่ามีกำลังพลผู้ใดมีอาการเจ็บป่วยบ้าง ด้วยโรคอะไร และในขณะนี้โรคที่เป็นแล้วหายดีแล้ว หรือยังต้องรับ
การรักษาต่อ ทั้งนี้เนื่องจากโรคบางชนิดกำลังพลอาจได้รับเชื้อโรคแล้วแต่ยังไม่มีอาการเนื่องจากอยู่ในระยะฟักตัว หรือเป็นระยะซ่อนตัวของเชื้อก็ได้
ดังเช่น โรคมาลาเรีย ดังนั้นกำลังพลทุกนายควรได้รับการตรวจแม้ว่าจะมีอาการผิดปกติหรือไม่ก็ตาม
- ตรวจสอบการสูญเสียกำลังพลอันมีสาเหตุที่มิใช่จากการรบ(Disease and Non Battle Injuries;DNBI) โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปัญหาสุขภาพ
แล้วเปรียบเทียบกับการประเมินที่ได้ดำเนินการตั้งแต่ก่อนออกปฏิบัติการตามข้อ 1.4
- ประเมินผลการกำหนดมาตรการด้านเวชกรรมป้องกันว่ามีการปฏิบัติที่ได้ผลมากน้อยเพียงใด มีข้อควรปรับปรุงอย่างไร และการให้ข้อแนะนำ
ต่อกรมแพทย์ทหารบกก็จะส่งผลอย่างดียิ่งต่อการพัฒนางานเวชกรรมป้องกันของกองทัพบก
กลับสู่หน้าหลัก I
การช่วยชีวิตฉุกเฉิน I
ระบบทางเดินอาหาร I
อุบัติเหตุ สารพิษ I
ระบบทางเดินหายใจ I
ดูอาการ I
อุบัติเหตุ สารพิษ I
การบริการน้ำ I
แบบสำรวจ