( การทำงานของจอภาพ ) ( จอ 14 นิ้ว ) ( จอ 19 นิ้ว ) ( จอ LCD ) ( จอแบบใหม่ ) ( จอระบบสัมผัส ) |
การทำงานของจอภาพ
สัญญาณภาพ 3 สัญญาณจาก Card VGA จะถูกส่งมายังปืนอิเล็คตรอนสามอันที่อยู่ด้านหลังของหลอดภาพCRT(Cathod Ray Tube) ซึ่งจะยิงอิเล็คตรอนออกไปแต่ละสี ซึ่งจะมีการส่งสัญญาณจาก Card VGA มายัง Magnetic Deflection Yoke เพื่อควบคุมความเข้มและโฟกัสลำอิเล็คตรอน ซึ่งจะเป็นตัวกำหนด ความละเอียดของการแสดงผล และRefresh Rate (อัตราที่แสดงจำนวนครั้งของการสร้างภาพใน หนึ่งวินาที)
ที่ด้านหลังจอภาพ จะมี Shadow mask เป็นแผ่นโลหะที่มีรูพรุน เพื่อควบคุมให้ลำอิเล็คตรอนวิ่งผ่านไปกระทบเป้าได้อย่างแม่นยำ ค่าระยะห่างของรูเหล่านี้ คือ Dot Pitch ยิ่งรูอยู่ใกล้กันมากเท่าไหร่ ภาพที่ได้จะยิ่งคมชัดมากขึ้น
อิเล็คตรอนจะชนกับเป้าที่เป็นสารฟอสเฟอร์ 3 สีที่วางอยู่ใกล้กันซึ่งเคลือบอยู่ด้านในของจอภาพ ลำอิเล็คตรอนจะกระทบสีเพียงสีเดียว การสร้างสีขาวจึงต้องใช้อิเล็คตรอน 3 ลำไปยิงตกกระทบสารฟอสเฟอร์ทั้งสามสีที่วางอยู่ใกล้ๆกัน ซึ่งถ้าอิเล็คตรอนชนแรงขึ้นก็จะได้แสงเข้มขึ้น
Magnetic Deflection Yoke จะเปลี่ยนมุมยิงของลำอิเล็คตรอนอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าหักเหลำอิเล็คตรอน เพื่อให้กวาดยิงแสงไปตามแถวแนวนอนของจอภาพจากด้านบนซ้ายสุดไปยังด้านล่างขวาสุด การกวาดจนครบทั่วทั้งจอ 1 ครั้งเรียกว่า 1 field (Interlace คือการที่จอภาพแบ่งจอออกเป็น 2 field แล้วกวาดเส้นเว้นเส้นเป็น field หนึ่ง เส้นที่เหลือก็กวาดอีก field หนึ่ง ทำให้จอภาพแสดงผลได้ละเอียดขึ้นในราคาที่ไม่แพง แต่จะทำให้จอกระพริบมาก ปัจจุบันจึงมีแต่การใช้จอแบบ Non-interlaced
ตารางคะแนนการทดสอบเบนซ์มาร์ก | |||||||||
ADI MicroScan 6P | KDS VS-19 | Mag DJ 800 | NSA/Hitachi SuperScan Elite 751 | Opti quest V95 | Pixie 995 | Princeton Graphics E090 | Sampo AlphaScan 810 | ||
ผลการทดสอบการวัด ที่จุด Overall MTF | 59.2 | 35.6 | 48.8 | 65.5 | 29.6 | 60.6 | 38.5 | 56.1 | |
Overall Misconvergence (mm.) | 0.089 | 0.084 | 0.086 | 0.074 | 0.139 | 0.129 | 0.102 | 0.062 | |
Max Misconvergence (mm.) | 0.218 | 0.269 | 0.219 | 0.229 | 0.37 | 0.414 | 0.309 | 0.188 | |
Overall Horizontal Pincushion(mm.) | 0.346 | 0.915 | 0.4 | 0.505 | 0.374 | 0.249 | 0.484 | 0.33 | |
Max Horizontal Pincushion(mm.) | 0.536< | 1.216 | 0.627 | 0.644 | 0.449 | 0.282 | 0.829 | 0.391 | |
Overall Vertical Pincushion(mm.) | 0.562 | 0.71 | 0.761 | 0.617 | 0.302 | 0.398 | 0.358 | 0.318 | |
Max Vertical Pincushion(mm.) | 0.636 | 0.983 | 1.098 | 0.834 | 0.398 | 0.575 | 0.481 | 0.412 | |
ผลการทดสอบการวิเคราะห์สี | |||||||||
Color Temperature(K) | 9,000 | 8,430 | 9,300 | 9,160 | 9,100 | 8,840 | 9,410 | 9,350 | |
Color Tracking | 95.8 | 94 | 95.4 | 97.9 | 95.6 | 92.8 | 94.2 | 89.1 | |
Color Uniformity | 4.4 | 5.2 | 11.1 | 5 | 11.5 | 9.2 | 11.8 | 6.4 | |
Luminance(fl) | 27.8 | 30.1 | 27.3 | 36.8 | 39 | 34.8 | 30.8 | 27.4 | |
Luminance Uniformity | 3.3 | 3.8 | 5.4 | 3.4 | 6.8 | 3.4 | 3.7 | 4 |
ความหมายของค่าต่างๆในตาราง MTF(Modulation transfer function): เปรียบเทียบอัตราความแตกต่างของแสงระหว่าง เส้นความหนาหนึ่งจุดสีดำ และขาวสลับกัน ยิ่งสูงจะหมายถึงคมชัดกว่า Misconvergence: เป็นการวัดความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งอิเล็กตรอนสีแดง น้ำเงิน เขียว หากมีค่าสูงลายละเอียดจะดูเลอะเลือนไม่คมชัด Pincushioning: เป็นการวัดความสามารถในการสร้างเส้นตรง ยิ่งมีค่าต่ำยิ่งดีเพราะจะมีความโค้งงอน้อยกว่า Luminance: ระดับความสว่างสูงสุดที่จอแต่ละรุ่นจะแสดงผลได้ โดยที่ไม่ทำให้โฟกัส และความแตกต่างสูญเสียไป ค่ายิ่งสูงจะยิ่งดีเนื่องจากฟอสฟอรัส ที่เคลือบจอจะให้แสงสว่างได้น้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป Color temperature: เป็นเฉดของสีขาวบนจอภาพค่าสูงจะให้สีขาวออกไปโทนน้ำเงิน ค่าต่ำจะให้สีออกไปโทนแดง ในการทดสอบเราตั้งไว้ที่ 9,300 K ยิ่งวัดใกล้ค่านี้มากเท่าไหร่แสดงว่าระบบ ตั้งค่าของจอยิ่งแม่นยำมากยิ่งขึ้น Color tracking: แสดงถึงความแม่นยำของตำแหน่ง อิเล็กตรอนทั้งสามในการไล่เฉดสีเทา ยิ่งค่าร้อยละสูงมากเท่าไหร่สีเทาก็จะมีสีอื่นมาปนน้อยเท่านั้น Color Uniformity และ Luminance uniformity:เป็นการวัด ความแตกต่างของสีและความสว่างที่ตำแหน่งต่างๆ ทั้งหมดสิบสามตำแหน่งบนจอ ค่ายิ่งน้อยยิ่งดี แม้ในปัจจุบันมีจอภาพ 19 นิ้วเพียงไม่กี่รุ่น เกือบทั้งหมดใช้ หลอดภาพ CRTของ HITACHIเหมือนกัน แต่คุณภาพต่างกันพอสมควรทีเดียว จอภาพ 19 นิ้วส่วนใหญ่ก็ให้ภาพที่ดีพอสำหรับงานทั่งไป และในงานที่มีรายละเอียดมากๆ จอภาพเหล่านี้ ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในราคาที่ไม่แพงเกินไปด้วย พื้นที่แสคงผลที่มากกว่า จอขนาด17นิ้วถึง 35% และคาดว่าจอ 19 นิ้วจะเป็นที่นิยมของผู้ใช้งานในไม่ช้า | |
จอภาพแบนLCD(Liquid Crystal Display)มี 2 ประเภทคือ
|
TOUCH SCREEN ( หรือจอระบบสัมผัส ) เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นของจอคอมพิวเตอร์ ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสจอ แล้วได้รับการตอบสนองจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็มีการคิดค้นเทคโนโลยีที่แตกต่างกันมากมายจากหลายๆ บริษัท เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และเพื่อที่จะใช้ TOUCH SCREEN HARDWARE ให้เป็นประโยชน์ คอมพิวเตอร์จะต้องสามารถ อ่านและ run ซอฟแวร์ หรือ driver ที่รู้วิธีการตอบสนองไปยัง hardware TOUCH SCREEN เป็น INPUT DEVICE ที่มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งแม้แต่เด็กก็ยังสามารถเรียนรู้การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ โดยการสัมผัสได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม software ต้องได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ สำหรับรับข้อมูลจาก touch screen เพื่อที่จะทำให้เกิดความสะดวกในการใช้ DEVICE DRIVER มีอยู่ทุกฐานของคอมพิวเตอร์ ซึ่งรวมถึง Microsoft Windows, IBM OS/2, Apple Mac OS และระบบ UNIX โปรแกรม GUI (graphical user interface) สำหรับฐานคอมพิวเตอร์เหล่านี้ ต้องใช้เทคนิคบางอย่างเช่น เมนู pull down ซึ่งจะใช้งานได้ดีมาก เมื่อใช้ mouse การใช้นิ้วสัมผัสจะใหญ่กว่า cursor ของ mouse และต้องใช้กับ เมนู pull down เพื่อใช้กับระบบ touch screen "DOUBLE CLICKING" เป็น GUI อีกแบบซึ่งไม่ค่อยสะดวกในการใช้ถ้าเป็นระบบแบบสัมผัส ดังนั้น โปรแกรมที่จะทำเพื่อให้สะดวกในการใช้ touch screen จะต้องมีการออกแบบให้สามารถใช้ได้ตามข้อกำหนดดังกล่าว ตลาดของ touch screen จะเกี่ยวของกับ จุดของการขาย การประชาสัมพันธ์ การควบคุมระบบในอุตสาหกรรม การพนัน และ ลอตเตอรี่ การแผ่ขยายของ touch screen ไปในส่วนของการทำธุรกิจร้านอาหาร และการขาย มีแนวโน้มขยายไปอย่างรวดเร็ว
TOUCH SCREEN ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน
- แผ่นหน้าจอสัมผัส เป็นแผ่นกระจกหนาประมาณ 1/8 นิ้ว ซึ่งมีขนาดและความโค้งพอดีกับหน้าจอ CRT (cathode ray tube) แผ่น touch screen จะไม่สามารถมองเห็นเมื่อประกอบเข้ากับขอบพลาสติก ตัวควบคุม touch screen มีทั้งอยู่บริเวณหลังหน้าจอ หรือแบบอยู่ในตัวเครื่อง แล้วส่งข้อมูลจากการสัมผัสนี้เข้ามาในตัวคอมพิวเตอร์
- touch screen driver software : software จะประมวลผลข้อมูลที่ได้จากหน้าจอสัมผัส ส่วน driver จะเปลี่ยนข้อมูล (ข้อมูลตำแหน่ง X-Y ) ให้เป็นข้อมูลสำหรับเม้าส์ และนำส่งข้อมูลที่เปลี่ยนแล้วไปเป็น โค้ดสำหรับบังคับเม้าส์ ซึ่งเป็นหน่วยที่บรรจุอยู่ใน host server software ตัวบังคับเม้าส์นี้จะทำงานอยู่ใน host เราจะไม่สามารถทราบว่า ข้อมูลที่ได้รับเป็นโค้ดสำหรับเม้าส์นี้มาจากตัวเม้าส์เอง หรือมาจากหน้าจอที่ควบคุมโดยการสัมผัส ซึ่งทั้งสองวิธี เราสามารถใช้ได้พร้อมๆกัน
RESISTIVE | |
ประกอบด้วยแผ่นแก้วเคลือบที่มีขนาดและความโค้งพอดีกับหน้าจอ มีแผ่นโลหะนำไฟฟ้าใสบางเคลือบอยู่บริเวณภายนอกของแผ่นแก้ว แล้วเคลือบด้วยพลาสติกแข็งที่นำไฟฟ้าได้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งมีสารตัวนำเคลือบอยู่ข้างใต้ สารตัวนำที่เคลือบนี้จะเป็นจุดเล็กๆมากมาย แต่ละจุดขนาดเล็กกว่า 1/1000 นิ้ว
กระแสไฟที่น้อยๆก็สามารถผ่านได้ เมื่อผู้ใช้สัมผัส touch screen สารตัวนำในแผ่นพลาสติก จะไปเชื่อมต่อกับสารตัวนำที่เคลือบบนผิวแก้ว ตัวควบคุมจะได้รับข้อมูลจากการสัมผัส แล้วส่งข้อมูลเป็นพิกัด X-Y | |
CAPACITIVE | |
เมื่อหน้าจอถูกสัมผัส นิ้วจะเสมือนดังเก็บประจุ ที่จะนำกระแสจากมุมทั้ง 4 ของหน้าจอ ตัววัดจะวัดค่ากระแสตกและคำนวณเป็นค่าพิกัด X-Y | |
SURFACE WAVE | |
แต่ละแกนของเคลือบผิว จะมีตัวรับคลื่นไฟฟ้าที่แปรให้เป็นพิกัดทิศทางเดียวกัน และมีแถบสะท้อนที่ทำหน้าที่นำคลื่นให้ส่งและรับคลื่นไปตามแนวขวางของแผ่นเคลือบ ตัวควบคุม touch screen ส่งความถี่ 5 MHz ไปยังตัวแปลงไฟที่ส่งสัญญาณกลับเป็นคลื่นเสียง คลื่นนี้จะแพร่ไปตามแนวขวางของแผ่นแก้วเคลือบ เมื่อนิ้วสัมผัสหน้าจอ touch screen ส่วนหนึ่งของคลื่นจะถูกดูดกลืน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ตัวควบคุมการรับสัญญาณ แล้วเปลี่ยนเป็นข้อมูลพิกัด X-Y บางทีก็พบว่ามีพิกัด Z ด้วย | |
INFRARED | |
แผ่นรับรังสีอินฟราเรดระบบสัมผัส (IR) ประกอบด้วย Light-Emitting Diodes (LEDs) และ Photo-transistors จะทำหน้าที่รับและแปลงแสงอินฟราเรดที่ตรวจจับได้ แล้วแปลงให้เป็นพิกัด X-Y |
เหมาะกับโปรแกรมงานที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ใช้ทุกประเภท ทั้งผู้ที่ไม่เคยใช้และไม่เคยสัมผัสคอมพิวเตอร์มาก่อน หรือสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างคล่องแคล่วก็ตาม เพื่อให้สามารถเข้าสู่การทำงานของโปรแกรมได้อย่างง่ายและรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส เช่น โปรแกรมประเภทให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือข้อมูลทางด้านอื่นๆที่ต้องการประชาสัมพันธ์ให้บุคคลทั่วๆไปได้รับทราบ หรือใช้บริการได้ง่าย เพียงสัมผัสที่หน้าจอ หรือ โปรแกรมข้อมูลของพนักงานทุกคนในบริษัท หรือ โปรแกรมอื่นๆที่ออกแบบมาให้สามารถเข้าสู่การทำงานได้อย่างสะดวกและง่าย ด้วยการใช้ touch screen