( การทำงาน ) ( ประเภท ) ( การเปรียบเทียบ ) |
ซอฟแวร์ของสแกนเนอร์
1. สแกนเนอร์แบบป้อนกระดาษและแบบวางราบราคาประหยัด
สำหรับผู้ที่มีเอกสารจำนวนมากกองอยู่บนโต๊ะ สแกนเนอร์ราคาประหยัดจะช่วยในการกำจัดเอกสารบางรายการได้เป็นอย่างดี เพราะจะช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลจากเอกสารเหล่านี้ไว้ในฮาร์ดดิสก์ซึ่งสามารถเรียกดูได้ง่าย นอกจากนี้แล้วสแกนเนอร์ระดับนี้ ยังให้ภาพในคุณภาพระดับที่ใช้ประกอบกับเวบไซด์หรือประกอบจดหมายข่าวส่วนตัวได้ด้วย และสแกนเนอร์ในกลุ่มนี้ต้องการเนื้อที่สำหรับวางเครื่องไม่มากนัก
จุดอ่อนบางประการสำหรับสแกนเนอร์แบบป้อนกระดาษ คือ บางรุ่นจะไม่สามารถใช้สำหรับสแกนจากรายงานที่เป็นรูปเล่มหนังสือ หรือนิตยสารได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีสแกนเนอร์แบบป้อนกระดาษบางรุ่นที่สามารถดัดแปลงเพื่อสแกนเอกสารดังกล่าวได้ด้วย
การถอดแกนสำหรับสแกนออกจากตัวเครื่อง
และกลิ้งแกนสำหรับการสแกนนั้นไปบนเอกสารที่ต้องการสแกน ถึงแม้วิธีนี้จะยุ่งยากสักหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ดีพอสมควร
สแกนเนอร์แบบวางราบมีลักษณะการใช้งานคล้ายกับเครื่องถ่ายเอกสารทั่วไป
การสแกนจะเริ่มด้วยการยกฝาปิดด้านบนและ วางสิ่งที่ต้องการสแกนบนพื้นกระจกราบ
ส่วนสแกนเนอร์แบบป้อนกระดาษจะมีขนาดเล็กกว่า และมีลักษณะทรงกระบอกคล้ายหลอดไฟ หรือแกนของม้วนกระดาษ
เมื่อต้องการจะสแกน ต้องสอดภาพหรือเอกสารที่ต้องการสแกนที่ด้านหลังของสแกนเนอร์แบบป้อน
กระดาษนี้ และสแกนเนอร์จะคืนเอกสารหรือภาพที่ผ่านการสแกนแล้วที่ด้านหน้า
แกนเนอร์ทั้งสองแบบนี้ให้งานสแกนที่มีคุณภาพใน
ระดับดี ติดตั้งก่อนใช้งานได้ง่าย
และมีซอฟท์แวร์จำหน่ายควบให้พอสมควร
คุณภาพและการจัดเก็บไฟล์ที่ได้จากการสแกนด้วยสแกนเนอร์ในกลุ่มนี้ จะด้อยกว่าไฟล์ที่ได้จากการสแกนด้วยเครื่องระดับ
ไฮเอนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากคุณภาพสีและความถูกต้องของงาน
อย่างไรก็ตาม สแกนเนอร์ในกลุ่มนี้เหมาะสำหรับ
การเตรียมภาพสำหรับเวบไซต์, การจัดทำจดหมายข่าว,
แผ่นพับ และจดหมายธุรกิจ
หมายเหตุ
นอกจากราคาและfeatures ต่าง ๆ มากมายแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อสแกนเนอร์
ราคาประหยัด คือ คุณภาพของงานสแกนซอฟท์แวร์จำหน่ายควบ และการใช้งาน
2.
สแกนเนอร์แบบวางราบระดับกลาง
ถ้าต้องการสแกนเนอร์สำหรับการจัดทำเวบไซด์ อินทราเน็ต รายงานและเอกสารส่งเสริมการขายที่น่าสนใจ
(ซึ่งต้องมีสีสัน
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรทราบ ก็คือ ระบบการจัดการเรื่องสีแบบ 36 บิต
จะเหมาะสำหรับการสแกนจากต้นฉบับที่เป็นสไลด์ ฟิล์มสีที่ล้างแล้ว และวัสดุโปร่งใสอื่น
ๆ ทั้งนี้เนื่องจากวัสดุโปร่งใสดังกล่าวจะมีช่วงสีและช่วงความสว่างมากกว่าภาพบนกระดาษอัดรูป
นอกจากจะให้งานคุณภาพดีแล้ว สแกนเนอร์ระดับไฮเอนด์ต้องรองรับปริมาณงานที่มากขึ้นด้วย
ทั้งการสแกนจากต้นฉบับที่
ประกอบ) และสามารถแก้ไขหรือค้นหาข้อความในงานที่สแกนจากต้นฉบับที่เป็นกระดาษ
ควรเลือกสแกนเนอร์ที่สามารถรองรับ
การทำงานกับเอกสารที่ประกอบด้วยภาพและตัวอักษรได้ดี
สแกนเนอร์ที่มีความสามารถลักษณะดังกล่าว เป็นสแกนเนอร์ราคาปาน
กลาง ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งที่บ้านและที่สำนักงาน
สแกนเนอร์ในกลุ่มนี้มีราคาไม่เกิน 1,000 เหรียญสหรัฐ
หมายเหตุผู้ที่ต้องการสแกนเนอร์ระดับนี้จะมองที่คุณภาพงานสแกนระดับเยี่ยมแต่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน
มากเกินไป หรือไม่จำเป็นต้องยุ่งยากกับการใช้งานมากนัก
3.
สแกนเนอร์แบบวางราบระดับไฮเอนด์
สำหรับงานระดับมืออาชีพแล้ว คุณภาพคือสิ่งสำคัญอันดับแรก และเมื่อจำเป็นต้องจัดทำจดหมายข่าวที่เป็นสี,
เอกสารแนะนำ
สินค้า และงานระดับมืออาชีพประเภทอื่น
ภาพประกอบเอกสารดังกล่าวจะต้องมีคุณภาพระดับเยี่ยม และงานคุณภาพระดับนี้เป็นผล
มาจากการเลือกใช้สแกนเนอร์ระดับไฮเอนด
์ งานที่ได้จากการสแกนด้วยสแกนเนอร์ระดับนี้จะมีโทนสีที่เพิ่มขึ้นจากสแกนเนอร์ราคา
ปานกลาง ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการสแกนแผ่นใส
และยังมีระบบการชดเชยสีที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถประมาณคุณภาพของ
งานที่จะได้จากการพิมพ์ได้
ผู้ที่ต้องการสแกนเนอร์ที่สามารถทำงานระดับดังกล่าวได้ ยังคงไม่แน่ใจกับระดับและความเข้มของสีที่
เครื่องสแกนระดับนี้สามารถรองรับได้
เพราะการสแกนภาพสีสำหรับงานโฆษณา สื่อส่งเสริมการขาย หรือรายงานต่าง
ๆ นั้น ต้อง
การสแกนเนอร์ที่สามารถรองรับทุกช่วงสีได้
ดังนั้นสแกนเนอร์ระดับนี้จึงต้องใช้ระบบการจัดการเรื่องสีแบบ 36 บิต
แทนที่จะเป็น
แบบ 30 บิต ซึ่งระบบการจัดการเรื่องสีแบบ
36 บิต จะรองรับสีได้นับหมื่นล้านสี มากกว่าแบบ 30 บิต ที่สามารถรองรับสีได้ประมาณ
พันล้านสี สิ่งนี้จะทำให้แน่ใจได้ว่าจะเก็บรายละเอียดของสีได้ทุกช่วง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เป็นแสงเงาของภาพ
นอกจากนี้ วัสดุโปร่งใสยังมีรายละเอียดของภาพในส่วนของแสงเงามากกว่า
โดยเฉพาะบริเวณขอบของแสงเงา สแกนเนอร์ระดับนี้
ที่ได้ทำการทดสอบทุกรุ่น (ยกเว้นสแกนเนอร์จาก
Mustek) มีอะแดบเตอร์สำหรับการสแกนจากต้นฉบับที่เป็นวัสดุโปร่งใส เช่น ฟิล์ม
ให้ แต่ถ้าต้องการใช้สแกนเนอร์แบบดรัมระดับมืออาชีพที่ใช้ในสตูดิโอ
จะมีราคาประมาณ 10,000 ถึง 30,000 เหรียญสหรัฐ
เป็นกระดาษ หรือต้นฉบับที่เป็นวัสดุโปร่งใส
ซึ่งซอฟท์แวร์ที่ควบคุมสแกนเนอร์มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการรองรับการทำงานปริมาณ
มาก ซอฟท์แวร์ควบคุมสแกนเนอร์ที่ดีต้องสามารถรองรับการทำงานแบบต่อเนื่องได้
โดยผู้ใช้จะเลือกดูภาพที่จะได้จากการสแกน
และเลือกส่วนที่ต้องการสแกนจากต้นฉบับต่าง
ๆ แยกกันก่อนที่จะเริ่มสแกน ทำให้สามารถปรับโทนสีและรายละเอียดของสีของงาน
จากต้นฉบับแต่ละรายการออกจากกันได้)
เมื่อเลือกวิธีการสแกนสำหรับต้นฉบับแต่ละรายการแล้ว อฟท์แวร์ควบคุมการทำงานของ
สแกนเนอร์ จะสั่งให้สแกนเนอร์สแกนต้นฉบับตามรายละเอียดที่กำหนดไว้ได้
โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องนั่งควบคุม
หมายเหตุ สแกนเนอร์ระดับไฮเอนด์ให้งานที่มีทั้งความถูกต้องและความสมดุลของสี
รวมทั้งมีโทนสีที่ค่อนข้าง
กว้าง งานที่ได้จากการสแกนควรเหมือนกับต้นฉบับ ซึ่งมีทั้งความแตกต่างของโทนสีกลาง
และ
มีรายละเอียดของแสงเงาในระดับดี
ขนาดของไฟล์จากการสแกน
ความละเอียดของภาพมีผลอย่างมากต่อขนาดของไฟล์ที่ได้จากการสแกน ตารางข้างล่างนี้แสดงให้เห็นถึงขนาดของไฟล์ที่ยังไม่ได้ผ่านการลดขนาด
ซึ่งได้จากการสแกนภาพ ถ่ายขนาด 4x5 นิ้วที่ความละเอียดต่าง ๆ กัน
คำแนะนำสำหรับการสแกน
3. การเชื่อมต่อกับพีซี
ควรดูด้วยว่าสแกนเนอร์ที่ใช้จะต้องต่อพีซีผ่านทางช่องต่อแบบใด โดยสแกนเนอร์ทุกเครื่องที่
Business Computing ได้ทำการทดสอบ ยกเว้น HP
ScanJet 5pse จะต่อกับพีซีผ่านทางช่องต่อแบบขนานที่ใช้สำหรับต่อ
เครื่องพิมพ์ ส่วน HP ScanJet 5pse นั้น จะต่อกับพีซีผ่านทางช่องต่อแบบ
SCSI ซึ่งปกติจะไม่มีอยู่ในพีซีทั่วไป การใช้ช่องต่อแบบ SCSI
ทำให้ การทำงานเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามการติดตั้งช่องต่อแบบ SCSIเข้ากับพีซีเป็นเรื่อง
ยุ่งยากพอสมควรเมื่อเทียบกับการต่อเข้ากับช่องต่อแบบขนาน ดังนั้น
ถ้าไม่คิดว่าความเร็วในการสแกนเป็นเรื่องสำคัญ ควรเลือกสแกนเนอร์ที่ต่อเข้ากับพีซีผ่านช่องต่อแบบขนาน
4. ราคาจำหน่าย
ราคาของสแกนเนอร์มีแนวโน้มที่จะลดลงเช่นเดียวกับราคาของเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ตตัวอย่างเช่นราคา
ของสแกนเนอร์แบบวางราบสมรรถนะปานกลางเคยอยู่ที่
500 เหรียญสหรัฐ แต่ในปัจจุบันมีสแกนเนอร์แบบเดียวกัน
จำหน่ายในราคา 149 เหรียญสหรัฐ
ในส่วนของยี่ห้อและรุ่นจะได้กล่าวถึงต่อไป