คุณเล่าให้เราฟัง

เขาเล่าว่า...ชุดคอมพิวเตอร์ในความฝัน....

อุปกรณ์	ชุดย่อมเยา	ชุดมาตรฐาน	ชุดสุดยอด
CPU	celeron,Duron	celeron,Duron	Pentium4,Athon
Mainboard	ABIT BX6,BE6	IntelSE440BX-2
RAM	RDRAM,DRR-SDRAM 128-256 MB
Harddisk	Quantum	SCSI
VGA-card	TNT2	Geforce2
จอภาพ		Sumsung	Sony 17"
keyboard	chicony 220 - 250 บาท	microsoft
CD-ROM
Sound-card	yamaha	SB Live! value
ลำโพง	Boss
Joy-stick		Microsoft
Modem
ราคารวม

เขาเล่าว่า...ร้านในพันทิพย์....

ร้านดี	ร้านห่วย
ร้าน Orchid ชั้น 1 IRR PRINTECH ชั้น 1 ร้าน Saveway ที่ชั้น 5 ร้าน Slot ร้าน Famous	Speed อยู่ชั้น 2 Computer Guide อยู่ชั้น 1 Comcity ชั้นลอย ข้างๆ data it Compware ชั้น 3 ร้าน Sytech ชั้น 1 ร้าน Pacific OA ชั้น 3 ร้านโซลาย ร้าน Hardware House ชั้น 1

เขาเล่าว่า...Harddisk....

ยี่ห้อ	เหตุผล
quantum	เร็ว,ราคาถูก
maxtor	ราคาถูก ช้า
seagate	เคลมลูกใหม่ได้ง่าย
western digital	อายุการใช้งานมาก ราคาแพง

เขาเล่าว่า...จอภาพ....

จอดี	จอห่วย
SONY Eizo Nanao NEC Phillips	TOP VIEW ACER Powell Socos

เขาเล่าว่า...printer....

ยี่ห้อ	เหตุผล
Hewlett Packard	หาซื้อหมึกง่าย
Epson	ความละเอียดและความคมชัดสูง
Lexmark	พิมพ์สวย ในราคาถูก
Canon	ราคาถูก

อย่าเชื่อจนกว่าจะไตร่ตรองให้แน่ใจเสียก่อน

ก็ดีครับ แต่ราคาแพงนิดหน่อย แต่จริงๆแล้วก็พอๆกันทุกร้าน
ถ้าซื้อแบบสำเร็จก็คงไม่ได้รับบริการดีกว่ากันซักเท่าไร
ถ้าจะให้ดีลองร้านนี้ก็ได้ IRR PRINTECHชั้นล่างเหมือนกันเลยใต้บันไดไปนิดหนึ่งหรือที่ชั้น M
ผมเคยซื้อหลายอย่างถ้าเสียเปลี่ยนให้ไม่ค่อยอิดเอื้อนเท่าไร
ถ้าประกอบเองก็จะดีที่สุด

ลองไปดูที่ร้าน Famous นะ เคยซื้อมาใช้ที่ทำงานก็โอเคไม่มีปัญหาไม่แพงด้วยนะ

ร้าน saveway ที่ชั้น 5 ครับ หายากหน่อย (ชั้นเดียวกับ itcity ขึ้นไปแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปจนเจอบันได
เดินออกประตูข้างบันได เข้าไปเรื่อย ๆ จะเป็นส่วนของร้านที่ซ่อมอุปกรณ์ของร้านในพันธุทิพย์ เดินไปเรื่อยๆ
จะอยู่ขวามือครับ) บริการดีมากครับ

ร้าน SAVEWAY ชั้น5 ตรงบริเวณศูนย์ซ่อม ร้านนี้ชัวร์
ไม่มีโกหก ขายไม่แพงด้วย

คำเตือน ผู้ที่กำลังจะซื้อ computer โปรดอย่าเข้าไปซื้อที่ร้าน HARDWARE HOUSE โดยเด็ดขาด!!!
ร้าน HARDWARE HOUSE เป็นร้านที่อยู่ใน BlackList
บริการสุดห่วย!!! ขาดความรับผิดชอบ จ้องจะขายของอย่างเดียว เวลาของมีปัญหาเคลมยาก
ผลัดวันประกันพรุ่ง น่าปวดหัว

ซื้อร้าน hardware house ดีกว่าครับ ชั้น 1 ข้างร้าน ออคิด
บริการดีครับเป็นเครือเดียวกันกับ Just ครับ แต่คนขาย
พูดดีครับ ผู้หญิง

จริงคับ hardware house ดี และ ก็ถูก จริงๆครับ ของถ้าซื้อไปไม่ดี
มีปัญหาภายใน 1 เดือน เค้าจะเปลี่ยนให้ครับ

ร้าน Slot ก็ดีนะครับ ช่างที่ชื่อมณเฑียรเป็นกันเองดี ผมไปซื้อตอนที่ยังไม่เป็นเรื่องคอม เปิดเครื่องเป็น
อย่างเดียว สองวันก็ติดไวรัสต้องอุ้มไปที่ร้านให้จัดการให้ เขาก็ดีเหลือหลาย ไม่เคยหน้างอกับลูกค้าที่
โง่ๆอย่างผมเลย ผมอุ้มคอมไปที่ร้านนับสิบครั้งแล้ว ตั้งแต่ไม่รู้เรื่องจนพอจะรู้บ้าง ตอนนี้ราคาอาจจะสูง
กว่าร้านอื่นบ้างคงเป็นนโยบายทางบริหาร แต่ผมยังพาเพื่อนไปอุดหนุนพวกเขาเสมอ ไม่อยากให้เจ๊งน่ะครับ

ร้าน real studios ชั้น 4

ร้านนิวธัญรัตน์ก็ดีนะ

March Computer ชั้น 1 ราคาถูก บริการดี

Ittiphat Cheap, but reliable. Defect goods can be return eventhough from mis-used.

KamThai Good Service. Knowledge personal. No monkey business.

PerSoft ชั้น 2 Reliable goods. Relatively Reliable service. A bit too much expensive

Real Type: ชั้น 4 Cheap. Good & custom-understand service. Home of RTKill Antivirus.

ร้าน sytech ชั้น 1 ไม่ค่อยต้อนรับลูกค้าเวลาเครื่องมีปัญหา และเวลาจัดส่งซ่อมช้ามาก

ผมเห็นด้วยครับ ร้าน sytech สุดห่วย
ใช้ของประกอบคอมที่มีคุณภาพห่วย
แถมยังพูดไม่ได้เรื่องเลยเวลาส่งซ่อม
ผมเข็ดจริงจริง

Sytech ครับ วันก่อนผมนั่งรอของอยู่ตั้งนาน เสร็จแล้วก็บอกของไม่มี ให้ทิ้งไว้ แล้วมาเอาวันหลัง แย่มากครับ

ผมชอบนิวธัญญรัตน์ครับ (ชอบคนขาย) ฮิๆ

ร้าน โซลาย สิครับคุณลองเดินเข้าไปในร้านดูสิ

มันดูถูกผมมากเลยครับ..
ตอนก่อนผมไปซื้อ Matrox Mytique 220
มันไม่ยอมหยิบของให้ผมดูครับ...

ผมต้องไปซื้อร้านอื่น... อุตส่าห์จะไปอุตหนุนซะหน่อย..
ทุเรศมากครับร้านนี้

แบบว่าถ้าเดินเข้าไปแล้วนะต้องบอกท่านดังๆชัดๆว่าจะซื้ออะไรและควรบอกด้วยว่าเอารุ่นที่แพงสุดในร้าน
เมื่อท่านบอกราคามาก็อย่าต่อนะเดี๋ยวท่านโมโห
ให้รีบจ่ายเงินแล้วกลับมานอนโง่ที่บ้าน
ทำอย่างนี้ซัก2-3ครั้ง ครั้งต่อไปท่านจะคุยกับคุณดีหน่อย

ผมก็โดนจะเข้าไปซื้อ Card voodoo2 ซะหน่อย
แต่ทำเป็นไม่สนใจถามคำตอบคำ เราคิดจะซื้อจริงๆ
และไม่คิดจะต่อราคาด้วย แต่มองเราเหมื่อนเราไม่มีเงิน
เรื่องบริการหลังการขายผมไม่รู้นะ...แต่บริการก่อนการซื้อนี่สิห่วยแตก

ร้าน CompCity ชั้นลอย นิสัยแย่จริงๆ

you should beware "computer guide" too.
they give u a defect product.
if u would like to buy any product from this shop, plan the time to go this shop again
in next few day. becoz i brought more than 7 devices for my friend in 3 months
i took it back to shop 7 times.
cost is not the main point for technology and quality.
Once upon a time, My friend' s modem don't have sound from speaker.
We took it back to change. The seller put the defect modem to the shelf.
( ready to sell ) and tell me pick up the new one.
?????what do u think ?????

จากคุณ : dsf - [10 ส.ค. 2541 01:22:00]

Computer Guide: Pantip 1st floor. Bad aftersale. Lookdown users. Got total 45 complaints from BBS users.

ตอบ ชั้นเดียวกับ DATA IT อยู่ขวามือเวลาหันหน้าเข้า มีร้าน com city ; computer guide มีที่อื่นๆอีกไหม
ช่วยๆกันทำblacklist หน่อย อย่างน้อย พวกเราจะได้ไม่ไปถูกหลอกอีก .....

จากคุณ : ร่วมด้วยช่วยกัน - [10 ส.ค. 2541 08:50:01]


ตอบ โดนครับระวังให้ดีแล้วกัน

จากคุณ : ใช่เจ้าของมันปากหมามากผมก็เคย - [10 ส.ค. 2541 09:04:53]


ตอบ ร้าน Computer Guide กับ Speed ก็เจ้าของเดียวกันนะจะ ของมันก็เปลี่ยนกันไปเปลี่ยนกันมา
ผมว่าเน้นของที่รับประกันโดย Dealer ใหญ่ๆอย่าง DComp หรือ Value
จะดีกว่าพวกรับประกันโดยร้านค้าอย่างเดียว
เพราะจะซื้อร้านไหนก็เหมือนกัน เครมตรงได้เลย รวดเร็ว พิจารณาแต่ราคาแต่ละร้านเท่านั้นเอง

จากคุณ : ชินจัง - [10 ส.ค. 2541 10:57:45]

รายละเอียดเสริม
ช่าง ใหญ่ แต่ไม่ค่อยจะเก่ง เก็กจัง ชื่อว่า โอ๊ด ลักษณะ สูงผิวขาว ขี้เก็กเฉพาะลูกค้าผู้หญิง ไม่ค่อยจะเก่งเท่าไหร่
ฟันเหยิน ใส่แว่น หัวเถิก สังเกตุว่าจะใส่น้ำมันเซ็ตผมซ่ะตั้งเลย
เจ้าของร้าน ชื่อว่า ภูมิ วางท่าเป็นคนรวยที่มาเปิดร้านเปิดมาแล้วประมาณ 2 ปี ครึ่งเห็นจะได้
ชื่อจริง พีระพล
ร้าน อยู่ชั้น M ห้อง 9 เบอร์โทรศัพท์ 2559980
ข้อมูลนี้อาศัยไปพูดคุยกับเค้าเอาทำท่าว่าจะไปซื้อของน่ะ ทำเพื่อทุกคนน่ะครับ

ของผม CD-R SCSI เสีย
มันเปลี่ยนเอา CD-R IDE มาให้อ่ะ...

ต้องจำยอมเอา...เพราะ มันเอาไปดองไว้ 6 เดือนแล้วน่ะ..

จะทำงานก็ไม่ได้.
ไอ้ร้าน Speed น่ะแหละ อยู่ชั้นสอง

ผมเห็นด้วยกับร้าน Computer Guide กับ Speed ครับ
สุดยอด Bad Shop เลย
ของผมนี่โดนนานแล้วตั้งแต่สมัย CD 2X เอามาใช้
ได้ 3 เดือนแล้วเสีย พอส่งไปซ่อม มันดองซะ 2 เดือน
แล้วมาหน้าด้านบอกว่าซ่อมไม่ได้ ไม่มีอะไหล่ แต่
ยินดีจะขาย 2X ตัวใหม่ให้ผมในราคา 'ลดพิเศษ'

Oh.. no! Not comware!
ร้านนี้อย่าไปซื้อเลยครับ ชอบหลอกให้ลูกค้าซื้อของราคาแพง อ้างว่าดีกว่าร้านอื่น ให้ความรู้ผิดๆ

compware ชั้น 3 ผมโดนหลอกมาแล้ว อย่าไปเลย
cyrix 6x86 p150 แต่ของเป็น 120
จอ mag 15" ได้ของเก่ามา
ซื้อเมื่อหลายปีที่แล้ว

pacific OA? OH MY COM

ร้านmetra byteที่อยู่ชั้น1 ห่วยมาก บริการสุดแย่

ร้านmetra byteที่อยู่ชั้น1 Faked parts. Bad aftersale.

ร้าน Full-Bright แย่ที่สุดของความแย่ ผมเคยซื้อเครื่องพิมพ์ LASER OKI PAGE 4w แต่ด้วยความที่ต้องรีบกลับบ้านต่างจังหวัดก็เลยไม่ได้ Test เครื่องก่อน กลับมาถึงบ้าน Toner ทีปัญหา ปริ๊นท์ออกมาแล้วดำทั้งหน้า อีกอาทิตย์ ก็เลยนั่งรถไปกรุงเทพใหม่เพื่อขอเปลี่ยน (มีใบรับประกันทุกอย่าง) เขาให้ผม รอประมาณ 3 ชั่วโมงโดยไม่สนใจผมและแฟนเลย (ผมไปกับแฟน) จากนั้นก็ มาบอกว่าของเปลี่ยนไม่ได้ เพราะเขารับมาจากiร้าน CSC อีกที ให้ผมไปติดต่อเปลี่ยนเอง ผมก็ยกเครื่องไป CSC พนักงานผู้หญิงแกๆ ที่นั่น หน้าหงิก และบอกผมว่า ไปติดตั้งผิดวิธีหรือเปล่า และไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น โดยพยายามโยนความผิดว่าผมติดตั้งผิดวิธี ตอนนั้นแฟนผมเกือบ ร้องไห้แล้ว เพราะเธอรับพิมพ์งานอยู่ ผมพยายามเจรจาให้เขาเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ (ที่ CSC) เขาก็ไม่ยอมพูดจาดูถูกเราที่สุด ผมเลยกัดฟันบอกว่างั้นผมยอมเพิ่มเงินให้ก็ได้ พนักงานก็ไม่ยอม (มีช่างซ่อมผู้ชาย ตัวเตี้ยเขาเห็นใจผมมาก พยายามจะใช้ทิชชูเช็ด Toner ก็ไม่ได้ผล ผมถามเขาว่าพี่ผู้หญิงหน้าหงิกนั่น เป็นเจ้าของร้านหรือ เขาบอกว่าไม่ใช่ ในนี้มีแต่ลูกจ้าง) สรุปแล้วทำไงก็ไม่ยอม เขาถามว่าซื้อที่ไหน ผมบอกว่าซื้อจาก Full Bright เขาก็บอกว่าถ้างั้นคุณต้องไปเอาเจ้าของร้านมาเคลมให้ ผมก็กลับไปที่ร้าน Full Bright อีกที และเขาบอกว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของร้าน เพราะเขารับมาจาก CSC อีกทีหนึ่ง และยังพูดอีกว่า คุณอยากซื้อของห่วยเอง เขาบอกแล้วว่าอย่าซื้อยี่ห้อนี้ (แฟนผมร้องไห้เลย) ผมแค้นที่สุด ตะโกนลั่นร้านว่าความซวยทั้งหมดอยู่ที่คนซื้อ คนที่กำลังจะซื้อของในร้านมองผมด้วยความสงสาร ทั้งหมดคือเรื่องจริง

ขอเตือนผู้ที่จะซื้อ Computer ที่ร้าน *" Supa computer "*ด้วยนะครับ ร้านนี้อยู่ชั้น2 (ตรงทางเดินไป Datamation ครับ)
ร้านนี้ตอนผมพาเพื่อนไปซื้อพูดดีมากเลย ตอนนี้ก็มีปัญหาเกิดขึ้นคือ
Harddisk Maxtor 2.1GB (Mode4 16.6MB/S) ที่ติดมาพร้อมเครื่อง(ซื้อมาได้ 11 เดือน)
ได้เกิดเสียเมื่อเพื่อนผมนำไปเคลม ก็ต้องรอเกือบ 2 เดือน และบอกว่า ตกรุ่นแล้ว
พอถึงวันนัดรับของ ก็ให้จ่ายเงินเพิ่มอีก 1500 แล้วก็เอา Harddisk Maxtor 2.1 GB(UDMA)
ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว(ดูเป็นรอยขีดข่วนเยอะมาก และเหมือนโดนซ่อมมาแล้วเนื่องจาก Void
ของโรงงานโดนติดทับซ้ำ)มายัดเยียดให้กับเพื่อนผม ทำนองว่าถ้าไม่เอาก็ไม่ต็องเอาจน
เพื่อนผมจำใจรับมา
***เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ผมขอให้เป็นอุทธาหรณ์กับคนอื่นๆด้วยนะครับ ช่วยกันต่อต้าน
ร้านค้าที่ไม่รับผิดชอบแบบนี้(โดยอย่าไปซื้อ ถ้าไม่อยากเจอเหตุการณ์เหมือนกัน)
ถ้าพวกเราร่วมมือร่วมใจกันจริงๆและ ช่วยกันบอกชื่อร้านมา คงจะทำให้ร้านแบบนี้หายไปจาก
สังคมของเรานะครับ ***

อย่าปล่อยให้ร้านชั่วลอยนวล ไปหลอกเพื่อนๆคนอื่นๆอีก นะครับ

มีอยู่ร้านหนึ่งชั้น3 เจ้าของร้าน(คนใหม่เป็นผู้ชาย)เลวจริงๆ(หลายคนในที่ทำงานโดนมาแล้ว) ชื่อร้าน AND อย่าได้หลวมตัวไปเชียว หัวแบะ
แต่เจ้าของร้านคนเก่า(ผู้หญิง)นั้นดีไม่มีปัญหา ซึ่งได้ย้ายไปอยู่ร้านห้องตรงข้ามกันแล้ว

Samart Computerman: No aftersale service. Monkey business. Faked advertizing.
Last update: Refuse to pay backlog in million.

เร็วสุดก็ Seagate Cheetah UW SCSI
ส่วน ทนสุด มันอยู่ที่ดวงน่ะ
อิอิ แว็ปปปปปปปปปปปปปปปป

แบบ IDE นะ
ถ้าเอาแบบคุ้มสุดก็ต้อง Seagate 8.6 GB ตัวละ 10700 บาท (ร้าน Famous ชั้น 3)
เร็วสุดก็น่าจะเป็น Seagate 6.5 GB เพราะหมุน 7200 รอบ (ราคา 8600 บาท)
ไม่ก็ Quantum Fireball EL 5.1 GB เพราะมี Buffer เยอะดี (ราคา 6800-7100 บาท)

เราใช้ Seagate 2.5 GB อยู่นะ แปลกมาก ไม่เคยเกเรเลย สงสัยทำบุญมาดี
Format ไป 50 กว่าครั้งแล้ว แต่ยังไม่มี bad
ไม่ช้าด้วย .. 1 ใน 1000 เปล่าเนี่ย
( ใช้มา 15 เดือนได้ )

seagate มีข้อดีคือ เคลมลูกใหม่ได้ง่าย (d computer)
ขอเสียคือ "ต้องเคลม" ผมเคยขอกับเขาว่าขอเอาลูกที่ไม่ต้องเคลมได้ไหม คนขายเขาหัวเราะครับ
ปัจจุบัน ผมใช้ hd ของ seagate IDE ประมาณ 30-40 ตัว มีการเคลมเป็นประจำทุกเดือน-2 เดือน SCSI 4 ตัว ขนาด 4 GB x 2 และ 9 gb x 2 เคลมมาแล้ว 3 ตัว
แต่ผมใช้ quantum fireball ขนาดตั้งแต่ 2.1-6.4 gb จำนวนประมาณ 4-5 ตัวไม่เคยเคลมเลยสักครั้งเดียว ไม่รู้ทำไม
และยังมีอีกหลายยี่ห้อ แต่เขาไม่ค่อยจะรักช่างเท่าไร

ข่าวดีครับ D-com ของพวกคุณ ออกลายแล้วนะ
สมัยก่อนก็ เอา hdd ที่มี bad sector ไปซ่อม แต่ตอนนี้ ทำการ low level format แทนแล้วก็ ส่งมาขายใหม่ ถ้าโชคดี bad หาย
โชคร้าย มี bad ตั้งแต่ซื้อ อิอิ

ตั้งแต่วันที่ Seagate ได้เข้าซื้อกิจการรวมกันเป็นบริษัทเดียวกับ Conner
Pheriperal กลายเป็นบริษัทผลิต Storage Device ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
นับแต่นั้นเป็นต้นมาสินค้าของ Conner ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Seagate หมด
ทำให้ชื่อของ Conner หายไปจากตลาด จากความหลังครั้งเก่าก่อนนั้น
ผู้ก่อตั้ง Seagate แบะ Conner เคยทำงานมาที่เดียวกันคือ Seagate มาก่อน
แต่ด้วยความคิดที่แตกแยกกันที่ว่า คนหนึ่งต้องการทำการผลิตชิ้นส่วนทุกอย่าง
แบบครบวงจร อีกคนหนึ่งบอกว่า ต้องการผลิตแค่บางชิ้นส่วน บางส่วนจ้าง
บริษัทอื่นผลิตให้ได้ ความคิดแรกเป็นของผู้บริหาร Seagate ในขณะนั้น
เมื่อความเห็นไม่ลงรอยกัน ทำให้ คน 2 คนอยู่ร่วมชายคากันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ก้เลยออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ชื่อ Conner
โดยยึดตามแนาวความคิดของใครของมั้น หลายปีต่อมา ชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต Hardisk ขาดตลาด
ทำให้ Conner,Quantum,Mactor,JTS,Micropolis เกิดระส่ำ เพราะต้องซื้อชิ้นส่วนสำคัญจากบริษัทอื่น ๆ
ทำการผลิตให้ ทำให้ Seagate ที่มีการผลิตครบวงจรได้เปรียบ กลายเป็นผู้นำในที่สุด
ต่อมา Conner เกิดประสบปัญหาในการดำเนินงาน ความคิดที่จะรวมกับ Seagate เพื่อกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง
ก้ได้เริมขึ้น และมาจนบัดนี้
แล้วผู้ใช้ Hardisk อย่างเรา ๆ เนี่ย สำหรับผู้ที่เคยอยู่วงการคอมพิวเตอร์นาน ๆ จะทราบว่า
Hardisk ของ Conner นั้นไม่ทนทานสู้ Seagateคุณภาพไม่เท่ากัน นั่นแหละ
แล้วหลังจากที่รวมกันเป็นบริษัทเดียวกันแล้ว คุณภาพของสินค้าจะเป็นหนึ่งเดียวกันหรือไม่ นั่นแหละคือสิ่งที่เราควรรู้
ความจริงคือ ไม่เลย ทำไมน่ะเหรอ
1. หากเราสังเกตุให้ดีจะพบว่า Hardisk Seagate ในขณะนี้ผลิตออกมา 2 Model คือ
แบบสีขาวมน ๆ กับแบบสีดำ มาเนื่องจากสาเหตุอะไร? ก็เพราะว่า Hardisk
Model สีขาวมน ๆ มาจากโรงงานของ Conner เก่าก่อนที่จะรวมกับ Seagate นั่นเอง
ส่วนสีดำมาจากโรงงานของ Seagate เก่าก่อนที่จะรวมนั่นแหละ เขาแบ่งแยกสายการผลิตไว้ชัดเจน
แต่ก่อนนั้น D Computer ก็ขาย Conner พอ Conner มารวมกับ Seagate ก้เลยมาขาย Seagate ตาม
2. หลังจากรวมบริษัทมาเป็นหนึ่งเดียวสินค้า Conner คือ Seagate
แต่ได้พกพาเอาคุณสมบัติแบบ Conner คือ เสียง่ายตามมาด้วย ทำให้ภาพลักษณ์ของ Seagate ตกต่ำสุด ๆ
ไม่ทราบว่าสุด ๆ ไปแล้วเท่าไหร่ เพราะที่มาของเสียงบ่นนั่นคือ
ไปซื้อ Hardisk จากโรงงาน Conner เก่ามานั่นเอง แต่ตีตราเป็น Seagate
จะเห็นได้ว่าเขารวมกันแต่ชื่อแต่ไม่ได้ปรับกระบวนการผลิตและมาตรฐานเข้าด้วยกันเลย
รวมกันเพื่อยึดส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งมีลับลมคมในที่เราไม่ทราบอีกมาก ซึ่งเราจะนำเสนอต่อไปอีก โปรดติดตาม
รวมทั้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรงงานผลิตชิ้นส่วน Hardisk ของ Seagate
ในเมืองไทยด้วยว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เป็นอุตสาหกรรมหรือแหล่งผลิตสินค้า ในกระบวนการเกิดมลพิษสูง
จนไม่สามารถตั้งได้ที่ยุโรปหรือ USA ...

ตามข้อความของเจ้าของกระทู้ มีข้ามตอนสำคัญไปหนึ่งตอนครับ ก่อนที่ Seagate จะมารวมกับ Conner นั้น Seagate ได้ซื้อกิจการของ Impremis มาก่อนหน้าแล้ว ซึ่งสินค้าของบริษัท Impremis คือ Hard disc เหมือน ๆ กัน ซึ่งสินค้าของ Seagate ดั้งเดิมจริง ๆ แล้ว จะมีคุณภาพปานกลาง ราคาขายต่ำ ยอดการผลิตสูง ซึ่งทำให้ได้เปรียบในด้านราคาขายที่ต่ำกว่าคู่แข่งขันอื่น ๆ
สำหรับ Impremis สินค้าหลักจะเน้นในเรื่องคุณภาพที่ดี สมรรถภาพสูง และราคาค่อนข้างจะสูง ซึ่งเมื่อมีการรวมกิจการกันขึ้น จึงมีการกำหนดตัวสินค้าที่แต่ละโรงงานจะผลิตออกมาแยกจากกัน

สินค้าที่มาจากโรงงานของ Seagate โดยตรงในปัจจุบัน จะเป็นชนิด IDE s/n ของสินค้าจะมี Format เป็น xxxxx-xxx ( จะเป็นตัวเลข 4 - 5 หลักแรก ตามด้วย "ขีด" และต่อท้ายด้วยตัวเลขอีก 3 หลัก ซึ่งมีชื่อเรียกทางการค้าว่า Medalist

ส่วนสินค้าคุณภาพสูงจากโรงงาน Impremis เดิม จะออกมาในรูปของ SCSI Drive มี s/n ของสินค้าเป็น Format xxxxxxxxxx ( เป็นตัวเลข 9 - 10 หลัก ไม่มีขีดคั่น ) มีชื่อทางการค้าคือ HAWK ,BARACUDA , CHEETAH และ Medalist Pro สำหรับสินค้า Medalist Pro ต้องดู s/n ด้วยเพราะจะมีออกมาจากสองโรงงาน คือ Impremis เดิม และจาก Conner เดิม ซึ่ง

s/n ของสินค้าจากโรงงาน Conner เดิม จะเป็น xxxxxxxx-xxx (ตัวเลข 8 หลัก ตามด้วย ขีด ต่อท้ายด้วยตัวเลขอีก 3 หลัก )
ดังนั้น Hard disk ที่ท่านทั้งหลายซื้อใช้กันอยู่มาจากแหล่งผลิตดั้งเดิมที่ไหน ให้ดูจาก format s/nที่บอกให้ข้างต้นนี้ สำหรับตัวแทนจำหน่ายของ Seagate ในประเทศไทยมีอยู่ 2 เจ้าครับ คือ D-Computer ที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว อีกเจ้าก็คือ Compex (Thailand) อยู่ ลาดพร้าว94

พอดีผมมีความคิดที่แตกต่างออกไปน่ะครับ เกี่ยวกับ seagate กับ conner น่ะครับเรื่องคุณภาพน่ะเท่าที่ผมทราบมามันตรงข้ามกันเลย seagate น่ะเสียง่ายคุณภาพไม่ค่อยดีตั้งแต่ก่อนรวมกับ conner ตั้งนานแล้วครับ เมื่อก่อนผมเคยใช้ seagate รุ่น 40 MB สมัย intel 8088 เสียโครตง่ายเลยมีปัญหามากใช้ๆอยู่หยุดการทำงานไปเลย ส่วน conner ที่ผมมี 850 MB ใช้โคตรดีเลยไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ผมว่า seagate ตะหากที่คุณภาพไม่ดี conner ตะหากที่คุณภาพดี อันนี้ผมขอเถียงนะครับเพราะประสบมากับตัวเอง แล้วเมื่อก่อนที่ seagate ยังไม่ได้รวมกับ conner ก็เห็นมีคนบ่นๆว่า seagate ห่วย สู้ conner ไม่ได้

ผมว่า harddisk ของ ทั้ง seagate & conner คุณภาพใช้ได้ดีนะครับ
ไม่เคยเจอ แบบ Maxtor ที่เจ๊งกันมากมายในอดีต ยังจำได้ไหม
คิดว่าการเสียของ harddisk ส่วนใหญ่น่าจะมาจากการใช้งานมาเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าเราเข้าใจการทำงานของมัน ใช้งานอย่างเข้าใจ เราจะสามารถดูแลมันได้เป็นอย่างดี
อันดับสองน่าจะมาจากดวง เพราะปัจจุบัน harddisk ยังมีการผลิตโดยมีขั้นตอนมนุษย์อยู่ คือต้องผ่านแรงงานคน คนนี่เองทำให้คุณภาพของ harddisk บางตัวด้อยไป จากอะไรก็นึกเอาเอง แม้มาตรฐานรวมดี แต่แน่นอนว่าต้องมีบางตัวไม่ดี ซึ่งเป็นทุกยี่ห้อ

และสำหรับ seagate & conner ขายได้มากที่สุดปัญหาที่เจอก็ต้องมากที่สุด เป็นธรรมดา

นั่นน่ะสิผมใช้ของ seagate เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าตอนนี้มีปัญหามากเกือบทุกตัวเลยทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานจะขอเปลี่ยนก็มีปัญหามาก

Seagate ทำไมเสียบ่อยก็ไม่รู้นะครับผมเห็นเค้าเสียกันเยอะมากครับบางคนเสียตั้ง3ครั้งผมว่าเว้นcpuแล้วharddisk เสียผมว่าช้ำใจสุดๆเลยละราคาก็แพงไม่ใช่ถูกๆแต่กลับเสียง่ายมาก แล้วที่ประเทศอื่นเค้าเสียเหมือนของเราหรือเปล่าครับ หรือว่าของที่เอามาขายในไทยเป็นของที่ด้อยคุณภาพครับ ตอนนี้ผมใช้ quantumก็อุ่นใจดีครับ แต่เดี่ยวนี้ไม่ยอมถอด hd ไปใช้ที่อื่นเลยครับ กลัวเสีย

ก็แล้วแต่นะครับ Seagate ผมว่าดีนะถ้าเคลมกับ Dcom
จะได้ตัวใหม่มาเลย ส่วนเรื่อง Bad นั้นก็แล้วแต่ดวงครับ
ของผม Seagate 1.2 Format วันละครั้งมา 2 เดือนแล้วยังไม่ Bad เลย แต่ Quantum Fireball ผมเคยเจอหลายครั้งมากที่ซื้อได้ซัก อาทิตย์ แล้ว Bad แถมเวลาส่งเคลมยังนานอีกเพื่อนผมส่งมา 3 เดือนแล้วยังไม่ได้เลย ของพันนี้มันนานาจิตตังครับ

ผมเป็นช่างคอม ฯ อยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่ง เจอมาหมดทุกยี่ห้อ มีปัญหาทุกยี่ห้อ แต่...
ที่มีปัญหาน้อยที่สุด คือ Quantum บางตัวใช้มาตั้งแต่ปี 35 ยังใช้ได้อยู่เลย
ผมว่า Maxtor รุ่นก่อน ๆ ก็ใช้ได้นะ แต่ตอนนี้ที่บ้านผมใช้ Bigfoot 2.1 Mb อยู่ ซื้อมา 2 ปีกว่า ๆ
ยังไม่เห็นมีปัญหา(ฺBad Sector) แม้แต่ครั้งเดียว ทั้ง ๆ ที่ผมใช้งานพวก กราฟิค และเล่นเกมส์ประจำ
seagate นี่ต้องเลือกร้านที่สามารถ เคลมได้ง่าย ๆ หน่อยเพราะพูดตามตรง ที่ผมทำงานนี่
เจ๊งไปหลายตัวแล้ว(เซ็งจริง ๆพับผ่าสิ) ผมแนะนำ Quantum EL 5.1 Mb ทดสอบมาแล้วเร็วที่สุดครับ

ผมลองใช้อยู่ 2 รุ่น คือ 2.8 กับ 4.3 GB. ก็ดีนะ เร็ว เงียบ ราคาถูก ที่สำคัญรับประกัน 3 ปี เท่าของ Seagateเลย

maxtor เจ๊งไป 2 ตัวแล้ว ต่อไปจะไม่มีตัวที่ 3 ยี่ห้อนี้อีกแล้วละ

ผมว่าอย่าดูที่โฆษณาเลย ให้ดูที่การรับประกันดีกว่า เนื่องจาก Maxtor ไม่มีตัวแทนในประเทศไทย
และทางร้านเองอาจจะรับประกันแค่ 1 ปี เท่านั้น ผมว่าหันมาใช้ seagate หรือ Quantum ดีกว่า
มีการรับประกัน 3 ปี ถ้าเสียเปลี่ยนได้ทันที อาจจะแพงกว่านิดหน่อย แต่ใช้แล้วสบายใจมากกว่า และ
ถ้าต้องการเร็ว ผมว่าไปใช้ Harddisk ที่เป็นแบบ SCSI ดีกว่า แต่อยู่ใน 2 ยี่ห้อนี้น่ะครับ

*****
ผมใช้ maxtor รุ่น 2.1 นะไม่มีปัญหาแต่ช้าไปหน่อยอ่ะนะ
แต่ผมแนะนำให้คุณใช้ ควอนตัมจะดีกว่านะกั๊บ
*****
icq 2078884

ใครเคยใช้ฮาร์ดดิสค์ ของmaxtor daimond บ้างครับ
มันดีรึเปล่าครับ
จากคุณ : ผี - [26 ส.ค. 2541 18:04:33]


ตอบ ก็ใช้ได้ดีครับ ผมใช้รุ่น 8.7 g อยู่

จากคุณ : กร - [26 ส.ค. 2541 18:20:43]


ตอบ มันก็ดีนี่ครับ อ่า ๆ ดีกว่า ซีเกต แน่นอนอยู่แล้ว ฮ่า ๆๆๆๆ
ไม่ต้องไปเปลี่ยนทั้งกะ 3 ปีที่รับประกันหรอก ก๊าก ๆ
แต่ข่าวมาว่าช้าไปนิดนึงเท่านั้นเองนะกั๊บ
icq 2078884
เต่าน้อยภารโรงแห่งห้องนี้จริงใจ

จากคุณ : เต่าน้อยเก๋าสุด - [26 ส.ค. 2541 20:17:16]


ตอบ สุดยอดจ้า
ปรทับใจ ใช้ตั้งแต่ 250 mb ถึง 5 gb ไม่มี bad
(250 ใช้มา 6 ปีแล้ว)

จากคุณ : vincent - [26 ส.ค. 2541 21:07:08]


ตอบ Maxtor ตัวที่ผมใช้อยู่นี้มีขนาด 80 MB Formatมากี่หนแล้วไม่รู้ ยังใช้ได้ดีอยู่เลย

จากคุณ : BiGGA - [27 ส.ค. 2541 00:33:03]


ตอบ เห็นด้วย ตอนนี้ใช้อยู่2ตัว 5ปีกว่า กับ 3 ปี หิ้วไปไหนต่อไหนยังดีเหมือนเดิม

จากคุณ : montana55@hotmail.com - [27 ส.ค. 2541 11:52:38]


ตอบ ซีเกต......... เพื่อนผม เคลม 2 ครั้งติดแล้ว bad 5 ตัว
ตัวที่ 2 กลับถึงบ้านมี bad แถมมาอีก 1 ตัว
มันอะไรกันนักกันหนา........ก็ดีอย่างได้มาเที่ยวพันทิพบ่อยๆๆ.....ฮ่าๆ
จ่าแม็ค>>>max@prachuab1.a-net.net.th
Sgm.Max>>>icq#9550782
http://come.to/sgt.max

จากคุณ : จ่าแม็ค - [28 ส.ค. 2541 00:12:06]

maxtor ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวเราะให้ฟันหลุดไปเลย
ลองซื้อดูเด่ะ แล้วจะรู้สึก

ระวังหน่อย maxtor นะไม่ค่อยเข้ากับชาวบ้าน
บางที่เขาต้องการอยู่เป็นslaveในprimary
เท่านั้นก็มี

quantum fireball ก็ok แล้วนะผมว่า

แนะนำ Quantum Fireball EL ครับ

Seagate เสียง่าย เคลมยาก ร้านที่ขายให้ยังบอกเลย
ตอนนี้ใช้ Bigfoot ของ Quantum อยู่ ถูกดี ยังไม่มีปัญหาเลย

Seagate ขอให้เลือกเป็นยี่ห้อสุดท้าย
ไม่สนใจ quantum บ้างหรือ?

Seagate is very bad.I used it for three year,it has maked
many problem to me.I think quantum is better than seagate.
My friend used it for two year,it doesn't have any problem.

ของ westtern ฯ ผมเคยเจอ BAD ตั้งแต่ แทรค 8 เลย เคลมก็ยากด้วย
น่าจะลอง BIg Foot ของ Quantum ดูนะครับ คุ้ม , เร็ว, ถูก

Bigfoot นี่ผมก็ว่าดีครับ แต่ก็ชอบ western เหมือนกัน
western มีจานอ่านมากกว่า Hdd ทั่วไป 2 จาน
แต่ถ้าจะเล่น Quamtum เล่น fireball ไม่ดีกว่าเหรอครับ เร็วกว่านะครับ

western digital

western digitalดีกว่าแยะMTBFสูงกว่าใช้ได้หลายปี
แพงกว่าเล็กน้อย

western digital very bad hard disk.
My office use many brand of hard disk.
All of it have never failed except western digital.

ฮืมม Zdnet โหวตให้ Eizo Nanao กะ NEC Multisync A700 เป็นสุดยอด Monitor 17" นิ ....

เจ๋งสุดก็ Sonyแหละครับ แต่แพงจริง ๆ ถ้าอยากได้ถูก ๆ คุณภาพกลาง ๆ ก็ Mag หรือ Samsung ก็ OK

จอ MAG ครับ คมชัด สบายตา เหมาะกับการทำงานอยู่หน้าจอทั้งวัน
และหลอดภาพใช้ของ Sony ครับ

ผมใช้ Samsung 700P ก็ดีครับ
ฟังก์ชั่นมาก ราคาเกินคุณภาพ

หาอะไหล่ยากนะจะบอกให้ ถ้ากลัวเรื่องซ่อมนะพูดตามตรง Sony กับ Philip นะ work สุด เพราะหาอะไหล่ได้ง่ายสุดแล้ว

ผมว่า philips ครับ
ผมเปลี่ยนจอยี่ห้ออื่นไปสองจอแล้ว แต่เพื่อนผมที่ใช้ philips ยังใช้อยู่เลย

Nokia ซิครับ pixels รูปไข่ จะหาใครเหมือน
ที่ไม่ค่อยได้รางวัลกับชาวบ้านเค้า
เพราะมันมี ปัจจัย ด้านราคามาเกี่ยว

ผมจะซื้อ Printer Cannon BJC4200sp แล้ว ใครจะคัดค้านมั่งเข้ามาแนะนำหน่อยครับ
หรือจะซื้อยี่ห้ออื่น ดีกว่า เช่น HP หรือ Epson ฯลฯ
วัดจาก คุณภาพของการพิมพ์,ความประหยัด,ราคาหมึก,ความนิยม,ฯลฯ
ผมตัดสินใจ Cannon ไปแล้ว แต่เปลี่ยนใจได้ ถ้าเพื่อน ๆ มีเหตุผลดี ๆ
วันอังคารนี้จะไปซื้อแล้วครับ

จากคุณ : โหน่ง - [6 ก.ย. 2541 07:05:10]



ตอบ เอาเลยครับ นั่นก็ดีเหมือนกัน แต่ผมว่าถ้าคุณมอง HP ไว้บ้างก็ดีครับ หมึกเติม หมึกแท้ มีให้เลือกมากกว่า อะไหล่ หาง่ายกว่า โสหุ้ยระยะยาว
จะถูกกว่าครับผมว่านะ หรือจะมอง LEXMARK ก็ไม่เลว
พิมพ์สวย ในราคาถูกน่ะ หมึกหายากหน่อยเท่านั้น
อย่าลืม!!!!!! ไม่ว่าเครือ่งแบบไหน หัวพิมพ์ มีวันหมดอายุการใช้งาน ดังนั้น เลือกซื้อแบบ หัวพิพม์ติดกับกลักหมึก ทั้ง 3 แบบที่ว่ามา HP,LEXMARK,CANON จะดีกว่าครับ ส่วนจะเลือกยี่ห้อไหน อยากให้ดูเรือ่งอะไหล่(กลักหมึก) ว่ามีขายแพร่หลายไหม แล้วจะพิมพ์งานสวยๆน่ะ ต้องใช้กระดาษพิเศษอะไรหรือเปล่า พยายามให้คุณภาพงานที่เราต้องการนั้น เป็นคุณภาพที่เราต้องการใช้จริงๆเท่านั้น เช่น สามารถพิพม์ 1024x762 ได้ ก็ต้องถามว่าเราต้องการขนาดนั้น บ่อยๆหรือเปล่า
ของผม แค่ 300x300(สี) ก็สวยมากพออยู่แล้ว
จริงๆนะครับ เที่ยบการพิมพ์ Homepage เดียวกัน
กับ EPSON STYLUS ต่างกันน้อยมากๆๆๆ เลยครับ
บนกระดาษธรรมดานะ จริงครับ ของเขาสวยกว่า แต่ไม่มาก
หรอก

จากคุณ : ผมใช้ HP เพราะหาซื้อหมึกง่าย - [6 ก.ย. 2541 10:18:42]



ตอบ พอดีผมใช้ HP 890c อยู่ครับก็เลยอาจจะให้ข้อมูลได้นิดหน่อยโดยส่วนตัวผมชอบ Hp มานานแล้ว
โดยเฉพาะเรื่องหัวพ่นหมึกติดอยู่กับตลับ จากการที่พิมพ์งานพิมพ์ Photo เปรียบเทียบกันกับ Canon พบว่า
Canon ให้สีสันงานพิมพ์ที่ดูดีกว่าคือดูสดใสมีสีสัน และยังมี option พวกหมึกและกระดาษมากมายหลายแบบ
แต่ตัว HP จะให้รายละเอียดของภาพได้ดีกว่าพวกแสงเงาและลวดลายละเอียดจะสมจริง และสีของภาพก็เหมือนหน้าจอมากกว่า

จากคุณ : =^_^= - [7 ก.ย. 2541 17:17:33]



ตอบ พิมพ์ตัวอักษรยังไงก็สู้ Lexmark กับ HP ไม่ได้
เล็กดีครับ ผมชอบ แต่ ตลับหมึกเล็กไป
(ในความคิดผม) เพราะผมใช้ 1200c ใช้มา 1 ปี
พิมพ์แหลก ยังไม่หมดเลย

จากคุณ : bank147 - [7 ก.ย. 2541 21:25:49]

epson ซ่อมแพง หมึกก็แพง ใช้หมึกปลอมก็ไม่ได้ หัวพิมพ์จะตันง่าย

Priter Epson
ระบบตรวจสอบหมึก เช่นรุ่น Stylus 400
ห่วยมาก
ต้องเชื่อ indicator มัน ไม่เชื่อไม่ได้
ไม่หมด แต่ detect ว่าหมด ก็ต้องเปลี่ยน
หมด แต่ detect ว่าไม่หมด เปลี่ยนไม่ได้

คิดมาได้ยังไง

epson ไม่อึด ถ้าใช้บ่อยมากจะเสียเร็วโดยเฉพาะเรื่องหัวพิมพ์

ปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะส่งซ่อมหรือเคลมที่ IT Clinic หรือ ส่งให้ SVOA Center ก็ตาม รอไปเถอะ เท่าๆที่ทราบ คือหัวพิมพ์ Epson จะเสียบ่อย คือแน่นอนว่าใครที่ซื้อไปแล้ว (ถ้าเอาไปใช้งานกันจริงๆ ไม่ได้ซื้อไปประดับบ้าน) ในอายุประกัน จะมีเคลมหัวพิมพ์กันทุกราย บางรายหลายครั้ง ท่านที่บอกว่า ใช้แล้วไม่มีปัญหา คือท่านที่ใช้น้อย แต่ดูแลดี ผมบอกได้เลยว่าใช้ Epson Stylus มีปัญหาเรื่องหัวพิมพ์แน่นอน Epson Japan เองก็ทราบปัญหา SVOA เองก็รู้อยู่แก่ใจ ถึงประกาศออกมาให้ ถึงกับประกาศออกมาให้ศูนย์ทั่วประเทศ ได้ทราบเรื่องการซ่อมและเคลม ในกรณีที่ลูกค้าไม่ใช้หมึกแท้ Epson ไปใช้หมึกยี่ห้ออื่น (เค้าให้คำนิยามว่า หมึกเทียม) แล้วอายุการประกันหัวพิมพ์สิ้นสุดลงทันที
ก็ทราบๆกันอยู่แล้วเศรษฐกิจอย่างนี้ เสียกันบ่อยๆใครจะไปรับเคลมไหนน้อ...

Epson มีปัญหาถ้าใช้หมึกเติม จะใช้ได้ไม่กี่ครั้ง
เพราะหมึกชนิดเติมมีอณูของหมึกหรือขนาดของเม็ดหมึกใหญ่กว่าของแท้ และความเข้มข้นของหมึกมีมากกว่าทำให้หมึกที่หัวพิมพ์จะแห้งเร็วและตันในที่สุด
เปลี่ยนหัวพิมพ์ครั้งละไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท

ส่วน Printer HP หัวพิมพ์อยู่ที่กลักหมึกเปลี่ยนหมึกก็ได้หัวพิมพ์ใหม่ แถม HP ยังมีหมึกเติมที่เป็นของ HP เองด้วยครับ

เชื่อผมเถอะครับ ผมทำงานอยู่ สหวิริยา เจอมาเยอะแล้วครับ

หมึกแท้ ไม่แท้ก็ตันทั้งนั้นหล่ะ สำหรับ epson

Pioneer 36X ครับ
เงียบดี ไม่มีถาด

PIONEER 36X เช่นกัน อ่านได้ทุกแผ่น เงียบ ใช้ SLOT-IN คือเสียบแผ่นแบบ CD ติดรถยนต์ สามารถอ่านแผ่นตามแนวตั้งได้ ราคาก็ไม่แพง 2100-2200 บาทครับ..

pioneer36x ใช้อยู่ ดีมากเลย

Plextor 12/20X ครับ เยี่ยมที่สุด อิ อิ แต่เป็น SCSI นะ

เจ๋งสุดต้อง plextor แต่แพงสุดเหมือนกัน

เราเชียร์
TEAC
อิอิ แว็ปปปปปปปปปป