เรื่องเล่าจรรโลงใจ.. ส่งเสริมจรรยาบรรณ
ของขวัญอันล้ำค่า .... 4 June, 2001
แต่ก่อนนานมาแล้วยังมีชายชราคนหนึ่งแก่มากจนจำอายุตนเองไม่ได้ หากใบหน้าของเขายังคงอิ่มเอิบ เปล่งประกายเลือดฝาด เคราสีเงินยวงสะอาดตาของเขายาวปกคลุมมาถึงหน้าอก ร่างกายของเขา แข็งแรงมาก ตายังไม่ฝ้าฟาง หูก็ยังไม่หนวก เขามีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง แต่เขาก็ยังเป็นคนจัดการ ทุกสิ่งทุกอย่างภายในครอบครัว ปีนี้เขาตัดสินใจว่าจะเลือกใครคนหนึ่งจากลูกชาย ๑๕ คนของเขา
มาสืบทอดภารกิจนี้เสียที แต่ว่าจะเลือกใครดีละ เมื่อชายชราคิดวิธีที่ดีที่สุดได้ จึงสั่งให้ลูกชายทั้ง
๑๕ คนมาพบ แล้วแจกเมล็ดดอกไม้ให้ลูก ๆ คนละ ๑ เมล็ด พร้อมทั้งบอกว่า ใครสามารถปลูกเมล็ดพืชนี้ ให้งอกงามจนออกดอกบานสะพรั่ง คนนั้นก็จะได้เป็นผู้สืบทอดมรดกต่อไป เมื่อลูก ๆ ได้เมล็ดพืชมาแล้ว
ต่างนำไปปลูกและดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ลูกชายคนเล็กของชายชราผู้นี้มีชื่อว่า เสี่ยวเหลียงจือ
เมื่อได้เมล็ดดอกไม้แล้ว เขาก็นำไปปลูกในกระถาง รดน้ำเอาใจใส่อย่างดีทุกวันทุกคืน แต่เมล็ดพืชนั้น ก็ไม่แตกกล้าสักที เสียวเหลียงจือรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมาก เวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว

...ฤดูร้อนย่างกรายมาถึงแล้ว ชายชราผู้เป็นพ่อกำหนดว่าวันนี้จะเป็นวันคัดเลือกดอกไม้ของลูก ๆ ลูกทุกคนต่างอุ้มกระถางดอกไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างสวยสดงดงาม มาให้ผู้เป็นพ่อชม เพื่อรอการคัดเลือก ชายชราเดินตรวจดอกไม้ที่สวยงามในมือของลูกๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่มีแววยินดีแม้แต่น้อย

เขาเดินตรวจจากบุตรชายคนโตมาจนถึงบุตรชายคนที่ ๑๔ โดยมิได้หยุดเลย เมื่อเดินมาถึงเสี่ยวเหลียงจือ บุตรชายคนสุดท้อง ซึ่งยืนถือกระถางเปล่า ไม่มีทั้งต้นไม้และดอกไม้ ชายชราจึงหยุดกึกอยู่ตรงนั้น
เสี่ยวเหลียงจือน้ำตาไหลพราก กล่าวกับบิดาอย่างสำนึกผิดว่า
"พ่อครับ ผมไม่มีดอกไม้จะมอบให้พ่อ..."
ชายชรากลับแย้มยิ้มและพูดอย่างยินดีปรีดาว่า
"ลูกเอ๋ย สิ่งที่เจ้ามอบให้พ่อนั้นมีค่ายิ่งกว่าดอกไม้มากมายนัก"
"อะไรหรือครับ"
"ความซื่อสัตย์ไงละ"
เรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่... ชายชราจึงเปิดเผยความลับต่อลูกๆ ว่า ที่แท้เมล็ดพืชที่ตนแจก แก่ลูกๆนั้น เป็นเมล็ดพืชที่นำไปคั่วจนสุกแล้ว ดังนั้น ต้นไม้ที่ผลิดอกสวยงามเหล่านั้น ล้วนมาจากเมล็ดพืชจากที่อื่น ไม่ใช่เมล็ดพืชที่ผู้เป็นพ่อแจกให้ ดอกไม้พวกนี้จึงเป็นสักขีพยานยืนยันความไม่ซื่อตรงของพวกเขา
สุดท้ายชายชราจึงกล่าวอบรมลูก ๆ ว่า
"ขอให้ลูกๆ จงเป็นคนซื่อตรงเถิด ความซื่อตรงเป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนเรา"
ชายชราผู้มองการณ์ไกล มิได้มองหาลูกชายที่แข็งแรง ร่ำรวย หรือเฉลียวฉลาดเลย
หากแต่มองหาลูกชายที่ซื่อสัตย์จริงใจ แม้เสียวเหลียงจือ จะมีเพียงกระถางว่างเปล่า
แต่ใจของเขางดงามยิ่งกว่าดอกไม้ใด ๆ เพราะเป็นใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์
ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันหาได้ยากยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งแข่งขันนี้เขาจึงเป็นผู้ที่ได้รับ ความไว้เนื้อเชื่อใจและได้รับมอบหมายสิ่งสำคัญจากผู้เป็นบิดา
สิ่งนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า ความซื่อตรง และจริงใจ เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง อยากได้จากกันและกันมากที่สุด
ในชีวิตของเรา เมื่อเราปรารถนาความซื่อตรงจริงใจจากทุกคน
เราก็ควรเริ่มจากตัวของเราก่อน มอบความซื่อตรงจริงใจให้แก่กัน
เพราะนี่คือสมบัติอันล้ำค่า ที่เราทุกคนต่างปรารถนา และสามารถมอบให้แก่กันและกันได้
ให้โลกนี้ งดงามด้วยความจริงใจ งามยิ่งกว่าดอกไม้ใดๆ ทั้งมวล

กลับสู่หน้าเมนูหลัก

Copyright 2000-2001 Siriraj 106, All right reserved. Webmaster SI106


1