การตั้งสายกีตาร์

การตั้งสายกีตาร์ให้ถูกต้อง

เมื่อคุณซื้อกีตาร์มาหัดเล่นในระยะแรก คุณอาจจะวานคนอื่นช่วยตั้งสายให้ แต่เรื่องการตั้งสายกีตาร์เป็นเรื่องจำเป็นที่คุณควรจะหัดด้วยตัวเอง เพราะกีตาร์ของคุณตั้งสายไม่ได้มาตรฐานดนตรี ที่เล่นออกมาก็จะเพี้ยนไป ถึงแม้ว่าจะเล่นถูกวิธีก็ตาม

คุณทราบไหมว่าเมื่อเราดีดสายเส้นใดเส้นหนึ่ง สายนั้นจะเกิดเป็นเสียงดนตรีออกมา ซึ่งเรียกว่า "โน๊ต" ถ้าท่านขึงสายให้ตึงขึ้น โดยหมุนลูกบิดไปยังด้านหนึ่ง โน๊ตตัวนั้นจะเปลี่ยนเป็นเสียงสูงกว่าเดิม ถ้าคุณคลายสายโดยหมุนลูกบิดสายไปคนละด้านกับครั้งแรก โน๊ตนั้นจะมีเสียงต่ำกว่าเดิม คุณสามารถทดลองกับสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง ลองดีดสาย 6 (เบส) แล้วหมุนลูกบิดที่ติดกับสาย 6 อีกครั้งและฟังดู เสียงจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า?

คราวนี้หมุนลูกบิดสายไปอีกด้านหนึ่ง ดีดอีกครั้งท่านฟังออกไหมว่าเสียงจะสูงขึ้นหรือต่ำลง สายกีตาร์ของคุณจะเล่นออกมาเป็นเสียงมาตรฐาน เมื่อคุณตังให้ตรงโน๊ต ดังในภาพ

ความจริง คุณไม่จำเป็นต้องรู้จักโน๊ตมากมายเลยสำหรับการตั้งสายกีตาร์ให้ถูกต้อง ในขั้นต้นคุณจำเป็นต้องรู้เพียงตัวโน๊ตตัวเดียว จากนั้นตัวคุณจะหาตัวอื่น ๆ อีก 5 ตัว สำหรับสาย 5 สายได้ ถ้าคุณรู้ว่าโน๊ตสาย E ถูกต้อง คุณก็เทียบจากสายนั้นต่อไปยังสายอื่นได้ทั้งหมด

การเทียบเสียง มีการเทียบกับอุปกรณ์หลาย ๆ ประเภท ดังนี้

1. เทียบเสียงกับเปียโน

2. เทียบเสียงกับหลอดเทียบเสียง

3. เทียบเสียงกับแบบมาตรฐาน

4. เทียบเสียงกับสายเดียว

5. เทียบเสียงด้วยเสียงฮาร์โมนิค

6. เทียบเสียงด้วยวูพิช

7. เทียบเสียงด้วยตา

การเทียบเสียงด้วยตา

คุณสามารถฝึกการฟังให้ดีขึ้นได้ คนบางคนมีพรสวรรค์ในการฟังอย่างดีเยี่ยม แต่คนส่วนมากจำต้องฝึกฝนเพื่อช่วยการฟังให้แม่นยำ บทฝึกหัดต่อไปนี้ อาจจะช่วยการฟังของคุณให้ดีขึ้น ครูสอนดนตรีหลาย ๆ ท่านคงไม่ชอบวิธีการนี้ แต่ถ้าการฟังของคุณไม่ได้เรื่องนักหล่ะก็ คุณอาจจะต้องเริ่มต้นแบบนี้

คุณสามารถฟังได้ด้วยตาจริงหรือ? ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น แต่ว่าสามารถช่วยหูของท่านได้ เทคนิคต่อไปนี้สามารถใช้ได้แม้แต่คนตาบอด เพียงแต่เขาอาจจะต้องใช้ปลายนิ้วเพื่อจับการสั่นไหวที่เราจะพยายามมองให้เห็น

เกี่ยวสายเส้นหนึ่งด้วยนิ้ว คุณเห็นสายสั่นไปมาไหม สายสั่นเร็วมากจนเกือบมองทะลุได้ ถ้าทำเช่นนี้ในแสงแดด ข้อสังเกตคือ คุณจะต้องมองดูให้ใกล้ที่สุด เพราะสายที่มีใยพันหุ้ม เมื่อเวลาสั่นกระทบแสงแดดแล้วจะสะท้อนแสง สังเกตดูว่าสายจะสะท้อนแสงแวววาวเป็นสีสายรุ้งจาง ๆ ซึ่งทำให้การสั่นไหวและมองดูง่ายขึ้น

โน๊ตเปรียบเทียบเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเริ่มต้นตั้งสายให้ถูกต้อง อาจจะเป็นโน๊ตของสายใดสายหนึ่งก็ได้ แต่ก็จะช่วยได้มากถ้าสายที่ถูกเปรียบเทียบเป็นสาย A สาย A ควรจะเทียบเสียงเป็น A สำหรับวิธีตั้งสายแบบนี้ ความจริงกีตาร์สามารถเทียบเสียงกับโน๊ตตัวใดก็ได้ ไม่ว่าสูงหรือต่ำกว่า A แต่อาจจะให้เสียงไม่ดีเท่าที่ควร

ต่อไปนี้เป็นลักษณะของกีตาร์ที่ตั้งสายไว้ถูกต้องแล้วนะคะ คุณสามารถใช้ขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อให้การตั้งสายสำเร็จผลไปด้วยดีค่ะ

กดสายเส้นหนึ่งไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และดีดด้วยมืออีกข้างหนึ่ง พิจารณาดูว่าสายใดที่สั่นในขณะที่คุณไม่ได้สัมผัส คุณควรจะมีความรู้สึกที่ไวสำหรับเรื่องนี้ มองดูเมื่อคุณกดสาย 6 ตรงเฟร็ตที่ 5 ว่าสายที่ 5 สั่นตามไปด้วยไหม? ถ้าไม่สั่นก็ย่อมหมายถึงว่าไม่สาย 6 หรือสาย 5 ให้เสียงที่ไม่ถูกต้อง ตอนนี้ก็ดีดสาย 5 ซึ่งกดสายไว้ตรงขีดที่ 5 ถ้าสาย 4 ซึ่งไม่ได้แตะต้องเกิดสั่นไหว นั่นยอมประเมินได้ว่าเป็นโน๊ตตัวเดียวกันดีดสาย 2 เส้นพร้อมกันในขณะที่นิ้วมือของคุณยังวางอยู่บนสายที่ 5 ถ้าออกเป็นเสียงเดียวกัน ก็แสดงว่าเป็นโน๊ตเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เราได้จุดเริ่มต้น

ถ้าไม่มีสายใดที่เข้ากันเลย ก็เช็คดูว่ามีสายที่กันได้ไหม เมื่อถูกกดตรงเฟร็ตที่ 3, 4 หรือ 6 ถ้าสายใดสายหนึ่งถูกกดตรงเฟร็ตที่ 6 และเกิดทำให้สายทางด้านขวาสั่นตามไป นั่นย่อมหมายถึงว่าอาจต่ำเกินไป หรือสายทางด้านขวาสูงไป

เอาเป็นว่าเมื่อสายที่ 5 ถูกกดตรงเฟร็ตที่ 5 และดีดดู จะทำให้สายที่ไม่ได้ไปแตะต้องสั่นหรือไม่ สังเกตดูเวลาคุณดีดว่าสาย 5 ที่เฟร็ต 5 ให้เสียงไปเหมือนสาย 4 สายเปล่าหรือไม่ ความจริงทั้งคู่จะออกเสียงเหมือนสายเดียวกัน

ตอนนี้เมื่อคุณดีดสาย 4 ตรงเฟร็ตที่ 5 ก็จะไม่ทำให้สาย 3 สั่น เมื่อคุณเล่นพร้อมกัน ก็จะออกเสียงไม่น่าฟังนัก ถ้าคุณฟังอย่างพิจารณา คุณก็อาจจะได้ยินเสียงเป็นห้วง ๆ ทั้งนี้เกิดจากรูปแบบที่ซ้อนกันของโน๊ต 2 ตัว ถ้าทั้งคู่เป็นโน๊ตตัวเดียวกัน ก็จะสั่นไปด้วยกัน และคุณจะได้ฟังเสียงที่ชัดเจนเสียงเดียว เสียงที่เป็นห้วงนี้เรียกว่า บีท (Beat หรือ Beats) ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าคุณจะสังเกตสิ่งเหล่านี้ได้ คุณจะฟังได้ชัดเจนเมื่อโน๊ตอยู่ใกล้ ๆ กัน

ตอนนี้ก็ย้อนกลับไปสาย 4 ตรงเฟร็ตที่ 5 ถ้าไม่เข้ากับสาย 3 สายเปล่า เมื่อถูกเล่นตรงเฟร็ตที่ 5 แต่ก็เข้ากับสาย 5 ตรงเฟร็ตที่ 4 เมื่อเล่นสาย 4 โดยไม่กดเฟร็ตก็ย่อมหมายถึงว่าสาย 3 เพี้ยน เล่นสาย 4 ตรงเฟร็ตที่ 6 เข้ากับสาย 3 สายเปล่าหรือไม่? ถ้าไม่เข้า ลองเลื่อนนิ้วของคุณไปยังเฟร็ตที่ 4 เอาหล่ะค่ะ ตอนนี้เมื่อทำให้สาย 3 สายเปล่าสั่นแล้ว ก็หมายความว่าสาย 3 เสียงต่ำเกินไป สังเกตดูว่าเวลาคุณยกนิ้วมือขึ้น และความยาวในการสั่นสะเทือนของสาย 4 เปลี่ยนไป คุณปล่อยให้สายสั่นในช่วงยาวก็จะให้โน๊ตที่เสียงต่ำ โน๊ตเสียงต่ำนี้เข้ากับสาย 3 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสาย 3 ต่ำไป กวดสายให้ตึงโดยค่อย ๆ หมุนลูกบิดจนกว่าคุณจะได้เสียงสาย 3 สายเปล่าเข้ากับสายที่ 4 กดตรงเฟร็ตที่ 5 ทำต่อไปตามขั้นตอนดังที่อยู่ในตารางภาพต่อไปนี้ค่ะ

การตั้งสายเปิด

การตั้งสายเทียบเสียงกีตาร์ อาจจะทดลองตั้งสายแบบใดแบบหนึ่ง เพียงความสะดวกหรือให้ได้ลักษณะของเสียงเป็นพิเศษ บางแบบเหมาะสำหรับการเล่นสไลด์ บางแบบเหมาะสำหรับเล่นดนตรีแนวทางตะวันออก และบางแบบเหมาะสำหรับการเกาสายด้วยนิ้ว การเปลี่ยนจากการตั้งสายแบบมาตรฐานไปเป็นการตั้งสายเปิด (Open Tuning) เปิดโอกาสให้ท่านเน้นการเล่นทางด้านสายเปิด ซึ่งให้เสียงคล้ายสายแบบอื่น อย่างเช่น ซีตาร์, ฮาร์ฟ (พิณ), ไซเดอร์ ฯลฯ

การตั้งสายเปิดนิยมใช้กันโดยนักดนตรีบลูส์ยุคต้นทางใต้ อย่างเช่น Son House, Nehemiah "Skip" James, Mississippi John Hurt และ Fred McDowell นักกีตาร์ยุคปัจจุบันที่นิยมการตั้งสายเปิดก็มี Bert Jansch, David Bromberg, Leo Kittke, Ry Cooder, John Fahey, Richie Havens ฯลฯ


<Back>

1