PsTNLP
Pisit' s Thai Natural Language Processing Laboratory
This lab is formed since 26-August-1998
e-mail pisitp@yahoo.com
Back to PsTNLP home page
ส่วนที่ 6
การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาประเทศในระยะที่ผ่านมาได้มีการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ในการผลิตเพื่อเพิ่มรายได้
ประชาชาติและยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของประชาชน
โดยขาดการบริหารจัดการที่เหมาะสม ซึ่งแนวทาง
การพัฒนาดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดีการใช้ทรัพยากรธรรม
ชาติอย่างไม่จำกัด
ทำให้ทรัพยากรธรรม-ชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์ร่อยหรอและเสื่อมโทรมลง
มีผลต่อความมั่น
คงทางเศรษฐกิจ
สร้างปัญหาความขัดแย้งในสังคมอันเกิดจากการแย่งใช้ประโยชน์ทรัพยากร
และเกิดภัยธรรม
ชาติที่รุนแรงติดตามมา
ในขณะเดียวกันการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและชุมชนเมืองโดยปราศจาก
การดูแลรักษาสภาวะแวดล้อมเท่าที่ควร ได้ก่อให้เกิดปัญหามลพิษต่าง ๆ
ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของ
ประชาชนเนื่องจากสิ่งแวดล้อมมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดต่อคนและชุมชนมากที่สุด
เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนต่อการดำรงชีวิตและการพัฒนาประ
เทศที่ยั่งยืนต่อไป
การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8
จำเป็นต้องเร่ง
ฟื้นฟูพร้อมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป้องกันสภาวะสิ่งแวดล้อมในชนบทและในเมือง
ด้วยการสนับ
สนุนให้ประชาชน ชุมชน
และองค์กรท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการมากขึ้น
ควบคู่ไปกับการนำเครื่อง
มือทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการควบคุมดูแลการใช้และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การ
สร้างเสริมวินัยและประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการผลิตให้เป็นไปอย่างประหยัด
ได้ประโยชน์
ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสูงสุดและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ตลอดจนเพิ่มบทบาทของประเทศไทย
ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
บทที่ 1
วัตถุประสงค์ เป้าหมาย และยุทธศาสตร์
1. วัตถุประสงค์
เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนการดำรงชีวิตและการพัฒนาประเทศ
ได้อย่างต่อเนื่อง
การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่
8 จึงมีวัตถุ
ประสงค์ ดังนี้
1.1 เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่ไปกับการฟื้นฟูบูรณะให้ทรัพยากรธรรมชาติ
มีความอุดมสมบูรณ์
รวมทั้งควบคุมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้สามารถสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและ
คุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน
1.2 เพื่อให้การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เกิดความสม
ดุลทั้งในด้านระบบนิเวศน์และสภาพแวดล้อม โดยใช้การร่วมมือหลายฝ่าย
เพื่อให้ประชาชนและชุมชนใน
ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้นในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและดูแลรักษาสภาวะแวดล้อมในท้องถิ่นของตน
เอง ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน
และองค์กรธุรกิจ
2. เป้าหมาย
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว
ในช่วงแผน
พัฒนาฯ ฉบับที่ 8 จึงเห็นควรกำหนดเป้าหมายที่สำคัญ ดังนี้
2.1 เป้าหมายเพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของคนและชุมชน
(1) ฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ให้ได้ร้อยละ 25
ของพื้นที่ประเทศ และจัดทำเครื่องหมาย
แนวเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้แล้วเสร็จในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8
(2) รักษาพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อรักษาความสมดุลของสภาวะแวดล้อมและความหลากหลายทางชีว
ภาพให้คงไว้ ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านไร่ ในปีสุดท้ายของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่
8
(3) ส่งเสริมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในรูปแบบของป่าชุมชนเพื่อการอนุรักษ์พัฒนาสภาวะ
แวดล้อมและคุณภาพชีวิตของชุมชน
(4) รักษาระดับคุณภาพน้ำในแม่น้ำ น้ำทะเล
ชายฝั่งทะเลและแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะในแม่
น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง แม่น้ำท่าจีน
เขตควบคุมมลพิษและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
ไม่ให้เสื่อมโทรมลงต่ำกว่า
ระดับคุณภาพน้ำในปี 2539
ให้สิ่งมีชีวิตในน้ำสามารถอาศัยอยู่ได้ตลอดปี
และสามารถเอื้ออำนวยประโยชน์
ต่อการพัฒนาได้
(5) ควบคุมดูแลคุณภาพอากาศในเขตเมืองและเขตควบคุมมลพิษให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ
ประเทศไทย
รวมทั้งระดับเสียงในชุมชนให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อการได้ยิน
(6) เพิ่มขีดความสามารถในการเก็บขยะมูลฝอยของเทศบาลและสุขาภิบาล
รวมทั้งให้มีกำจัดของ
เสียอันตรายจากชุมชน อย่างถูกสุขลักษณะ
(7) ส่งเสริมให้สถานพยาบาลของรัฐและเอกชนมีการจัดการมูลฝอยติดเชื้ออย่างถูกวิธีและครบวงจร
2.2 เป้าหมายเพื่อเป็นฐานการผลิตทางเศรษฐกิจ
(1) ลดปัญหาการชะล้างพังทลายของดินให้ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 1
ล้านไร่ ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8
(2) ให้มีการจัดการฟื้นฟูที่ดินเพื่อการดำเนินกิจกรรมด้านการเกษตรที่มีปัญหาทั้งที่เป็นดินเค็ม
ดิน
เปรี้ยว และดินขาดอินทรีย์วัตถุให้ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้านไร่
ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8
(3) จัดทำแผนฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทย
ทั้งในด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูและการใช้ประ
โยชน์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ให้ครอบคลุมคุณภาพน้ำ สัตว์น้ำ
แนวปะการัง หญ้าทะเล และ
ชายฝั่งทะเล
3. ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายดังกล่าว
เห็นควรกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาไว้ 3 ประการ
ได้แก่
3.1 การฟื้นฟูบูรณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3.2 การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชน
3.3 การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
บทที่ 2
การฟื้นฟูบูรณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อปรับปรุงและบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีความเสื่อมโทรมให้กลับคืนสู่
สภาพที่เอื้ออำนวยต่อความสมดุลของระบบนิเวศน์วิทยา
ยกระดับคุณภาพชีวิตและสนับสนุนการพัฒนา
เศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่องแล้ว แนวทางการดำเนินการประกอบด้วย
1. จัดการฟื้นฟูทรัพยากรดินที่ผ่านการใช้ประโยชน์และขาดการดูแลรักษา
เพื่อเพิ่มผลผลิตในกิจกรรมการ
เกษตรอย่างต่อเนื่องและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองแร่แล้ว พื้นที่นา
กุ้งทิ้งร้าง
รวมทั้งพื้นที่ที่มีปัญหาต่อการเกษตรและดินที่ถูกใช้โดยไม่เหมาะสม
เช่น พื้นที่ดินเค็ม ดินเปรี้ยว
ดินชายทะเล โดย
1.1 ส่งเสริมการอนุรักษ์ดินและน้ำ
รวมทั้งการปรับปรุงบำรุงดินด้วยวิธีการธรรมชาติ วิธีการที่เกษตร
กรยอมรับและสามารถถ่ายทอดนำไปปฏิบัติได้ เช่น
ส่งเสริมการปลูกพืชแบบผสมผสานแทนการปลูกพืชเชิง
เดี่ยว ใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี
และปลูกพืชตามแนวระดับในพื้นที่ลาดชัน เป็นต้น
1.2 ส่งเสริมการนำระบบเกษตรทางเลือกในรูปแบบต่าง ๆ
มาใช้ในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่นากุ้งทิ้ง
ร้าง และพื้นที่ผ่านการทำเหมืองแร่แล้ว โดยการให้ความรู้ ฝึกอบรม
และสนับสนุนด้านเงินทุน ตลอดจนเทค
โนโลยีที่เหมาะสม
เพื่อให้ราษฎรมีรายได้เพียงพอกับการยังชีพอย่างต่อเนื่อง
เป็นการลดปัญหาการละทิ้งที่
ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อวัตถุประสงค์นอกภาคเกษตรกรรม
ตลอดจนเพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ดินที่เสื่อม
โทรมให้กลับสมบูรณ์
2. ลดปริมาณมลพิษและการแพร่กระจายมลพิษในสภาพแวดล้อม ได้แก่
น้ำทิ้งชุมชนและอุตสาหกรรม
มลพิษทางอากาศ กากของเสีย สารอันตราย
โดยให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย และความ
เป็นอยู่ของคน
2.1 ลดและควบคุมมลพิษทางน้ำอันเนื่องมาจากกิจกรรมของชุมชน
เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
(1) จัดทำแผนปฏิบัติการควบคุมมลพิษของชุมชนใน 25
ลุ่มน้ำทั่วประเทศ
(2) จัดทำแนวทางและแผนปฏิบัติการฉุกเฉิน
เพื่อป้องกันและแก้ไขอันตรายจากการแพร่กระจาย
ของมลพิษและสภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพน้ำทะเลและแหล่งน้ำ
2.2 ลดปริมาณมลพิษทางอากาศในเขตอุตสาหกรรมและพื้นที่การจราจรหนาแน่น
โดยเฉพาะก๊าซ
ซัลเฟอร์ไดอ๊อกไซด์ ฝุ่นละอองและควันดำในบรรยากาศ
(1) ควบคุมมาตรฐานยานพาหนะและปรับปรุงคุณสมบัติของน้ำมันเชื้อเพลิง
เช่น ลดความถ่วงจำ
เพาะ
ปรับปรุงซัลเฟอร์ในน้ำมันดีเซลและให้มีการศึกษาวิธีการปรับปรุงมาตรฐานยานพาหนะและคุณภาพ
น้ำมันที่คุ้มค่าเหมาะสมเพื่อลดปริมาณมลพิษ
(2) กำหนดประเภทของแหล่งกำเนิดมลพิษที่ต้องควบคุมการระบายอากาศเสียออกสู่บรรยากาศ
และมาตรฐานการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดให้ครบถ้วน
2.3 กำจัดกากของเสียและลดปริมาณมูลฝอย
(1) สนับสนุนให้จังหวัดจัดเตรียมที่ดินที่เหมาะสมสำหรับใช้กำจัดขยะในระยะยาว
รวมทั้งการ
กำหนดพื้นที่สงวนไว้เพื่อการกำจัดมูลฝอยในผังเมือง
(2) กำหนดเกณฑ์การปฏิบัติการจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่เหมาะสมตั้งแต่การเก็บขน
การขน
ส่ง และการกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะ
รวมทั้งให้มีการลดปริมาณกากของเสียและการใช้ประโยชน์ของเสีย
ตลอดจนการนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเหมาะสม
2.4 ลดและควบคุมสารอันตรายจากแหล่งกำเนิด
โดยกำหนดให้อุตสาหกรรมที่ผลิตหรือใช้สารอัน
ตรายร้ายแรงในปริมาณมาก
ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและประเมินความเสี่ยง
อันตราย และให้มีการควบคุมอย่างเข้มงวด
3. สนับสนุนให้มีระบบบำบัดและกำจัดของเสียรวม ได้แก่
ระบบบำบัดน้ำเสียรวม และการกำจัดขยะมูลฝอย
3.1 สนับสนุนให้มีการลงทุนในระบบบำบัดน้ำเสียรวม
และระบบกำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่ศูนย์
กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ ได้แก่ เขตปริมณฑล 5 จังหวัด
พื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกบริเวณจังหวัดชล
บุรีและระยอง เมืองศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาค
เมืองชายฝั่งทะเลและแหล่งท่องเที่ยว
3.2 สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กำจัดของเสียส่วนกลางและศูนย์กำจัดมูลฝอยติดเชื้อที่สามารถใช้ร่วม
กันได้ระหว่างชุมชนหรือกลุ่มจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกัน
4. ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบำบัดของเสีย
และเทคโนโลยีสีเขียวในขบวนการผลิตที่เกิดผล
กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เพื่อเป็นต้นแบบในการผลิตเชิงพาณิชย์
รวมทั้งการวิเคราะห์และประเมิน
เทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
เพื่อให้สามารถนำมาถ่ายทอดใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทที่ 3
การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชน
เพื่อสนับสนุนประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมและสามารถบริหารจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยใช้การมีส่วนร่วมจากหลายฝ่ายในกระบวนการจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นระบบอย่างต่อเนื่องและส่งผลให้การพัฒนาเป็นไปโดยยั่งยืน
ดังนี้
1. ปรับปรุงบทบาทของภาครัฐเพื่อสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชน
ในการบริหาร
จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย
1.1 ปรับทัศนคติและปรับปรุงขีดความสามารถของหน่วยงานของรัฐให้สามารถร่วมมือและเกื้อ
หนุนชุมชนในท้องถิ่น
เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้
เกิดประโยชน์ต่อชุมชนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง
1.2 รณรงค์ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์
เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกให้แก่ประชาชนและองค์กรชุมชนให้
ตระหนักถึงผลกระทบจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งให้ความร่วมมือ
ในการป้องกันติดตามเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
2. พัฒนาเครือข่ายสารสนเทศทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณชน
โดยถือเป็นสิทธิในการรับรู้และใช้ประโยชน์ของผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจอย่างเท่าเทียมกัน
3. สร้างโอกาสให้ชุมชนและประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
3.1 เปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผน
ตัดสินใจ
และติดตามประเมินผลในโครงการพัฒนาของรัฐที่จะมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยรัฐจัดให้มีขั้นตอนประชาพิจารณ์โครงการอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่การริเริ่มแนวคิดโครงการ จัดเตรียม
โครงการ และการดำเนินโครงการ
3.2 ออกพระราชบัญญัติป่าชุมชนซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย
เพื่อให้ชุมชนมีสิทธิตามกฎหมาย
ในการดูแลรักษาและใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน
3.3 สนับสนุนให้มีกฎหมายรองรับสิทธิของชุมชนท้องถิ่นและชาวประมงขนาดเล็กให้มีส่วนร่วมใน
การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล ทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟู
และดูแลรักษาป่าชายเลน หญ้าทะเล และปะการัง
เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชายฝั่งโดยเฉพาะทรัพยากรประมงได้อย่างยั่งยืน
3.4 ส่งเสริมองค์กรชุมชนและท้องถิ่นในการดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เพื่อเสริมสร้าง
เศรษฐกิจของชุมชน
และการจัดทำแผนงานและโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนแหล่งเงินทุนหรืองบประมาณ
หรือกองทุนสำหรับใช้ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
บทที่ 4
การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโดยให้ความสำคัญต่อการจัดการที่ครบวงจร
และการใช้กฎหมาย
เป็นเครื่องมือในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1. บริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับลุ่มน้ำอย่างเป็นระบบ
ทั้งการจัดหาแหล่งน้ำ เพื่อสนองความต้องการ
ของประชาชน การดูแลคุณภาพน้ำและมลพิษทางน้ำ และการระบายน้ำ
1.1 ให้มีกลไกในการกำกับ ดูแล
และประสานการพัฒนาทรัพยากรน้ำทั้งในระดับชาติและระดับลุ่ม
น้ำโดยมีกฎหมายรองรับ เพื่อให้การดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มีการประสานงานเป็นไปในทิศทาง
เดียวกันและสอดคล้องกันอย่างต่อเนื่อง
1.2 จัดระบบการจัดสรรและแบ่งปันทรัพยากรน้ำระหว่างการใช้น้ำในกิจการต่าง
ๆ อย่างเหมาะสม
โดยยึดหลักความจำเป็น ลำดับความสำคัญ และเป็นธรรม
โดยมีองค์กรที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมรับผิด
ชอบในการบริหารจัดการ
1.3 ให้มีการจัดเก็บค่าน้ำดิบทั้งเพื่อการอุตสาหกรรม
เกษตรกรรม อุปโภคบริโภค รวมทั้งปรับปรุง
โครงสร้างและระดับราคาค่าน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรม
ให้สะท้อนถึงต้นทุนการจัดหา การ
ผลิต การแจกจ่าย และการบำบัดน้ำเสีย
1.4 ปรับปรุงระบบส่งและจ่ายน้ำเพื่อการชลประทานและการอุปโภคบริโภคในชุมชนเพื่อลดการรั่ว
ไหลของน้ำ
1.5 รณรงค์และเผยแพร่ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะการแนะนำวิธี
การใช้น้ำอย่างประหยัด ส่งเสริมให้มีการใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำในชุมชน
การนำน้ำหล่อเย็นและน้ำทิ้งที่ผ่าน
การบำบัดแล้วมาใช้ใหม่ในอุตสาหกรรมบางประเภท
2.
ให้มีการประสานนโยบายและการจัดการด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเหมาะ
สมกับศักยภาพของพื้นที่ รวมทั้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
และเป็นประโยชน์ต่อคนและชุมชนอย่างแท้จริง โดย
2.1 จัดทำและกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาตินอกเขตป่าอนุรักษ์ให้ชัด
เจนเหมาะสมกับสภาพทรัพยากรดิน
เขตการใช้ประโยชน์ที่ดินชายฝั่งทะเลให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ
สังคม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชายฝั่ง
รักษาพื้นที่ชลประทานไว้เพื่อการผลิตทางด้านการเกษตร รวมทั้ง
พิจารณาด้านกฎหมาย กฎระเบียบ และมาตรการจูงใจ
เพื่อให้การกำหนดเขตบรรลุผลในทางปฏิบัติ
2.2 กำหนดและวางแนวเขตนิเวศน์ท้องถิ่น
โดยคำนึงถึงวัฒนธรรมและประเพณีที่มีอยู่หลากหลาย
ของชุมชนเพื่อให้การดำเนินวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนมีส่วนสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
2.3 ปรับระบบการจัดการด้านการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ให้สามารถแก้ไขปัญหาเกษตรกรไร้ที่
ทำกินทั้งในเรื่องออกเอกสารสิทธิ รวมทั้งการจัดระบบการติดตามตรวจสอบ
เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ทำกินในเขตปฏิรูปเกษตรกรรมอย่างจริงจัง
3. จัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนและพื้นที่สีเขียว
โดยกำหนดนโยบายและจัดทำแนวทางที่ชัดเจนเพื่อการรักษา
สภาพแวดล้อมธรรมชาติ พื้นที่สีเขียว พื้นที่โล่ง
และสวนสาธารณะในเมือง ให้ได้สัดส่วนกับจำนวนคนและ
การเจริญเติบโตของชุมชน รวมทั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิทัศน์
4. รักษาสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมศิลปกรรม
โดยกำหนดให้มีการจัดการ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ธรรมชาติและศิลปกรรม เช่น
การขึ้นทะเบียนและประกาศเขตคุ้มครองแหล่งธรรมชาติ โบราณสถานและศิลป
กรรมเพื่อให้มีศักยภาพสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ได้อย่างยั่งยืน
และเป็นมรดกทางสังคมและวัฒนธรรมของชาติ
5. สนับสนุนให้มีการจัดการทรัพยากรแร่ที่ครบวงจร โดย
5.1 เร่งรัดการสำรวจและประเมินปริมาณสำรองทรัพยากรธรณีวัตถุดิบทั่วประเทศ
โดยคำนึงถึงผล
กระทบต่อระบบนิเวศน์ของพื้นที่และสงวนแหล่งแร่ในเขตอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งสุดท้ายที่จะนำมาพัฒนาและ
ใช้ประโยชน์ในอนาคต
5.2 สนับสนุนการนำทรัพยากรแร่มาใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการอนุรักษ์
โดยคำ
นึงถึงความสมดุลทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งการประสานการใช้ประโยชน์ร่วมกับทรัพยากรธรรม
ชาติอื่น
6. สนับสนุนให้มีการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอันเกิดจากธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
โดย
6.1 เพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานที่รับผิดชอบการป้องกันและฟื้นฟูความเสียหายจากภัยธรรม
ชาติ
ด้วยการให้ความสำคัญกับการเตือนภัยและการป้องกันสาธารณภัยเบื้องต้น
6.2 สร้างระบบประสานงานในระดับพื้นที่ตามประเภทของสาธารณภัยจากธรรมชาติ
โดยใช้กลไก
การจัดการสาธารณภัยที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ
6.3 จัดทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติในระดับจังหวัดและภาค
เพื่อเป็นข้อมูลในการเตือนภัย
การป้องกันและควบคุมภัยธรรมชาติ
6.4 กำหนดมาตรการในการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชนในการป้องกันตนเอง
ทั้ง
การใช้ข้อกฎหมายในการบังคับและการฝึกอบรมให้มีความตระหนักถึงภัยธรรมชาติ
7. เสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานของภาครัฐ
เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งควบ
คุมและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดย
7.1 ปรับเปลี่ยนวิธีการวางแผนและการจัดงบประมาณเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
จากที่
เคยยึดหน่วยงานเป็นหลักมาเป็นการยึดพื้นที่ในลักษณะกลุ่มจังหวัด
สถานการณ์ และศักยภาพของทรัพยากร
แต่ละประเภทเป็นหลัก
โดยมีขบวนการและเครือข่ายการทำงานร่วมกันหลายฝ่ายที่มุ่งวัตถุประสงค์เดียวกัน
7.2 พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบติดตาม ตรวจสอบ
และควบคุมมลพิษ โดยจัดให้มีระบบติด
ตาม ตรวจสอบ และบันทึกผลมลพิษ
โดยผู้เป็นเจ้าของสถานประกอบการเป็นผู้จัดทำขึ้นเพื่อให้ภาครัฐทำการ
ตรวจสอบ ซึ่งจะช่วยให้การเฝ้าระวังเป็นไปอย่างมีระบบ
7.3 สนับสนุนการออกกฎหมายยกเลิกเครื่องมือประมงทะเลที่ทำลายระบบนิเวศน์ชายฝั่ง
โดยเฉพาะ
อวนรุนอวนลาก
และสนับสนุนการเปลี่ยนเครื่องมือประมงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
7.4 กำกับและควบคุมมิให้การกระจายอุตสาหกรรมออกสู่ชนบทส่งผลกระทบในเชิงทำลายสภาวะ
แวดล้อม
ตลอดจนดูแลอาชีวอนามัยแวดล้อมของคนในโรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนใกล้เคียง
7.5 กำหนดและปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับสภาพการณ์
และช่วยป้องกันผลกระทบที่จะเกิดต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมจัดการมูลฝอยให้
สามารถเพิ่มค่าธรรมเนียมได้ตามความเหมาะสม
การใช้ระบบประกันภัยในเรื่องการจัดการของเสียอันตราย
เป็นต้น
8. เพิ่มบทบาทความร่วมมือในการจัดการสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ โดย
กำหนดท่าทีจุดยืนของประเทศในการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมให้ชัดเจน
รวมทั้งเพิ่มความเข้มแข็งขององค์กรและพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในการเจรจาด้านสิ่งแวดล้อม
ในเวทีระดับโลก ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
เพื่อรักษาผลประโยชน์และป้องกันการเสียเปรียบของ
ประเทศในการเจรจาต่อรอง
ตลอดจนพิจารณาเพิ่มความร่วมมือทางด้านวิชาการในลักษณะโครงการร่วม
กันเพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ เช่น การลดลงของชั้นโอโซน
และการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก
CONTACT
Email me at pisitp@yahoo.com for your comment and/or discussions.
This page hosted by
Get your own Free Home Page