PISIT' S THAI NATURAL LANGUAGE PROCESSING LABORATORY
This lab is formed since August 26, 1998
e-mail: pisitp@yahoo.com
For C7 members, please check this C7 address list.
KEYWORDS
Thai Natural Language Processing Lab., words
segmentation, dictionaries, algorithms, Thai text-to-speech.
ตรรกแห่งความคลุมเครือ
(ตอนวิจารณญาณของเครื่องจักร)
พิสิทธิ์ พรมจันทร์
บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
กล่าวนำ
ถ้าเราลองสังเกตกระบวนการคิดของมนุษย์สำหรับปัญหาในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไปเช่น
การข้ามถนนในขณะที่มีการจราจรของยวดยานพอประมาณ เราจะพบว่ามนุษย์แทบจะไม่ต้อง
ใช้กระบวนการคิดวิจารณญาณที่สลับซับซ้อนยุ่งยากเลยสำหรับการแก้ปัญหานี้ กล่าวคือค่อย ๆ
ชลอให้รถคันที่ใกล้สุดผ่านไปก่อนแล้วข้ามไปทีละช่องทางและสังเกตความเร็วของรถในช่องทาง
ต่อไปถ้าชลอลงก็ข้ามต่อไปถ้าไม่ก็หยุดรอ ทำดังนี้ไปเรื่อย ๆ จนสามารถข้ามไปได้ แต่ในปัญหา
เดียวกันนี้ถ้าเราเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาควบคุมหุ่นยนต์ให้ทำงานเช่นเดียวกับมนุษย์ดัง
กล่าว เราจะพบกับความยุ่งยากซับซ้อนเป็นอันมากในการแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ ในปัจจุบันเรา
อาจจะเคยเห็นเด็ก ๆ พัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถเดินหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่หยุดนิ่งต่าง ๆ ไปสู่
จุดหมายปลายทางได้ แต่เราแทบจะไม่เคยเห็นหุ่นยนต์ที่สามารถเดินหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่
เคลื่อนไหวตลอดเวลาไปสู่จุดหมายปลายทางได้เลย
ปัญหาและความพยายามสร้างคอมพิวเตอร์ยุคใหม่
นอกจากปัญหาของกระบวนการคิดทางตรรกวิทยาที่เราสนใจเฉพาะ ความจริง กับ
ความเท็จ เท่านั้นแต่ละเลยรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ แล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า
สถาปัตยกรรมของคอมพิวเตอร์ปัจจุบันก็อยู่บนพื้นฐานของตรรกวิทยาธรรมดาทั้งสิ้น ไม่ว่าใน
ไมโครชิพจะมีทรานซีสเตอร์เพิ่มขึ้นอีกกี่ล้านตัวและมีขนาดเล็กลงอีกกี่พันเท่า ทรานซีสเตอร์ทุก
ตัวในไมโครชิพก็ยังมีสถานะเป็นไปได้เพียงแค่ ศูนย์ กับ หนึ่ง เท่านั้น ดังนั้นการแก้ปัญหา
ที่มีความคลุมเครือด้วยคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันถึงแม้จะเป็นปัญหาง่าย ๆ ของมนุษย์ ก็มีความ
วกวนซับซ้อนเสียมากมายเกินควร
ปัจจุบันมีนักวิทยาศาสตร์หลายสำนักพยายามที่จะสร้างอุปกรณ์ประมวลผลแบบใหม่ที่
เป็นไปได้ว่าจะแก้ปัญหาที่มีความคลุมเครือได้ดีกว่าและยังคงความสามารถที่จะจัดการกับ
ปัญหาที่ชัดแจ้งได้รวดเร็วเหมือนเดิม ยกตัวอย่างเช่นทีมงานวิจัยที่ร่วมมือกันระหว่างสถาบัน
เทคโนโลยีเอ็มไอที และห้องวิจัยเบลแลปของบริษัทลูเซ่น คือทีมงานของ ริชาร์ด ฮาร์ลโลเซอร์
ราหุล ซาร์เปซการ์ และเซบาสเตียน ซียอง ได้ตีพิมพ์ผลงานการประดิษฐ์ไมโครชิพวงจรอิเล็ค
ทรอนิคส์ของพวกเขาที่มีพฤติกรรมคล้ายระบบประสาทของมนุษย์ในวารสารเนเชอร์ (Nature)
ฉบับวันที่ 22 มิถุนายน 2543 โดยพวกเขาคาดหวังว่าอุปกรณ์ดังกล่าวอาจช่วยสร้าง
คอมพิวเตอร์ที่ทำงานคล้ายสมองมนุษย์มากกว่าเดิม
ปฏิบัติการทางตรรกแบบใหม่
เมื่อตรรกแห่งความคลุมเครือมีสถานะมากกว่าสองสถานะอย่างตรรกธรรมดาคือ
จริง กับ เท็จ แล้ว การปฏิบัติการทางตรรกกล่าวคือ และ หรือ ไม่ (AND , OR,
NOT) ตามแนวทางของศาตราจารย์ลอตฟิ ซาดาห์ ก็มีความพิเศษขึ้นมาเล็กน้อยเช่นสถานะ
ทางตรรก ค่อนข้างจริง ปฏิบัติทางตรรกแบบ และ กับสถานะทางตรรก ค่อนข้างเท็จ
จะได้ค่าน้อยสุดที่จะเป็นจริงของสถานะทั้งสองนั่นคือจะได้ ค่อนข้างเท็จ กรณีเดิมแต่การ
ปฏิบัติทางตรรกแบบ หรือ จะได้ค่ามากสุดที่จะเป็นจริงของสถานะทั้งสองนั่นคือจะได้ ค่อน
ข้างจริง สำหรับกรณีของการปฏิบัติทางตรรกแบบ ไม่ จะได้ค่าตรงข้ามของสถานะทางตร
รกนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมชายมีสัดส่วนของการเป็นสมาชิกชมรมวิทยาศาสตร์เป็น 0.75
แล้วค่าตรงข้ามของสัดส่วนการเป็นสมาชิกของสมชายคือ 0.25 เป็นต้น
วิจารณญาณแบบคลุมเครือ
ในปี ค.ศ. 1973 ศาสตราจารย์ซาดาห์ตีพิมพ์บทความสำคัญในวงการฉบับที่สอง เรื่อง
แนวทางใหม่ในการวิเคราะห์ระบบที่มีความซับซ้อน บทความนี้นำไปสู่การที่วิศวกรสามารถนำ
ทฤษฎีตรรกแแห่งความคลุมเครือไปประยุกต์ใช้งานจริง แทนที่จะเป็นเพียงปรัชญาแบบ
นามธรรม บทความฉบับนั้นได้วางแบบแผนพื้นฐานของการควบคุมเครื่องจักรโดยอาศัยตรรก
แห่งความคลุมเครือยกตัวอย่างการควบคุมอุณหภูมิคือ
ถ้า อุณหภูมิต่ำลงเล็กน้อย ให้ ค่อย ๆ ปรับเพิ่มอุณหภูมิขึ้นนิดหนึ่ง
ถ้า อุณหภูมิต่ำลงพอประมาณ ให้ ปรับเพิ่มอุณหภูมิขึ้นพอสมควร
ถ้า อุณหภูมิต่ำลงมาก ให้ ปรับเพิ่มอุณหภูมิขึ้นมากทันที
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ซาดาห์ยังได้ให้แนวทางสำหรับระบบที่มีความซับซ้อนมาก
โดยใช้ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหาแบบคลุมเครือ โดยสามารถจัดกลุ่มขั้นตอนและวิธีการแก้ปัญหา
ดังกล่าวได้เป็นสี่กลุ่มคือ 1) เชิงนิยาม (Definitional) ซึ่งทำการแยกแยะประเภทของข้อมูล
ป้อนเข้าที่มีความคลุมเครือ 2) การให้กำเนิด (Generational) ทำการสร้างผลผลิตของความ
คลุมเครือ 3) เชิงสัดส่วน (Relational) ทำการอธิบายระบบที่อยู่ในกระบวนการ และ 4) เชิง
ตัดสินใจ (Decisional) ซึ่งทำการใด ๆ จากผลตอบสนองกลับที่เกิดขึ้น
ในปีเดียวกันนี้ ศาสตรจารย์มอมดานี (Ebrahim Mamdani) แห่งมหาวิทยลัยลอนดอน
ได้ใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบคลุมเครือดังกล่าวนี้กับการควบคุมเครื่องจักรไอน้ำเล็ก ๆ ของนัก
ศึกษาปริญญาเอกที่ท่านเป็นที่ปรึกษาอยู่ ชื่อ แอสซิลเลียน (Sedrak Assilian) และพบว่ามัน
สามารถทำงานได้ดีมากและไม่ยุ่งยากเลย แอสซิลเลียนได้สร้างเครื่องจักรที่ประกอบด้วยหม้อ
น้ำเล็ก ๆ และลูกสูบ เขามองหาวิธีการควบคุมอัตโนมัติที่สามารถควบคุมแรงดันของหม้อน้ำ
และและเวลาเดียวกันก็ควบคุมความเร็วของลูกสูบให้คงที่ เขาได้ลองผิดลองถูกวิธีการต่าง ๆ
และเจอปัญหามากมาย จนกระทั่งมาเจอมอมดานีและได้ใช้วิธีการควบคุมแบบคลุมเครือในที่
สุด ซึ่งพบว่าผลการทำงานดีกว่าเครื่องควบคุมแบบทั่วไปหลายจุด เช่นระบบสามารถเข้าสู่เป้า
หมายได้เร็วกว่าและหยุดนิ่งที่เป้าหมายได้นิ่มนวลกว่าเป็นต้น
เครื่องจักรไอน้ำเล็ก ๆ เครื่องนั้นถือได้ว่าเป็น เจ้าคุณปู่ ของระบบควบคุมแบบคลุม
เครือไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น กล้องถ่ายรูป รถยนต์ ไปจน
ถึงรถไฟฟ้าใต้ดินที่ทันสมัยในปัจจุบัน
สรุป
การคิดหาเหตุผลและวิจารณญาณที่ละเอียดอ่อนซับซ้อนขึ้นทำให้เครื่องจักรมีความ
อ่อนโยนเป็นธรรมชาติและสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างสงบสุขและปลอดภัยมากขึ้นทุกวัน
This page hosted by
Get your own Free Home Page