PISIT' S THAI NATURAL LANGUAGE PROCESSING LABORATORY
This lab is formed since August 26, 1998
e-mail: pisitp@yahoo.com
For C7 members, please check this C7 address list.

KEYWORDS
Thai Natural Language Processing Lab., words segmentation, dictionaries, algorithms, Thai text-to-speech.
กระบวนการผลิตไมโครชิพ
พิสิทธิ์ พรมจันทร์
บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

กล่าวนำ

โลกยุคอิเล็คทรอนิคส์ในปัจจุบันทำให้ไมโครชิพมีผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของ มนุษย์เราในแต่ละวันเป็นอันมากอาจกล่าวได้ว่ามนุษย์เรา ”บริโภค” อิเล็คทรอนิคส์ทั้งทางตรง และทางอ้อมด้วยมูลค่าที่สูงกว่าบริโภคอาหารธรรมดา ๆ เสียด้วยซ้ำ ตัวเลขการส่งออกอุปกรณ์ ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์ที่สูงมากคือเครื่องยืนยันสิ่งนี้ นอกจากนี้การเจริญเติบโตของเทคโนโลยี สารสนเทศ และพาณิชย์อิเล็คทรอนิคส์ก็คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมไมโครอิเล็คทรอ นิคส์เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วตามไปด้วย การที่ไทยจะเป็นประเทศหนึ่งที่ทำอุตสาหกรรมนี้ได้ ถือเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความสามารถที่สำคัญอันหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย บทความนี้นำเสนอ ความรู้พื้นฐานของกระบวนการผลิตไมโครชิพรวมไปถึงวัสดุและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ใช้ใน กระบวนการผลิตนี้

วัสดุและองค์ประกอบ

วัสดุแรกที่สำคัญที่สุดคือแผ่นซิลิกอนบาง ๆ (silicon wafers) หรือแผ่นเวเฟอร์ซึ่งตัด ออกจากแท่งผลึกซิลิกอนบริสุทธิโดยใช้เลื่อยเพชร เราสามารถหาซิลิกอนได้ทั่วไปจากกรวด ทรายชายหาดแต่ต้องนำไปผ่านกระบวนการหลอมละลายโดยใช้ขดลวดความถี่สูงที่อุณหภูมิ ประมาณ 1000 องศาเซลเซียส ทำให้บริสุทธิและปลูกเป็นแท่งผลึกทรงกระบอกเพื่อมีคุณ สมบัติที่สามารถใช้งานได้ต่อไป องค์ประกอบต่อมาคือสารเคมีและแกสประเภทต่าง ๆ เช่น โบรอนเป็นต้นใช้ในการควบคุมคุณลักษณะทางไฟฟ้าของบริเวณที่ต้องการบนแผ่นเวเฟอร์ วัสดุ ต่อไปคือโลหะเช่นอลูมิเนียมหรือทองแดงใช้เป็นตัวนำไฟฟ้าภายในไมโครชิพ สำหรับการเชื่อม ต่อขาออกสู่ตัวถังภายนอกจะใช้ทองคำ องค์ประกอบถัดมาคือแสงอุลตร้าไวโอเล็ตหรือยูวีซึ่งมี ความยาวคลื่นที่สั้นมาก ใช้แสงยูวีดังกล่าวนี้ในการพิมพ์ลายที่มีความละเอียดสูงลงบนแผ่นเว เฟอร์ การพิมพ์ลายนี้ใช้เทคโนโลยีทำนองเดียวกับการถ่ายภาพ องค์ประกอบสำคัญอีกอันหนึ่ง คือแบบพิมพ์ (mask) ใช้ร่วมกับแสงยูวีเพื่อพิมพ์ลายวงจรชั้นต่าง ๆ ลงบนแผ่นเวเฟอร์ ลาย พิมพ์จะถูกสังเคราะห์ออกแบบเอาไว้โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยการออกแบบ หรือที่เรียกว่า แคด (CAD: Computer Aided Design) ทั้งหมดนี้คือวัสดุและองค์ประกอบหลักที่ใช้ในกระบวน การผลิตไมโครชิพ นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบย่อยอื่นอีกจำนวนหนึ่ง

กระบวนการผลิต

กระบวนการผลิตไมโครชิพเป็นกระบวนการที่ต้องการความสะอาดเป็นอย่างที่สุด ห้อง ผลิต รวมไปถึงเครื่องแต่งตัวของเจ้าหน้าที่เทคนิคจะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อควบคุมความ สะอาด แผ่นเวเฟอร์จะผ่านเครื่องล้างและทำให้แห้งด้วยการเหวี่ยง ลมหายใจเบา ๆ ราดรดบน แผ่นเวเฟอร์จะทำลายคุณสมบัติทางไฟฟ้าลงอย่างสิ้นเชิง ความสะอาดและการควบคุมคุณภาพ ที่เข้มงวดเป็นสิ่งจำเป็นมาก

บนแผ่นเวเฟอร์ แผ่นเดียวกันจะทำการสร้างไมโครชิพพร้อม ๆ กันไปหลายชิ้นเท่าที่พื้น ที่ของแผ่นเวเฟอร์จะพอเพียง เมื่อทำการผลิตเสร็จแล้วจึงใช้เลื่อยเพชรตัดแบ่งแต่ละชิพเพื่อนำไป บรรจุตัวถังหรือทำการหีบห่อต่อไป กระบวนการการผลิตไมโครชิพบนแผ่นเวเฟอร์จะใช้กระบวน การต่าง ๆ ทางเคมี แกส และ แสง กล่าวคืออันดับแรกทำการปลูกสร้างชั้นของออกไซด์โดยการ นำไปผึ่งอบในอุณหภูมิที่สูงมากภายใต้บรรยากาศของแก้ส ชั้นออกไซด์จะมีความบางมากจน มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ขั้นตอนต่อไปจะทำการปกคลุมแผ่นเวเฟอร์ด้วยสารไวแสง (photoresist) ขบวนการต่อไปคือขบวนการที่เรียกว่า “การพิมพ์ลายด้วยแสง” (photolithography) กล่าวคือการฉายแสงยูวีผ่านลายพิมพ์ของแบบพิมพ์ (mask) แสงจะลอด หรือถูกกั้นตามลวดลายที่ออกแบบเอาไว้ปรากฏเป็นรูปแบบบนชั้นที่มีสารไวแสงเคลือบไว้ บริเวณที่ถูกแสงตกกระทบจะละลายและจะใช้น้ำยาโซเว้นชำระล้างบริเวณนี้ออกไป ขั้นต่อไปจะทำการกัด (etching) ชั้นออกไซด์บริเวณที่ไม่มีสารไวแสงเคลือบอยู่ด้วยน้ำ ยาเคมี และทำการกำจัดสารไวแสงที่เหลือออกไป จะเหลือแนวร่องของชั้นออกไซด์เกาะอยู่บน แผ่นเวเฟอร์ตามรูปแบบที่ออกแบบไว้

ทำการปลูกสร้างชั้นออกไซด์ชั้นต่อไปซึ่งบางกว่าลงบนแผ่นเวเฟอร์ที่ได้ ปกคลุมด้วยสาร ไวแสง ทำการพิมพ์ลายที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับชั้นนี้ด้วยแสงยูวี ล้างด้วยโซเว้นและกัด ออกไซด์ด้วยสารเคมี

กระบวนการสำคัญต่อมาคือการแพร่สารเจือ (ion implantation) เพื่อควบคุมคุณสมบัติ ทางไฟฟ้าบางกรณีอาจเรียกว่าการโดปสารเจือ (doping) ภายใต้อุณหภูมิสูง ละอองไอของสาร เคมีบางประเภทเช่นโบรอนภายใต้บรรยากาศของกาซเฉื่อยถูกทำให้แพร่กระจายเข้าไปในเนื้อ สารกึ่งตัวนำซิลิกอนเพื่อเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางไฟฟ้าของบริเวณที่ไม่มีชั้นออกไซด์ปกคลุม อยู่ หรือเพื่อสร้างรอยต่อพี-เอ็น (p-n junction) ซึ่งรอยต่อพี-เอ็นนี้ทำให้ได้อุปกรณ์อิเล็คทรอ นิคส์พื้นฐานคือทรานซีสเตอร์และอื่น ๆ

ทวนกระบวนการสร้างชั้นและกระบวนการพิมพ์เพื่อสร้างช่องหน้าต่างที่สามารถทำให้ ทำการต่อเชื่อมวงจรระหว่างชั้นได้โดยการเติมอะตอมของโลหะลงไปในช่องหน้าต่างที่สร้างไว้ หลังจากนั้นนำไปผ่านการพิมพ์และกระบวนการกัด เหลือแถบโลหะที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่าง ชั้น

จำนวนชั้นของกระบวนการผลิตไมโครชิพจะมากน้อยขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของวงจรอิ เล็คทรอนิคส์ที่ออกแบบไว้สำหรับไมโครชิพนั้น ๆ สำหรับในกรณีของไมโครโปรเซสเซอร์จะมี จำนวนชั้นโดยประมาณคือ 20 ชั้น ที่กล่าวมานี้เป็นขั้นตอนพื้นฐาน สำหรับในกระบวนการผลิต จริงจะมีขั้นตอนปลีกย่อยอื่น ๆ อีก

สรุป

กระบวนการผลิตไมโครชิพเป็นกระบวนการที่มีความสะอาดที่สุด ละเอียด และเล็กที่สุด ต้องการการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดที่สุด ใช้การผสมผสารเทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยแสง เทคโนโลยีทางฟิสิกส์และเคมีที่ซับซ้อนแต่ก็เป็นไปได้สำหรับอุตสาหกรรมไมโครอิเล็คทรอนิคส์ ในบ้านเราอย่างที่เป็นไปได้ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซียเป็นต้น ความล้มเหลวในยุคแรก ๆ ใช่จะหยุดยั้งความพยายามของคนไทยเรา ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นใน ที่สุด ดังสุภาษิตของ ดร. ดอน ครอส ที่ว่า “If ever I see your name written in the stars, I'll know who did it”


This page hosted by   Get your own Free Home Page 1