PISIT' S THAI NATURAL LANGUAGE PROCESSING LABORATORY
This lab is formed since August 26, 1998
e-mail: pisitp@yahoo.com
For C7 members, please check this C7 address list.
KEYWORDS
Thai Natural Language Processing Lab., words
segmentation, dictionaries, algorithms, Thai text-to-speech.
หินก้อนเดียว
พิสิทธิ์ พรมจันทร์
บริษัทเทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
กล่าวนำ
ผมเชื่อว่าทุกท่านมีโอกาสเป็น หรือเคยเป็นพนักงานใหม่ขององค์กรด้วยกันทุกคน ถ้า
ลองนึกถึงความรู้สึกในตอนนั้น หลายท่านอาจรู้สึกตื่นเต้น มีไฟแรงที่จะทำงานให้ดีที่สุด แต่ก็
ประหม่าไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี โดยเฉพาะเมื่อถึงเทศกาลสังสรรค์ประจำปี พวกรุ่นพี่ต่างพากัน
ลาพักร้อนปล่อยให้น้องใหม่เฝ้าหน่วยงานอย่างโดดดี่ยว เนื่องจากยังไม่มีสิทธิลาพักร้อน ผมขอ
แนะนำให้น้อง ๆ เพื่อน ๆ ลองวิธีของคุณลุงแจ็ค คิลบี้ ดู ท่านอาจจะประสบความสำเร็จใน
อนาคตอย่างน่าสยดสยองแบบคุณลุงก็เป็นได้
เมื่อปี พ.ศ. 2501 แจ็คเริ่มงานกับบริษัทเทกซัสอินทรูเม้นท์ในอเมริกา เนื่องจากเป็น
พนักงานใหม่ เขาจึงไม่สามารถลาพักร้อนได้ในช่วงนั้น แต่ด้วยความอัจฉริยะบวกกับความมุ่ง
มั่น ได้ทำให้ช่วงที่ใครต่อใครพักผ่อนฤดูร้อนของปีนั้นเกิดการค้นพบสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่ปฏิวัติ
โลกในปัจจุบันไปอย่างสิ้นเชิงนั่นคือ หินก้อนเดียว
หินก้อนเดียว
พวกฝรั่งก็คล้าย ๆ กับคนไทยและคนชาติอื่น ๆ ในโลกที่นิยมใช้ภาษาต่างชาติมาตั้งชื่อ
สิ่งค้นพบใหม่ ๆ เพื่อให้ฟังแล้วน่าตื่นเต้น คำว่า โมโนลิธิค (Monolithic) มาจากภาษากรีก
โบราณแปลว่า หินก้อนเดียว นักค้นคว้าคิดค้นฝรั่งได้รับอิทธิพลจากกรีกค่อนข้างมากจวบจน
ในปัจจุบัน ซึ่งพบได้จากคำศัพท์ภาษากรีกในงานเขียนเชิงวิชาการจำนวนมาก
สำหรับบ้านเราในอดีตเราได้รับอิทธิพลจากปรัชญาพุทธค่อนข้างมาก สังเกตจากการ
ใช้คำศัพท์ที่มีต้นตอมาจากภาษาบาลีสันสกฤต แต่ในปัจจุบันเราได้รับอิทธิพลจากกระแสโลกา
ภิวัตน์สูงมาก ทำให้มีการใช้คำศัพท์ภาษาฝรั่งอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ในความคิดเห็นส่วนตัว
แล้วผมเห็นว่า ถ้าเราจะเอาอย่างกระแสโลกแล้วเราน่าจะเลือกใช้คำศัพท์ภาษาที่มีรากเหง้าทาง
ปรัชญา ประวัติศาสตร์ ที่ยาวไกลและลึกซึ้งกว่านี้สักหน่อย
มนุษย์มีความรู้ว่าในสสารมีอนุภาคเล็ก ๆ เรียกว่าอะตอม (มาจากภาษากรีกเช่นกัน)
ซึ่งประกอบด้วยนิวเคลียสและอิเล็คตรอนมายาวนานแล้ว ถ้าควบคุมให้อิเล็คตรอนไหลได้
สสารนั้นก็เป็นวัสดุนำไฟฟ้าถ้าไม่ได้ก็เป็นฉนวน แต่ถ้าควบคุมให้อิเล็คตรอนไหล ๆ หยุด ๆ ได้
ก็จะเป็นวัสดุสารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) เช่นกรวดทรายซิลิกอนเป็นต้น
ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่
โลกในยุคของคุณลุงแจ็คกำลังชื่นชมยินดีกับผลงานการคิดค้นอันยิ่งใหญ่ในตอนนั้นคือ
การยกย่องการค้นพบทรานซิสเตอร์ โดยสามนักวิทยาศาสตร์จากห้องวิจัยเบลแลป ในปี พ.ศ.
2499 ปัญหาใหญ่ของวงการอิเล็กทรอนิกส์ คือ อุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ กินพลังงานมาก ทำงาน
ช้า ปล่อยความร้อนออกมาสูง และเสียหายได้ง่าย ได้รับการแก้ไขลงอย่างสิ้นเชิงจากการค้นพ
บทรานซีสเตอร์นี้
อย่างไรก็ตาม ลำพังการค้นพบทรานซีสเตอร์เพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถทำให้โลก
พัฒนาก้าวไกลมาสู่ยุคอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันได้ ถ้าปราศจากคุณลุงแจ็ค คิลบี้ ผู้ยิ่งใหญ่ที่
แสนสมถะ เมื่อโลกก้าวข้ามยุคหลอดสูญญากาศสู่ยุคทรานซีสเตอร์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
ก็เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วขึ้นมาทันที วงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ก่อกำเนิดขึ้นมามากมายเพื่อ
ช่วยให้ชีวิตมนุษย์สุขสบายขึ้น จากวงจรอิเล็กทรอนิกส์ง่าย ๆ ที่ประกอบขึ้นมาจากทรานซีส
เตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งหมดไม่กี่สิบตัว ไปจนถึงวงจรที่ซับซ้อนยุ่งยากโดยใช้ทรานซีสเตอร์
นับร้อยตัว สายเชื่อมต่อเริ่มมีความยุ่งเหยิง และแผงวงจรมีขนาดใหญ่ขึ้นทุกที อิเล็กทรอนิกส์ก็
เริ่มชะลอตัวลงเพราะปัญหาความใหญ่และยุ่งเหยิง ที่ไร้เสถียรภาพของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ดัง
กล่าว
นักคิดค้นพัฒนายุคนั้นต่างลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานกับปัญหานี้ จนกระทั้งแจ็ค
คิลบี้ สังเกตเห็นว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบเดียวกันแทบทั้ง
หมด แล้วทำไมไม่ผลิตลงบนแผ่นหินผลึกซิลิกอนก้อนเดียวกันเสียเลย นี่คือที่มาของวงจรรวม
บนหินก้อนเดียว (Monolithic Integrated Circuit) หรือที่เรียกว่าไมโครชิพในปัจจุบัน
การปฏิวัติโลกเมื่อสี่สิบปีกว่าให้หลัง
แจ็คทำการทดลองสร้างวงจรรวมต้นแบบเพื่อยืนยันแนวความคิดของเขา โดยใช้เครื่อง
มือเท่าที่มีอยู่กับบางชิ้นที่หยิบยืมเขามา จนกระทั่งสำเร็จลงได้ เป็นวงจรรวมที่มีอุปกรณ์ต่าง ๆ
ผลิตรวมกันอยู่บนแผ่นวัสดุสารกึ่งตัวนำชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของกระดาษโน้ต ไม
โครชิพชิ้นแรกของโลกได้สร้างประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2501 เขาไม่เคยคิด
เลยว่าผลงานชิ้นเล็ก ๆ ของเขาได้ปฏิวัติโลกในสี่สิบกว่าปีให้หลังลงอย่างสิ้นเชิง หินก้อนเดียว
ในปัจจุบันมีทรานซีสเตอร์บรรจุอยู่หลายล้านตัวเลยทีเดียว อิเล็คตรอนถูกบังคบให้ไหล ๆ หยุด
ๆ นับล้านล้านครั้งต่อวินาทีในหินก้อนเดียวกันนี้ หินก้อนเดียวแบบนี้มนุษย์มีใช้อยู่ทุกหนทุก
แห่ง ไม่ว่าจะเป็นในบ้านนอกบ้าน ในรถนอกรถ ในที่ทำงานนอกที่ทำงาน องค์กรในปัจจุบัน
ต่างพยามยามบอกให้ใครต่อใครรู้ว่าพวกเขาก็ใช้หินก้อนเดียวแบบนี้เช่นกัน โดยความพยายาม
ใช้คำนำหน้าชื่อองค์กรว่า อี ซึ่งหมายถึงอิเล็กทรอนิกส์
จากผลกระทบอันยิ่งใหญ่ของการคิดค้นวงจรรวมบนแผ่นผลึกของแจ็คเมื่อประมาณสี่
สิบกว่าปีที่ผ่านมาทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2543 นี้ นอก
จากเขาแล้ว รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือประจำปีนี้เป็นของ โซเรส อัลเฟอร์รอฟ
นักฟิสิกส์ชาวรัสเซีย กับเฮอร์เบอร์ต โครอีเมอร์ นักฟิสิกส์ชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน จากผล
งานการพัฒนาโครงสร้างพิเศษของสารกึ่งตัวนำที่ใช้ในอุปกรณ์ความเร็วสูงและอุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ที่เปล่งแสงได้
ชีวะประวัติโดยสังเขปของคุณลุงแจ็ค
แจ็ค คิลบี้ (Jack S. Kilby) เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2466 ที่เมืองเจฟเฟอร์สัน มลรัฐมีสซูรี
อเมริกา เติบโตในแคนซัส บิดาของเขาทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าเล็ก ๆ ในตอนแรก แต่ต่อมาประสป
ภายุหิมะครั้งใหญ่ที่ทำลายสายส่งไฟฟ้าและสายโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก จึงเริ่มหันเหไปทำ
ธุรกิจสถานีวิทยุเพื่อให้บริการการสื่อสารแทน จุดนี้เองทำให้แจ็คเริ่มสนใจอิเล็กทรอนิกส์อย่าง
จริงจัง
ได้รับปริญญาตรีและโทสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยอิลลินอย และวิซคอนซิน
ตามลำดับ เป็นพนักงานของบริษัทเทกซัสอินทรูเมนท์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 เป็นศาสตราจารย์
ของมหาวิทยาลัยเท็กซัสเอแอนด์เอ็มระหว่างปี พ.ศ. 2521 ถึงปี พ.ศ. 2528
ในปัจจุบันเขาเดินทางและทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับภาครัฐและเอกชนทั่วโลก รวมทั้ง
เป็นผู้อำนวยการองค์กรต่าง ๆ บ้าง และยังคงเฝ้ามองความสับสนอลหม่านของโลก
อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันเนื่องจากหินก้อนเดียวของเขาในอดีตอย่างเงียบ ๆ
แจ็คทำนายอนาคตอีกยี่สิบปีข้างหน้าว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันจะยังคงอยู่อีกหลายปีและ
ในระหว่างนั้นคาดว่าอาจมีแนวทางพื้นฐานใหม่ที่จะทำให้คนเริ่มเปลี่ยนเข้าไปหา แต่คงใช้เวลา
นานพอสมควร
สรุป
โอกาสเป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ ความคิดอ่านและผลงานเล็ก ๆ ของพนักงานใหม่หรือ
แม้แต่นักศึกษาฝึกงานคนหนึ่ง อาจปฏิวัติโลกในอนาคตเหมือนอย่างกรณีของแจ็ค คิลบี้ก็เป็น
ได้
This page hosted by
Get your own Free Home Page