โอเวอร์คล็อกComputer

( OVER CLOCK Computer)

อุปกรณ์สำหรับโอเวอร์คล็อกคอมพิวเตอร์

สิ่งพิจารณาอุปกรณ์สำหรับการโอเวอร์คล็อกตามความสำคัญ คือ ซีพียู เมนเบอร์ด แรม ระบบระบายความร้อน

CPU

MAINBOARD

หน่วยความจำหลัก( RAM)

ระบบระบายความร้อน

ซีพียู ( CPU )

สำหรับผู้กระหายความเร็ว การเลือกชนิดของซีพียู เป็นหัวใจสำคัญในการโอเวอร์คล็อก เลือกใช้ซีพียูที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสมสำหรับการโอเวอร์คล็อก ซีพียูความเร็วเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แต่จะมีความสามารถในการโอเวอร์คล็อกไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการผลิตจากโรงงานครับ แต่ไม่ควรนำซีพียูรีมาร์คมาใช้โอเวอร์คล็อก เพราะซีพียูประเภทนี้จะถูกเซตให้มีการโอเวอร์คล็อกอยู่แล้วโอเวอร์คล็อกต่อก็ยิ่งร้อนไปกันใหญ่ขึ้นอีก หรือไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้อีก
ซีพียูในท้องตลาดนั้นมีหลายชนิด มีหลายรุ่น แต่ผมจะแนะนำมีซีพียูอยู่4บริษัทที่ผลิตซีพียูออกมาและนิยมใช้โอเวอร์คล็อกกันมากน้อยตามลำดับ คือ ซีพียูของอินเทล( INTEL ) เอเอ็มดี( AMD ) ไซริกซ์( Cyrix ) และ ไอดีที( IDT )

ซีพียูของอินเทล( INTEL )
เป็นซีพียูที่ง่ายต่อการโอเวอร์คล็อกที่สุด เสถียรภาพสูง มีความร้อนต่ำ เมื่อเทียบกับซีพียูของบริษัทอื่น มีซีพียูทุกรุ่นในท้องตลาดตั้งแต่ เพนเทียมธรรมดา เพนเทียมเอ็มเอ็มเอกซ์ เพนเทียมโปร เพนเทียมทูและเซลเลอลอน ล่าสุดเป็นเพนเทียมทรี โดยสามารถโอเวอร์คล็อกได้ทั้งนั้น แต่ซีพียูตระกูลเพนเทียมทูขึ้นไปและเซลเลอลอน เพนเทียมทรีทุกรุ่น จะถูกล็อกตัวคูณไว้โดยทางอินเทล เพื่อป้องกันการรีมาร์ค เราจะโอเวอร์คล็อกโดยเซตได้แต่ความเร็วบัสเท่านั้น เช่น เพนเทียมทู400MHz ตัวคูณเป็น 4เท่า ความเร็วบัสเป็น 100 MHz หากเซตบัสเป็น 112 ตัวคูณ 4 จะได้เท่ากับ 448 MHzต่อให้เราเปลี่ยนตัวคูณเป็นค่าอื่น ซีพียูจะรับรู้แค่ตัวคูณที่4เท่าอย่างเดียว ทำได้แต่เปลียนความเร็วบัสอย่างเดียว ถึงจะเปลี่ยนเป็นเพนเทียมทรีก็ยังถูกล็อกตัวคูณอยู่ครับ และเมื่อระบบบัสทำงานความเร็วสูงขึ้น อุปกรณ์รอบข้างมีคุณถาพดีก็สามารถทนบัสสูงๆได้

ซีพียู ของไซริกซ์ ( Cyrix )
มีราคาค่อนข้างถูกมาก เหมาะสำหรับงานออฟฟิค สามารถโอเวอร์คล็อกได้บางตัว ในท้องตลาดปัจจุบันจะมีรุ่น 6x86 8x86MX MIIและMIII ปกติซีพียูตระกูลนี้จะมีความร้อนสูงมากอยู่แล้ว หากโอเวอร์คล็อกมากเกินไป ซีพียูอาจเสียหายถาวรได้

ซีพียูของเอเอ็มดี ( AMD )
ในตลาดมีทั้งรุ่น K5 K6 K6-2 3D NOW สามารถโอเวอร์คล็อกได้เช่นกัน ในรุ่นแรกๆ มีความร้อนสูงมากเหมือนกับซีพียูของไซริกซ์ แต่ซีพียูตระกูลหลังๆ ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลงระดับ0.25ไมครอน จึงสามารถโอเวอร์คล็อกได้มากแต่ความเสถียรภาพหลังจากโอเวอร์คล็อกยังมีน้อยเมื่อเทียบกับซีพียูของอินเทล
เมื่อมีซีพียูตระกูลใหม่คือแอรลอนและดูรอน ถูกผลิตที่0.18ไมครอน สามารถโอเวอร์คล็อกโดยการปรับเปลี่ยนตัวคูณได้ด้วยจึงสามารถเพิ่มความเร็วไปได้มากกว่าเดิม เช่นDuron 600MHz@1 GHz

ซีพียของบริษัท ไอดีที( IDT )
ในตระกูล winchip winchip2 ไม่ค่อยนิยมนำมาโอเวอร์คล็อก เพราะโอเวอร์คล็อกยากมาก

เหตุที่ซีพียูจากค่ายอื่นที่ไม่ใช่อินเทลโอเวอร์คล็อกยาก เพราะการพัฒนาตามหลังซีพียูของอินเทลเสมอ พวกเขาพยายามออกแบบซีพียูให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และราคาถูกกว่า แต่มีปัญหาที่เหมือนกันคือ ความร้อนสูงมากขณะทำงาน เมื่อเทียบกับซีพียูของอินเทลที่มีความน่าเชื่อถือกว่าในประสิทธิภาพ ความร้อนต่ำและเสถียรภาพในการทำงาน

เมนบอร์ด ( MAINBOARD )

มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าซีพียูเป็นหัวใจของการโอเวอร์คล็อก เมนบอร์ดต้องมีคุณภาพสูง ความเสถียรสูง เพราะหลังการโอเวอร์คล็อก ซีพียูและเมนบอร์ดจะไวต่อสิ่งผิดปกติต่างๆมากขึ้น เช่นสัญญาณรบกวน ความไม่สมบูรณ์สัญญาณนาฬิการะบบบัส หากเป็นเมนบอร์ดเกรดต่ำ ภายหลังการโอเวอร์คล็อก อาจจะทำให้ไม่เสถียรภาพ ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์อยุดทำงาน หรือแฮงค์ไม่ทราบสาเหตุบ่อยขึ้น การตัดปัญหาโดยเลือกซื้อเมนบอร์ดมียี่ห้อแบนด์เนมเช่น ASUS Aopen Abit MSI ECS Epox Soltek Gigabyte ฯลฯ จะช่วยทำให้การโอเวอร์คล็อกได้ผลและมีเสถียรภาพขึ้น ถ้าซื้อคอมฯควรเลือกเผื่อกรณีนี้ด้วยครับ

เมื่อเราจะอัพเกรดหรือทำการโอเวอร์คล็อก เมนบอร์ด ควรจะสนับสนุนการจ่ายแรงดันไฟได้กว้าง สำหรับมาตรฐานแรงดันไฟทั่วไปที่สนับสนุนมีระดับ แรงดันSTD สำหรับเพนเทียมต่ำกว่า133 MHz( 3.3 โวลต์ ) VREสำหรับเพนเทียม133MHzขึ้นไป ( 3.45-3.6 โวลต์ หรือเฉลี่ย 5.2 โวลต์ )สำหรับซีพียูเพนเทียม 6x86 และK5 ถ้าต้องการใช้เพนเทียมMMX, 6x86L, 6x86MX, K6 เมนบอร์ดต้องสนับสนุนแรงดันไฟแบบ Split Voltage มี 2 ระดับ
ระดับหนึ่งเป็นแรงดันไฟต่ำสำหรับส่วนแกนซีพียู ( Core )
แรงดัน 2.8 โวลต์ เพนเทียมMMX, Cyrix 6x86L, 6x86MX
แรงดัน 2.9 โวลต์ ซีพียูเอเอ็มดี K6 ความเร็ว 166 MHz และ200 MHz
แรงดัน 3.2โวลต์ สำหรับK6 233 MHz หรือสูงกว่า ส่วนแรงดันไฟอีกระดับ สำหรับส่วนอินพุต/เอาท์พุตของซีพียู จะมีระดับไปมาตรฐานที่ 3.3 โวลต์ ปกติเมนบอร์ดทั่วไปจะสนับสนุนแรงดันไฟที่แกนซีพียูที่ 2.5-2.9 โวลต์ การเซตแรงดันไฟได้หลากหลายทำให้สามารถเลือกวิธีการโอเวอร์คล็อกได้หลายแบบ และเป็นวิธีนึงที่จะทำให้ระบบคอมพิวเตอร์มีเสถียรภาพครับ

และในตลาดมีเมนบอร์ดหลายชนิดหลายยี่ห้อ มีทั้งตระกูลซ็อกเก็ต 7ใช้ชิพเซ็ตอินเทลTX ชิพเซ็ตVIA ชิพเซ็ตอินเทลSis หรือชิพเซ็ตที่สนับสนุนระบบบัส 50-83.3 MHz หรือระบบบัสสูงกว่า เช่น 100MHz ชิพเซ็ตอินเทลBX ZX เป็นต้น
สำหรับซีพียูเพนเทียมโปรของอินเทลสนับสนุนได้แต่ระบบความเร็วบัส66MHz
และล่าสุดเป็นเมนบอร์ดตระกูลซุปเปอร์ซ็อกเก็ต7ที่ใช้ชิพเซ็ต VIA Sis Abit สนับสนุนระบบบัส 100 MHzกับAGP ส่วนอินเทลยกเลิกการผลิตไปแล้วและหันไปพัฒนาตระกูลสล็อตวันสำหรับเพนเทียมทูทั้งที่ใช้ชิพเซ็ต LX และBX ZX สามารถสนับสนุนระบบบัส 100 MHzเช่นเดียวกัน และเมนบอร์ดต้องสนับสนุนอัตราคูณความเร็วตามซีพียูในท้องตลาด ตั้งแต่ 1.5-6.0 หรืออาจสนับสนุนอัตราการคูณความเร็วมากกว่า เพื่อที่จะโอเวอร์คล็อกซีพียูได้มีประสิทธิภาพได้เหมาะสมที่สุด

เมื่อความเร็วถูกปรับเปลี่ยนเป็นระบบบัส 133MHz ชิพเช็ตก็ต้องสนับสนุนความเร็วนี้ด้วย รูปแบบเมนบอร์กก็เปลี่ยนมาใช้แบบซ็อกเก็ตอีกครั้งหนึ่งสำหรับซีพียูตระกูลSocket370ที่สนับสนุนบัส 133MHzที่นิยมใช้เป็น VIA694x i810 ,i815E,i815EP

หน่วยความจำหลัก( RAM)

ถ้าทำการโอเวอร์คล็อกซีพียูโดยวิธีเพิ่มความเร็วของระบบบัส แรมจะสำคัญมาก เพราะการเปลี่ยนระบบบัส 66MHz เป็นระบบบัส 133MHzจะทำให้การส่งข้อมูล การติดต่อระหว่างซีพียูกับอุปกรณ์ มีความเร็วสูงขึ้น นั่นคือประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์สูงขึ้น ควรเลือกหน่วยความจำแรมที่มีประสิทธิภาพสูง ชนิดที่มีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลต่ำกว่า 60 ns ไม่นั้นหลังการโอเวอร์คล็อกจะแฮงค์บ่อย ควรเลือกแรมชนิดจะให้ดีที่สุดในเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆเวลานี้เลือก SDRAM ไปเลย เพราะแรมชนิดนี้ส่งข้อมูลที่ความเร็วเดียวกับซีพียู สามารถรองรับความเร็วในการทำงานของระบบบัสสูงสุดถึง 100 MHz -133MHz ยี่ห้อแรมมีผลต่อเสถียรภาพในการใช้งาน และควรเลือกยี่ห้อเดียวกันดีกว่า จะได้ลดปัญหาความเร็วแรมและการไม่เข้ากันของฮาร์ดแวร์

ระบบระบายความร้อน

เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะระบบจะแฮงค์หรือไม่หลังการโอเวอร์คล็อก ขึ้นอยู่กับความสามารถการระบายความร้อนของซีพียู ดังนั้นจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และแผ่นระบายความร้อนกับพัดลมซีพียูที่ให้มาเป็นมาตรฐานซีพียูนั้นใช้ระบายความร้อนกับซีพียูปกติเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะรองรับกับซีพียูที่ถูกทำการโอเวอร์คล็อก ซีพียูในรุ่นปัจจุบันและรุ่นใหม่ จะใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ0.35 ไมครอน และ0.25ไมครอน ( เช่น เพนเทียม 90ขึ้นไปจนถึงเพนเทียมทู ,เซลเลอลอน, K6, K6-2 3DNOW ) มักไม่พบปัญหามากนัก แต่ถ้าผู้ใช้คอมใช้ซีพียูรุ่นเก่าที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.6ไมครอน ( ซีพียู เพนเทียม60, K5,ไซริกซ์6x86)แน่นอนว่าต้องเปลี่ยนระบบระบายความร้อนหรือเพิ่มให้อีกชุดเพื่อระบายความร้อนได้ดีขึ้น ภายหลังการโอเวอร์คล็อก

แผ่นระบายความร้อนสำหรับซีพียูที่ถูกทำการโอเวอร์คล็อกควรมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ไม่มีขายตามร้านคอมพิวเตอร์ทั่วไป และมีขายแต่ขนาดมาตรฐานซีพียูปกติ ควรจะไปซื้อแถวร้านอิเล็คโทรนิกส์ทั่วๆไป แถวบ้านหม้อ และสั่งทำให้มีขนาดพอเหมาะกับซีพียู และควรติดพัดลมระบายความร้อนไว้ด้วย เพื่อการระบายความร้อนที่สมบูรณ์มากขึ้น

ถ้าซีพียูที่ผู้ใช้คอมซื้อมา มีฮีทซิงค์ติดมาพร้อมกับพัดลมซีพียูในตัวเลย ไม่สามารถจะเปลี่ยนฮีทซิงค์ระบายความร้อนกับพัดลมได้ง่ายนัก อาจต้องแงะออกมา ถ้าไม่อยากเสี่ยงงัดแงะมันก็ต้องดัดแปลงเอาเอง หรือให้ช่างคอมช่วยงัดให้ (ระวังนะ) หรืออาจใช้วิธีตัดแผ่นระบายความร้อนที่ติดกับซีพียูด้วยเครื่องมือพิเศษ หรือไม่ก็ติดตั้งระบบระบายความร้อนในตัวเคสหรือจากในเครื่องออกภายนอกแทน เพราะภายในเคสเป็นระบบปิดความร้อนที่เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ต่างๆภายใน เช่นเกิดจากซีพียู ชิพเซ็ต วงจรภาคจ่ายไฟบนเมนบอร์ด ฮาร์ดดิสก์ ชิพเร่งความเร็วกราฟฟิก ชิพประมวลผลเสียง ไดรฟ์ ซีดีรอม การ์ดแฟกส์โมเด็ม ชิพคอนโครลเลอร์SCSI และชิพเร่งความเร็ว 3 มิติ จะถูกระบายความร้อนออกโดยเพาเวอร์ซัพพลายเท่านั้นคงไม่เพียงพอแน่ที่เพาเวอร์ซัพพลายตัวเดียวจะระบายได้หมด ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณมีอุปกรณ์ภายในครบตามที่ผมเขียน คิดดูครับ อุปกรณ์ความเร็วสูงๆเมื่อทำงานแล้วจะเกิดความร้อนสูงตามมาและการจัดวางจะอยู่ใกล้กันมาก ก็ควรติดพัดลมดูดอากาศออกอีกตัวหนึ่งและเป่าเข้าเครื่องอีกตัว

(ถ้าทำได้)เพื่อที่อุณหภูมิภายในเคสคงที่ หากไม่ติดตั้งพัดลมดูดอากาศออกเมื่อใช้ไปสักพักก็อาจเกิดอาการแฮงค์ได้เพราะความร้อนที่เกิดจากอุปกรณ์จะถูกสะสมให้สูงขึ้นภายในเครื่อง อากาศที่ร้อนก็หมุนเวียนอยู่ภานในเคสไม่ถูกระบายออก ก็เหมือนกับเป่าลมร้อนภายในเครื่อง ยิ่งอากาศบ้านเรา ก็ร้อนทุกฤดูอยู่แล้ว ถ้าทำงานในห้องแอร์ก็ไม่เป็นไรมาก อุปกรณ์คอมพิวเตอร์บางชิ้นไม่ได้ตรวจสอบอุณหภูมิตามมาตรฐานเมืองไทย และทำงานในอุณหภูมิไม่เหมือนบ้านเรา จึงควรจะใส่ใจข้อนี้ด้วยครับแม้จะไม่ได้โอเวอร์คล็อกซีพียูก็ตาม

การติดตั้งพัดลม ถ้าเป็นเคสปกติจะสามารถติดตั้งได้ตัวเดียวนอกจากเพาเวอร์ซับพลาย ถ้าเป็นเคสแบบ มิเดียมเทาเวอร์( Middle Tower )หรือฟูลเทาเวอร์( Full Tower ) หรือเคสรุ่นใหม่แบบATX ที่ออกแบบเรื่องการระบายความร้อนไว้ จะมีที่ว่างสำหรับติดตั้งพัดลมตัวที่สองไว้ด้วย ส่วนเคสรุ่นเก่า หรือประเภทวางนอนหรือมินิเทาวเวอร์จะยุ่งยากในการติดตั้งเพราะไม่มีที่สำหรับพัดลม จึงต้องดัดแปลงเอา โดยเจาะรูหรือหาที่ยึดพัดลมเพิ่มเอง

ถ้าซีพียูที่ซื้อมาไม่ได้ติดตั้งฮีทซิงค์หรือแผ่นระบายความร้อนมาตายตัวและพัดลม สังเกตว่าแผ่นระบายความร้อนกับซีพียูไม่ได้ติดเป็นชิ้นเดียวกัน ยังมีช่องว่างอยู่ ถ้าเราลดช่องว่างระหว่างซีพียูกับแผ่นระบายความร้อน ก็จะช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้มากขึ้น คือให้หน้าสัมผัสมีพื้นที่เพิ่มขึ้น แต่เราเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสซีพียูนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะมีพื้นที่ซีพียูจำกัดแล้ว แต่ใช้วัสดุหรือน้ำยาพิเศษเรียกว่าซิลิโคน เพื่อเชื่อมประสานซีพียูกับแผ่นระบายความร้อนให้สนิทกันมากขึ้นทำให้สามารถนำพาความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ซิลิโคนเป็นน้ำยาสีขาวๆมีทั้งหลอดและแผ่น มีขายตามบ้านหม้อ เป็นฉนวน ไม่ต้องห่วงว่าจะซ็อตเมื่อทาเลอะเทอะไปโดนอุปกรณ์อื่นเข้า ก่อนทาซิลิโคนควรทำความสะอาดหน้าสัมผัสซีพียูกับฮีทซิงค์เสียก่อน และเมื่อติดซิลิโคนแล้วซีพียูกับฮีทซิงค์จะยึดกันแน่น หากจะเอาออกต้องแงะเอา ถ้าขี้เกียจทาก็หาแผ่นซิลิโคนเอา เพราะติดง่ายกว่า

การระบายความร้อนคอมพิวเตอร์ CPU VGA SYSTEM(new)

 

surprise.gif (3432 bytes)กลับไปเมนูหลัก new start

กลับไปหัวข้อComputer Turbo

 
ICQ
16489378


email to

muhn@hotmail.com

กลับไปเมนูหลัก new start

© Copyright 2000-2001. MUHN-Computer. All Rights Reserved.

WebMaster

muhn@hotmail.com

 

1