มีสิ่งที่จะต้องพิจารณาดังนี้
1. Interface ต้องเลือกให้ตรงกับ CPU ที่เราจะซื้อ
ได้แก่ Socket 7 [ k6-2 ] Slot1[ PIII ], Socket 370 [ CelelonII ], Slot
A [Athlon] Socket A [Duron]
2. Chipset ดูว่าสนับสนุน Hardware อื่นๆ
ที่เราเลือกไว้หรือไม่ เช่น ฮาร์ดดิสก์ UDMA/100 แรม PC-133 หรือ AGP 4x
เป็นต้น
3. จำนวน Slot สำหรับติดตั้ง Hardware อื่นๆ
ควรเลือกให้เพียงพอต่อการใช้งาน
4. ไม่ควรใช้ VGA Card และ Soundcard ชนิด
onboard
ชุดชิพเซ็ต
ชุดชิพเซ็ตเป็นเสมือนหัวใจของเมนบอร์ดอีกที่หนึ่ง
เนื่องจากอุปกรณ์ตัวนี้จะมีหน้าที่หลักเป็นเหมือนทั้งอุปกรณ์แปลภาษาให้อุปกรณ์ต่างๆ
ที่อยู่บนเมนบอร์ด
สามารถทำงานร่วมกันได้ และทำหน้าที่ควบคุม อุปกรณ์ต่างๆ ให้ทำงานได้ตามต้องการ
โดยชิพเซ็ตนั้นจะประกอบด้วยชิพเซ็ตนั้นจะประกอบไปด้วยชิพ 2 ตัว คือชิพ
System Controller และชิพ PCI to ISA Bridge
ชิพ System Controller หรือ AGPSET หรือ
North Bridge เป็นชิพที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของ อุปกรณ์หลักๆ ความเร็วสูง
ชนิดต่างๆ บนเมนบอร์ดที่ประกอบ
ด้วยซีพียู หน่วยความจำแคชระดับสอง (SRAM) หน่วยความจำหลัก (DRAM) ระบบกราฟิกบัสแบบ
AGP และระบบบัสแบบ PCI ชิพ PCI to ISA Bridge หรือ
South Bridge จะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกันระหว่างระบบบัสแบบ
PCI กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีความเร็วในการทำงานต่ำกว่าเช่นระบบบัสแบบ ISA ระบบบัส
อนุกรมแบบ USB ชิพคอนโทรลเลอร์ IDE ชิพหน่วยความจำ รอมไบออส ฟล็อบปี้ดิกส์
คีย์บอร์ด พอร์ตอนุกรม และพอร์ตขนาน ชุดชิพเซ็ตจะมีอยู่ด้วยกันหลาย
รุ่นหลายยี่ห้อโดยลักษณะการใช้งานจะขึ้นอยู่กับซีพียูที่ใช้เป็นหลัก เช่นชุด
ชิพเซ็ตตระกูล 430 ของอินเทล เช่นชิพเซ็ต 430FX, 430HX 430VX และ 430TX จะใช้งานร่วมกับซีพียู
ตระกูลเพนเทียม เพนเที่ยม MMX, K5, K6, 6x86L, 6x86MX (M II) และ IDT Winchip
C6 ชุดชิพเซ็ต ตระกูล 440 ของอิเทลเช่นชิพเซ็ต
440FX, 440LX, 440EX และชิพเซ็ต 440BX จะใช้งานร่วมกับ ซีพียูตระกูลเพนเที่ยมโปร
เพนเที่ยมทู และเซลเลอรอน และชุดชิพเซ็ตตระกูล 450 ของอินเทล
เช่นชุดชิพเซ็ต 450GX และ 450NX ก็จะใช้งานร่วมกับ ซีพียูตระกูลเพนเที่ยมทูซีนอนสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับ
Server หรือ Workstation นอกจากนี้ยัง
มีชิพเซ็ตจากบริษัทอื่นๆ อีกหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่ถูกผลิตออกมาแข่งกับอินเทลเช่นชุดชิพเซ็ต
Apollo VP2, Apollo VP3 และ Apollo mVp3 ของ VIA, ชุดชิพเซ็ต
Aladin IV+ และ Aladin V ของ ALi และชุดชิพเซ็ต 5597/98, 5581/82 และ 5591/92
ของ SiS สำหรับซีพียูตระกูลเพนเที่ยม เพนเที่ยม MMX, K5, K6, 6x86L,
6x86MX (M II) และ IDT Winchip C6 ชุดชิพเซ็ต Apollo BX และ Apollo Pro ของ
VIA, ชุดชิพเซ็ต Aladin Pro II M1621 M1543C ของ ALi และชุดชิพเซ้ต 5601
ของ SiS สำหรับซีพียูตระกูลเพนเที่ยมทู และเซลเลอรอน ซึ่งชิพเซ็ตแต่ละรุ่นแต่ละยี้ห้อนั้นจะมีจุดดีจุดด้อยแตกต่างกันไป
หน่วยความจำรอมไบออส และแบตเตอรรี่แบ็คอัพ
ไบออส BIOS (Basic Input Output System) หรืออาจเรียกว่าซีมอส
(CMOS) เป็นชิพหน่วยความจำชนิด หนึ่งที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูล และโปรแกรมขนาดเล็ก
ที่จำเป็นต่อการบูตของระบบคอมพิวเตอร์ โดยในอดีตส่วนของชิพรอมไบออสจะประกอบด้วย
2 ส่วนคือ ชิพไบออส และชิพซีมอส ซึ่งชิพซีไปออสจะทำหน้าที่ เก็บ
ข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต่อการบูตของระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนชิพซีมอสจะทำหน้าที่
เก็บโปรแกรมขนาดเล็ก ที่ใช้ในการบูต ระบบ และสามารถเปลี่ยนข้อมูล
บางส่วนภายในชิพได้ ชิพไบออสใช้พื้นฐานเทคโนโลยีของรอม ส่วนชิพซีมอสจะใช้เทคโนโลยีของแรม
ดังนั้นชิพไบออสจึงไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า ในการเก็บรักษาข้อมูล แต่ชิพซีมอส
จะต้องการพลังงานไฟฟ้าในการเก็บรักษาข้อมูลอยู่ตลอด เวลาซึ่งพลังงานไฟฟ้า
ก็จะมาจากแบตเตอรี่แบ็คอัพที่อยู่บน
เมนบอร์ด (แบตเตอรี่แบ็คอัพจะมีลักษณะเป็นกระป๋องสีฟ้า หรือเป็นลักษณะกลมแบนสีเงิน
ซึ่งภายในจะบรรจุแบตเตอรรี่แบบลิเธี่ยมขนาด 3 โวลต์ไว้) แต่ต่อ
มาในสมัย ซีพียูตระกูล 80386 จึงได้มีการรวมชิพทั้งสองเข้าด้วยกัน และเรียกชื่อว่า
ชิพรอมไบออสเพียงอย่างเดียว และการที่ชิพรอมไบออสเป็นการรวมกัน
ของชิพไบออส และชิพซีมอสจึงทำให้ข้อมูลบางส่วนที่อยู่ภายใน ชิพรอมไบออส ต้องการพลังงานไฟฟ้าเพื่อรักษาข้อมูลไว้
แบตเตอรี่แบ็คอัพ จึงยังคงเป็นสิ่งจำเป็น
อยู่จนถึง ปัจจุบัน จึงเห็นได้ว่าเมื่อแบตเตอรี่แบ็คอัพเสื่อม หรือหมดอายุแล้วจะทำให้ข้อมูลที่คุณเซ็ตไว้
เช่น วันที่จะหายไปกลายเป็นค่าพื้นฐานจากโรงงาน และก็ต้องทำการเซ็ตใหม่ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง
เทคโนโลยีรอมไบออส ในอดีตหน่วยความจำรอมชนิดนี้จะเป็นแบบ EPROM (Electrical
Programmable Read
Only Memory) ซึ่งเป็นชิพหน่วยความจำรอม ที่สามารถบันทึกได้ โดยใช้แรงดันกระแสไฟฟ้าระดับพิเศษ
ด้วยอุปกรณ์ ที่เรียกว่า Burst Rom และสามาถ
ลบข้อมูลได้ด้วยแสงอุตราไวโอเล็ต ซึ่งคุณไม่สามารถอัพเกรดข้อมูลลงในไบออสได้ด้วยตัวเอง
จึงไม่ค่อยสะดวกต่อการแก้ไขหรืออัพเกรดข้อมูลที่อยู่ในชิพรอม
ไบออส แต่ต่อมาได้มีการพัฒนา เทคโนโลยชิพรอมขึ้นมาใหม่ ให้เป็นแบบ EEPROM
หรือ E2PROM โดยคุณจะสามารถทั้งเขียน และลบข้อมูลได้ด้วยกระแส
ไฟฟ้าโดยใช้ซอฟต์แวร์พิเศษ ได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย ดังเช่นที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
หน่วยความจำแคชระดับสอง
หน่วยความจำแคชระดับสองนั้นเป็นอุปกรณ์ ตัวหนึ่งที่ทำหน้าเป็นเสมือนหน่วยความจำ
บัฟเฟอร์ให้กับซีพียู โดยใช้หลักการที่ว่า การทำงานร่วมกับอุปกรณ์
ความเร็วสูงกว่า จะทำให้เสียเวลาไปกับการรอคอยให้อุปกรณ์ ที่มีความเร็วต่ำ
ทำงานจนเสร็จสิ้นลง เพราะซีพียูมีความเร็วในการทำงานสูงมาก การที่ซีพียูต้อง
การข้อมูล ซักชุดหนึ่งเพื่อนำไปประมวลผลถ้าไม่มีหน่วยความจำแคช
|