Time Machine
1 ปีผ่านไปเร็วจัง
ปีนึงแล้วนะที่เราได้รู้จักกัน ได้เรียน ได้เล่น ได้เที่ยวด้วยกัน
มิตรภาพของพวกเราเริ่มก่อตัวขึ้นมา 1 ปีแล้ว
1 ปีที่ 365 วันเหมือนทุกปี
แต่เป็นปีที่เรารู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วกว่าปกติ
มีคนเคยบอกว่า "ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ"
คงจะเป็นอย่างนั้นมั้ง
บอกตามความจริงเลยว่าจำวันแรกที่พวกเรามาเจอกันไม่ได้
จำไม่ได้ว่าพวกเราสนิทกันได้ยังไงด้วยซ้ำ
ตอนเปิดเทอมใหม่ๆ เราดูไม่ถูกชะตากับใครหลายๆคนเลย
แต่ช่างเถอะความรู้สึกนั้น มันจากไปอย่างถาวรซะแล้ว
พวกเรามาจากต่างห้องกัน
รู้จักกันบ้าง ไม่รู้จักกันบ้าง
มีอะไรบางอย่างจูนเราเข้าหากัน
มารู้ตัวอีกทีพวกเราก็เรียกกลุ่มของพวกเราเองว่า "303kickzi" ซะแล้ว
ที่จริงน่ะ 303kickzi ตั้งขึ้นมามั่วๆ เพราะจะเอาเป็นชื่อเว็บห้อง ก็ไม่นึกหรอกนะว่าจะกลายมาเป็นชื่อกลุ่มของพวกเราไปได้
(น่าภูมิใจหว่ะ) จริงๆแล้วอยากจะให้เป็นทั้งห้องมากกว่า แต่ก็คงจะยาก เพราะเค้าคงรับพวกเรากันไม่ค่อยได้
- - ก็ปล่อยเค้าไปเหอะ
พวกเราสนิทกันเร็วจนไม่น่าเชื่อ
คงจะเพราะกิจกรรมหลายๆอย่างที่ทำร่วมกัน
กิน เที่ยว เล่น เรียน และโดด ด้วยกันเสมอๆ
การไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ถ้าจะไม่ผิดคงจะเป็น kickzi สัญจรครั้งแรก
คราวนั้นมีเด็กโรงเรียนอื่น มาหลงเสนห์คางงามๆของเติ้ลด้วย (ขอบอก)
อย่าถามเลยว่า "มันคิดยังไงของมัน" เพราะเราก็ยังสงสัยจนทุกวันนี้ และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่ควรมองเลยไปคือตอนไอ้อุหลับในรถ
เลยโดนช่างภาพจาก KZ ถ่ายเก็บเอาไว้ และได้ขึ้นปกเว็บห้อง issue แรกด้วย
กิ๊บเก๋ เทห์ ไฮโซว ... ซะไม่มี ยังไม่ลืมภาพนั้นกันใช่มั้ย - - เพราะภาพนั้น ทำให้ไม่มีใครกล้าหลับในรถอีกเลย
ตอนปิดเทอมเราไปดรีมเวิร์ลกัน
... นับเป็นการรวมพลครั้งยิ่งใหญ่ที่น่าจดจำ
และเป็น kickziสัญจร แบบเป็นทางการครั้งแรก
เสียงเจ๊โก้ในบ้านผีสิงห์ ยังไม่หายไปจากโสตประสาท
ภาพที่กอดคอกันถ่ายรูป ยกเท้าให้กล้อง .. กลายเป็นlogo ของ kickzi
และเป็นภาพประทับใจภาพหนึ่งของเรา
พอเปิดเทอม 2 กีฬาสีก็เริ่มขึ้น
ซึ่งปีนี้พิเศษสุด
ม.3 อย่างพวกเราต้องประเดิมแอโรบิคแดนซ์ ติ๊ดชึ่งๆ กันเป็นปีแรก ไอ้เราก็สบายหน่อยเพราะอ้างว่าลงบาสไปแล้ว
เฮ้ย ... อย่าเพิ่งว่ากันเว้ย อย่างน้อยเราก็ทำอะไรมีประโยชน์
ใครจะเหมือนนายมติ หน้าเหรียญบาทหล่ะ
หวังว่าคงจะยังจำความเห็นแก่ตัวของมันได้
(แล้วก็หวังว่ายังคงจำกลอน "โอ้จูนแม่ยอดรักได้"
แต่เราต้องขอข้ามเรื่องนี้ไป เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน)
เติ้ลที่กระโดนดีใจเมื่อถูกคัดชื่อออก
แต่ไม่กี่วันต่อมามันนั่นหล่ะ กลับกลายมาเป็นผู้นำขบวนติ๊ดชึ่งซะเอง
เต้นดีนะ ! เราลืมชมพวกแกไป วันนั้นเรานั่งดูอยู่
ไม่น่าเชื่อว่าหน้าอย่างพวกแกจะทำได้ แหะๆ
AYC ENGLISH CAMP
3 วันที่หัวหินถิ่นไอ้ไก่ (มีซเวนเซ่นแล้ววันนี้)
3 วันที่เรายังไม่ลืม
โคตรประทับใจ ...
ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหาความสนุกสนานกับเพื่อนๆแบบนี้ได้อีกเมื่อไร
ค่ายนี้ทำให้เราค้นพบกวีเอก เผ่าพันธุ์เดียวกับนิติพงษ์ ห่อนาค ถึง 2 คน
เติ้ลกับมนนั่นเอง ...
เพลง "ที่ตรงนี้ยังมีฉัน" หรือเพลงที่เรียกติดปากว่า เพลง"เคย"
ได้ออกแสดงสู่สายตาประชาชน สื่อมวนชล เยาวชน เป็นครั้งแรก - น่าประทับใจ
อีกเพลงก็เพลง"ฝัน"ของเติ้ล ที่ได้รับการใส่คอร์ดอันมั่วซั่ว โดยข้าพเจ้าเอง อิอิ
ตกดึกก็ฟังไอซ์กรน ก่อนนอน zzzzz
ที่สำคัญงานนี้ยังมีสาวงามที่ได้แจ้งเกิดอีก 2 คน
อุ กับ ไอซ์ ที่ kickzi ภูมิใจนำเสนอ
ไอซ์ ได้เป็น Miss AYC camp ส่วนอุ ได้รางวัลนางงามมิตรภาพไปครอง
ระยะเวลา 3 วันอาจจะสั้นไป
เราอยากอยู่ต่อสักเดือน จริงๆ
เราไม่กลัว emma แล้วนะ
เรายอมกินอาหารเห่ยๆ
ถ้าจะได้อยู่ต่อกับเพื่อนๆ
เพราะมันทำให้เกิดความสนิทสนมและความผูกพันมากขึ้นหลายเท่าตัว
แต่ยังค่ะยัง ... กิจกรรมของเรายังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้
พวกเราเคยเข้าวัดกันด้วย (จำได้มั้ย)
ตอนไปทัศนศึกษาที่วัดพระแก้ว .. ไม่น่าเชื่อพวกเราจะผ่านเข้าประตูกันได้หมด
การได้ออกไปนอกสถานที่ เป็นความฝันอย่างนึงของพวกเรา
อะไรก็ได้ขอแค่ไม่ต้องเรียนเป็นเพียงพอ ...
แต่ว่าอย่างนั้นก็เหอะ ในห้องก็ไม่ค่อยเรียนกันอยู่แล้ว
พวกเราโดดกันแบบ tac team
ยิ่งคาบภาษาไทย กับ Mr.วิรัช(เชอร์) หายเรียบ
แถวหลังๆที่ว่างโหว่ น่าอับอายขายนี้หน้าเป็นอย่างมาก
ไปกันเยอะๆ เลยถูกจับได้ และหักคะแนนเรียบ
ต้องขอปรบมือให้จูน ... ผู้สามารถพิชิตเกรด 4 จากวิรัชมาได้
เพียง 1 เดียวเท่านั้นที่kickzi ภูมิใจ
การโดดเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเรา
คือตอนไปซ้อมเต้น
(พวกเราเป็นเด็กดี ถึงโดดก็ไม่ทำอะไรเหลวไหล อิอิ)
เพลงจิตรกรรมที่พวกเราภูมิใจเสนอ ถึงจะไม่ดังอะไร
แต่มันก็ออกมาดูดีทีเดียว ...
ถึงวันเต้นจริงก็ไม่ต้องหาชุดให้เวอร์ อลังการ ดาวล้านดวง
ใส่มันเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ไม่ต้องซื้อให้เหมือนกันหรอก
สบายดี และดูดีในชุดเดียวกัน (คุณสมบัติคล้ายยาดมตราโป้ยเซียน)
ถึงเวลาที่จะเปิดโปงเรื่องของเติ้ลอย่างเป็นทางการ
ตอนซ้อมเต้นหลังโรงเรียน
เติ้ลไปเก็บโปเต้ของใครไม่รู้ที่วางทิ้งไว้ เอามากินหน้าตาเฉย
ใครที่ยังตกข่าว ก็รับรู้ไว้ซะอย่างเป็นทางการ ...
เขียนมาถึงตรงนี้ มาอ่านย้อนกลับไปอีกที
กิจกรรมเยอะหว่ะ
มิหน้าต้องใช้เวลา 1 ปี :D
หลังจากกิจกรรมมากมายก็ใกล้สอบปลายภาคเข้าไปทุกที
นั่นเป็นสัญญาณนึงที่บอกว่า
เราจะได้อยู่กันแบบ 303kickzi อีกไม่นาน
เราต้องแยกกันไป ตามทางที่แต่ละคนฝันไว้
บางคนเรียนวิทย์ บางคนเรียนศิลป์ บางคนเรียนเมืองนอก
kickzi คงไม่ได้รวมตัวกันเสือกอีกต่อไป
จะไม่มี 303 kickzi อีกแล้ว
บรรยากาศต่างๆในห้อง
วันแรกของการเปิดเทอม กับใบหน้าเด๋อเกินบรรยาย
ฉายามากมาย ขก ติ๊ก เจ๊สุพม่าไร้คอ เหน่ง หยุ่น หัวโต อาจจะถูกลืมไป
โต๊ะเดิมๆ ที่เคยเรียน เคยลอก และเคยหลับ
ลิ้นชักที่โคตรจะรก ด้วยหนังสือสารพัด
เก้าอี้ที่เคยนั่ง จนชินตูด
หลังห้องอันเป็นที่รวมพลของพวกเรา
จากนี้ไปก็จะเป็นแค่โต๊ะ เก้าอี้ และห้องธรรมดาๆ
ที่รุ่นน้องจะได้นั่ง ได้เรียนกันต่อๆไป
อาจารย์ที่สอนอยู่หน้าห้อง
นักเรียนที่เล่นคทาเชอร์อยู่หลังห้อง
อาจารย์ที่สอนอยู่หน้าห้อง
นักเรียนที่หลับอยู่หลังห้อง
อาจารย์ที่สอนอยู่หน้าห้อง
นักเรียนที่เล่นวอลเลย์อยู่นอกห้อง(ใต้ตึก)
อาจารย์ที่สอนอยู่หน้าห้อง
นักเรียนที่ทำงานศิลปะครึ่งห้อง
อาจารย์(ภาษาไทย)ที่สอนอยู่หน้าห้อง
นักเรียน(กลุ่มนึง)ที่หายไปอยู่นอกห้อง
อาจารย์ที่คุมสอบหน้าห้อง
นักเรียนที่ลอกกันทั้งห้อง
อาจารย์ที่ยังไม่เข้าห้อง
นักเรียนที่ทำบุพการีปาร์ตี้ลีสต์หน้าห้อง
อาจารย์ที่สอนเกษตรอยู่ในห้อง
นักเรียนที่ไปเตะบอลข้างๆห้อง
อาจารย์ที่ตรวจงานอยู่หน้าห้อง
นักเรียนที่ลอกงานอยู่หลังห้อง
อาจารย์ที่โมโหอยู่หน้าห้อง
นักเรียนที่นั่งหัวเราะอยู่หลังห้อง
เหตุการณ์เหล่านี้มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นในห้องเรียน
แต่พวกเรากลับตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้น
อาจจะเพราะว่าความคึกไร้ขีดจำกัด...
ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควร ไม่พึงกระทำ
แต่เราก็ยังพึงกระทำกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
มันทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
ทำให้รู้ว่าชีวิตไม่ได้มีแค่ในตำรา เรารู้สึกผิด เราสำนึกได้ แต่เราไม่เสียใจ
ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง
....
และเรายอมที่จะเสีย
ยอมเสียคะแนนบางส่วน ยอมถูกด่า
เพื่อแลกกับประสบการณ์ม.ต้น ความสนุกสนานในวัยเด็ก
ที่มีเพียงครั้งเดียวในชีวิต
ม.ต้น ไม่ใช่หนังที่จะเอามาสร้างแล้วสร้างอีกได้
มันมาหนเดียว มาแล้วไป
ถ้าเราลืมที่จะจดจำเรื่องราวดีๆในม.ต้นไป
เราคงเสียใจไปอีกนาน ...
ภาพต่างๆของพวกเรา
คงค่อยๆหายไปจากความทรงจำ เพราะวันเวลาที่ผ่านไป
เราคงไม่สามารถจดจำทุกเรื่องราวไว้ได้
เรารู้ว่าเราทำไม่ได้ ...
เราคงจำไม่ได้
เราบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันนึงอีก 20 ปีข้างหน้า
เราจะยังจำหน้าพวกเพื่อนๆใน kickzi ได้รึป่าวก็ไม่รู้
อีก 20 ปีข้างหน้า ...
ส้ม ในฐานะผู้ประกาศข่าว Nation channel จะยังจำไอ้เพื่อนขี้โดดชื่อพัดได้รึป่าว
?
ทนายฝน จะจำคนขายน้ำเต้าหู้หลินได้รึป่าว ?
producer มนต์ จะได้ทำเทปให้นักร้องคนไหนบ้าง ?
ไอ้โบ้ผู้ไม่รู้อนาคต มันจะทำมาหากินอะไร ?
สถาปนิกเติ้ล จะหางานได้รึป่าว ?
จูนจะเป็นหมอมั้ย หรือมันจะทำอะไร? (ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครกล้าที่จะรู้)
หลินที่ขายน้ำเต้าหู้เป็นอาชีพเสริม เมื่อว่างเว้นจากตรวจคนไข้ ไม่รู้อะไรจะเงินดีกว่ากัน
?
อุ มันจะไปเป็นหมอโรคจิดที่รักษาคนไข้โรคจิตรึป่าว หรือจะเป็นวิศวกร ?
ไหม จะได้สามีเป็นชาวอะไรกันแน่ ?
ไอซ์ มันจะทำอะไร ? มันอาจจะไปทำงาน รับใช้มาช่าไปจนตายก็เป็นได้
ต้น(หญิง) สารพัดช่างชื่อดังของไทย จะเปิดหมีพลู (รูรู...รู) การช่างมั้ย ?
เก ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะทำอะไรอยู่ที่ไหน และกับใคร ?
ส่วนคนสุดท้าย พัด อาจจะหางานทำไม่ได้ ไม่มีใครต้องการ graphic designer บางทีมันอาจจะไปหางานทำ
ที่บริษัทพวกแกก็ได้นะ ฮิฮิ
นั่นมันเรื่องของ 20 ปีข้างหน้า
เรื่องที่ไม่แน่นอน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที
แต่ตอนนี้ 1 ปีผ่านไป
เรายังไม่ลืมทุกคน
เรายังไม่ลืมเหตุการณ์ต่างๆไป
และเราสัญญาว่า
เราจะตั้งใจจำเหตุการณ์ดีๆ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
เราจะไม่ยอมลืมมันไป แน่นอน
เราจะจำไว้ว่า ...
เราเคยมีช่วยเวลาที่มีความสุขที่สุด ตลอด 1 ปี
ที่ห้องเรียนเล็กๆและเพื่อนกลุ่มใหญ่ ที่เรียกว่า
" 303 kickzi "
ห้อง ม.3/3 โรงเรียนบดินทรเดชา ปี 2543
ที่ปรึกษา อาจารย์ วิรัช ทองเกลี้ยง (วิรัชเชอร์)
ถ้ามิตรภาพก็เหมือนเชือกเส้นนึง
มิตรภาพของพวกเรา ก็เหมือนเชือกที่ร่วมกันดูแลรักษากันมาตลอด 1 ปี
อยู่ที่พวกเราว่าจะเลือกดูแลมันต่อไป
คอยซ่อมแซมมันเมื่อเริ่มขาด เริ่มเก่า
หรือจะตัดมันทิ้ง ....
แต่เมื่อตัดไปแล้ว
มันก็ยากที่จะต่อติดได้สวยงามอย่างเดิม
และยากที่จะใช้การได้ดีเหมือนเดิม
ด้วยความปรารถนาดี
พัชร ลัดดาพันธ์ ( 30318 )
- ไอ้ขก -