แผนความช่วยเหลือประเทศไทยของเอดีบี

การค้าและการพัฒนาภายใต้ระบบทุนนิยมโลก คือ สงครามการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ภายใต้การกำกับของประเทศมหาอำนาจและบรรษัทข้ามชาติ
โดยใช้กลไกธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) องค์กรการค้าโลก รวมทั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย หรือ เอดีบี

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ รัฐบาลสัญชาติไทย ใจเป็นทาส กลับยอมจำนนต่อคำบงการของต่างชาติ ไม่ปกป้องรักษาอธิปไตยของประชาชน
รูปธรรมจากโครงการพัฒนา คือ ปัญหาป่าไม้ที่ดิน เขื่อน ผู้ป่วยจากโรงงานอุตสาหกรรม ประมงชายฝั่ง คนจนเมืองกว่า ๒ ล้านคน หนี้สินเกษตรกร ๔
แสนกว่าล้านบาท กระทั่งเกิดวิกฤติการณ์เศรษฐกิจ องค์กรข้ามชาติเหล่านี้ก็ฉวยโอกาสแทรกแซงอธิปไตยด้วยการกำหนดเงื่อนไขเงินกู้ที่ตักตวง กอบโกย
สูบเลือดจากคนยากจน เกษตรกร และประชาชนทั้งประเทศ

ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ที่มหาอำนาจญี่ปุ่นและอเมริกาเป็นผู้ชี้เป็นชี้ตาย คือ หนึ่งในองค์กรข้ามชาติที่ให้เงินกู้แก่ประเทศไทยด้านพลังงาน
คมนาคม อุตสาหกรรม ที่ย่ำยีทรัพยากร และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง เช่น โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ท่อก๊าซไทย-พม่า จ.กาญจนบุรี
นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียท่าด่าน จ.สมุทรปราการ เป็นต้น

ความเลวร้ายจากเงื่อนไขเงินกู้เอดีบี บีบบังคับให้มีการปรับโครงสร้างภาคเกษตรกรรมที่เน้นการส่งออกพึ่งพาทุนต่างชาติ แปรรูปทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า
ให้เป็นสินค้าโดยใช้ระบบกรรมสิทธิ์เอกชน บังคับให้ลดการอุดหนุนเกษตรกรด้านปัจจัยการผลิต ห้ามแทรกแซงราคาพืชผล
การเก็บเงินคืนทุนชลประทานแก่เกษตรกร

ความเลวร้ายจากเงื่อนไขเงินกู้เอดีบี ยังบีบบังคับให้ตัดงบสวัสดิการสังคม ตัดงบช่วยเหลือด้านสาธารณสุข ยา เวชภัณฑ์ แปรรูปโรงพยาบาล
ให้หารายได้เอง ค่ารักษาพยาบาลจะสูงขึ้น รวมทั้งการแปรรูปมหาวิทยาลัย ค่าเล่าเรียนจะสูงขึ้น ครูคือลูกจ้างนักเรียน
ตกอยู่ในสภาพธุรกิจวิชาการเพื่อหารายได้ของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพื่อการสร้างภูมิปัญญาในการแก้ไขปัญหาสังคมประเทศ

พวกเราจึงขอประณามเอดีบีที่มีฉากหน้าเป็นนักบุญ แต่แท้ที่จริงคือปีศาจ
เราไม่ต้องการโครงการเงินกู้ที่สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยของประเทศมหาอำนาจและบรรษัทข้ามชาติ บนความตายของประชาชนทั้งประเทศ
เอดีบีจะต้องยกเลิกการสนับสนุนโครงการที่ทำลายสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน
และต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบจากโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยการยกเลิกหนี้สินที่ประเทศไทยมีต่อโครงการเงินกู้ดังกล่าวด้วย

สำหรับรัฐบาลที่หลับหูหลับตาเดินตามนโยบายเศรษฐกิจพึ่งพาทุนต่างชาติที่อ้างการค้าเสรี จะถูกการติดตามตรวจสอบ ผลักดัน
จากประชาสังคมอย่างเข้มข้นมากขึ้น เราไม่ยินยอมอีกแล้วในการให้รัฐบาลบริหารประเทศด้วยการกู้เงินจนมีหนี้สินกว่า ๓ ล้านล้านบาท หรือ ๕
หมื่นกว่าบาทต่อคน อีกต่อไป

หากเอดีบีและรัฐบาลไทยไม่ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของประชาชนดังกล่าว ประชาชนไทยจะลุกขึ้นเคลื่อนไหวคัดค้านต่อต้านเอดีบีและองค์กรข้ามชาติต่าง ๆ
อย่างถึงที่สุด

เอดีบีจงพินาศ ประชาชนจงเจริญ ไชโย ๆ ๆ

พบกันวันที่ ๖-๘ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงการจัดประชุมธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย (เอดีบี)