ถ้อยแถลง ๑

ถ้อยแถลงครั้งที่หนึ่ง ลงวันที่ 11 กันยายน 2544

Pae: เฮ้อ ในที่สุดก็เขียนมาจนถึงไคลแม็กซ์สำคัญตอนหนึ่งในบทที่
หนึ่งนี่จนได้
(โป๊ก)
Pae: โอ๊ย ใครกันบังอาจ… อ้าว องค์หญิงเองหรอกเหรอ?
ฮิโระ: ฮึ คนไร้มารยาท โผล่ออกมาพบท่านผู้อ่านครั้งแรก เหตุใดไม่
แนะนำตัวเล่า
Pae: อ้อ จริงสิ ลืมไปครับ ขอโทษด้วย สวัสดีครับ ท่านผู้อ่าน กระผม
นาย Pae ผู้บ้าบิ่นอาจหาญประกาศเจตนารมย์จะเรียบเรียงเขียนนิยาย
เรื่องยาวสองเรื่องจากเกมดังของญี่ปุ่นสองเกม คือ เรื่อง Eve- Burst
Error จากเกมชื่อเดียวกัน กับเรื่อง “มหากาพย์สงครามเนฟเวอร์
แลนด์” จากเกม Spectral Force Series ครับ (เฮ้อ เหนื่อย)
ฮิโระ: …
Pae: เงียบไปเลยเหรอ องค์หญิง
ฮิโระ: ฮึ ปลงสังเวชต่างหาก บทจะพูดก็พูดไม่หายใจหายคอเลย
Pae: แหะ ๆ (ดุชมัดเลยวุ้ย)
ฮิโระ: เอาล่ะ แนะนำตัวเสร็จแล้วก็เข้าเรื่องเสียทีสิ อย่าชักช้า เวลา
ของเจ้ามีไม่มากไม่ใช่หรือ?
Pae: คร้าบ ๆ (ฮือ ๆ โดนจี้ใจดำ) (T_T)
ฮิโระ: หยุดก่อน ขืนให้เจ้าดำเนินเรื่องเอง เดี๋ยวยาวกว่าเนื้อหานิยาย
หนึ่งตอนเข้าจะน่าเกลียด เราจะเป็นพิธีกรให้เองก็แล้วกัน
Pae: (โดนดักคออีกแล้ว ไม่มีวิธีชนะยัยนี่เลยหรือฟะ เป็นตัวละครที่
เราสร้างขึ้นเองแท้ ๆ)
ฮิโระ: คิดอะไรเบา ๆ หน่อย เราเห็นนะข้อความข้างบนน่ะ
Pae: เหวอ ลืมเปลี่ยนสีฟอนท์ให้เป็นสีแบคกราวนด์
ฮิโระ: ฮึ เข้าเรื่องเสียทีเจ้ามีเรื่องจะชี้แจงกับผู้อ่านมิใช่รึ
Pae: นั่นสิ ครับ ขอชี้แจงเรื่องแรกเลยละกัน คิดว่าทุกคนคงจะสะกิด
ใจแล้ว ว่า ทำไม ในโลกของเนฟเวอร์แลนด์นี้ถึงไม่ใช้ราชาศัพท์
ฮิโระ: เราไม่เห็นจะติดใจอะไรเลย พูดกับเราด้วยภาษาธรรมดาแบบนี้
ก็ดีแล้ว
Pae: จุ๊ ๆ ๆ ยังอ่อนโลกนัก องค์หญิง ถูกต้องขอรับ บนโลกของเนฟ
เวอร์แลนด์ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ราชาศัพท์” ก็จริง แต่ในภาษาไทยที่ผม
ใช้เขียนเรื่องนี้มันมีนี่ครับ และที่จริง ในภาษาญี่ปุ่นซึ่งเป็นต้นฉบับ
ของเกมนี้ถึงแม้ว่าจะยกเลิกการใช้ราชาศัพท์ไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคง
กลิ่นอาย (ไม่ใช่กลิ่นไอนะครับ – ภาษาไทยวันละคำ แฮ่ม ใครรู้จักมุข
นี้มั่งเอ่ย) ของราชาศัพท์อยู่บ้าง
ฮิโระ: อย่างนั้น ผู้อ่านมิรู้สึกผิดธรรมชาติหรือ
Pae: แหงล่ะ ผมเชื่อว่าตั้งแต่ประมาณบทนำบทที่สามที่เฉลยว่าเด็ก
สาวชาวอสูรนั้นคือ เจ้าหญิงฮิโระแล้ว คนอ่านก็คงเริ่มทะแม่ง ๆ
แหละครับ ว่าสำนวนเขียนผมใช้คำราชาศัพท์แบบขาด ๆ เกิน ๆ ดู
กล้า ๆ กลัว ๆ จะใช้ก็ไม่ใช้ให้ตลอด จะไม่ใช้ก็ไม่งดใช้ให้ตลอดอีก
ฮิโระ: อืมห์ เราช่วยชี้แจงละกัน บนเนฟเวอร์แลนด์ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า
ราชาศัพท์ แม้นว่าพวกเรามีหลาย ๆ แคว้นที่ปกครองด้วยระบบ
กษัตริย์ หรือที่ศัพท์ของพวกเจ้าเรียกว่าระบบสมบูรณาญาสิทธิราชก็
ตาม กษัตริย์ของแคว้นหนึ่ง ก็ใช่ว่าจะต้องเป็นที่เคารพของคนของอีก
แคว้นหนึ่ง นี่เองที่ทำให้เราไม่มีราชาศัพท์ที่แพร่หลายทั้งทวีปใช้
Pae: แม่นแล้วขอรับ สังเกตดู ราชาศัพท์ที่ใช้จะใช้กับมหาเทพโคเรีย
เป็นส่วนมาก เพราะท่านผู้นี้เป็นที่เคารพของบุคคลหลาย ๆ แคว้น
ร่วมกัน แต่อย่างราชาราดิวอิ หรือแม้แต่องค์หญิงเอง เวลาคนนอก
แคว้นอิปซิลอยเออร์หรือนีโอกลาดกล่าวถึงสองท่านนี้ ถ้าไม่นับถือ
และไม่เกรงใจกัน ก็เรียกว่า “จิกหัวเรียก” ยังได้เลย
ฮิโระ: อืมห์… แต่ไม่รับรองว่าถ้าจิกหัวเรียกเราแล้วจะมีอายุยืนรึเปล่า
นะ
Pae: ก็ขอให้เข้าใจตามนี้ด้วยนะครับ นี่เป็นการจงใจไม่ใช้คำราชา
ศัพท์เอง เพื่อคงความเป็นเนฟเวอร์แลนด์ไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวอ่านไปอ่าน
ไปนึกว่ากำลังอ่านเรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ ของไทย
ฮิโระ: พอ… ประเด็นต่อไปที่จะชี้แจง
Pae: (เร่งจังแฮะ) เรื่องต่อไป แนวทางการเขียนเรื่องนี้ คิดว่าคงจะพอ
จับใจความหลักได้กัน แต่ผมขอชี้แจงหน่อยละกัน
บทที่หนึ่ง เปิดตัวด้วยตัวละครชื่อเวฟ และพยายามรักษา
บรรยากาศเกมแบบ RPG ไว้ (ไม่อธิบายนะครับว่าอาร์พีจีคือ?)
บทที่สอง เริ่มเปิดตัวฮิโระ และตามมาด้วยบทที่สาม ก็เริ่มทิ้ง
ปมไว้ถึงความยิ่งใหญ่ของโครงเรื่องนี้ เพราะจะเห็นว่ามีตัวละครโผล่
มามากมาย และแต่ละตัวหากสืบสาวไปมาล้วนมีความสัมพันธ์กันไม่
ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างเช่น จู่ ๆ เทพมังกรก็รู้จักกับฮิโระและพี่สาว
ของฮิโระ (ตอนนั้นยังไม่ได้เฉลยว่าชื่ออะไร) แต่ในบทนี้ก็ยังคงรักษา
บรรยากาศของเกมอาร์พีจีไว้อยู่
บทที่สี่ถึงหก ตามท้องเรื่องจะย้อนเวลากลับไปตอนที่ฮิ
โระยังเด็ก ตรงนี้ต้องการปูพื้นเกี่ยวกับความเป็นมาของตัวละครตัวนี้
ให้แน่นขึ้นนั่นเอง มีตัวละครใหม่ที่โผล่ออกมาเฉพาะในสามบทนี้
แล้วก็หายไปเลย คือ มาเรียกับจาโด้ ทั้งสองนี้มีความสำคัญมาก
เหมือนกัน จะโผล่มาทีหลังอีก เอ… หรือยังไงกันหว่า …
บทหลัง ๆ มาคงพอมองภาพออกนะครับ ว่าพยายามคง
บรรยากาศของเกมซึ่งเป็นเกมสงครามเอาไว้ จำนวนทหารแต่ละฝ่ายก็
ยืนไว้ตามเกมครับ รวมทั้งพวกเรื่องจุกจิกอย่างเช่น การแปรรูปขบวน
ยุทธ เป็นต้น
ฮิโระ: อืมห์ เป็นอย่างนี้นี่เอง ทีแรกนึกว่าเขียนมั่ว ๆ ตามใจชอบเสีย
อีก มีอย่างที่ไหน เขียนให้เราปรากฏตัวครั้งแรกอายุสิบขวบ มาอีก
ตอน เหลืออายุห้าขวบ
Pae: แหม อย่าย้ำนักสิ จงใจครับ จงใจ ไม่ใช่กลอนพาไปรับรอง
ฮิโระ: เอ้า เรื่องต่อไป หากคนสังเกตสักหน่อย จะพบว่าเจ้าเน้นชื่อ
“ลิตเติลสโนว์” เหลือเกิน ตัวละครตัวนี้ปรากฏแต่ชื่อมาหลายครั้งแล้ว
Pae: แหม ใจเย็น ๆ สิ ยังไม่ถึงคิวครับ
ฮิโระ: แล้วก็ไอร่า… นางเป็นใครกันแน่ (สังหรณ์ไม่ดีเลย)
Pae: จุ๊ ๆ ถึงเวลาก็รู้เองขอรับ ว่าแต่ ท่านผู้อ่านถูกใจร้อยแก้วกึ่งร้อย
กรองที่ผมพยายามแต่งไหมครับ จุดประสงค์ก็ไม่มีอะไรมาก แค่
ต้องการทำให้บทนี้ อ้อ สองบทสิ ต่างกับบทอื่น ๆ บ้าง เพราะเป็นบท
เปิดตัว ทูตสวรรค์ นามไอร่าผู้นี้ครับ ไม่ต้องพยายามอ่านเป็นกลอน
นะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้เป็นกลอนแต่แรกแล้ว จะออกไปทาง
“ร่าย” ซะมากกว่า
ฮิโระ: ฮึ ได้ข่าวว่า เจ้าเขียนร่ายทั้งสองตอนแบบลวก ๆ ในเวลาไม่ถึง
สิบนาทีไม่ใช่รึ?
Pae: อ๊าย อะไรจะปานนั้น ไปได้ยินจากไหนมา ไม่จริงครับ ไม่จริง
(^^;;; ผมไม่เก่งถึงขั้นนั้นหรอกครับ (อยากทำอยู่หรอก
)
ฮิโระ: ก็แล้วไปสิ
Pae: อีกเรื่องที่จะชี้แจงละกัน เกม Spectral Force จริง ๆ เป็นเกมซิมู
เลชันของการทำสงคราม ตามเกมแล้ว ถ้าเป็นเวอร์ชัน Spectral
Force: Aira Kourin บนพีซีแล้ว จำนวนทหารจะเป็นปัจจัยสำคัญสุด
ครับ เป็นไปได้ยากมากที่ฝ่ายที่มีทหารแค่ร้อยห้าสิบแถมแยกเป็นสอง
กอง จะต้านทัพอีกฝ่ายที่มีกำลังรวมหกร้อยห้าสิบได้ โดยที่ขุนพลผู้
เป็นแม่ทัพทั้งสองฝ่ายมีฝีมือพอ ๆ กัน (บทศึกป้องกันนีโอกลาดนั่น
เอง) แต่…สำหรับเวอร์ชันของ Spectral Force 2 กับ Itoshiki Jaaku
นั้น จะให้ความสำคัญกับท่าไม้ตายของแม่ทัพและพารามิเตอร์ที่เรียก
ว่า “ขวัญ” ของทหารมากกว่า เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ที่ฝ่ายน้อยกว่า
จะพลิกชนะนั้น เป็นไปได้ครับ
ฮิโระ: อืมห์… มีท่าไม้ตายที่ร้ายแรงกว่ามะโชเรนโกะกุของเราอีกรึ?
Pae: เสียใจด้วยขอรับองค์หญิง ที่ต้องบอกว่า…มี
ฮิโระ: …
Pae: เอ… องค์หญิงช็อกไปซะแล้ว เอาเป็นว่าถ้อยแถลงครั้งแรกของ
เรื่องนี้ จบไว้เพียงเท่านี้ก่อนละกันนะครับ ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้า
จะมาพร้อมกับการเฉลยปริศนาหลาย ๆ อย่าง … เมื่อเนื้อเรื่องดำเนิน
ไปถึงตรงนั้นแล้วนะ สวัสดีครับ
ฮิโระ: ….มีใครมาหาแน่ะ
Pae: เอ๊ะ (ทำท่าจะหันไปดู) อ๊ากกกกก
???: อีตา Pae เมื่อไรจะเขียนถึงวีรกรรมของฉันสักที หาาาาาาา รอมา
เป็นปีแล้วเนี่ยยยยยย ทีภาคโคะจิโร่เขียนเอา เขียนเอา
Pae: อ๊าก … (เจ๊มะรินะนั่นเอง ไหงมาโผล่แถวนี้ได้)
มะรินะ: จะเขียนแต่โดยดีไหม หือออออ (บีบ ๆ ขยุ้ม ๆ ที่คอนะจ๊ะ
อย่าคิดมาก)
Pae: อ๊าก….มันยากอะ ผมม่ายช่ายผู้หญิงนี่
มะรินะ: ไปตายไปอีตานักเขียนสมัครเล่นที่ไม่เจียมตัวนี่ (ออกแรงบีบ
คอมากขึ้น)
Pae: อ๊ากกกกกก ฮงหิง ฮ่วยฮ่วย (องค์หญิง ช่วยด้วย)
ฮิโระ: กรรมใดใครก่อ… สาธุ อุเบกขา อุเบกขา (คือ การวางเฉยต่อ
กรรมของสัตว์โลก
)

ปิดฉากจ้า ถ้าเจ๊มะรินะไม่ฆ่าผู้เขียนไปซะก่อน คงได้มีโอกาสมาพบ กันใหม่ครับ


+++กลับไปอ่านตอนที่แล้ว+++กลับไปหน้าสารบัญ+++ไปอ่านตอนต่อไป
1