มหากาพย์สงครามเนฟเวอร์แลนด์

ภาคหนึ่ง เจ้าหญิงแห่งทัพอสูรใหม่

สถาปนา (2)

“โอ! เจ้าหญิง”

“เจ้าหญิงจริง ๆ ด้วย”

“เจ้าหญิงกลับมาแล้ว”

ฯลฯ

เสียงพึมพำหลายสิบหลายร้อยเสียงดังกระหึ่มขึ้นทันทีที่เจ้าหญิงอสูรย่างเท้าเข้าไปในท้องพระโรงของปราสาทนีโอกลาด

แวบหนึ่งที่ภาพแห่งความหลัง- วาระสุดท้ายของจอมราชันย์อสูรจาเนสและยมทูตแห่งความตายพลานาผุดขึ้นมาในสมอง แต่ก็เพียงแวบเดียวก็จางหายไป ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าจริง ๆ คือ ราชบัลลังก์แห่งจอมราชันย์อสูรที่ตั้งเด่นสง่าอยู่ตรงหน้า เด็กสาวเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าบัลลังก์นั้น ก่อนจะหันหลังกลับ กวาดตามองไปรอบท้องพระโรง เพื่อพบว่าสามสหายต่างเผ่าพันธุ์ ซาโต้, ซากิฟอนและชิกกำลังยืนเรียงรายอยู่ไม่ห่างไปนัก และด้วยประสาทที่หกของทุกคน ย่อมรู้ดีว่า ในห้องนี้ยังมีบุคคลอื่นอีก

ฮิโระทรุดกายลงนั่งบนบัลลังก์ ทันใดนั้นเอง บรรยากาศเบื้องนอกก็มืดสลัวลงกระทันหัน จากหน้าต่างของท้องพระโรง สังเกตได้ว่าเกิดแสงสว่างวาบขึ้นเบื้องนอกสามสี่ครั้ง เมื่อสายอสนีบาตครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลง บริเวณท้องพระโรงนั้นก็คราคร่ำไปด้วยเหล่าปิศาจชั้นสูงและเหล่าอสูรซึ่งพากันหมอบกายลงแสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อผู้ที่นั่งบนบัลลังก์นั้น

“พวกเจ้า…” ฮิโระพูดเสียงกังวาน แต่ก็ไม่สามารถนึกคำพูดต่อไปได้

“พวกข้าพเจ้า เฝ้ารอวันนี้มานานแล้ว เจ้าหญิงฮิโระ” อสูรชั้นสูงตนหนึ่งเป็นตัวแทนของทั้งหมดกล่าวแก่ฮิโระ “เจ้าหญิงกรุณากลับมาเป็นประมุขแห่งเผ่าพันธุ์ของพวกเราใช่ไหมขอรับ”

“เราไม่เคยคิดทิ้งนีโอกลาดไปไหน”

“โอ…” เสียงพึมพำดังกระหึ่มขึ้น บรรดาอสูรและปิศาจในท้องพระโรงต่างพากันกล่าวปฏิญานถวายชีวิตต่อเจ้าเหนือหัวคนใหม่ของพวกเขา

เมื่อสรรพเสียงเหล่านั้นสิ้นสุดลง ฮิโระก็กล่าวตอบว่า

“เราขอบใจพวกเจ้าที่ให้การจงรักภักดีต่อเรา และเรามีความภูมิใจที่พวกเจ้ายังคงมีความเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของพวกเราชนเผ่าอสูร แต่ขอให้พวกเจ้ารับรู้ว่า การกลับมาของเราในครั้งนี้ มิได้หมายถึงความสงบสุขหรือสันติสุขของพวกเจ้า…”

บรรดาอสูรเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่พวกเขาเพิ่งถวายความจงรักภักดีไปหยก ๆ อย่างตื่นตระหนก เสียงฮิโระพูดต่อว่า

“เราจะจัดตั้งกองทัพอสูรสายเลือดใหม่ขึ้น และประกาศสงครามกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ และหากจำเป็น… ก็พร้อมที่จะประกาศสงครามกับทั้งเนฟเวอร์แลนด์!!!”

“โอ!!!” เสียงอุทานดังกระหึ่มขึ้น

“วันใดที่เนฟเวอร์แลนด์รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ภายใต้ธงสัญลักษณ์ของนีโอกลาด วันนั้นจึงจะเป็นวันที่เนฟเวอร์แลนด์จะเปลี่ยนวิธีนับปีปฏิทิน”

หมายความของประโยคนี้คือ ฮิโระจะยังไม่เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็น ‘จอมอสูร’ องค์ใหม่ ทั้งนี้ปีปฏิทินที่ใช้นับกันขณะนี้เริ่มนับจากปีที่จอมราชันย์อสูรจาเนสอุบัติขึ้นบนพื้นพิภพนั่นเอง

“พวกเจ้าพร้อมที่จะฝ่าฟันความยากลำบากแสนสาหัสนี้กับเราหรือไม่”

“พวกข้าพเจ้าขอถวายชีวิตให้แก่เจ้าหญิงขอรับ!!!” เป็นคำตอบอันหนักแน่นจากตัวแทนของเหล่าอสูร และตามด้วยเสียงขานรับดังกระหึ่มจากอสูรและปิศาจทุกตนในท้องพระโรงนั้น

“อสูรชั้นกลางและปิศาจ รวมทั้งเหล่าทหารผีสเกลตัน จงอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเราโดยตรง” เป็นคำสั่งถัดไปจากประมุขคนใหม่แห่งนีโอกลาด

“ขอรับ” เป็นเสียงตอบรับจากปิศาจโครงกระดูกตนหนึ่งซึ่งเป็นแม่ทัพนายกองของกองทหารแห่งนีโอกลาดเดิม เขารายงานต่อว่า “ขณะนี้ กำลังกองทหารปิศาจของเราแปดร้อยห้าสิบตนขอรับ”

“อสูรอื่น ๆ จงอยู่ในหน่วยงานสนับสนุนเหมือนกับที่พวกเจ้าเคยอยู่มาก่อน”

งานสำคัญในราชการแผ่นดิน นอกจากงานด้านการทหารแล้ว ยังมีการปกครองภายในแคว้น เรื่องของการขุดหาทรัพยากรและการจัดการเสบียง, การจัดเก็บภาษี, การก่อสร้างกำแพงเขตแดนและแนวป้องกัน รวมทั้งงานด้านการทูต

“และเราขอแนะนำพวกเจ้าให้รู้จักกับสหายต่างเผ่าพันธุ์ของเรา … ชิก เราแต่งตั้งเจ้าเป็นที่ปรึกษาของเราทั้งด้านการทหารและราชการแผ่นดิน”

“ครับ องค์หญิง” ชิกย่อตัวลงคุกเข่าข้างเดียวตามแบบฉบับการแสดงความเคารพของมนุษย์ แปลกเหลือเกินที่แม้เขาตกเป็นเป้าสายตาของอสูรทุกตนในที่นั้น แต่เขากลับรู้ตัวดีว่า ไม่มีสายตาใดแสดงถึงความรังเกียจเดียดฉันท์ในฐานะที่เขาเป็นชนต่างเผ่าพันธุ์เลยแม้แต่น้อย บางทีนี่อาจเป็นข้อดีของเผ่าอสูรกระมัง นั่นคือ เมื่อให้ความจงรักภักดีต่อเจ้าชีวิตไปแล้ว หากเจ้าชีวิตสั่งเช่นใดก็พร้อมจะปฏิบัติตามได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเมื่อเจ้าชีวิตแต่งตั้ง ‘มนุษย์แปลกหน้า’ อย่างเขาให้ได้ดิบได้ดีถึงเพียงนี้ก็ตาม

“ซาโต้ เจ้าเป็นนายกองนินจา ส่วนซากิฟอนเป็นนายกองอัศวิน ถึงแม้ว่ากำลังพลของพวกเจ้ายังมีน้อยอยู่ในตอนนี้ เราหวังว่าเมื่อแคว้นนีโอกลาดเราขยายอาณาเขตออกไป เจ้าทั้งสองจะมีโอกาสระดมพลได้มากขึ้น”

“ขอรับ” “รับทราบขอรับ”

หัวหน้านินจาและหัวหน้าอัศวินคนใหม่ทรุดกายลงแสดงความเคารพและเข้ารับตำแหน่ง ณ ขณะนี้ กำลังพลนินจาภายใต้การนำของซาโต้มีหนึ่งร้อยคนและอัศวินภายใต้การนำของซากิฟอนมีห้าสิบคน ทั้งหมดล้วนเป็นบุคคลที่หนีมาจากโลกของมนุษย์ด้วยเหตุผลและภูมิหลังที่แตกต่างกันไปจนกระทั่งมารวมกันอยู่ภายใต้การนำของบุคคลทั้งสองนี้

และ นี่คือกำเนิดของกองทัพอสูรสายเลือดใหม่แห่งนีโอกลาด อันนำโดยเจ้าหญิงฮิโระ

ขณะนั้น ปีอสุรศักราชที่ 997 เดือน 1

…


back index next
1