มหากาพย์สงครามเนฟเวอร์แลนด์

ภาคหนึ่ง เจ้าหญิงแห่งทัพอสูรใหม่

ปฐมศึก: โดฟานแห่งกองกำลังอัศวินโรซ่า

“ข้าคือโดฟาน หัวหน้ากองกำลังโรซ่าและเป็นเจ้าครองแคว้นโททัสบูร์ก ใครเป็นผู้นำทัพจงออกมาเดี๋ยวนี้”

ร่างของโดฟานในชุดเสื้อเกราะอัศวินสีเดียวกับสีผม นั่งเด่นบนหลังม้าก้าวพ้นออกจากแถวทหารอัศวินของเขา ส่งเสียงกังวานไปทั่วท้องทุ่งกว้างซึ่งบัดนี้กองกำลังทั้งสองฝ่ายตั้งประจันกันอยู่ ฝ่ายผู้บุกรุกประกอบด้วยพลทหารผีโครงกระดูกจำนวนแปดร้อยห้าสิบ (สายสืบของอัศวินโรซ่าประเมินผิดเป็นเก้าร้อย) เป็นพลเดินเท้าทั้งหมดคงมีเพียงนายกองจำนวนหนึ่งที่อยู่บนหลังม้า ส่วนทางฝ่ายเจ้าบ้านทุกคนอยู่บนหลังม้ามีทั้งหมดสามร้อยนาย เสื้อเกราะวาววับและมีตราดอกกุหลาบสีแดงประดับบนหน้าอก

“เราคือฮิโระ แห่งกองทัพอสูรสายเลือดใหม่” ฮิโระควบม้าออกมาจากกองทัพของตนเช่นกัน เสียงของเธอก้องกังวานไปทั่วทุ่งด้วยพลังเวทย์อันสูงส่งในกาย “เรามาเพื่อทวงถามพื้นที่นี้คืนจากพวกเจ้า มนุษย์เอย”

“โอ้ รูปก็งาม น้ำเสียงก็ไพเราะ แต่ทำไมเนื้อหาที่พูดรุนแรงเหลือเกิน แม่นาง” โดฟานย่างเท้า (ม้า) เข้าใกล้ฮิโระเข้าไปอีก สายตาของเขาจับจ้องที่ใบหน้าเด็กสาวอย่างตื่นตะลึง บอกกับตัวเองว่า น่าเสียดายเหลือเกินที่เด็กสาวตรงหน้าเป็นอสูร เขาเองยังไม่เคยพบหญิงสาวชาวมนุษย์คนใดที่มีหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักอย่างเจ้าหญิงอสูรคนนี้ได้เลย

“…” ฮิโระหน้าเครียดลงทันที กระแทกบังโกลนที่สีข้างของม้าให้มันมุ่งหน้าตรงเข้าหาโดฟาน “เจ้ามนุษย์ปากเสียหยุดคำพูดต่ำ ๆ ของเจ้าเสีย ที่นี่คือสมรภูมิรบ อย่างน้อยก็ให้เกียรติแก่เพื่อน ‘ร่วมตาย’ ของเจ้าบ้าง”

“โอ๊ะโอ๋ ใบหน้าตอนโกรธก็น่ารักไปอีกแบบ” โดฟานยังไม่มีทีท่าจะสำนึกตัว แต่แท้จริงแล้วเขากำลังกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ฮิโระชักม้าออกมาห่างจากกองทัพของตนเองเกินไปแล้ว ในขณะที่ตัวเขานั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างจากกำลังของตนเช่นกัน แต่อย่าลืมข้อเท็จจริงว่าทหารของเขาที่นำมาในตอนนี้เป็นกองกำลังทหารม้าทั้งหมดซึ่งเขาอาศัยจุดเด่นในด้านความเร็วของทหารม้ามาเป็นจุดได้เปรียบในการศึกนั่นเอง และตามการคาดการณ์ของเขา อีกครึ่งชั่วโมงทหารเดินเท้าของเขาอีกสามร้อยคนก็จะตามมาสมทบ และนั่นจะเป็นการเปิดศึกบดขยี้กับกองทัพอสูรใหม่อย่าง จริงจังล่ะ- ทั้งหมดนี้เป็นแผนที่เขาวางไว้คร่าว ๆ ในตอนแรก แต่ในบัดนี้ ดูท่าว่าจะไม่ต้องรอจนถึงตอนนั้นแล้วกระมัง

“ถ้าเจ้าต้องการแคว้นโททัสบูร์กคืน ก็ส่งตัวเจ้าเองมาแลกเถิด อสูรน้อย” โดฟานเปิดศึกน้ำลายต่อไปอีก

“รนหาที่เองนะ เราจะทำให้เจ้าพูดไม่ได้อีกต่อไป!”

ฮิโระหยุดม้าลงยกเคียวเกทออฟเฮฟเวนขึ้นชูฟ้าด้วยแขนขวาข้างเดียวแล้วลดระดับลงชี้ปลายไปทางด้านหน้าอันเป็นทิศทางของทัพศัตรูเบื้องหน้า นี่เป็นสัญลักษณ์ประจันบาญนั่นเอง ทัพอสูรด้านหลังส่งเสียงโห่ร้องเอาฤกษ์เอาชัยแล้วเริ่มออกวิ่งตรงเข้ามาทันที

“ฮึ ช้าไปเสียแล้ว ลุย” โดฟานกระตุ้นม้าวิ่งเข้าหาฮิโระทันที โดยที่เขาไม่ต้องให้สัญญานอีก ทัพอัศวินบนหลังม้าทั้งสามร้อยพุ่งตรงเข้ามาในเวลาเดียวกัน ด้วยความเร็วของฝ่ายเขา เขามั่นใจว่าจะเผด็จศึกได้แน่นอน เพราะเป้าหมายของเขาก็คือ ตัวผู้นำทัพฝ่ายตรงข้าม

“ตายเสียเถิด แม่นาง” โดฟานเงื้อดาบมาแต่ไกลพลางควบม้าเข้าหาเป้าหมาย

“ฮึ อย่างนี้นี่เอง” ฮิโระแสยะยิ้ม ใบหน้าทวีความน่ากลัวขึ้นผิดกับยามปกติราวขาวกับดำ รังสีอำมหิตที่แผ่ออกจากกายรุนแรงขึ้นจนกระทั่งม้าของโดฟานชะงักไปนิดหนึ่ง แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว

“อำนาจแห่งพระเพลิงอันสิงสถิตย์ในตัวข้า จงมารวมตัวกันด้วยอำนาจแห่งอสูรเถิด ไป! จงเผาผลาญศัตรูให้หมดสิ้น เพลิงนรกอสูรโลกันต์ (มะโช เรนโกกุ)!”

ขาดคำร่ายเวทย์ อสูรสาวก็ยื่นมือซ้ายอันอัปลักษณ์ของตนไปเบื้องหน้าโดยคว่ำมือไว้ ดวงตาบนหลังมือซ้ายซึ่งมีรูปร่างเป็นหัวกระโหลกก็สว่างวาบขึ้นเป็นสีแดง แล้วก็บังเกิดเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งแผ่ออกไปด้านหน้าตรงเข้าหาเหล่าทัพอัศวินที่กำลังดาหน้ากันเข้ามา

“ฟู่” “อ๊ะ” “…” “โอ๊ววววว”

เพลิงนรกอสูรโลกันต์ ท่าไม้ตายอันดับหนึ่งของฮิโระสำแดงอานุภาพแล้ว เสียงของมันแหวกว่ายผ่านอากาศดังก้องไปทั่วบริเวณ โดฟานซึ่งเป็นเป้าหมายแรกสุดอุทานอย่างตกใจก่อนที่จะถีบตัวลอยขึ้นจากหลังม้าหลบรอดจากเพลิงนั้นอย่างหวุดหวิดแต่ร่างของเขาก็ลุกเป็นไฟด้วยเช่นกัน ส่วนม้าของเขาไม่ต้องพูดถึง ทันทีที่เปลวเพลิงพุ่งผ่านมันไป มันก็สลายไม่เหลือแม้แต่เถ้าถ่าน

อัศวินบนหลังม้าประมาณกว่าค่อนถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ในพริบตา พวกเขาเหล่านี้ไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้องโอดครวญเลยแม้แต่น้อย หากแต่ผู้ที่รอดชีวิตจากอำนาจพระอัคนีได้นั่นแหละจึงมีโอกาสได้ร้องด้วยความเจ็บปวด

การโจมตีครั้งแรกของฮิโระทำให้ทหารม้าอัศวินสามร้อยนาย เหลือเพียงอัศวินบาดเจ็บประมาณร้อยนายและม้าที่ใช้การไม่ได้อีกจำนวนพอกันเท่านั้น! แน่นอน พวกเขาต้องลงจากหลังม้า

สถานการณ์พลิกผันในพริบตา โดฟานซึ่งตกลงบนพื้นและรวบรวมพลังเวทย์อันน้อยนิดในกายดับไฟที่ติดอยู่ที่ร่างอย่างทุลักทุเลตระหนักถึงความพ่ายแพ้ของตนทันที จบกัน เขาวางแผนพลาดเอง มัวแต่คำนึงถึงกำลังผีโครงกระดูกเก้าร้อยที่ได้รับรายงานมา ทำให้เขาพยายามดึงเวลาในการสู้รบให้เป็นตอนเที่ยงวัน จึงได้เตรียมแผนยุทธการไว้แบบนี้โดยเป็นฝ่ายรุดมาตั้งรับที่ทุ่งกว้างแห่งนี้เสียเอง เพราะหวังว่าภายใต้แสงอาทิตย์อันแรงกล้า และบนลานกว้างอันเป็นสมรภูมิในแบบที่อัศวินถนัดนักหนาจะช่วยให้ชดเชยการเสียเปรียบในด้านกำลังทหารได้- หรืออาจจะพลิกมาเป็นฝ่ายมีเปรียบด้วยซ้ำ แต่นี่ ยังไม่ทันที่ไพร่พลของทั้งสองฝ่ายจะได้ประทะกันเลย กองทัพของเขาก็ถูกทำลายไปกว่าค่อนจากการลงมือเพียงครั้งเดียวของเจ้าหญิงอสูรผู้นี้ ช่างมีอิทธิฤทธิ์น่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน

“เสียใจด้วยนะ แผนของเจ้าใช้การไม่ได้เสียแล้ว” ฮิโระส่งเสียงมาจากบนหลังม้า ขณะนี้เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงสิบก้าว

“เจ้า…” อัศวินผมทองซึ่งบัดนี้ปลายผมบางส่วนถูกไฟเผาจนไหม้เกรียมพูดไม่ออก

“กว่ากำลังส่วนที่เหลือของเจ้าจะมาถึง เจ้าก็ตายเสียแล้วล่ะ” ฮิโระกระตุ้นม้าให้เดินเข้ามาช้า ๆ กองกำลังสเกลตันวิ่งผ่านตัวคนทั้งสองไป และตรงเข้าประทะกับอัศวินรอดตายที่กำลังละล้าละลังอยู่เบื้องหน้า พวกมันไม่ได้แยแสตัวหัวหน้าอัศวินเลยแม้แต่น้อย เสมือนรู้ดีว่า ‘เหยื่อ’ ชิ้นนี้เป็นของเจ้าชีวิตของพวกมัน

เสียงสับประยุทธเริ่มดังโหวกเหวกมาจากด้านหลังของโดฟาน แต่ผู้ที่ผ่านสมรภูมิเลือดอย่างโชกโชนแล้วเช่นเขามีหรือจะไม่ตระหนักว่า ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ มันเป็นการไล่ฆ่ากันฝ่ายเดียวเสียมากกว่า และผลแพ้ชนะก็คงจะออกมาในเวลาไม่นานนัก-ไม่สิ มันออกผลมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้วล่ะ

“เก็บดาบของเจ้าขึ้นมา” ฮิโระสปริงตัวลงจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว กระโปรงสีขาวของเธอพลิ้วตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเจ้าของบ้างแต่น้อยมากจนผิดปกติเสมือนกับว่ามันเป็นผ้าที่ทำจากโลหะ นี่ก็เป็นหลักฐานแสดงถึงพลังเวทย์ที่เปล่งออกจากตัวเด็กสาวชาวอสูรผู้นี้นั่นเอง

เด็กสาวอยู่ในชุดเสื้อกระโปรงธรรมดา ไม่ได้สวมใส่เกราะหรือเครื่องป้องกันใดพิเศษเลยอันแสดงถึงความมั่นใจในเชิงยุทธของตนอย่างสูงสุด โดฟานสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยความอดสูใจในความประมาทของตนที่ไม่วิเคราะห์กำลังความสามารถของคู่ต่อสู้ให้ดีเสียก่อน กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว

‘ฮึ ที่เหลือก็คือ เราจะตายยังไงจึงจะไม่เสียเกียรติแห่งอัศวิน- เท่านั้นแหละ’ โดฟานนึกเยาะตัวเองในใจ ขณะที่เดินตรงไปข้างหน้าสองสามก้าว ก้มกายลงเก็บดาบคู่มือของตนที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมา

“เข้ามา!” ฮิโระแกว่งเคียวครั้งหนึ่งก่อนกระแทกด้ามมันลงยันพื้นอย่างแสดงความเหนือกว่า “เรา ฮิโระเจ้าหญิงแห่งทัพอสูรใหม่ขอส่งดวงวิญญานเจ้าสู่ปรภพเอง”

“ฮึ่ม ลองนี่ดูหน่อยละกัน ‘องค์หญิงอสูร’” โดฟานย่อตัวลงเตรียมพร้อมจะใช้ท่าไม้ตายของเขาเช่นกัน “ดาบเล็บมังกร (ริวโซซัน)”

เขาฟาดฟันดาบใส่อากาศตรงหน้าอย่างหนักหน่วงรวดเร็วคมดาบที่แหวกว่ายผ่านอากาศก่อให้เกิดคลื่นสุญญากาศขึ้นและเมื่อได้รับแรงเสริมจากพลังเวทย์ในกายของโดฟาน คลื่นสุญญากาศนั้นก็พุ่งตรงเข้าหาคู่ต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้าทันที

“ฟิ้ว”

“ฮึ” ฮิโระกระแทกหมัดซ้ายตรงไปข้างหน้า คราวนี้เป็นการบังคับพลังเวทย์ส่วนหนึ่งสร้างเป็นเกราะกำบังหรือ‘บาเรีย’ ขึ้นตรงหน้า ในที่นี้บาเรียเกิดจากการอัดอากาศด้วยความดันสูงเกิดเป็นแหล่งความกดอากาศสูง เมื่อคลื่นสุญญากาศวิ่งมาชนกับแหล่งความกดอากาศสูงนี้ มันก็ถูกสลายไป ทิ้งไว้แต่เสียงระเบิดดังกึกก้องและพื้นดินบางส่วนที่ประทุกระจายขึ้นเบื้องหน้าของฮิโระเท่านั้น

“ย้าก” โดฟานเองใช่ว่าจะไม่รู้ถึงวิธีตั้งรับท่าไม้ตายประเภทคลื่นสุญญากาศแบบนี้ เขาดีดตัวพุ่งเข้าหาเด็กสาวต่างเผ่าพันธุ์ทันทีที่ตระหนักว่าท่าไม้ตายของตนถูกทำลายลง ดาบในมือของอัศวินชาวมนุษย์ถูกหวดเข้าใส่คู่ต่อสู้อย่างรุนแรง

“เคร้ง”

เสียงประทะกันของโลหะดังสนั่น ฮิโระยกด้ามเคียวขึ้นรับคมดาบของโดฟานทั้งสองประลองกำลังกันอึดใจหนึ่งก่อนที่ฝ่ายอสูรจะตวัดเท้าใส่ท้องน้อยของอีกฝ่ายจนกระเด็นไป

“พลั่ก” “อั้ก”

แต่โดฟานก็ใช่ย่อย ร่างของเขาปรับตัวได้สมดุลก่อนที่จะตกถึงพื้นทำให้เขายั้งตัวยืนอยู่ได้ แต่ทางฝ่ายคู่มือของเขาก็ไม่ใช่มืออ่อนหัดจนขนาดที่จะปล่อยโอกาสทองนี้หลุดมือไป เคียวเกทออฟเฮฟเวนถูกกวัดแกว่งเข้าโจมตีเป็นชุดอย่างต่อเนื่อง จนอัศวินหนุ่มได้แต่คอยตั้งรับ เขาได้แต่นึกประหลาดใจว่า เหตุไฉนเด็กสาวเบื้องหน้าจึงสามารถกวัดแกว่งเคียวด้ามยาวที่ดูเทอะทะนี้ได้ว่องไวเช่นนี้ ไวกว่าดาบของเขาอยู่ระดับหนึ่ง และหากสถานการณ์ยังไม่มีอะไรพลิกผัน เขาจะตามป้องกันตัวเองจากคมเคียวนี้ไม่ทันอย่างแน่นอน และดูเหมือนว่าในที่สุดวินาทีนั้นก็มาถึง

ดวงตาของฮิโระเปล่งประกายขึ้นแวบหนึ่งเมื่อรับรู้ได้ถึง‘วินาทีสังหาร’ นั้นเช่นกัน

“…” “…”

คมเคียวถูกตวัดพุ่งเข้าไปบริเวณลำตัวของโดฟาน อัศวินหนุ่มพลิกดาบไปหมายจะรับไว้ด้วยความหวังเลือนรางเต็มที เพราะรู้แก่ใจว่ามัน ‘ช้าไปครึ่งกระบวน’

เสียงดัง “เคร้ง” เมื่อคมเคียวประทะกับคมดาบอีกครั้งก่อนที่ดาบซึ่งไม่อยู่ในตำแหน่งที่สมบูรณ์อันเนื่องจากเจ้าของพลิกมันมาตั้งรับได้ช้าเกินไปมีอันต้องกระเด็นหลุดมือไปออกไปอีกครั้ง

“ฉัวะ!” “อั้ก!”

ดังขึ้นติด ๆ กันคือเสียงร้องของอัศวินเจ้าครองแคว้นโททัสบูร์กพร้อมกับที่เลือดสด ๆ ไหลพุ่งทะลักเป็นสายดุจน้ำพุออกจากทรวงอกของเขา อา! เขาตกเป็นเหยื่อสังเวยให้กับคมของเกทออฟเฮฟเว่นเข้าให้แล้ว

ใบเคียวกระแทกดาบของเขากระเด็นไปพร้อมกับที่มันพุ่งเข้าบาดลึกทะลวงเสื้อเกราะที่เขาสวมใส่อยู่ แน่นอน หากไม่มีเกราะไว้ช่วยผ่อนแรงแล้ว ป่านนี้ร่างของเขาคงขาดสองท่อนไปตั้งแต่วินาทีนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันก็เพียงแค่ช่วยยืดอายุเขาไปอีกหน่อยหนึ่งเท่านั้น เมื่อเคียวเกทออฟเฮฟเว่นถูกพลิกอีกครั้งอย่างรวดเร็ว คราวนี้มันพุ่งเข้ามาโดยมีเป้าหมายที่ลำคอของโดฟาน และในพริบตาถัดมาศีรษะของอัศวินหนุ่มก็หลุดออกจากบ่า…อย่างแน่นอนถ้าไม่ใช่เพราะ…

“ฟิ้ว” “…”

หอกซัดเล่มหนึ่งพุ่งตรงเข้าหาฮิโระอย่างแม่นยำ เด็กสาวพลิกปลายด้ามเคียวขึ้นปัดเบนวิถีของมันพ้นร่างของเธอไปได้อย่างหวุดหวิด แต่กระนั้นในยามวิกฤติของชีวิตเช่นนี้ก็ไม่มีเสียงอุทานด้วยความตระหนกหลุดลอดออกจากริมฝีปากน้อย ๆ คู่นั้น


back index next
1