มหากาพย์สงครามเนฟเวอร์แลนด์

ภาคหนึ่ง เจ้าหญิงแห่งทัพอสูรใหม่

ปฐมศึก: ยอดขุนพลลูเซย์เดอร์

“ท่านโดฟาน!”

เสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น พร้อมกับเจ้าของร่างในชุดสีดำควบม้าฝ่าดงทหารผีโครงกระดูกเข้ามา ลิ่วล้อของฝ่ายกองทัพอสูรล้มตายแตกฮือเป็นแนวยาวปล่อยให้ชายผู้มาใหม่ทะลวงเข้ามาได้ เบื้องหน้าไกลออกไป เสียงสัปประยุทธ เสียงโห่ร้องดังระงมขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เริ่มซาไปได้ชั่วครู่

“ลูเซย์เดอร์!”

โดฟานอุทานชื่อผู้ช่วยชีวิตของตนไว้อย่างตื่นเต้น ร่างของเขาทรุดลงไปคุกเข่าข้างเดียวกับพื้นด้วยความเพลียทั้งจากการสู้รบที่สุดแสนวิกฤติและจากการเสียเลือดด้วย ร่างของเขาบัดนี้แดงฉานไปค่อนร่างด้วยเลือดจากบริเวณทรวงอกที่ไหลรินไม่หยุด

“ฮึ กองหนุนมาทันจนได้หรือ” ฮิโระเข้าใจสถานการณ์ทันที “จัดรูปขบวนใหม่!”

สุดท้ายเป็นการสั่งความไปยังไพร่พลของตน

นายกองปิศาจซึ่งคอยควบคุมไพร่พลอยู่และคอยประจำอยู่ในระยะไม่ห่างจากตัวแม่ทัพของมันมากนัก เริ่มถ่ายทอดคำสั่งลงไปทันที พลธงซึ่งประจำอยู่แนวหลังเริ่มโบกธงสัญญานไหวพลิ้วถี่ยิบ เบื้องหน้าไปเสียงอลหม่าน เสียงตะโกนโหวกเหวก เสียงศัตราวุธประทะกัน เสียงฝีเท้าฯลฯ ดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นที่ตลบอยู่ทางเบื้องหน้าลิบ ๆ แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ฮิโระประมวลถานการณ์ไว้เป็นจริง นั่นคือ กองหนุนซึ่งเป็นพวกอัศวินที่เป็นพลเดินเท้าของทัพอัศวินโรซ่าได้ตามมาสมทบแล้ว จากรูปการณ์และจากการสำรวจด้วยจิตของฮิโระเองประมาณได้ว่ากองหนุนที่มาใหม่คงมีกำลังราว ๆ สี่ร้อยคนในขณะที่อัศวินบนหลังม้าที่มากับโดฟานตั้งแต่ตอนแรกคงเสียชีวิตเกือบหมดไปแล้ว

ในช่วงนี้ อัศวินชุดดำก็เข้าถึงตัวของเจ้านายของเขาเช่นกันเขาโดดลงหลังม้าอย่างรีบเร่ง ตรงเข้าประคองนายหนุ่มเอาไว้

“เป็นไงบ้าง ท่านโดฟาน”

“… ก็เอาการอยู่” หัวหน้าอัศวินยังมีสติดีอยู่ “ข้าประมาทไปหน่อย เจ้ามาเร็วดีนี่”

“ข้าสังหรณ์ใจไม่ดี เลยรีบเร่งทัพมา พบกับพวกทัพหลังของท่านเมื่อครู่นี้เอง” เป็นคำตอบของอัศวินชุดดำ “ท่านบาดเจ็บมากรีบถอนตัวออกจากสนามรบไปก่อนเถอะ”

เขาไม่ใช้คำว่า ‘หนี’ ตรง ๆ

“ฮึ คงยาก นางไม่ใช่มือใหม่ที่จะปล่อยให้เราหนีกลับปราสาทได้ง่าย ๆ”

หากพวกเขาถอยทัพกลับปราสาทได้ แน่นอน การรบก็จะยืดเยื้อไปอีก เพราะฝ่ายตั้งรับสามารถกบดานในปราสาทได้ และการบุกโจมตีป้อมปราการของปราสาทที่มีการก่อสร้างดี ๆ นั้น แม้แต่กองทัพที่เกรียงไกร มีทหารที่กล้าหาญชาญชัยและมีแม่ทัพที่เก่งกล้าก็ยังต้องส่ายหน้า หากเลือกได้ ฝ่ายบุกเลือกที่จะเผด็จศึกให้เด็ดขาดบนสนามรบมากกว่า

“ถูกต้องแล้ว พวกเจ้าต้องตายในทุ่งนี้แหละ อัศวินชาวมนุษย์เอย”

เสียงฮิโระดังขัดขึ้นมา บัดนี้เธอขึ้นไปอยู่บนหลังม้าอีกครั้งในท่ามกลางเหล่านายกองปิศาจที่ห้อมล้อมอยู่ไกลออกไป

ลูเซย์เดอร์หันไปมองผู้นำทัพข้าศึกอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก ในใจอดชื่นชมในความสามารถของ ‘เด็กสาว’ ตรงหน้าไม่ได้ เขารู้ขีดความสามารถของเจ้านายของตนดี และ ‘เด็กสาว’ ตรงหน้าย่อมไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอนที่สามารถทำให้นายของเขาพ่ายแพ้จนหมดรูปได้ถึงเพียงนี้

“ท่านลูเซย์เดอร์ ท่านโดฟาน”

เสียงเรียกมนุษย์ทั้งสองดังขึ้นจากเบื้องหลังสามสี่เสียง เมื่อลูเซย์เดอร์หันไปมองก็พบว่าทหารของตนประมาณสิบนายฝ่าวงล้อมเข้ามาสมทบ

เขาถือโอกาสนี้สำรวจสภาพสนามรบก็พบว่า กำลังผีโครงกระดูกแห่งทัพอสูรใหม่จัดรูปขบวนใหม่จนเกือบจะสำเร็จแล้วทั้ง ๆ ที่เมื่อสักไม่กี่อึดใจก่อนหน้าทั้งสองฝ่ายยังตะลุมบอนกันอยู่แท้ ๆ นี่ย่อมแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบังคับบัญชาของกองทัพอสูรใหม่รวมทั้งปฏิภาณในการสั่งการของผู้นำทัพได้เป็นอย่างดี เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นว่า รูปขบวนใหม่ของทัพอสูรใหม่คือ รูปขบวน ‘ก้ามปู’ ปีกทั้งสองด้านทอดยาวโอบล้อมทัพของเขาอยู่ระหว่างก้ามทั้งสองด้านนั้น โดยที่ตัวเขาเอง โดฟานและทหารที่เพิ่งฝ่าเข้ามาสมทบอีกประมาณสิบนายนี้ตกอยู่ในใจกลางทัพข้าศึกบริเวณโคนของก้ามปูอย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่กำลังส่วนใหญ่ของเขาอยู่ห่างออกไปอีกพอสมควรโดยมีกำลังทหารผีโครงกระดูกคั่นกลาง ทัพอัศวินที่ถูกตัดขาดจากนายของตนเหล่านั้นกำลังวางตัวในรูปขบวน ‘วงเดือน’ ซึ่งเป็นรูปขบวนยุทธมาตรฐาน ขณะนั้น กำลังฝ่ายทัพอสูรใหม่แปดร้อยตน (อีกห้าสิบตนเสียชีวิตเนื่องจากการโจมตีกระทันหันของทัพหนุนที่มาพร้อมลูเซย์เดอร์) ฝ่ายอัศวินสามร้อยห้าสิบนาย (เป็นทัพหนุนทั้งหมด โดยที่ทัพทหารม้าเสียชีวิตหมดแต่แรกแล้วและทัพหนุนอันประกอบด้วยทหารของโดฟานสามร้อยและทหารของลูเซย์เดอร์หนึ่งร้อยได้เสียชีวิตไปจากการประทะรอบแรกประมาณห้าสิบ) ฝ่ายแรกกำลังรอคำสั่งจากแม่ทัพของตนว่าจะบุกเข้าตะลุมบอนอีกเมื่อไร ส่วนอีกฝ่าย เนื่องจากแม่ทัพทั้งสองถูกตัดขาดไปอยู่ในท่ามกลางทัพข้าศึก จึงทำได้เพียงจัดทัพรูปมาตรฐานรอตั้งรับอย่างเดียว

“บุก!” ฮิโระสั่งการณ์ทันที

อัศวินวัยกลางคนนึกชมในใจว่าเป็นการสั่งการณ์ที่เด็ดขาดมาก สถานการณ์ฝ่ายอสูรเป็นต่อทุกกรณี ไม่จำเป็นต้องมีการลังเลใด ๆ อีกแล้ว แน่นอนเป้าหมายของฝ่ายรุกคือการเผด็จศึกขั้นเด็ดขาดให้ได้

ส่วนฝ่ายเขานะหรือ…

“คุ้มกันท่านโดฟาน!” เขาหันไปสั่งทหารร่วมตายทั้งสิบกว่านายนั้น สองในนั้นตรงเข้าแบกร่างโดฟานซึ่งเริ่มจะไม่ได้สติขึ้นบนหลังม้าของลูเซย์เดอร์อย่างรู้หน้าที่ดี

คำสั่งต่อไปของอัศวินเจนสนามรบคือ “บุกไปข้างหน้า ตามข้ามา!”

เขาไม่ได้สั่งให้บุกย้อนกลับไปหากองทัพของตน หากแต่กลับมุ่งหน้าไปด้านหน้าคือวิ่งสวนกับทัพของผีโครงกระดูกที่กำลังดาหน้าเข้ามา นี่ดูเหมือนเป็นการกระทำที่บ้าบิ่นแต่แท้จริงแล้ว…

“อืมห์ คิดดีนี่”

ฮิโระเองยังอดที่จะหลุดปากชมการตัดสินใจครั้งนี้ของลูเซย์เดอร์ไม่ได้ ในสถานการณ์ที่ทัพของทั้งสองฝ่ายกำลังเคลื่อนที่เข้าหากันนั้น หากพวกลูเซย์เดอร์ซึ่งอยู่ในใจกลางทัพอสูรจะหันหลังกลับเพื่อวิ่งไปในทิศทางเดียวกับทัพอสูรไปหาทัพของตน ก็จะเป็นการเสี่ยงและรบลำบากมากเพราะต้องหันหลังให้ข้าศึก แต่ในเมื่อพวกเขาเองอยู่ตรงบริเวณตำแหน่งที่เป็นโคนก้ามปูในรูปขบวนยุทธ์ของทัพอสูรอยู่แล้ว หากพวกเขาบุกสวนไปทางด้านหน้า ระยะทางที่พวกเขาต้องตีฝ่าไปนั้นจะสั้นมากเพียงไม่เท่าไรก็จะสามารถตีฝ่าวงล้อมออกไปได้แล้ว… ถ้าไม่เสียชีวิตเสียก่อน

“ย้าก!”

คราวนี้ไม่เหมือนครั้งแรกที่ประทะกัน ทหารเลวของฝ่ายอสูรไม่ได้ละเว้นกลุ่มของลูเซย์เดอร์เหมือนกับที่ครั้งแรกพวกมันวิ่งผ่านตัวโดฟานอย่างไม่แยแสเพราะตระหนักว่านั่นเป็น “เหยื่อ” ของแม่ทัพของตน แต่สถานการณ์ตอนนี้มันต่างกันแล้ว ลูเซย์เดอร์และพวกต้องคอยประดาบกับทหารผีโครงกระดูกตนแล้วตนเล่าที่วิ่งสวนมาเพื่อพยายามป้องกันและพาโดฟานซึ่งตอนนี้หมดสติอยู่บนหลังม้าให้ฝ่าออกไปด้วยกันให้ได้ ลำพังการฝ่าพวกทหารเลวเหล่านี้ออกไปไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจสำหรับลูเซย์เดอร์เท่าไร หากแต่ที่เขาเป็นกังวลคือ เจ้าหญิงฮิโระนั่นเอง และก็เป็นไปตามคาดเมื่อม้าของฮิโระวิ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับที่เคียวเกทออฟเฮฟเว่นถูกเงื้อขึ้นสูง

“ฉับ!” “ฉับ!”

อัศวินที่นำหน้าสองคนถูกเกี่ยววิญญานออกจากร่างในพริบตา ลูเซย์เดอร์ตัดสินใจในทันที

“ข้าอัศวินลูเซย์เดอร์แห่งทัพอัศวินโรซ่า ขอรับทราบกระบวนดาบขององค์หญิงฮิโระแห่งทัพอสูรด้วย”

เขาร้องท้าออกไปทันที เด็กสาวชาวอสูรบนหลังม้าชะงักไปนิดหนึ่ง สายตาทั้งสองคู่สบตากันจัง ๆ เป็นครั้งแรก ก่อนที่ฮิโระจะแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว หากแต่ลึกลงไปในความน่ากลัวนั้นอัศวินชุดดำไม่แน่ใจว่ามันเป็นความรู้สึกพอใจหรือสบอารมณ์หรือเปล่า เสียงจากเจ้าหญิงอสูรตอบมาว่า

“ได้ เรารับคำท้าเจ้า”

พร้อมกับที่ร่างของเธอพลิ้วกระโดดลงจากหลังม้าอีกครั้งหนึ่ง ลงมายืนเบื้องหน้าของลูเซย์เดอร์ ทั้งสองฝ่ายยืนนิ่งกันอีกหนึ่งอึดใจก่อนที่ฮิโระจะกระแทกด้ามเคียวปักลงบนพื้นดินข้างตัวแล้วละมือขวามาชักดาบที่สะพายอยู่ที่เอวออกมา

ลูเซย์เดอร์ถึงกับตื้นตันไปชั่วขณะ เขาไม่นึกเลยว่า องค์หญิงแห่งอสูรจะให้เกียรติขุนพลธรรมดา ๆ คนหนึ่งอย่างเขาถึงเพียงนี้ ตอนแรกเขาหวังเพียงสามารถเบนความสนใจของอีกฝ่ายให้มาอยู่ที่ตนก็พอแล้วเพื่อเปิดโอกาสให้ทหารของเขาคุ้มกันโดฟานหนีออกไป หากสู้กับฮิโระที่ใช้เกทออฟเฮฟเว่นเป็นอาวุธจริง ๆ แล้ว เขายอมรับว่า คงไม่แคล้วต้องถูกเกี่ยวดวงวิญญานออกจากร่างแน่นอน แต่นี่เธอถึงกับยอมทิ้งอาวุธถนัดของตัวเองหันมาใช้ดาบตามที่เขาท้าจริง ๆ หรือว่า… ความมั่นใจของเธอเต็มเปี่ยมถึงขนาดที่ว่าสู้กันด้วยดาบก็ไม่แพ้ ดาบ-อันเป็นอาวุธถนัดของชาวอัศวินนี่นะ

“เป็นอะไรไป เจ้าเป็นฝ่ายท้าเราสู้ด้วยดาบเองมิใช่หรือ”

ฮิโระส่งเสียงเย้ยมาเมื่อสังเกตอาการตะลึงงันของอีกฝ่ายลูเซย์เดอร์ได้สติ ถีบตัวเองพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับหวดดาบคู่มือเข้าหาฝ่ายตรงข้าม

“ย้าก!” “เคร้ง!”

ดาบของทั้งสองฝ่ายประทะกันอย่างรุนแรงจนเกิดประกายไฟแลบออกมา ฮิโระซวนเซไปเล็กน้อยด้วยเธอไม่คิดว่าแรงประทะจากการปะดาบจะรุนแรงถึงเพียงนี้ นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับสิงห์เจนสนามอย่างลูเซย์เดอร์ เขาหวดซ้ายป่ายขวาร่ายกระบวนดาบเข้าใส่ฮิโระเป็นชุดทันที ในขณะที่เด็กสาวตกเป็นฝ่ายตั้งรับตลอดกิตติศัพท์เกี่ยวกับธิดาองค์เล็กของจอมราชันย์อสูรผู้มีแขนซ้ายอันน่าสะพรึงกลัวที่แพร่กระจายในหมู่มนุษย์ทำให้พวกมนุษย์ฝังใจว่า อาวุธคู่มือของฮิโระคือ เกทออฟเฮฟเว่น ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนว่าฮิโระใช้ดาบเป็นด้วย แต่บัดนี้ลูเซย์เดอร์กำลังพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า คำร่ำลือเหล่านั้นเป็นจริงและก็เป็นเท็จในเวลาเดียวกัน สิ่งที่จริงคือ ฮิโระไม่ถนัดในการใช้ดาบจริง ๆ แต่สิ่งที่ยังไม่มีใครทราบและเขากำลังค้นพบมัน ณ บัดนี้คือ ถึงแม้เธอไม่ถนัดในการใช้ดาบแต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะใช้ดาบไม่เป็นเพียงแค่ ‘ไม่ถนัด’ เท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาต้องบุกโจมตีเด็กสาวอย่างไม่ยั้งมือและแทบจะไม่ยอมหยุดหายใจ ด้วยตระหนักดีว่า หากเขาหยุดมือและกลับเป็นฝ่ายรับเมื่อไรนั่นคือจุดจบของเขา

หลังจากเสียง “เคร้ง” อันเกิดจากการประทะกันของคมดาบทั้งสองฝ่ายดังขึ้นได้ประมาณสิบกว่าครั้ง ผู้ชำนาญการใช้ดาบอย่างลูเซย์เดอร์ก็สบโอกาส

“ย้ากส์!” “เคร้ง”

ดาบของเขาฟันจากด้านข้างเข้าหากลางลำตัวของฮิโระ แน่นอนว่าเด็กสาวสามารถใช้ดาบของตนปัดป้องมันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก จังหวะต่อมาอัศวินชาวมนุษย์พลิกดาบฟันขึ้นจากด้านล่าง คราวนี้ฝ่ายอสูรสปริงตัวถอยฉากไปด้านหลังของตนเพื่อหลบดาบนี้ ลูเซย์เดอร์กระโดดตามไปทันทีพร้อมเงื้อดาบฟันลงจากด้านบนอย่างหนักหน่วง ความไวของดาบบวกกับน้ำหนักตัวของเขาที่โถมลงไปด้วยทำให้พลังดาบในครั้งนี้รุนแรงมาก หากเขาเป็นฮิโระเขาคงจะอ่านท่านี้ได้ตั้งแต่ตอนที่สปริงตัวลอยขึ้นกลางอากาศและก็คงมีเวลาหลบทัน แต่ฮิโระไม่มีโอกาสทำเช่นนั้นได้ เธอจึงได้แต่ยกดาบขึ้นในแนวนอนเข้าประทะกับดาบลูเซย์เดอร์ตรง ๆ โดยมีมือซ้ายประคองสันดาบไว้

“เคร้ง!”

เสียงประทะกันดังสนั่นกว่าทุกคราว ดาบของฝ่ายรับกระเด้งกลับในขณะที่เจ้าตัวเสียหลักล้มลงไปนั่งกับพื้น ลูเซย์เดอร์ตวัดดาบขึ้นจากด้านล่างอีกครั้ง คราวนี้มันปัดเอาดาบของฮิโระหลุดมือไปอย่างง่ายดาย

“…”

ไม่มีเสียงอุทานจากริมฝีปากของเจ้าหญิงอสูรอยู่ดีอุ้งมือขวาซ้ายของเธอชาไปหมดจากการกระแทกที่เกิดจากการปะดาบเมื่อครู่ทำให้ดาบถูกปัดออกจากมือไป

“เตรียมตัว!”

ลูเซย์เดอร์ตวาดข่มขวัญ ความหมายคือเตรียมตัวตายนั่นเอง ก่อนที่เขาจะหวดดาบเฉียง ๆ เข้าหาร่างน้อยที่นั่งกับพื้นตรงหน้า ดาบของเขาคงจะได้ฟันร่างของเธอขาดสะพายแล่งจากบ่าด้านซ้ายของเธอแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…

“เปรี๊ยะ!”

เสียงดังประหลาดดังขึ้น เมื่อดาบของอัศวินกระแทกเข้ากับ… แขนซ้ายท่อนล่างสีขาวโพลนของฮิโระเข้าอย่างจังเธอยกมันขึ้นมากันดาบของลูเซย์เดอร์นั่นเอง ความรู้สึกของเขาเหมือนกับฟันดาบเข้าใส่เสาเหล็กไม่มีผิด และเขาก็ต้องตกใจขึ้นไปอีกเมื่อพบว่า ดาบของเขาหักกลาง ส่วนทางด้านปลายดาบกระเด็นปลิวไป ขณะที่มือขวาที่กำดาบของเขาชาวูบ ง่ามมือแทบฉีกขาด

ฮิโระพลิกมือซ้ายที่ประกอบด้วยนิ้วเรียวยาวสีดำอันน่าสะพรึงกลัวนั้น คว้าจับข้อมือที่ยังกำดาบไว้ของอีกฝ่ายแล้วกระชากเข้าหาตัวเธอพร้อมกับที่เธอกระโดดลุกขึ้นจากท่านั่ง เข่าซ้ายของเธอกระทุ้งเข้าที่ท้องของอีกฝ่ายอย่างแรงดัง “พลั่ก”

เสียงอัศวินชาวมนุษย์ร้องด้วยความเจ็บปวด ดาบหักในมือร่วงหล่นสู่พื้น แต่นั่นยังไม่จบ ฮิโระปล่อยมือจากคู่ต่อสู้ แล้วยกสองมือขึ้นประสานกันเหนือศีรษะแล้วทุบมันลงบนต้นคอด้านหลังของอีกฝ่ายซึ่งกำลังโก้งโค้งด้วยอาการจุกจาก ‘เข่าลอย’ ของเธอ คราวนี้ เสียงดัง “อั้ก!” เกิดขึ้น ไม่ทราบว่ามันเป็นเสียงทุบหรือเสียงร้องของผู้ถูกทุบกันแน่ ร่างของอัศวินกระแทกลงกับพื้น ดินอย่างแรงแล้วนอนคว่ำหน้าหมดฤทธิ์อยู่แทบเท้าของฮิโระนั่นเอง

...


back index next
1