ราชินีคนใหม่?... ลิตเติลสโนว์ทำตาโตอย่างตกใจ เจ้านั่นแหละ ลิตเติลสโนว์ ราชินีคนใหม่แห่งแพลททิเซลเวอร์! เจ้าชายอสูรตอบเรียบ ๆ คราวนี้ลิตเติลสโนว์รู้สึกได้ถึงรอยยิ้มในดวงตาของเขา แต่..ข้า... เหมือนฝัน... จากเด็กสาวนักเรียนมัธยมปลายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เธอจะได้กลายเป็นถึงราชินีในดินแดนมายาแห่งนี้หรือ? ราชารูเนจจูคงสั่งเสียไว้เช่นนั้นเป็นแน่... ที่จริง เดิมเราตั้งใจว่าจะเรียกเจ้ามาเป็นที่ปรึกษาของราชา.. แต่ในเมื่อการณ์กลับกลายเป็นเช่นนี้แล้ว ... เจ้าก็คงหนีไม่พ้นตำแหน่งราชินีล่ะ... จาโด้อธิบาย แต่เจ้าอย่าดีใจอะไรไปเลย... ตำแหน่งราชินีในยามนี้ หาใช่ตำแหน่งที่ให้เจ้าเสวยสุขไม่... นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของภารกิจทีเจ้าจะต้องปฏิบัติในแดนเนฟเวอร์แลนด์นี่ล่ะ ข้าเป็นไม่ได้หรอก ... ตำแหน่งสูงส่งเช่นนั้น... -- มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ สาวน้อย -- เสียงหนึ่งดังขึ้น เอ๊ะ?!!! เด็กสาวหันหน้าไปมาเลิ่กลั่ก แต่ไม่พบต้นเสียง ซึ่งเธอจำได้ว่ามันเป็นเสียงของซิลเวียส ในขณะที่เจ้าชายอสูรกลับไม่มีท่าทีใด ๆ กับเสียงนั้น เจ้ามีทั้งเจ้าชายอสูร และเทพมังกรเงินเป็นผู้ช่วยเชียวนะ สาวน้อย ตำแหน่งราชินีแห่งแคว้นเล็ก ๆ ของมนุษย์ยังด้อยไปด้วยซ้ำ ท่านซิลเวียส... ฮะ ๆ ๆ เสียงเทพมังกรสตรีนางนี้หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฏแสงสว่างวาบขึ้นใจกลางวงกลมอาคมที่อยู่บนพื้น เมื่อแสงสว่างหายไป ก็ปรากฏไม้เท้าที่มีหัวไม้เท้าเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวที่มีลายเป็นรูปหน้าคน แลดูขลัง ลำไม้เท้าปักอยู่บนพื้น และตั้งตรงเด่นอยู่ระหว่างหญิงชายทั้งสองในห้องพิธีนั้น จงเข้ามาถอนไม้เท้าปัญญานี้ไปเถิด สาวน้อยเอย แล้วข้าจะตามเจ้าไปทุกหนทุกแห่ง ลิตเติลสโนว์เอื้อมมือทั้งสองออกไปกำรอบไม้เท้านั้น แล้วออกแรงเพียงนิดเดียวก็ถอนมันขึ้นจากพื้นได้โดยง่าย พลันที่ปลายไม้พ้นจากพื้น ก็ปรากฏแสงสว่างวาบล้อมรอบตัวเด็กสาว จนแม้แต่จาโด้เอง ก็ต้องหลับตาลงด้วยไม่อาจสู้แสงจ้านั้นได้ เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบกับ... ภาพของเด็กสาวที่ดูทรงปัญญา ภายใต้เครื่องแต่งกายสตรีสูงศักดิ์ตามแบบฉบับชาวเนฟเวอร์แลนด์ ยืนกุมไม้เท้าปัญญาอยู่ตรงหน้า ผมสีเงินยาวสลวยของเธอพลิ้วสยายอย่างสวยงามทอประกายระยิบระยับในความมืด เธอผู้ที่ต่อไปนี้ เนฟเวอร์แลนด์จะรู้จักในนามของ ราชินีศักดิ์สิทธิ์ ลิตเติลสโนว์ แห่งแพลททิเซลเวอร์
ข้าราชบริพารและทหารทั้งหมด ทำความเคารพสูงสุด ต่อราชินีองค์ใหม่ คุกเข่าลง! เสียงห้าว ๆ ดังก้องไปทั่วบริเวณ ผู้ออกคำสั่งเป็นชายฉกรรจ์วัยราวสามสิบเศษ รูปร่างบึกบึนสูงใหญ่ เปลือยกายท่อนบน เพียงสวมแต่เครื่องประดับเป็นสายสร้อยเส้นใหญ่ แลดูขลัง เขาคือ บ๊ากแบท ยอดขุนพลผู้เกรียงไกรแห่งแคว้นแพลททิเซลเวอร์ ผู้แม้แต่ในสนามรบก็ตลุยไปในชุดที่ไร้เสื้อเกราะเช่นนี้ ด้วยความมั่นใจในฝีมือรบของตนอย่างสูงสุด บรรดาข้าราชการและทหารชั้นสูงต่ำที่ติดตามมาในขบวนต้อนรับประมุของค์ใหม่แห่งแคว้นศักดิ์สิทธิ์ ล้วนน้อมกายลงคุกเข่าข้างเดียวกับพื้น และก้มศีรษะลงเป็นการแสดงความเคารพอย่างสูงสุด ประตูของหอคอยควีนโร้ดส์ค่อย ๆ แง้มเปิดออกอย่างช้า ๆ แสงสว่างอันชวนพิศวงสาดส่องออกมาจากภายในหอคอย ซึ่งน้อยคนนักจะได้มีโอกาสเข้าในภายใน คงมีเพียงแต่ประมุขแห่งแคว้นแพลททิเซลเวอร์เท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าออกหอคอยศักดิ์สิทธิ์คู่แคว้นแห่งนี้ และก็เป็นยามจำเป็นเท่านั้นด้วย... ร่างอ้อนแอ้นอรชรร่างหนึ่งค่อย ๆ เดินออกมา บ๊ากแบทรับรู้ได้ถึงพลังเวทย์บริสุทธิ์ อันเป็นเวทย์แสงสว่างที่สูงส่ง เขาตระหนักทันทีว่า ประมุขคนใหม่ของเขา มีพลังเวทย์สูงกว่าราชารูเนจจูผู้ล่วงลับเสียอีก สมกับที่ท่านราชา สั่งเสียไว้ให้มอบตำแหน่งประมุขคนต่อไปให้.... ข้าเองติดตามราชามาหลายปี นึกว่าในเนฟเวอร์แลนด์คนที่มีพลังเวทย์แสงสว่างกล้าแข็งกว่าราชารูเนจจูจะมีแต่เพียงจักรพรรดิ์โดริฟานและราชินีแห่งเอลฟ์ป่าอาร์เซเรียเท่านั้นเสียอีก... ไม่นึกเลยว่า ราชินีองค์ใหม่ก็มีพลังเวทย์แสงสว่างกล้าแข็งถึงเพียงนี้ บ๊ากแบทคิดในใจ เขาเป็นอัศวินผู้เชี่ยวชาญการศึกแบบประจัญบานก็จริง แต่ก็มีสัมผัสรับรู้ได้ถึงพลังเวทย์ของบุคคลอื่น...โดยเฉพาะพลังเวทย์ที่มีฤทธิ์เป็นแสงสว่างเป็นอย่างดี แตกต่างจากบรรดานักรบทั่วไป ที่หากเชี่ยวชาญในเชิงยุทธก็มักจะอ่อนด้อยในเชิงเวทย์จนแม้จะสัมผัสถึงระดับพลังเวทย์ของผู้ใช้เวทย์ก็ทำไม่ได้เสียแล้ว ขอบใจพวกท่านที่มาต้อนรับข้า น้ำเสียงไพเราะดุจดนตรีดังขึ้น แล้วเจ้าของเสียงก็สาวเท้าไปจนหยุดอยู่เบื้องหน้าของบ๊ากแบทผู้กำลังก้มหน้าคุกเข่าข้างเดียวเช่นเดียวกับบุคคลอื่น ๆ ท่านคงเป็นอัศวินคู่ใจของราชารูเนจจูสินะ ลุกขึ้นเถิด ขอบพระคุณขอรับ บ๊ากแบทรับคำพลางนึกในใจ อีกฝ่ายสามารถมองออกในครั้งแรกที่พบกันว่าเขาเป็นผู้นำของขบวนนี้ ...ในฐานะ หมายเลขสองของแคว้น ย่อมไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน ราชินีองค์ใหม่ผู้นี้ หากแต่ เมื่อเขาลุกขึ้นยืนและเงยหน้าขึ้นเขาก็พลันต้องตกตะลึง อะไรกัน เด็กผู้หญิงหรือนี่?!!! ใช่แล้ว ในความคิดของเขา เมื่อได้รับคำสั่งเสียจากราชารูเนจจู ก็คาดหวังว่าราชินีคนใหม่ อย่างน้อยก็คงเป็นผู้เชี่ยวชาญในเชิงเวทย์ ซึ่งก็ควรมีอายุมากพอควร อย่างน้อยที่สุด เขาก็เชื่อว่า คงต้องอาวุโสกว่าเขาสักเล็กน้อย มิฉะนั้น คงไม่มีทางที่จะมีพลังเวทย์สูงส่งจนกระทั่งราชารูเนจจูจะมอบบัลลังค์ให้เป็นแน่ ยิ่งเมื่อครู่เขาสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์อันสูงส่งนั้นก็ยิ่งทำให้เขาปักใจเชื่อเช่นนั้นมากขึ้น แต่การณ์กลับกลายเป็นตรงข้าม ข้า ลิตเติลสโนว์ ยินดีที่ได้รู้จัก ท่านอัศวิน อะ...เอ่อ ข้ามีนามว่า บ๊ากแบท ... อัศวินหนุ่มได้สติอย่างรวดเร็ว เขาข่มความรู้สึกแปลกใจไว้ แล้วทำหน้าที่ของตนเองต่อ ราชารูเนจจูสิ้นชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้ และได้สั่งเสียไว้ว่า สตรีผู้อยู่ในหอคอยควีนโร้ดส์ คือ ประมุขคนต่อไปของแคว้นของเรา...ซึ่งก็คือท่านนั่นเอง ท่านลิตเติลสโนว์ ข้าทราบแล้ว.... ลิตเติลสโนว์ตอบ พลางกระชับไม้เท้าปัญญาที่ดูศักดิ์สิทธิ์สูงส่งนั้นเข้าแนบทรวงอก เธอหลับตาลงพลางกล่าวช้า ๆ ว่า เนฟเวอร์แลนด์ยามนี้ กำลังก้าวเข้าสู่ยุควิบัติอย่างแท้จริง แต่เริ่มเดิมทีอำนาจแห่งสามเทพสูงสุดได้คะคานกันอยู่อย่างสมดุล ทำให้เนฟเวอร์แลนด์ถึงแม้จะมีศึกสงครามระหว่างฝ่ายมนุษย์และอสูรบ้าง ก็ไม่เคยลุกลามเป็นสงครามใหญ่หลวงระดับทวีป และแผ่นดินแม่ก็ไม่เคยต้องหลั่งน้ำตาให้กับโศกนาฏกรรมที่พวกเราก่อขึ้น... บ๊ากแบท...และบรรดาไพร่พลของแพลททิเซลเวอร์ซึ่งยังคงคุกเข่าก้มหน้าอยู่ ฟังน้ำเสียงของเด็กสาวแล้วก็พลางขนลุกซู่... เสียงใส ๆ ยังคงกล่าวต่อไป แต่บัดนี้ ในเมื่อจอมราชันย์อสูรจาเนส ได้สิ้นชีพไปแล้ว ศัตรูร่วมกันของเผ่ามนุษย์ก็หมดไป... ข้าขอทำนายว่าอีกไม่นาน แผ่นดินแม่เนฟเวอร์แลนด์จักลุกเป็นไฟ ไฟสงครามจักลุกโชนทุกหย่อมหญ้า มนุษย์กับมนุษย์จะรบกันเอง... รวมทั้งสงครามระหว่างชนต่างเผ่าพันธุ์จักอุบัติขึ้นด้วยอย่างแน่นอน...สงครามระดับมหาสงคราม ที่ทุกแคว้นในเนฟเวอร์แลนด์เข้าร่วมสมรภูมิโดยมิมีข้อยกเว้น... มหาสงครามอันยิ่งใหญ่และกินเวลายาวนาน ยังความยากเข็ญและความเสียหายแก่แผ่นดินแม่เนฟเวอร์แลนด์จนประเมินค่ามิได้... ภายในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ พวกท่านจะยังคงยินดีมอบความไว้วางใจให้เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เช่นข้าเป็นผู้นำของท่านหรือไม่? เป็นคำถามที่ตรงไปตรงมา และ... มีน้ำหนักมหาศาลเลยทีเดียว... ชะตากรรมของแคว้นแพลททิเซลเวอร์ขึ้นกับการตอบคำถามนี้แล้ว... บรรดาชาวแพลททิเซลเวอร์ทุกผู้ที่อยู่ ณ ที่นั้น ตระหนักได้ถึงความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี ข้ายินดีมอบชะตาชีวิตฝากไว้กับท่าน ราชินีลิตเติลสโนว์!!! บ๊ากแบททรุดเข่าลงข้างหนึ่งพลางตะโกนตอบอย่างหนักแน่น แล้วก้มศีรษะลงทำความเคารพเด็กสาวผู้มีอายุเพียงครึ่งเดียวของเขาที่พบกันครั้งแรกอย่างสนิทใจ ข้าก็เช่นกัน ข้าขอมอบชีวิตฝากไว้กับราชินีองค์ใหม่! เมื่อบ๊ากแบทตอบเช่นนั้น ก็มีผู้ที่ตกลงใจตามด้วย จากหนึ่งคนเป็นสองคน... สิบคน... ร้อยคน เสียงเซ็งแซ่จนฟังไม่ได้ศัพท์ในตอนท้าย ๆ ล้วนแสดงถึงคำตอบของพวกเขา ลิตเติลสโนว์ลอบถอนหายใจ เธอหลับตาพริ้มลง พลางสำรวมสมาธิเล็กน้อยก็สามารถรับรู้ได้ถึงความจริงใจในคำตอบที่บรรดาบุคคลเหล่านี้มอบให้ตนเองเป็นอย่างดี เด็กสาวรู้สึกถึงความกดดันที่โหมลงบนบ่าบอบบางทั้งสองข้างอย่างปัจจุบันทันด่วน ...อา.... ความกดดันในฐานะผู้นำและผู้รับผิดชอบชะตาชีวิตคนอื่น...ช่างเป็นภาระที่ใหญ่หลวงนัก --ใจเย็น สำรวมสติให้มั่น เจ้ามีข้าอยู่ขข้างกายไม่ต้องกลัวสิ่งใดทั้งสิ้น เด็กน้อยเอย-- เสียงของซิลเวียสดังขึ้นในใจ ลิตเติลสโนว์ลืมตาขึ้นแล้วยิ้มให้ไม้เท้าปัญญาเล็กน้อย คิดตอบในใจว่า ค่ะ ท่านซิลเวียส ซิลเวียสมีเหตุผลที่ยังไม่อาจปลีกตัวออกจากหอคอยควีนโร้ดส์ได้ เนื่องจากจะตกอยู่ในสายตาของโคเรียได้โดยง่าย ยังไม่ถึงเวลาที่โคเรียควรรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของพวกข้า หกเทพมังกรโบราณ นางบอกลิตเติลสโนว์ไว้เช่นนั้น ไม้เท้าปัญญาเป็นสื่อนำความคิดของซิลเวียสและเด็กสาวให้สื่อถึงกันได้ และซิลเวียสก็ให้สัญญาว่า หากยามคับขัน นางจะออกจากหอคอยมาช่วยเด็กสาวทันทีโดยไม่แยแสต่อเรื่องของโคเรียอีกต่อไป เอาล่ะ พวกท่านลุกขึ้นเถิด ข้ายินดีรับตำแหน่งประมุขแห่งแพลททิเซลเวอร์ ขอพวกท่านจงทำตามสิ่งที่ข้าชี้นำ แล้วเราจะมีชีวิตรอดด้วยกันในมหาสงครามที่จักบังเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ คำพูดเรียบ ๆ ไม่มีเนื้อความโอฬาร หรือแสดงถึงความยิ่งใหญ่ประเภทที่ว่า เราจะเป็นใหญ่ในเนฟเวอร์แลนด์หรืออะไรทำนองนั้นเลย แต่คำพูดเช่นนี้ที่กินใจบรรดาไพร่พลทั้งพลเรือนและทหารในที่นั้นจนหมดสิ้น.... ใช่... จะมีอะไรดีไปกว่า การมีหลักประกันว่าจะมีชีวิตรอดจากมหาสงครามได้เล่า? ลาภ ยศ เงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญกว่าชีวิตเลย... เมื่อบรรดาข้าราชการและทหารลุกขึ้น ต่างก็ต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับบ๊ากแบทเมื่อสักครู่ยามพบว่า ราชินีองค์ใหม่ของพวกเขาเป็นเด็กสาวอ่อนเยาว์แสนโสภานางหนึ่ง หากแต่บ๊ากแบทตะโกนสั่งจัดขบวนแถวเพื่ออัญเชิญราชินีองค์ใหม่กลับเข้าสู่ปราสาทอย่างแข็งขัน ทำให้พวกเขาหันกลับไปทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็วจนไม่มีเวลามาคิดประหลาดใจกับวัยวุฒิของราชินีองค์ใหม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขารู้สึกภูมิใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ราชินีของพวกเขางามสง่าเหลือเกิน... แต่เรื่องฝีมือในการปกครองและ...การรบด้วย คงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ลิตเติลสโนว์ก้าวขึ้นสู่รถม้าเปิดประทุนอย่างสง่างาม โดยมีบ๊ากแบทขี่ม้าขนาบข้างไป เด็กสาวทราบได้ทันทีว่า นี่คือตำแหน่งของบ๊ากแบท ขุนพลคู่ใจของอดีตราชารูเนจจู และบัดนี้ เขาย่อมเป็นขุนพลที่เธอพึงให้ความไว้วางใจสุงสุดในแคว้นแพลททิเซลเวอร์ ขบวนอัญเชิญเริ่มเคลื่อนตัวออกจากบริเวณหน้าหอคอยควีนโร้ดส์ตรงเข้าสู่ย่านชุมชนแล้วผ่านเข้าสู่ปราสาทแพลททิเซลเวอร์ในที่สุด ตลอดรายทาง ประชาชนชาวแคว้นแพลททิเซลเวอร์ยืนอยู่หนาแน่นสองข้างทาง เพื่อยลโฉมของราชินีองค์ใหม่ เสียงเปล่งอวยชัย และแสดงความยินดีต่อประมุขคนใหม่ดังขึ้นไม่ขาดสาย... และนั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปลายปีอสุรศักราชที่ 996 หลังจากที่จอมราชันย์อสูรจาเนสสิ้นชีพได้สามเดือนเศษ |