ของรัก
ศราลัย
แฮปปี้เบิร์ทเดย์ อายุ 15 ปี จ้ะ เอ๋ เสียงเด็กสาวหลายเสียงดังขึ้นพร้อมกันทันที
ที่ เอ๋ เดินเข้าห้องเรียนอย่างยิ้มแย้ม
ขอบใจจ้ะ ขอบใจทุก ๆ คนเลย เอ๋ยิ้มรับคำอวยพรนั้นพร้อมทั้งรับของขวัญ
ทุก ๆ กล่องที่เพื่อน ๆ ของเธอต่างยื่นส่งให้
ว้าว ! ของที่เอ๋อยากได้ทั้งนั้นเลย ขอบใจมากนะจ๊ะ เอ๋อุทานออกมาเมื่อมองดู
ของขวัญที่เพื่อน ๆ ให้เธอเหล่านั้น พร้อม ๆ กับที่เธอทรุดตัวลงนั่งบนโต๊ะของเธอ
แฮปปี้เบิร์ทเดย์ โอเดินมากระซิบบอกเบา ๆ ไม่ให้ผู้ใดรู้แล้วเดินผ่านเลยไป
ประหนึ่งดังเพียงเดินผ่านไปเท่านั้น
เอ๋หันขวับมองโออย่างประหลาดใจ แต่เธอก็ทำท่านั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะ
อาจารย์ท่านหนึ่งเดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี
นี่เอ๋ ฉันว่าโอเค้าก็คงจะสนใจเธออยู่เหมือนกันนะ น่าอิจฉาเธอจัง จอยยื่น
หน้ามากระซิบกับเอ๋
บ้าน่ะ โอเค้าเป็นคนป๊อบจะตาย ไม่สนใจคนอย่างเอ๋หรอก เอ๋กระซิบตอบ
กลับไป
ถ้าเป็นชั้นนะ ชั้นจะตะครุบเค้าไว้เลยล่ะ ชั้นเองก็สน ๆ เค้าอยู่เหมือนกัน ป๊อบ
มาก เท่ห์ด้วย จอยกระซิบบอกด้วยแววตาเพ้อฝัน
เย็นวันนั้น
เอ่อ..น้องฮะ น้องเป็นน้องของเก๋ใช่มั้ยฮะ ? ช่วยบอกเก๋เค้าหน่อยว่า ผมยังรอ
อยู่ ทันทีที่เอ๋เดินเข้าบ้านก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเดินมาดักเธอไว้พร้อมทั้งคำพูด
เอ๋ปรายตามองนิดหนึ่งก่อนที่จะตอบว่า
ไม่ค่ะ พร้อมทั้งรีบเดินหนีตัวปลิวเข้าบ้านทันที
เอ๋วางกระเป๋าลงบนโซฟาพร้อมทั้งบอกพี่สาวของเธอที่กำลังอ่านนิตยสารอยู่ว่า
ผู้ชายของพี่มาตื้อเอ๋อีกแล้ว
สงสัยจะเป็นผู้ชายที่พี่สลัดไปเมื่ออาทิตย์ก่อนละมั้ง ไม่ต้องสนใจหรอกนะ แต่
แหม
ก็พี่บอกแล้วว่าวันนี้พี่ไม่ว่างไปคุยกะเค้า พี่จะไปเที่ยวกับเอ๋ก็ไม่เชื่อ เก๋ พี่สาว
ของเอ๋บ่นออกมาเบา ๆ แต่สายตาก็มิได้ละจากนิตยสารเล่มนั้นเลย
เอ๋เหลือบมองพี่สาวของเธออย่างอิจฉา
ทำไมพี่เรามีเสน่ห์อย่างนี้นะ ? น่าอิจฉาจัง
อ้าว ! แล้วทำไมนั่งอยู่ตรงนี้ล่ะจ๊ะ รีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียสิ คืนนี้พี่
จะพาเอ๋ไปเที่ยวซะหน่อย
เอาล่ะ มาถึงแล้ว นี่แหละ ย่าน RCA ที่สาว ๆ ชอบมาเที่ยวกัน เก๋พูดขึ้นเบา ๆ
กับเอ๋
เอ๋หันไปมองซ้ายมองขวาเล็กน้อยอย่างตื่นตาตื่นใจ พร้อม ๆ กับเดินตามพี่สาว
ของเธอไปเรื่อย ๆ
นี่ มาคนเดียวเหรอจ๊ะ น้องสาว ชายหนุ่มคนหนึ่งจับแขนของเอ๋ไว้พร้อมทั้ง
ถาม
ปล่อยน้องฉันเลยนะ เก๋จับแขนของเอ๋พร้อมทั้งพูดใส่หน้าชายคนนั้น
ไม่ต้องสนใจพวกนี้หรอกนะ เก๋หันมาบอกกับน้องสาวยิ้ม ๆ
ขอโทษครับ ชายอีกคนหนึ่งเดินมากล่าวกับเอ๋
เอ๋เหลือบมองนิดหนึ่ง ก่อนที่จะเดินผละไปอย่างไม่สนใจ แต่แล้วเธอก็ต้อง
เหลียวหันหลัง
อ๋อ ! ไปทางนี้ค่ะ ตรงไปเรื่อย ๆ จะเห็นทางแยก 3 แยกก็เลี้ยวขวาค่ะ เก๋บอก
ทางชายคนที่มาถามเอ๋แต่เอ๋ไม่สนใจ
เก๋เลิกคิ้วยิ้ม ๆ ก่อนที่จะบอกเอ๋ว่า
ถ้าเขาเริ่มด้วยคำว่า นี่ หรือ เดี๋ยวสิ ล่ะก็ เข้ามาจีบแน่ ๆ แต่ถ้าเริ่มด้วย ขอ
โทษครับ ก็มักจะถามทางนะ
พี่เก่งจัง เอ๋ชมพี่สาวเธอในใจ พลางพยักหน้ารับรู้
แล้วสองสาวก็เข้ามานั่งอยู่ภายในร้านอาหารบรรยากาศดีร้านหนึ่ง
นี่จ้ะ ของขวัญ แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะ เก๋วางกล่องของขวัญไว้ตรงหน้าน้องสาว
ของเธอ
เอ๋รีบแกะกล่องของขวัญนั้นออกอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นของที่อยู่ในกล่องนั้นแล้ว
ก็รีบหยิบขึ้นมาพร้อมทั้งอุทานออกมาอย่างยินดีว่า
อู้หู ! สวยจังนะพี่ ขอบคุณค่ะ
เก๋ยิ้ม ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบสร้อยข้อมือโกเมนเส้นนั้นพลางบอกว่า
มาสิ พี่จะใส่ให้
พี่ว่าสีแดงมันเหมาะกับเอ๋ดีนะ ใส่แล้วดูน่ารักเหมาะกับวัยเอ๋ดี เธอบอกต่อไป
พี่จำเรื่องรองเท้าสีแดงได้มั้ยคะ ?
เมื่อเห็นว่าเก๋พยักหน้ารับ เด็กหญิงจึง
กล่าวต่อไปว่า พี่ได้รองเท้าคู่ใหม่เป็นรองเท้าสีแดง เอ๋น่ะก็อยากได้ ร่ำร้องจะเอาให้ได้
พี่ก็เลยให้เอ๋มาใส่ แต่พอเอ๋ใส่แล้ว ปรากฏว่ามันไม่เข้ากับเอ๋เลยแม้แต่นิดเดียว เอ๋ก็เลยฝัง
ใจมาตลอดว่าสีแดงน่ะต้องเป็นพี่เท่านั้น
เก๋ยิ้มนิดหนึ่ง ก่อนที่จะค้านว่า
แต่เอ๋ก็เห็นแล้วนี่จ๊ะว่า สร้อยข้อมือเส้นนี้น่ะ ถึงแม้จะเป็นสีแดงแต่ก็เหมาะกับ
เอ๋มากแค่ไหน
พูดไม่ทันจบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
อ๊ะ ! โทษนะ แฟนน่ะ เก๋ยิ้มเขิน ๆ ก่อนที่จะบอกแล้วเอื้อมมือรับโทรศัพท์
นั้น
จ้ะ เดี๋ยวไปนะ อยู่กับน้อง จ้ะ ไม่ลืมจ้ะ
.บ๊ายบาย แล้วเจอกันจ้ะ เก๋พูดกับ
สายปลายทางก่อนที่จะกดปุ่มปิดการสนทนาเพียงแค่นั้น
นี่เห็นว่าโตแล้วหรอกนะ ถึงได้บอก ตอนนี้มีแฟนคนนึง พี่ชอบเค้ามากเลย รู้
สึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน คนนี้แหละ พี่จริงจังและจริงใจแน่นอน เก๋บอกยิ้ม
ๆ กับเอ๋ น้องสาวของเธอ
เอ
แล้วแฟนพี่เป็นคนยังไงเหรอคะ ? เอ๋อยากเห็นจัง เอ๋ถามยิ้ม ๆ
สงสัยมีคนอิจฉาและอยากฆ่าแฟนพี่กันล้นโลกแน่ ๆ เลย ในใจของเอ๋ก็นึกไป
ด้วย
เก๋ทำท่านึกนิดหนึ่งก่อนที่จะตอบยิ้ม ๆ ว่า
เอาไว้ดูเองละกัน วันนี้พี่จะให้เค้าไปส่งพี่ด้วย
ดึกวันนั้น เอ๋ก็คอยแอบดูพี่สาวของเธอพร้อมทั้งคนรักทางหน้าต่างอย่างใจจด
ใจจ่อ แต่แล้วภาพที่เธอได้เห็นก็ถึงกับตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนที่จะวิ่งลงมาชั้นล่างอย่างรวด
เร็ว
พี่เก๋
พี่เก๋ นั่นมันรุ่นพี่เอ๋ที่ชมรมนี่นา
เก๋นิ่งอึ้งนิดหนึ่งก่อนที่จะร้องออกมาว่า
หา ! ว่าไงนะ ? รุ่นพี่ชมรมเอ๋หรอกหรือ ?
แล้วเก๋ก็เงียบไปนิดหนึ่ง แล้ว
ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรงก่อนที่จะพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า
แล้วมาหลอกเราว่าเป็นเด็กมหาลัย แย่จัง
แล้วตอนที่อยู่ในโรงเรียน เจ็ทเค้าเป็นคนยังไงเหรอ ? เก๋หันมาถามเอ๋อย่าง
สนใจ
ก็ธรรมดา ๆ น่ะค่ะ ไม่ค่อยป๊อบเท่าไหร่ แต่ใจดีกับน้อง ๆ ทุกคนเลย เอ๋ยังเคย
ไปทำงานชมรมที่บ้านพี่เจ็ทด้วยนะ เอ๋บอก
วันต่อมา
เอ๋ เอ๋ อ่ะ มีคนส่งมาให้ จอยซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เอ๋ ส่งกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แผ่น
หนึ่งให้เอ๋ในระหว่างเรียน
ใครนะ ? เอ๋เปรยขึ้นลอย ๆ ก่อนที่จะแกะกระดาษแผ่นนั้นออกอ่าน
เที่ยงนี้ จะรออยู่ที่หลังโรงเรียนนะ มีเรื่องอยากคุยด้วย
.โอ
ก็ดีแฮะ กำลังอยากได้คนปรึกษาพอดีเลย เอ๋คิดในใจหลังจากที่อ่านข้อความ
นั้นจบลง
ตอนเที่ยงวันนั้นเอง หลังโรงเรียน
ไง โอ เราก็มีเรื่องมาปรึกษานะ เอ๋เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดินเข้าไปในบริเวณนั้นแล้ว
เดี๋ยว ขอเราพูดก่อนนะ โอเอ่ยขึ้น พลางเดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอ
เอ๋ ชอบเอ๋นะ เราชอบเอ๋ แอบชอบมานานแล้วด้วยตั้งแต่ม. 3 แน่ะ เอ๋ว่าไงล่ะ
? โอพูดอย่างจริงใจและจริงจัง
เอ๋นิ่งไปพักใหญ่ ก่อนที่จะมีเสียงคนเดินมาใกล้ ๆ
อ้าว ! มีคนอยู่เรอะ โทษนะที่มารบกวน ไปล่ะ เจ็ทเดินมาพบทั้ง 2 คนอยู่ด้วย
กันพอดี จึงพูดขึ้นก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไป
อ๊ะ ! พี่เจ็ท ไม่ใช่นะคะ
เอ๋รีบแก้ตัว แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะเจ็ทเดินจาก
ไปก่อนที่เอ๋จะพูดจบลง
เอ๋ค่อย ๆ หันหน้ามาทางโออย่างตัดสินใจไม่ถูก
เอ๋ไม่ต้องตอบเราตอนนี้ก็ได้นะ เรารอก่อนก็ได้ แต่อย่าลืมที่จะตอบเราล่ะ เรา
จะรอ ไปนะ โอเอ่ยขึ้นก่อนที่จะวิ่งจากไปทันที
เอ๋ยืนนิ่งอึ้งอยู่พักใหญ่ก่อนที่เจ็ทจะเดินมาอีกครั้ง และทักขึ้นอย่างอารมณ์ดีว่า
ไง เรียบร้อยแล้วเหรอ ?
อ๊ะ ! พี่เจ็ท เอ๋สะดุ้งกับคำทักนั้นก่อนที่จะรีบแก้ตัวว่า เปล่านะคะ เมื่อกี้ไม่
ใช่นะ ไม่มีอะไรเลย
พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย เจ็ทบอกยิ้ม ๆ
แล้วพี่เจ็ทมาทำอะไรแถวนี้คะ ? เอ๋ถามเปลี่ยนเรื่องสนทนา
พี่ก็มาหาที่อ่านหนังสือน่ะ แถวนี้มันเงียบดี ไม่มีคนมาเดินบ่อย ๆ เสียด้วย
เจ็ทตอบพลางทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่ง
แล้วพี่เจ็ทรู้จักกับพี่สาวหนูได้ไงคะ ? หนูเห็นนะ เอ๋ถามอย่างสงสัย
พี่สาวเอ๋
ใครเหรอ ? เจ็ทเงยหน้าจากกองหนังสือถามอย่างสงสัย
ก็พี่เก๋ไงคะ นั่นล่ะ พี่สาวหนูล่ะ เอ๋ตอบ พลางเดินมานั่งข้าง ๆ เจ็ท
อ๋อเหรอ
ก็ไปเจอกันที่ผับน่ะ พี่ไปกับเพื่อน ๆ เขานัดเจอสาว ๆ กันไว้ พี่ก็ไม่
รู้หรอก ไปให้มันครบคนอย่างนั้นเอง เจ็ทตอบเรื่อย ๆ
หนังสือเล่มนี้น่าสนใจนะคะ หนูยืมได้มั้ยคะ พี่เจ็ท ? เอ๋หยิบหนังสือเล่มหนึ่ง
ขึ้นมาพลิกพลางขออนุญาตยืมโดยไม่มองคู่สนทนา ด้วยเพราะความสนใจในเนื้อหา
ของหนังสือเล่มนั้นมาก
เอาสิ อ่านจบแล้วค่อยมาคืนพี่ก็ได้ ไม่ต้องรีบนะ พี่อ่านจบแล้วพอดีเลย เจ็ท
พยักหน้าอย่างใจดี
ขอบคุณค่ะ แล้วหนูจะรีบอ่านแล้วเอามาคืนนะคะ เอ๋ยิ้มอย่างดีใจก่อนที่จะ
ผละไปเข้าห้องเรียน
ตลอดคืนนั้น เอ๋อ่านหนังสือเล่มนั้นอย่างสนุกสนานจนจบ
วันต่อมาเป็นวันหยุด เอ๋จึงนำหนังสือเล่มที่เธอยืมเจ็ทมาไปคืนที่บ้านของเจ็ท
สวัสดีค่ะ พี่เจ็ท เอ๋ทักขึ้นทันทีที่เจ็ทเปิดประตูบ้านออกมาต้อนรับ
อ้าว ! เอ๋ เข้ามาข้างในก่อนสิ เจ็ทเปิดประตูบ้านกว้างขึ้น
เอ๋รีบถอดรองเท้าไว้หน้าบ้าน แล้วเดินเข้าในตัวบ้าน
นี่ค่ะ พี่เจ็ท หนูเอาหนังสือมาคืน สนุกมากเลยค่ะ เอ๋บอกยิ้ม ๆ พลางยื่น
หนังสือไปตรงหน้าเจ็ท
โธ่ ! ไม่ต้องรีบเอามาคืนก็ได้ พี่อ่านจบแล้ว เจ็ทบอกยิ้ม ๆ แต่ก็รับหนังสือ
เล่มนั้นวางไว้บนโต๊ะรับแขก
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงออดหน้าประตูบ้านก็ดังขึ้น
เจ็ทจ๊ะ อยู่หรือเปล่า ? เสียงของเก๋ดังลอดเข้ามา ทำให้เจ็ทตกใจเพราะรู้ว่าเจ้า
ของเสียงนั้นคือเก๋นั่นเอง
เก๋ ! เขาอุทานออกมาเบา ๆ แต่ก็ดังพอที่เอ๋จะได้ยิน
เอ๋ลุกขึ้นยืนอย่างละล้าละลัง อย่างตัดสินใจไม่ถูกว่าเธอจะต้องไปซ่อนตัวให้
พ้นจากสายตาของพี่สาวเธอได้ที่ไหน
เข้าไปซ่อนในห้องก่อนก็ได้ เจ็ทบอกพลางชี้มือไปทางห้องนอนของเขาซึ่ง
อยู่ชั้นล่างของบ้านเขา ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว
เอ๋รีบเข้าไปหาที่ซ่อนตัวให้พ้นจากพี่สาวของเธอ โดยเธอตัดสินใจพาตัวเองเข้า
ไปอยู่ใต้เตียงนอนนั้น
เจ็ทเปิดประตูบ้านออกพร้อมทั้งรอยยิ้ม
หวัดดีจ้ะ เก๋ มาแต่เช้าเชียว มีอะไรหรือเปล่า ?
เปล่าจ้ะ แวะมาเฉย ๆ น่ะ
แล้วเสียงก็ขาดหายไปเมื่อสายตาของเธอกวาด
ไปพบรองเท้าคู่หนึ่งแบบเด็กหญิงวางอยู่หน้าบ้าน บริเวณที่วางรองเท้า
มีใครมาหรือคะ ? เจ็ท เธอเอ่ยถามอย่างสนใจ โดยไม่ยอมละสายตาจากรอง
เท้าคู่นั้น
เจ็ทมองตามสายตาของเธอก่อนที่จะหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วบอกว่า
น้องสาวแวะมาเยี่ยมน่ะ แล้วก็เข้าห้องนอนผม ป่านนี้คงนอนอุตุไปแล้วล่ะ
มั้ง
เหรอคะ เธอทวนคำ ก่อนที่จะควานของในกระเป๋าถือของเธอ
นี่ค่ะ เมื่อคืนนี้คุณลืมบัตรโทรศัพท์ไว้ที่เก๋ เก๋ยื่นบัตรโทรศัพท์ส่งให้เขา
เจ็ทยื่นมือไปรับบัตรใบนั้น พลางพึมพำเบา ๆ ว่า
ขอบคุณฮะ ไม่น่าลำบากเอามาคืนให้เองเลย ให้ผมไปรับก็ได้
ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเก๋กลับก่อนนะคะ หวัดดีค่ะ เก๋ตอบยิ้ม ๆ และกล่าวอำลา
ก่อนที่จะเดินออกจากบ้านนั้นไป
ไปแล้วหรือคะ พี่เจ็ท ? เอ๋เดินออกจากห้องนอนของเจ็ทพลางส่งเสียงถาม
ไปแล้วล่ะ เธอเองก็รีบกลับซะนะ เจ็ทบอก
แต่ทันทีที่เอ๋กลับมาถึงบ้านของเธอ เธอก็พบว่า เก๋พี่สาวของเธอนั่งรออยู่ใน
ห้องนอนแล้ว
เอ๋ เอ๋รู้หรือเปล่าว่า เวลาอยู่ที่โรงเรียน เจ็ทเค้ามีใครมาเกาะแกะด้วยหรือเปล่า
? แบบเป็นข่าวกันบ่อย ๆ อะไรเงี้ย เก๋เริ่มคำถามทันทีที่เธอพบหน้าน้องสาวของเธอ
แล้ว
เอ่อ
ก็ไม่นี่คะ พี่เจ็ทไม่ค่อยป๊อบเท่าไหร่ เลยไม่มีข่าวกับใคร ทำไมหรือคะพี่
เก๋ ? เอ๋ตอบปฏิเสธอย่างประหลาดใจกับคำถามของพี่สาวของเธอ พร้อมทั้งย้อนถาม
กลับไปอย่างสงสัย
ก็เมื่อกี้นี้พี่แวะไปบ้านเจ็ทมา พี่พบรองเท้าแบบผู้หญิงในบ้านของเขาและ
กระเป๋าด้วย พี่ถามเค้า เค้าก็บอกว่าน้องสาวมาเยี่ยม แต่พี่ไม่เชื่อหรอก ไม่เคยได้ยินเค้า
พูดถึงน้องสาวสักคำ เก๋อธิบาย
เหรอคะ เอ๋ทวนคำแหย ๆ
ถ้ายังไง ถ้าเจ็ทมีข่าวอะไรกับใคร เอ๋รีบบอกพี่ทันทีนะ พี่จะตามไปเอาเรื่อง
จริง ๆ ด้วย พี่ไม่ยอมหรอกนะ ถ้าใครจะมาแย่งของ ๆ พี่ไปน่ะ เก๋บอกอย่างมุ่งมั่น
ค่ะ ๆ เอ๋รับปาก พลางหลบสายตาไปอีกทางหนึ่ง และภายในใจของเธอก็นึก
โล่งอกด้วยพี่สาวของเธอไม่สงสัยอะไรเธอเลย ทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงในบ้านของเจ็ทที่เก๋ไปพบ
นั้น คือเธอนั่นเอง
วันหยุดวันหนึ่ง
ทันทีที่เอ๋กลับเข้าบ้าน เธอก็พบเก๋นอนซมอยู่บนโซฟารอเวลากลับบ้านของเธอ
อยู่แล้ว
เอ๋ พี่วานอะไรหน่อยสิ พี่นัดกับเจ็ทคืนนี้ไว้ แต่พี่ไปไม่ได้ พี่เสียดายบัตรมาก
ด้วย เอ๋ไปดูแทนพี่ทีนะ เก๋ยื่นบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษ 2 ใบมาตรงหน้าเอ๋ พร้อมทั้ง
พูดเสียงเบาด้วยพิษไข้
แต่
พี่เจ็ทเค้าจะยอมหรือคะ ? เอ๋ถามอย่างหวาดระแวง
ไม่มีแต่นะเอ๋ เอ๋ไปแทนพี่ทีนะ แล้วพี่จะพาไปเลี้ยงตอบแทน เก๋บอกพลางไอ
โขลก ๆ ไม่หยุด
เอ๋มองตั๋ว 2 ใบนั้นนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะตกลงรับคำ
ค่ะ เอ๋จะไปแทนพี่เอง
ขอบใจจ้ะเอ๋ เก๋พึมพำเสียงเบา ก่อนที่จะหลับตาลงเพราะฤทธิ์ไข้และความ
อ่อนเพลีย
เอ๋รีบเดินไปยังจุดนัดหมายที่เก๋นัดกับเจ็ทไว้อย่างรวดเร็ว แต่เธอก็เดินได้ไม่
ถนัดนัก เพราะเธอใส่รองเท้าส้นสูงของเก๋มาและแต่งตัวให้คล้ายคลึงกับเก๋ให้มากที่สุด
ขอโทษค่ะ พี่เจ็ท หนูมาช้าไปหน่อย เอ๋รีบบอกอย่างกระหืดกระหอบ
เจ็ทมองตาค้างอย่างประหลาดใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะถามถึงเก๋ว่า
อ้าว ! แล้วเก๋ล่ะ ?
พี่เก๋ไม่สบายมากค่ะ เลยให้หนูมาแทน เธอมองตามสายตาเจ็ทแล้วแก้ตัวเขิน
ๆ ว่า หนูอุตส่าห์แต่งตัวแบบพี่เก๋มานะคะเนี่ย พี่จะได้ไม่เขินว่าต้องมากับเด็ก ๆ อย่าง
หนู
เจ็ทหัวเราะนิดหนึ่งก่อนที่จะจับตัวเธอหันด้านข้างเข้ากระจกร้านโชว์รูม แล้ว
บอกว่า
เดินให้มันสง่าผ่าเผยหน่อยสิ จะได้สวยสมกับชุดนี้
เอ๋พยายามทำตามคำบอกนั้นก่อนที่จะเดินตามเจ็ทไปอย่างว่าง่าย
ในขณะที่รอชมภาพยนตร์อยู่นั้นเอง เจ็ทก็กระซิบบอกกับเอ๋ว่า
หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ดีมาก ตั๋วรอบพิเศษนี่ก็หาได้ยากมากด้วย ถ้าไม่ได้เก๋ พี่
ก็คงไม่ได้มาดูเรื่องนี้แน่ ๆ
หลังการชมภาพยนตร์ เจ็ทก็พาเข้าร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลไปจากโรง
ภาพยนตร์แห่งนั้น
วันนี้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะพาเก๋มาร้านนี้ แต่เมื่อเป็นเอ๋ พี่ก็จะไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด
เพราะอยากให้ได้ลองชิมดู พี่ชอบร้านนี้จริง ๆ นะ บรรยากาศดีมาก เขาบอกเธอใน
ขณะที่เดินเข้าร้านอาหารร้านนั้น
ไง จะกินอะไรดี ? เจ็ทถามยิ้ม ๆ
หรือจะให้พี่สั่งให้ ? เขาถามต่อเมื่อเห็นว่าคู่เดทของเขานิ่งเงียบไปกับเมนู
อาหารตรงหน้าของเธอ
ค่ะ ก็ดีค่ะ เอ๋พยักหน้ารับประกอบคำพูดของเธอ พร้อมทั้งยิ้มแหย ๆ
เจ็ทสั่งอาหารอย่างคล่องแคล่ว และเมื่ออาหารทยอยมาเสิร์ฟบนโต๊ะนั้น เจ็ทก็
คอยตักอาหารใส่ในจานอาหารของเอ๋อย่างเอาใจและเทคแคร์เป็นอย่างดี ทำให้เอ๋มอง
อย่างปลื้มมากยิ่งขึ้น
เจ็ทเหลือบมองดูนาฬิกานิดหนึ่งภายหลังรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก่อนที่จะ
บอกว่า
กลับหรือยัง ? ดึกแล้วนะ
เอ๋พยักหน้ารับ ค่ะ
และระหว่างทางที่เจ็ทเดินนำเอ๋มายังรถส่วนตัวของเขานั้นเอง เขาก็ได้สังเกต
เห็นว่าเอ๋เดินช้าลงไปมาก
เป็นอะไรหรือเปล่า ? รองเท้ากัดเหรอ ? ไหนให้พี่ดูซิ เขาไม่ยอมฟังคำตอบ
ใด ๆ จากเอ๋ทั้งสิ้น เขาจูงเอ๋ไปนั่งที่ม้านั่งริมทาง ก่อนที่คุกเข่าลง และเมื่อเจ็ทถอดรอง
เท้าข้างหนึ่งที่เอ๋ใส่อยู่นั้นออก เขาก็พบแผลที่เกิดจากรองเท้า เขาเงยหน้าทันทีและบอก
กับเอ๋ว่า
รองเท้ากัด ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ ?
หนูเกรงใจค่ะ มันก็ดึกแล้วด้วย เอ๋บอกโดยไม่ยอมสบตา
เจ็ทประคองเอ๋ให้ลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ พาเธอเดินไปยังร้านรองเท้าร้านหนึ่งซึ่งอยู่
ใกล้ ๆ บริเวณนั้น
เอ้า ! เลือกตามสบายเลย พี่จะซื้อให้คู่หนึ่ง เจ็ทบอกยิ้ม ๆ
คู่นี้ก็ดีนะ น่ารักดี เจ็ทแนะนำรองเท้าคู่ที่อยู่ใกล้ ๆ กับเขา
เอ๋ไม่ตอบรับคำแนะนำนั้น เธอกวาดสายตาไปทั่วทั้งชั้นก่อนที่จะหยุดสายตาลง
ที่รองเท้าส้นสูงสีแดง เปิดส้นและปลายเท้า โดยมีสายเล็ก ๆ รัดข้อเท้าแทนคู่หนึ่ง
เธอชี้ไปยังคู่นั้นทันทีแล้วบอกกับพนักงานขายว่า
คู่นั้นค่ะ สีแดงส้นสูงนั่นน่ะค่ะ
เจ็ทขับรถมาช้า ๆ และจอดสนิทเมื่อถึงหน้าบ้านของเอ๋ เอ๋เปิดประตูรถแล้วลง
ไปยืนอย่างร่าเริง
ขอบคุณนะคะพี่เจ็ท อุตส่าห์มาส่ง บ๊ายบายค่ะ เธอโบกมืออำลาประกอบ
ก่อนที่จะหมุนตัวเข้าบ้าน และถอดรองเท้าคู่นั้นออก บรรจงวางรองเท้าคู่นั้นไว้ในตู้เก็บ
รองเท้าอย่างดี ก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นห้องนอนของเธอ แต่เธอก็ต้องหยุดอยู่ที่ขั้นบันได
เพราะเก๋เดินลงบันไดมาด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
พี่เห็นจากทางหน้าต่างหมดแล้ว
สีหน้าของเก๋ยังคงนิ่งอยู่ ทำให้ใจของเอ๋
พลอยไม่ดีตามไปด้วย
เอ๋คงเป็นคู่เดทที่ดีของเจ็ทใช่มั้ย ? มาส่งถึงหน้าบ้านเลย ขอบใจนะเอ๋ วัน
หลังพี่จะพาไปเลี้ยงอะไรอร่อย ๆ เก๋เข้าสวมกอดน้องสาวของเธอไว้
พี่ไปนอนล่ะนะ ยังปวดหัวอยู่เลย เก๋บอก พลางผละออกจากร่างน้องสาวของ
เธอและเดินขึ้นบันไดไปเข้าห้องนอนของเธอ
เฮ้อ ! เกือบไป นึกว่าพี่จะว่าอะไรเราซะอีก เอ๋นึกในใจอย่างโล่งอก
หลายวันต่อมา หลังเลิกเรียน
คำตอบของเราที่เรารอล่ะ ไปถึงไหนแล้ว ? ตกลงเราจะลองคบกันให้มากกว่า
เพื่อนได้มั้ย ? โอถามขึ้นในขณะที่โออยู่ตามลำพังกับเอ๋ในห้องชมรม
เอ๋นิ่งไปกับคำถามนั้นอยู่ครู่หนึ่ง
อยากให้คนถามเป็นพี่เจ็ทจัง เอ๋คิดในใจ
ขอโทษนะ ตอนนี้ยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ รอหน่อยนะ ขอเวลาคิดหน่อยแล้ว
กัน เอ๋ตอบไปอย่างนั้น
ได้สิ แล้วเราจะรอนะ แต่ขอเร็วนิดก็ดีนะ อยากไปเข้าค่ายชมรมกับเอ๋ จะได้
เที่ยวไหนต่อไหนกับเอ๋บ้าง โอบอก
คืนวันนั้น
ทำไมหมู่นี้คิดถึงแต่พี่เจ็ทน้า
ไม่เข้าใจเลยแฮะ หรือว่าเราจะชอบพี่เจ็ทเข้าซะ
แล้ว ? ไม่หรอกนะ ไม่ใช่แน่ ๆ สงสารพี่เก๋จัง ถ้าเราเกิดชอบพี่เจ็ทขึ้นมาจริง ๆ มันคง
เป็นไปไม่ได้หรอกที่พี่เจ็ทเกิดจะมองเรามากกว่ารุ่นน้องในชมรม พี่เค้าก็แก่กว่าเรา
หลายปี แถมยังเป็นแฟนกับพี่เก๋อยู่ด้วย เราจะไปแทรกกลางระหว่างเค้าได้ยังไง ในเมื่อ
แฟนพี่เจ็ทคือพี่เก๋ของเรา เอ..หรือการรับรักของโอจะเป็นทางออกให้เราได้เลือกนะ ?
เอ๋นึกในใจอย่างสับสนในความในใจของเธอเอง และจากการคิดคำนึงในตอนท้าย ๆ
เธอจึงตัดสินใจนัดโอในระหว่างเรียนให้พบเธอตามลำพังที่หลังโรงเรียน
ไง มีอะไรหรือเปล่า ? หรือว่าเรื่องคำตอบที่เราขอ โอเอ่ยถามขึ้นยิ้ม ๆ ทันทีที่
เขาเหยียบย่างบริเวณนั้นเข้ามาและพบว่าเอ๋กำลังรอเขาอยู่
ใช่แล้วล่ะ เรื่องคำตอบที่โอรออยู่ เอ๋พยักหน้ารับประกอบ
แล้วว่าไงล่ะ ? เราน่ะไม่มีอะไรหรอกนะ เราชอบเอ๋จริง ๆ โอยืนยันความรู้สึก
ของเขาอีกครั้งอย่างหนักแน่น
เราก็ไม่ปฏิเสธอะไรโอหรอกนะ ไม่รังเกียจด้วยถ้าเราจะคบกันมากกว่าเพื่อน
เอ๋ตอบก้มหน้า
จริง ๆ น่ะเหรอ ? โอถามย้ำเพื่อความแน่ใจ หากแต่เอ๋ก็เพียงแค่พยักหน้ารับ
เท่านั้น
ไชโย ! ดีใจจังเลย โอร้องออกมาเสียงดังอย่างปีติยินดี รี่เข้ามาคว้ามือน้อย ๆ
ทั้งสองข้างของเอ๋ขึ้นกุมไว้อย่างดีใจมาก
ขอบคุณนะเอ๋ ขอบคุณที่ให้โอกาสเรา โอบอกอย่างยินดี ซึ่งเอ๋ก็ได้เพียงแต่
พยักหน้ารับ
และแล้ววันเข้าค่ายของชมรมก็มาถึง ทุกคนในชมรมต่างก็ประหลาดใจที่รับรู้
ว่าโอและเอ๋เป็นแฟนกัน แต่ก็ยินดีกับเขาทั้งคู่ด้วยทุกคน
ดีจังนะ เหมือนได้มาเที่ยวกับแฟนฟรี ๆ เลย เจ็ทเดินโฉบเข้ามาแซวเอ๋อย่าง
อารมณ์ดี ซึ่งเอ๋ก็ได้แต่เพียงยิ้มเขิน ๆ แกมเศร้า
ช่วงเช้าของวันต่อมา คนในชมรมส่วนใหญ่ต่างก็ตัดสินใจที่จะเข้าไปเที่ยวชม
ในตัวเมือง ซึ่งเอ๋ก็ตัดสินใจที่เดินไปเที่ยวในตัวเมืองกับเพื่อน ๆ หญิงของเธอ ในขณะที่
โอก็ตัดสินใจที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนชายของเขาเช่นกัน
ก่อนการเดินทาง โอได้แวะมาหาเอ๋และบอกกับเธอว่า
เดี๋ยวโอจะไปกับพวกผู้ชายเค้า แต่ตอนเย็น โอจะมารอเอ๋ที่หน้าห้างใหญ่ในตัว
เมืองนะ ตอนบ่าย 2 นะ
ได้จ้ะ เอ๋รับคำก่อนที่จะเดินแยกเขาไปกับเพื่อนหญิงของเธอ
ในระหว่างการเดินช็อปปิ้งกับเพื่อน ๆ ของเอ๋นั้นเอง เอ๋ก็สังเกตเห็นเจ็ทเดินอยู่
ตามลำพังไปตามถนนสายนั้น
เดี๋ยวเราไปก่อนนะ มีธุระนิดหน่อย ไม่ต้องรอนะ เราจะกลับไปที่ที่พักเอง เอ๋
หันมาบอกเพื่อน ๆ ก่อนที่จะวิ่งตามเจ็ทไปอย่างไม่ให้เขารู้ตัว
เอ๋ ! โรงเรียนนี่นา พี่เจ็ทมาทำไมที่นี่นะ ? เอ๋หยุดอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งที่
เจ็ทได้เดินเข้าไปข้างในตัวโรงเรียนแห่งนั้น
เอ๋เดินเข้าไปในโรงเรียนนั้นอย่างสงสัย หากแต่เธอก็ไม่รู้จะไปที่ใดในบริเวณ
โรงเรียนนั้นดี เพราะเจ็ทได้หายไปจากสายตาของเธอเสียแล้ว
เอ๋เดินไปเรื่อย ๆ จนไปถึงสนามหญ้าด้านข้างของโรงเรียน ซึ่งเป็นบริเวณที่ร่ม
รื่นมาก เธอชะโงกหน้าไปตรงหน้าของเจ็ทซึ่งกำลังนอนเหยียดยาวอย่างสบายใน
อารมณ์
ฮัลโหล พี่เจ็ท มาทำอะไรคะ ? เอ๋ทักยิ้ม ๆ
อ้าว ! เอ๋หรอกหรือ ? เจ็ทย้อนถามอย่างใจลอย ก่อนที่จะพยุงตัวขึ้นนั่งชันเข่า
พร้อม ๆ กับที่เอ๋ทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เจ็ท
ก็ไม่มีอะไรหรอก ไหน ๆ ก็แวะมาที่จังหวัดนี้แล้ว พี่ก็เลยแวะมาโรงเรียนเก่า
เสียหน่อย คิดถึงน่ะ เจ็ทตอบ
เหรอคะ ? หนูเห็นพี่ได้แต่นอนพักในสนามหญ้า ไม่เห็นขึ้นตึกไปเยี่ยม
อาจารย์เลย เอ๋ตั้งข้อสังเกตขึ้น
เจ็ทนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเล่าเรื่องช้า ๆ ว่า
ที่ตรงนี้เคยเป็นที่ที่พี่กับแฟนเก่าพี่มานั่งเล่นกันประจำน่ะ แฟนเก่าพี่เป็นผู้
หญิงรุ่นพี่ เธอน่ารักมาก แต่เราก็ต้องเลิกกัน พี่อดคิดถึงไม่ได้ ก็เลยต้องแวะเข้ามานั่ง
ตรงนี้
แล้วเขาก็ลุกขึ้นโดยฉับพลัน พลางฉุดมือของเอ๋ให้ลุกขึ้นตามมาด้วย
ไปกันเถอะ พี่รู้จักร้านดี ๆ ร้านหนึ่ง อยากให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย ไหน ๆ ก็
ตามมาแล้ว เดี๋ยวจะหลง เจ็ทบอกพลางเดินนำออกจากโรงเรียนแห่งนั้นไป
กินอะไรดี ? ไอศกรีมนะ ? เจ็ทถามในขณะที่ทั้งสองต่างทรุดตัวลงนั่งบน
เก้าอี้ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งเรียบร้อยแล้ว
ค่ะ เอาช็อคโกแลตนะคะ เอ๋บอก
ช็อคโกแลต 2 ลูก ถ้วยหนึ่งกับกาแฟร้อนที่หนึ่ง เจ็ทหันไปบอกบริกรสาวที่
คอยรับรายการอยู่ใกล้ ๆ
ตลอดเวลาที่อยู่ในร้านอาหารแห่งนั้น เจ็ทได้แต่เหม่อลอยออกไปนอกร้าน
อาหาร ทำให้เอ๋แอบลอบมองอย่างเป็นห่วง โดยที่เธอก็แอบลอบมองนาฬิกาบ่อย ๆ เช่น
กัน
เจ็ทหันมาเห็นเอ๋ยกนาฬิกาข้อมือของเธอดูเวลาพอดี จึงเอ่ยถามว่า
มีธุระอะไรหรือเปล่า ? นัดโอไว้ใช่ไหม ?
เอ๋พยักหน้าน้อย ๆ ค่ะ นัดไว้บ่าย 2
เจ็ทยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาบ้าง ซึ่งในขณะนั้นเป็นเวลา 13 นาฬิกาพอดี เจ็ท
จึงกวักมือบริกรมาเก็บเงินค่าของว่างที่เขาสั่ง
รีบไปหน่อยละกัน เดี๋ยวโอมาเจอเอ๋อยู่กับพี่ เค้าจะเข้าใจผิดเอานะ เจ็ทบอก
ยิ้ม ๆ
เอ๋พยักหน้ารับรู้โดยมิตอบว่ากระไร
นัดไว้ที่ไหนเหรอ ? พี่จะไปส่งนะ เจ็ทหันมาถามอีกเมื่อทั้ง 2 ออกจากร้าน
อาหารร้านนั้นแล้ว
หน้าห้างใหญ่ในตัวเมืองน่ะค่ะ เอ๋บอก
งั้นก็ตามพี่มา อยู่ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่ นั่งรถไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เจ็ทบอก
พลางออกเดิน ทำให้เอ๋ต้องรีบเดินตามเจ็ทไป
เอ๋จะมาหรือยังน้า ?
โอคิดในใจในขณะที่เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา ซึ่ง
ตอนนั้นเป็นเวลา 13 นาฬิกากว่า ๆ แล้ว
แต่เขาก็รออยู่ไม่นาน เขาก็เห็นเอ๋เดินตรงมาแต่ไกล และภาพที่ปรากฏแต่
สายตาเขากลับไม่มีเพียงแต่เอ๋เท่านั้น ข้าง ๆ เอ๋กลับมีเจ็ทเดินอยู่ข้าง ๆ ด้วย
ขอบคุณนะคะ พี่เจ็ท อุตส่าห์มาส่งหนู ไปล่ะค่ะ เอ๋ยกมือไหว้ขอบคุณ
ประกอบ พร้อมทั้งยิ้มส่งให้อย่างร่าเริงก่อนที่จะเดินแยกไป
โอ ! เอ๋ร้องอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อเธอเดินจากเจ็ทไปได้เพียงไม่กี่ก้าว
เขาคงไม่เห็นพี่เจ็ทหรอกนะ เอ๋นึกในใจ พลางยิ้มทักทายโอ
หวัดดีจ้ะโอ รอนานหรือเปล่า ? เอ๋ร้องทัก
โอส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วถามว่า
ไง หายากหรือเปล่า ? มายังไงนี่ ? เขาแกล้งถามโดยเจตนาไม่ให้เอ๋รู้ว่า เขา
เห็นเธอและเจ็ท
เอ๋ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนที่จะตอบว่า
ถามเพื่อน ๆ เอาน่ะ
วันหนึ่ง หลังเลิกเรียนตอนเย็น เอ๋เดินมายังหลังโรงเรียนเพื่อหาที่สงบในการ
อ่านหนังสือทบทวนของเธอ
เธอคงเป็นเอ๋ น้องของเก๋สินะ เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นข้างหลังตัวเอ๋
เอ๋หันขวับไปอย่างตกใจกับเสียงนั้น และเธอก็พบว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นเด็ก
หนุ่มวัยรุ่น นักเรียนมัธยมปลายของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง
คุณเป็นใคร ? เข้ามาที่นี่ได้ยังไง ? เอ๋รีบถามทันทีอย่างตกใจ
ไม่สำคัญหรอกว่าผมเป็นใคร เธอใช่น้องของเก๋หรือเปล่า ? เด็กหนุ่มถาม
อย่างคาดคั้น
ใช่แล้วจะทำไม ? เธอย้อนถามกลับไป
แต่ก็ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะตอบ เจ็ทก็เดินเข้ามาพอดี
ใครน่ะ ? เจ็ทถามเสียงดังอย่างสงสัย
เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร ? เขาถามต่อไป
เด็กหนุ่มคนนั้นหันมามองเจ็ทนิดหนึ่ง ก่อนที่จะบอกเอ๋เบา ๆ ว่า
ไปล่ะ ผมแค่มาดูหน้าคู่แข่งเท่านั้น ผมชื่อวอร์ม จำไว้ดี ๆ ล่ะ วอร์มบอก ก่อน
ที่จะกระโดดข้ามรั้วโรงเรียนออกไปทันที
เป็นอะไรหรือเปล่า เอ๋ ? เจ็ทรีบเดินเข้ามาถามอย่างห่วงใย
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณค่ะ เอ๋ตอบพลางรีบเก็บตำราเรียนของเธอและรีบ
เดินไปทันที
อ้าว ! เอ๋ มาอยู่นี่เอง หาตั้งนาน จะกลับหรือยัง ? จอยเดินตรงมาถามเอ๋
เอ๋พยักหน้ารับ แล้วเริ่มต้นเดินออกไปทางประตูโรงเรียน ทำให้จอยเพื่อนสาว
ของเอ๋ต้องรีบเดินตามเธอไป
ไงจ๊ะ น้องเอ๋ วอร์มเดินตรงมาทักอย่างสนิทสนม
วอร์ม
เอ๋ทักอย่างประหลาดใจ
ทำไมยังมาอยู่ที่นี่ ? พี่เก๋เค้าไม่ได้เรียนที่นี่หรอกนะ เอ๋บอก
ก็รู้แล้ว มารอเธอต่างหาก วอร์มบอก
ฉันไม่ให้ข้อมูลของพี่เก๋กับนายหรอก เอ๋บอก พลางฉุดมือจอยให้เดินผ่านไป
อย่างรวดเร็ว
อ๊ะ ! ระวัง วอร์มร้องบอก พลางรีบวิ่งเข้าไปกระชากตัวเอ๋และจอยให้หลบรถ
ยนต์คันหนึ่งซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงอย่างรวดเร็ว
ไม่เป็นไรนะ วอร์มหันมามองเด็กสาวทั้ง 2 แล้วถามอย่างห่วงใย
ไม่เป็นไร ขอบใจ เอ๋บอกพลางลุกขึ้นปัดรอยเปื้อนที่กระโปรงของเธอแล้ว
รีบพาจอยเดินหนีไปทันที
เมื่อพ้นสายตาของวอร์มมาแล้ว จอยจึงเอ่ยขึ้นว่า
นี่ เมื่อกี้นี้ใครน่ะ ?
เพื่อนพี่น่ะ เค้ามาจีบพี่ เอ๋ตอบอย่างไม่สนใจ
แต่เท่ห์จังนะ รวยด้วย นั่นมันเครื่องแบบเด็กเซนต์จอห์นเลยนะ จอยบอก
อย่างตื่นเต้น
ฮ้า ! จริงอ่ะ เอ๋หันขวับมาถามอย่างตกใจ
รถมาพอดี จอยไปก่อนล่ะนะ เจอกันพรุ่งนี้จ้ะ บ๊ายบาย จอยบอกพลางขึ้นรถ
ประจำทางที่แล่นมาจอดป้ายรถเมล์ที่เธอ 2 คนกำลังยืนอยู่นั้นไปทันที
ไงจ๊ะ น้องเอ๋ เพื่อนหายไปแล้ว วอร์มโผล่ขึ้นมาข้าง ๆ เอ๋พลางทักเรื่อย ๆ
โดยไม่สนใจกับท่าทีประหลาดใจของเอ๋เลยแม้แต่น้อย
แล้วนี่ตามมาทำไมน่ะ ? เอ๋ถามอย่างไม่พอใจ
ก็ตอนแรกว่าจะมาขอข้อมูลเก๋เสียหน่อย แต่มาเจอเธอเข้าแล้ว ก็เปลี่ยนใจดี
กว่า วอร์มบอกแบบไม่สนใจ
หมายความว่ายังไง ? เอ๋ถามต่อไปอย่างงง ๆ ในคำตอบของวอร์ม
ก็หมายความว่ากำลังจะจีบเอ๋ไง วอร์มบอกอย่างตรงไปตรงมา
รถมาแล้ว ฉันไปล่ะ เอ๋บอกพลางขยับจะเดินไปขึ้นรถประจำทางคันนั้น
เดี๋ยวสิ
ไปทะเลกันนะ ชวนเก๋กับเจ็ทไปด้วย อาทิตย์นี้ว่างไม่ใช่เหรอ ?
วอร์มดึงมือเอ๋ไว้พร้อมกับบอกเธออย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะปล่อยมือของเธอให้ขึ้นรถ
ประจำทางหลังพูดจบแล้ว
วันอาทิตย์
ณ ชายทะเลแห่งหนึ่ง
ไง เอ๋ ชุดนี้พอจะโอเคมั้ย ? ช่วยดูให้พี่หน่อยสิ เก๋เดินตรงมายังเอ๋ซึ่งนั่งอยู่ชาย
หาด พลางถามพร้อมกับหมุนตัวรอบ ๆ ให้เอ๋พิจารณา
ก็ดีแล้วล่ะ ทำไมเหรอ ? เอ๋พยักหน้า แล้วย้อนถามอย่างสงสัย เพราะแต่ไหน
แต่ไรมา พี่สาวของเธอไม่เคยถามเรื่องเครื่องแต่งกายบนตัวเธอเลยแม้แต่น้อย ด้วยความ
มั่นใจที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในตัวของเก๋นั่นเอง
ก็มากับเจ็ททั้งที ไม่รู้สินะ มันเขิน ๆ ยังไงก็ไม่รู้ เก๋บอกเขิน ๆ พลางมองไป
ยังเจ็ทซึ่งเล่นสกู้ตเตอร์กับวอร์มอยู่ในทะเล
งั้นพี่ไปหาเขานะ ขึ้นมาพอดีเลย เก๋บอก แล้วผละไปหาเจ็ทซึ่งกำลังคืนสกู้ต
เตอร์ที่เช่ามาพอดี พร้อม ๆ กับวอร์มที่กำลังเดินตรงมายังเอ๋
วอร์มทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เอ๋ และแอบเหลือบมองเอ๋ ก่อนที่จะพูดลอย ๆ ว่า
ชอบนายเจ็ทอีกคนล่ะสิ
เอ๋หันขวับทันทีด้วยความตกใจ
บ้าเหรอ ? เรามีแฟนแล้วนะ จะให้ไปชอบพี่เจ็ทได้ยังไง อีกอย่าง พี่เจ็ทเค้าก็
เป็นแฟนกับพี่เก๋ด้วย เอ๋ไม่บ้าพอที่จะไปชอบพี่เจ็ทหรอก เอ๋ปฏิเสธ พร้อมทั้งหลบ
สายตาของวอร์มไปทางอื่น
เธอกำลังโกหกเราและโกหกตัวเองด้วยนะ
เราจะรักใครสักคนแล้วคน ๆ
นั้นมีแฟนแล้ว มันผิดนักหรือไง? ไม่ผิดหรอก เลิกโกหกตัวเองเถอะ วอร์มบอกพลาง
เบือนสายตาของเขาไปยังทะเลกว้างใหญ่ตรงหน้า
เอ๋นิ่งไปกับคำพูดประโยคนั้นของวอร์ม เหมือนดั่งเธอยอมรับคำพูดนั้น
ก็แล้วไงล่ะ ? เอ๋ถามลอย ๆ เป็นการยอมรับคำพูดของวอร์มโดยสิ้นเชิง
ตัดใจเถอะ วอร์มหันมาบอกอย่างจริงใจ
มันเจ็บปวดนะ ไอ้การที่เรามาแอบมองคนที่เรารักมีความสุขกับแฟนซึ่งก็คือพี่
ของเราเอง แล้วเราไม่มีสิทธิจะเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างเขาทั้งคู่ได้เลย
ก็เพราะอย่างนั้นถึงยอมเป็นแฟนกับโอไง เอ๋บอกตรง ๆ
เย็นวันนั้น
เอ๋ เอ๋เห็นเจ็ทมั้ยจ๊ะ? ใกล้อาหารเย็นแล้ว ไม่รู้ไปไหน ช่วยตามให้พี่หน่อยสิ
เก๋เดินมาพลางกวาดสายตาของหาเจ็ทรอบ ๆ
ได้ค่ะ เอ๋รับคำก่อนที่จะเดินแยกไปอีกทางหนึ่ง
เออ จริงสิ เอ๋ เก๋หันกลับมายังเอ๋อีกครั้งพร้อมทั้งเรียกเอ๋ไว้
เอ๋หันกลับมามองเก๋เชิงเป็นคำถาม
พี่เห็นรองเท้าของเอ๋สีแดงวางอยู่ในตู้รองเท้า น่ารักจังเลย ว่าง ๆ พี่ยืมใส่หน่อย
ได้มั้ยจ๊ะ ? เก๋ถามเป็นเชิงขออนุญาต
เอ๋นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะรีบตอบปฏิเสธทันทีว่า
ไม่ได้หรอกค่ะ พี่เก๋ ไม่ได้จริง ๆ ขอโทษนะคะ
ไม่เป็นไรจ้ะ โอซื้อให้สินะ เก๋ทำหน้าเสียดายนิดหนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมา
ไปช่วยพี่ตามหาเจ็ทเถอะจ้ะ จะได้กินข้าวเย็นแล้วกลับกันซะที เก๋บอกพลาง
เดินไปอีกทางหนึ่ง
เอ๋เดินตามหาเจ็ทตามโขดหินต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่รอบบริเวณนั้น
อ๊ะ ! พี่เจ็ทนี่ เธออุทานออกมาเบา ๆ เมื่อพบร่าง ๆ หนึ่งซึ่งนอนอยู่ระหว่าง
โขดหิน ที่ยากแก่การค้นหา
เอ๋ เอ๋เจอมั้ยจ๊ะ ? เก๋ร้องถามแต่ไกล
เอ๋หันไปโบกมือนิดหนึ่งเป็นเชิงปฏิเสธ ทำให้เก๋ต้องเดินไปอีกทางหนึ่ง โดยมี
วอร์มเดินตามเก๋ไปด้วย
เอ๋หันมามองร่างของเจ็ทตรงหน้า พลางทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เขา
คน ๆ นี้คือแฟนของพี่เรา จะทำยังไงดีนะ ? เราจะตัดใจได้เหรอนี่ ขอเถอะนะ
พี่เก๋ เอ๋ขอเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเอ๋จะตัดใจจากพี่เจ็ทให้ได้ เอ๋นึกในใจ พลางโน้มตัวลง
ไปจุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผากของเขา
ไม่นะ เก๋ เจ็ทพึมพำออกมา แล้วลืมตาตื่นขึ้น พบว่า ร่างนั้นมิใช่เก๋ แต่เป็นเอ๋
น้องสาวของเก๋ต่างหาก ซึ่งเอ๋นั้นก็ได้วิ่งผละเขาไปเสียแล้ว
เอ๋ เดี๋ยวสิ เจ็ทร้องเรียกไว้ แต่เอ๋ก็ไม่ยอมหยุดวิ่ง จนกระทั่งเจ็ทหยุดวิ่งตาม
เธอเพราะเอ๋ได้วิ่งไปไกลเสียแล้ว
เอ๋วิ่งหนีเจ็ทมาจนมาพบกับวอร์มเข้าพอดี
อ้าว ! เอ๋ ไปไหนมานี่ ? เจ็ทล่ะ ? วอร์มถามอย่างห่วงใย
ทันทีที่ได้ยินคำว่า เจ็ท น้ำตาก็หยาดลงสู่แก้มใสของเธอ เธอโผเข้ามาอ้อม
กอดของวอร์มทันที
ค่อย ๆ นั่งลงก่อนนะ มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน วอร์มประคองเอ๋ให้นั่งลง
กับพื้นทราย
ไปเจอเจ็ทมาล่ะสิ เขาเดา ทำให้เธอร้องไห้หนักยิ่งขึ้น
ร้องเถอะ ร้องให้พอ วอร์มบอก พลางลูบศีรษะเธอเบา ๆ อย่างอ่อนโยน
ค่ำวันนั้น หลังอาหารมื้อเย็น
เอ๋จ๋า วอร์มลืมของไว้ตรงชายหาดน่ะจ้ะ ไปเก็บให้หน่อยได้มั้ย ? วอร์มหันมา
บอกเอ๋
เอ๋พยักหน้ารับแล้วรีบเดินไปทันที
เก๋ช่วยผมล้างจานหน่อยสินะ มันเยอะ ผมล้างไม่ค่อยเป็นซะด้วย วอร์มหันมา
บอกเก๋ และรีบดึงเก๋ไปที่ล้างจานทันที
เออ จริงสิ เจ็ทไปดูเอ๋หน่อยสิ กลัวเอ๋จะหาไม่เจอ วอร์มหันมาตะโกนบอก
เจ็ท
ได้ เจ็ทรับคำสั้น ๆ ก่อนจะเดินลงจากบ้านพักไปชายหาดติดกับบ้านพักทันที
พี่เจ็ท
เอ๋อุทานเบา ๆ เมื่อเห็นว่าร่างที่ตามเธอมาคือใคร
ไม่ต้องคิดมากน่า จูบเด็ก ๆ ไม่มีความหมายอะไรกับพี่หรอก เจ็ทกล่าวออก
มาอย่างไม่สนใจ
ใช่สิคะ พี่อาจจะมองหนูว่าหนูเด็ก แต่ที่หนูทำกับพี่เจ็ทแบบนั้น เพราะหนูรัก
พี่เจ็ทค่ะ ได้ยินมั้ยคะ หนูรักพี่เจ็ท พี่เจ็ทมาทำให้หนูรักพี่ทำไมคะ ? เอ๋บอกรักกับเจ็ท
พลางร้องไห้เบา ๆ
เอ๋ยังเด็กอยู่ ไม่รู้หรอกว่ารักมันเป็นยังไง อย่าพูดอย่างนี้ดีกว่านะ เจ็ทบอก
หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะคะพี่เจ็ท หนูโตพอที่จะรักใครได้เหมือนกันนะคะ รักไม่
ขึ้นกับอายุหรอกค่ะ 15 ก็รักใครเป็นเหมือนกัน เอ๋เถียงทั้ง ๆ น้ำตา
ถ้าหากได้ครอบครอง มันจะทำให้ใครบางคนเจ็บปวดได้นะ เจ็ทบอก แต่เอ๋
กลับนิ่งอยู่เช่นนั้น
เจ็ทนิ่งไปอึดใจหนึ่ง แล้วบอกตรง ๆ ว่า
ไม่ได้หรอก
หนูรู้คำตอบของพี่อยู่แล้วล่ะค่ะ
พี่มาทำให้หนูรักพี่ทำไม ? เอ๋ย้ำคำถาม
ประโยคนั้น ก่อนที่จะวิ่งกลับบ้านพักพร้อมทั้งน้ำตา
วันจันทร์ถัดมา
ไง ไปทะเลมาหรือ ดำเชียว โอทักเอ๋ขึ้นอย่างห่วงใย
จ้ะ เอ๋พยายามฝืนยิ้มตอบ
หลังเลิกเรียนไปเคเอฟซีกันนะ เงียบดี โอบอก
เอ๋พยักหน้ารับโดยไม่ปฏิเสธใด ๆ ทั้งสิ้น
หลังเลิกเรียน ที่ร้าน KFC ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ไปทะเลกันไม่ชวนเลย วันหลังไปด้วยกันบ้างดีมั้ย ? โอเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ
อย่าดีกว่า เอ๋ส่ายหน้าประกอบ
เอ๋ขอโทษนะโอ เรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนแต่ก่อนได้มั้ย ? เอ๋รวบรวม
ความกล้าแล้วบอกออกมาเบา ๆ
อะไรนะ เอ๋ ? โอทวนอย่างตกใจกับคำพูดของเธอ
ขอโทษนะโอ เอ๋ไม่ได้ตั้งใจ
เอ๋บอกพร้อมทั้งหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจ
ขอโทษเรอะ ?
เธอคงไม่ได้รักเราตั้งแต่แรกแล้วสินะ โอเดา หากแต่เอ๋ก็
พยักหน้ารับน้อย ๆ
แล้วเธอจะมาหลอกเราทำไมกัน เอ๋ ? เธอชอบทำให้คนเจ็บหรือไงกัน ? โอ
ถามเสียงดังใส่หน้าของเธอพร้อมทั้งเดินจากไป
วันต่อมา
เอ๋เลิกกับโอแล้วเหรอ ? จอยเพื่อนสนิทถามอย่างตกใจ
ฮือ เอ๋พยักหน้ารับคำนั้น
ฮ้า ! เป็นไปได้ยังไงกันนี่ จอยอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
เธอรู้มั้ยว่า เค้ารู้เรื่องเธอเลิกกับโอกันหมดแล้วนะ เมื่อวานมีคนไปเห็นเธอ 2
คนทะเลาะกันด้วย จอยบอก
ช่างเขาสิ เอ๋บอกอย่างเนือย ๆ
วันหยุดสุดสัปดาห์ก็เวียนมาถึงอีกครั้ง
เอ๋สวมรองเท้าสีแดงคู่ที่เจ็ทซื้อให้เธอ แล้วเดินทางไปยังบ้านของเจ็ท
พี่เจ็ท สวัสดีค่ะ เอ๋ทักขึ้นเมื่อเจ็ทเดินมาเปิดประตูบ้านให้เธอ
เอ๋
เจ็ทเรียกชื่อผู้มาเยือนอย่างตกใจ
จะให้หนูเลิกรักพี่เจ็ทน่ะ หนูทำไม่ได้หรอกนะคะ ยังไงก็หยุดไม่ได้ เมื่อใจ
มันรักแล้ว มันก็จะรักต่อไปค่ะ เอ๋บอกตรง ๆ ด้วยเสียงสั่นเครือ พร้อมทั้งโผเข้าไปกอด
อ้าว ! เอ๋
เสียงของเก๋อุทานออกมาอย่างประหลาดใจเมื่อเธอเดินมาพบว่าเอ๋
โผเข้าไปกอดเจ็ทพอดี
เก๋เหลือบสายตาลงมองรองเท้าคู่ที่เอ๋สวมใส่อยู่นั้น แล้วพูดลอย ๆ ว่า
รองเท้าคู่นั้นนี่นา
แล้วเธอก็ตวัดสายตาขึ้นมองคนทั้งคู่ทันที
หรือว่าคนที่ซื้อรองเท้าให้เอ๋จะเป็นเจ็ท ?
แต่ทั้งคู่ก็เงียบไปกับคำถามนั้น
ทำไมล่ะเอ๋ เกิดอะไรขึ้น ? เก๋หันมาถามเอ๋ด้วยเสียงดังเล็กน้อย แล้วเธอก็นิ่ง
ไป ก่อนที่จะจับมือเอ๋ไว้
เอ๋ก็ชอบเจ็ทเหมือนกันเหรอ ? เก๋ถามเบา ๆ แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง
เอ๋ก้มหน้าลงนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น
เก๋มองเจ็ทนิดหนึ่งก่อนที่จะพยายามฝืนยิ้มออกมาแล้วบอกว่า
ขอโทษนะเจ็ท ขอตัวกลับก่อนแล้วกัน
ไป เอ๋ พี่น้องมาทะเลาะกันหน้าบ้าน
คนอื่นมันไม่ดีหรอก แล้วเก๋ก็ลากตัวเอ๋ไปทันที
ระหว่างทางนั้น เก๋ก็ปล่อยมือของเอ๋ให้เป็นอิสระ เดินนำเด็กหญิงไปเรื่อย ๆ
อย่างไม่สนใจ
พี่เก๋ ไม่ใช่นะคะ ไม่ใช่อย่างที่พี่เก๋กำลังคิดนะ เอ๋พยายามอธิบายให้เก๋เข้าใจ
ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นแหละ พี่ไม่อยากฟัง พี่จะแวะไปเที่ยวหน่อย บอก
แม่ให้ด้วยแล้วกัน เก๋พูดโดยไม่หันมามองหน้า แล้วรีบเดินแยกตัวไปอีกทางหนึ่งทันที
พี่เก๋
เอ๋เรียกชื่อพี่สาวของเธอด้วยความรู้สึกหลาย ๆ อย่างที่ประดังขึ้นมา
ในใจของเธอ
ตอนเย็นของวันต่อมา
คืนนี้ลูกคนโตของคุณน้าเขาจะแต่งงานนะลูก ลูกไปอาบน้ำแต่งตัวซะนะ จะ
ได้ไปด้วยกัน มารดาของเก๋และเอ๋กล่าวขึ้นในระหว่างที่พี่น้องทั้งสองกำลังรับชมราย
การทางโทรทัศน์
ได้ค่ะแม่ เก๋รับคำพร้อมทั้งรีบลุกไปทันที
เอ๋มองตามหลังเก๋ไป ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกจากห้องนั้น
สักครู่ใหญ่ ๆ ต่อมา พี่น้องทั้งสองก็เดินลงมาพบมารดาของเธอภายในห้องเมื่อ
ครู่นี้ที่ชมโทรทัศน์กันอยู่
แหม ! เอ๋ แต่งตัวจืดจังลูก มารดาวิจารณ์ ก่อนที่จะหันไปกล่าวเก๋ว่า เก๋ให้
น้องยืมเครื่องประดับหน่อยนะลูก พาน้องไปลองแล้วคอยดูให้น้องด้วยนะจ๊ะ
ได้ค่ะแม่ เก๋รับคำ ก่อนที่จะจูงมือของเอ๋เดินขึ้นไปในห้องของเก๋
เก๋ยกกล่องเครื่องประดับของเธอมาวางตรงหน้าเอ๋โดยไม่พูดอะไร
เก๋มองมือของน้องสาวของเธอที่หยิบชิ้นเครื่องประดับต่าง ๆ อย่างเกรงใจ ก่อน
ที่เธอจะพูดเบา ๆ ว่า
จะเอาอะไรก็หยิบไปสิ พี่ให้ได้ทุกอย่าง แต่เจ็ทน่ะ พี่ให้ไม่ได้จริง ๆ พี่ขอร้อง
อย่าเอาเจ็ทไป
ได้มั้ย ? เก๋พูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือ น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อล้นเบ้าตา
เอ๋มองเก๋ด้วยความสงสาร
เราไม่เคยเห็นพี่เก๋ร้องไห้อย่างนี้มาก่อนเลย เราไม่น่าเลย ไม่น่าจริง ๆ ขอโทษ
ค่ะพี่เก๋ ต่อไปเอ๋จะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว ไม่แล้วจริง ๆ เอ๋นึกในใจ
นะเอ๋ พี่ขอร้อง อย่าเอาเจ็ทไปได้มั้ย ? เก๋ร้องถามด้วยเสียงสะอื้น
หยุดร้องไห้เถอะนะคะพี่เก๋ เอ๋ขอโทษ ขอโทษจริง ๆ เอ๋ไม่เอาพี่เจ็ทอีกแล้วล่ะ
เอ่ไม่ต้องการพี่เจ็ทแล้วจริง ๆ พี่เจ็ทน่ะเป็นของพี่เก๋นะคะ ไม่ใช่ของเอ๋ พี่เก๋อย่าร้องนะ
คะ เอ๋ตัดสินใจพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครืออย่างสงสารเด็กสาวตรงหน้าอย่างจับขั้วหัว
ใจ
หลังเลิกเรียนวันต่อมา
เอ๋จะไปห้องชมรมหรือเปล่า ? จอยถามขึ้นในขณะที่กำลังสาละวนเก็บตำรา
เรียนของเธอ
ไม่ล่ะ เราขอโดดดีกว่า ไม่อยากเข้าชมรมเลย เอ๋ตอบพร้อมทั้งส่ายหน้า
ปฏิเสธ
ทำไมล่ะ ? แต่ก่อนเราเห็นเธอร่ำร้องอยากจะเข้าให้ได้ทุกวัน จอยตั้งข้อสงสัย
ขึ้น
ก็เพราะพี่เจ็ทอยู่ในชมรมด้วยน่ะสิ ถึงไม่อยากไป เอ๋นึกในใจ แต่ปากก็ตอบ
ไปว่า
ขี้เกียจแล้วล่ะ ไปไหนกันดีล่ะ ?
ก็กำลังจะชวนอยู่นี่ไง
เอ๊ะ ! นั่นพี่ที่ชมรมเธอนี่นา เดินมาตามเธอหรือเปล่า
? จอยตอบ ในตอนท้ายเธอหันไปเห็นเจ็ทเดินตรงมายังเธอทั้งคู่จึงสะกิดเอ๋พร้อมทั้ง
ถามอย่างสงสัย
เอ๋หันไปมองทิศทางที่จอยบุ้ยปากไป แล้วหัวใจเธอก็เต้นแรงขึ้นเพราะคน ๆ ที่
จอยกล่าวถึงนั้นคือเจ็ทนั่นเอง
คงไม่มั้ง ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะกลับบ้านดึก เอ๋บอก พลางรีบเดินไปทันที
เอ๋ โดดชมรมเหรอ ? เจ็ทถามขึ้นเมื่อเห็นเอ๋และจอยเดินมาในระยะใกล้ ๆ
เอ๋ไม่ตอบคำถามนั้น แล้วรีบเดินสวนเจ็ทไปทันที
เอ๋ เธอมีอะไรกับชมรมหรือเปล่า ? เราเห็นเอ๋ไม่เข้าชมรมหลายวันแล้วนะ
จอยตั้งข้อสงสัยขึ้นหลังจากที่เธอสังเกตเพื่อนสนิทของเธอเงียบ ๆ มาหลายวันแล้ว
ก็อย่างที่บอกน่ะแหละ ขี้เกียจเข้า เอ๋ตอบบ่ายเบี่ยงไปอีกทาง
เพราะโอหรือเปล่า ? โออยู่ชมรมเดียวกันด้วยหนิ จอยตั้งข้อสังเกตขึ้นอีกข้อ
ไม่เกี่ยวกับโอหรอก เอ๋ตอบปฏิเสธ
ไปเรียนแล็บกันเถอะ เอ๋หันมาชวน พร้อมทั้งหยิบหนังสือขึ้นมาในอ้อมกอด
ของเธอ
จอยทำหน้าแปลก ๆ เหมือนไม่เชื่อคำที่เอ๋ตอบแต่อย่างใด แต่เธอก็หยิบหนังสือ
แล้วเดินไปกับเอ๋ทันที
แน่ะ เจอพี่คนนั้นอีกแล้ว จอยกระซิบบอกเอ๋เบา ๆ
เอ๋หันไปมอง พี่คนนั้น ที่จอยกล่าวถึง แล้วเธอก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เพราะคน
ๆ นั้นคือ เจ็ทนั่นเอง
เอ๋รีบไปไหน ? จอยร้องเรียก
เร็ว ๆ เข้า จะเข้าเรียนแล้ว เอ๋หันมาบอก แล้วรีบเดินนำไปอย่างเจตนาหนี
หน้าเจ็ท
ตอนเที่ยงของวันสอบปลายภาควันสุดท้ายก็เวียนมาถึง
เป็นไงบ้างเอ๋ ทำไมดูแย่ ๆ อย่างนี้ล่ะ ? จอยทักเอ๋ทันทีที่เห็นเอ๋เดินโผเผออก
จากห้องสอบวิชาสุดท้าย
เอ๋ฝืนยิ้มให้นิดหนึ่ง
ก็เพราะมัวแต่ตัดใจจากพี่เจ็ทอยู่น่ะสิ ถึงได้มีสภาพแบบนี้ แต่เราก็ยังทำไม่ได้
อยู่ดี เอ๋ตอบแต่เพียงในใจเท่านั้น
เอ๋ ! จอยร้องอุทานออกมาด้วยเสียงดังมาก เพราะร่างตรงหน้าทรุดลงไปกับ
พื้นต่อหน้าต่อตา
เอ๋ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองอยู่ภายในห้องพยาบาลของโรงเรียนที่เธอศึกษา
อยู่นั้นเอง แล้วเธอก็ยังพบว่าเธอมิได้อยู่ภายในห้องนั้นตามลำพัง ข้าง ๆ เตียงนั้นมีอีก
บุคคลหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ
พี่เจ็ท
เธอร้องเรียกชื่อนั้นอยู่แต่เพียงในใจ
เจ็ทเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่เขาตั้งหน้าตั้งตาอ่านเพื่อเตรียมสอบในช่วงบ่ายมา
มองร่างที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้า ทำให้เอ๋รีบแกล้งเป็นหลับทันที
เจ็ทถอนหายใจเบา ๆ พลางพึมพำให้ได้ยินว่า
เอ๋หลับอยู่หรือเปล่า ?
เมื่อไม่มีคำตอบจากร่างตรงหน้า เขาจึงพูดต่อไปราว
กับว่าเธอรับรู้ว่า
เหลือเชื่อเลยจริง ๆ
เอ๋นี่ก็เก่งนะ ทำในสิ่งที่พี่ทำไม่ได้
แล้วเจ็ทก็ปิดหนังสือเล่มนั้นก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปทันที
เอ๋ลืมตาขึ้นมองตามหลังร่างที่เดินจากไปทันทีที่เธอรู้ว่าเขาลุกออกจากห้องไป
แล้ว ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ในคำพูดของเขา
วันหนึ่งในช่วงปิดเทอมซึ่งตรงกับวันเกิดของเก๋พอดี
เอ๋ยื่นกล่องของขวัญไปตรงหน้าเก๋พร้อมทั้งบอกว่า
แฮปปี้เบิร์ทเดย์ค่ะ พี่เก๋ ไม่รู้ว่าจะถูกใจพี่หรือเปล่านะ
เก๋ยิ้มให้ ก่อนที่จะตอบว่า
ขอบใจจ้ะ เอ๋ให้พี่ พี่ก็ถูกใจแล้วล่ะ
เย็นนี้พี่มีนัดหรือเปล่าคะ ? เอ๋ถามต่อไป
เย็นนี้เจ็ทจะเลี้ยงวันเกิดให้พี่น่ะ เอ๋มาก็ดีแล้ว ช่วยดูให้พี่หน่อยสิว่าชุดไหนดี
พี่เลือกอยู่นานแล้วล่ะ เก๋บอกโดยไม่มองหน้าน้องสาวเพราะมัวแต่สาละวนอยู่กับเสื้อ
ผ้าตรงหน้า
ทันใดนั้นเอง เสียงกริ่งโทรศัพท์ก็ดังกังวานขึ้น
เอ๋รีบลุกไปรับโทรศัพท์ทันทีพร้อมทั้งบอกว่า
เอ๋รับเองค่ะพี่ พี่เก๋เลือกต่อไปเถอะ
ขอบใจนะจ๊ะ
ฮัลโหล เอ๋กรอกเสียงลงไปตามสาย
สวัสดีจ้ะ เอ๋ เสียงปลายสายตอบกลับมา
จะพูดกับพี่เก๋หรือคะ ? จะไปตามให้นะ รอหน่อยนะคะพี่เจ็ท เอ๋ตอบกลับไป
ไม่ต้อง จะคุยกับเอ๋นั่นแหละ เจ็ทรีบตอบกลับมา
อยากเจอหน้าจัง ออกมาหน่อยได้มั้ย ? เจ็ทรีบบอกต่อไปทันที
อย่าเลยค่ะ หนูไม่อยากเจอหน้าพี่เจ็ทอีก หนูสัญญากับตัวเองไว้แล้ว อย่าให้
หนูผิดคำสัญญาเลยนะคะ เอ๋ตอบปฏิเสธทันทีอย่างไม่ลังเล
พี่ขอนะ ครั้งสุดท้าย ออกมาหน่อยได้มั้ย ? อยากเห็นหน้าเอ๋จริง ๆ เจ็ทยืนยัน
เจตนารมย์ของเขา
เอ๋นิ่งไปอย่างลังเล เพราะลึก ๆ ในใจของเธอแล้ว ยังคงตัดเขาออกไปจากความ
คิดของเธอไม่ได้ และยังคงถวิลหาเขาอยู่เสมอ
นะเอ๋ ครั้งสุดท้าย เจ็ทบอกย้ำอีกครั้ง
ก็ได้ค่ะ ครั้งสุดท้ายนะคะ เอ๋ตกลงหลังจากนิ่งไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง
พี่จะรออยู่ตรงหน้าเซ็นทรัลใกล้บ้านเอ๋นะ ออกมาตอนนี้เลย เจ็ทรีบบอก
อย่างดีใจ
ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ เอ๋บอกพลางวางหูโทรศัพท์ลงกับตัวเครื่องก่อนที่จะรีบ
วิ่งเข้าห้องของเธอหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วรีบวิ่งออกไปจากบ้านทันที
หน้าห้างเซ็นทรัล
พี่เจ็ทมีธุระอะไรกับหนูหรือคะ ? เอ๋รีบถามขึ้นทันทีที่พบหน้าเจ็ท
อยากพบ อยากเจอเท่านั้นแหละ เจ็ทตอบ
วันนี้พี่ขอวันนึงนะ อยากให้เอ๋เป็นตัวเอ๋เอง พี่ก็จะเป็นพี่เจ็ทของเอ๋ ไม่มีเก๋เข้า
มาเกี่ยวข้อง เจ็ทบอกต่อไป
นัดกับพี่เก๋ไว้กี่โมงคะ ? เอ๋ถาม
6 โมงเย็น เรามีเวลาด้วยกันตั้ง 5 ชั่วโมงเชียวนะ เจ็ทบอก
เอ๋นิ่งไปนิดหนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
ไปดูหนังกันนะพี่เจ็ท หนูอยากดูกับพี่เจ็ทมานานแล้วล่ะ
ได้สิ เจ็ทพยักหน้ารับยิ้ม ๆ
หลังการชมภาพยนตร์เรื่องนั้น ทั้งคู่ก็ออกมาเดินอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่ง
นั้น
เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นเอง เร็วจังนะคะพี่เจ็ท เวลาที่เราได้อยู่ด้วย
กันเนี่ย เอ๋รำพึงออกมาเบา ๆ
จริงสิ พี่เจ็ท หนูอยากรู้ว่า ไอ้ที่พี่พูดตอนที่หนูอยู่ในห้องพยาบาล พี่หมาย
ความว่าอะไรคะ ? เอ๋รีบถามอย่างสงสัยทันที
เอ๋ไม่ได้หลับนี่ แกล้งพี่นี่นา เจ็ทหันมาพูดทันที
เอ๋ยิ้มเขิน ๆ โดยไม่แย้งว่ากระไร
มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วล่ะ สมัยที่พี่ยังอยู่โรงเรียนเก่า ก็โรงเรียนที่พี่
เคยไปกับเอ๋นั่นแหละ พี่หลงรักรุ่นพี่คนหนึ่ง เธอน่ารักมาก เป็นคนดีมีน้ำใจ คอยเป็น
ห่วงเป็นใยรุ่นน้องอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แต่พี่ก็ไม่ได้บอกรักกับพี่เค้าทั้ง ๆ ที่พี่เค้า
เองก็ดูเหมือนจะมีใจให้ เพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่ปรากฏว่าพี่เค้าไปตกลงแต่งงานกับพี่ชาย
ของพี่ นี่แหละที่พี่บอกว่า เอ๋ทำในสิ่งที่พี่ทำไม่ได้ เจ็ทเล่าอย่างเศร้า ๆ
เอ๋ยิ้มนิดหนึ่ง
หนูเก่งกว่าพี่เจ็ทไงคะ เธอเอียงคอบอกยิ้ม ๆ
บางครั้งเอ๋ก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าพี่ซะอีกนะ ตอนนั้นพี่ร่ำร้องแต่อยากจะได้พี่เค้า
มาเป็นแฟนแต่สุดท้ายก็คือแค่นั้น พี่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นเลยจริง ๆ เจ็ทพูดต่อ
ไปแล้วก็หยุดเสียกลางคัน เขาหันมาทางเอ๋แล้วถามว่า
พอถึงปีใหม่ อยากทำอะไรกับแฟนบ้าง ?
ปีใหม่เหรอคะ ? ก็คงจะดูหนัง ฟังเพลง แลกของขวัญ ประมาณนี้แหละค่ะ เอ๋
ตอบอย่างครุ่นคิด
โอเค งั้นพี่ให้เวลา 30 นาทีในการเลือกซื้อของขวัญอะไรก็ได้ 1 ชิ้น พี่จะ
สมมติว่าวันนี้เป็นวันปีใหม่ แล้วมาเจอกันที่แบล็คแคนยอนนะ เจ็ทบอก
เอ๋พยักหน้ารับก่อนที่จะเดินแยกไปอีกทางเพื่อเลือกหาของขวัญให้ทันที
30 นาทีต่อมาที่ร้านแบล็คแคนยอน
นี่ก็ได้ดูหนัง ฟังเพลงแล้วนะ ไหนของขวัญล่ะ ? เจ็ทเอ่ยขึ้นเมื่อเอ๋มาทรุดตัว
ลงนั่งตรงข้ามกับเขาแล้ว
นี่ค่ะ แฮปปี้นิวเยียร์ค่ะ พี่เจ็ท เอ๋วางของขวัญกล่องเล็ก ๆ ไปตรงหน้าเจ็ท
เจ็ทรีบแกะห่อของขวัญนั้นออก พบว่าสิ่งนั้นเป็นสมุดโน้ตบันทึกเวลานัดหมาย
หน้าปกเป็นรูปบรรยากาศแบบปีใหม่
เอ๋หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะบอกว่า
หนูไม่รู้จะซื้ออะไรให้พี่เจ็ทดี ไม่มีเวลาด้วยแหละค่ะ
ก็เหมาะดีนะ เอามือออกมาสิ พี่จะให้ของขวัญ เจ็ทบอกพลางแบมือรับมือ
ของเอ๋
เอ๋แบมือออกมาวางไว้บนฝ่ามือของเจ็ท เจ็ทวางวัตถุสิ่งหนึ่งลงบนฝ่ามือของเอ๋
อาจจะไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่ แต่อยากให้เก็บไว้นะ แล้วของจริงค่อยให้แฟนตัว
จริงซื้อให้ดีกว่า เจ็ทบอก
เอ๋รีบหยิบแหวนวงนั้นมาสวมใส่นิ้วของเธอทันที
ถึงมันจะไม่มีราคา แต่หนูก็จะเก็บรักษาไว้อย่างดีเลยค่ะ พี่เจ็ท
แล้วเอ๋ก็เหลือบมองนาฬิกาก่อนที่จะบอกว่า
เหลือเวลาอีก 15 นาทีก็จะถึงเวลาของพี่เก๋ พี่เจ็ทไปกันเถอะค่ะ
อีกตั้ง 15 นาทีเชียวนะ เจ็ทบอกแต่ก็ยอมลุกขึ้นชำระเงินแล้วเดินออกจากร้าน
นั้นแต่โดยดี
พี่เจ็ทควรจะไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลานัดนะคะ ขอให้โชคดีค่ะพี่เจ็ท เวลา
แสนสุขของหนูหมดแล้ว บ๊ายบายค่ะพี่เจ็ท เอ๋บอก ตอนท้ายเสียงของเธอเริ่มสั่นเครือ
แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังฝืนยิ้มให้ก่อนที่จะวิ่งหนีออกไปจากห้างแห่งนั้นโดยไม่ฟังเสียง
ทัดทานจากเจ็ทอีกเลย
ขอให้โชคดีค่ะพี่เจ็ท วันนี้เป็นวันแห่งความสุขของหนู หนูจะไม่ลืมมันเลย
ตลอดชีวิต
ขอโทษนะคะพี่เก๋ หนูขอวันนี้วันเดียวและวันสุดท้ายที่หนูจะทรยศกับคำ
สัญญาที่หนูให้พี่ไว้ว่าจะไม่ยุ่งกับพี่เจ็ทอีก ต่อไปพี่เจ็ทก็จะกลายเป็นของพี่เก๋จริง ๆ เอ๋
นึกในใจอย่างเศร้าสร้อยพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลรินออกมาเพราะความเจ็บปวดใจใน
ความสุขที่ระคนทุกข์นั้น
เปิดเทอมใหม่ของปีการศึกษาต่อมา เจ็ทก็ได้ออกจากโรงเรียนแห่งนั้นแล้ว
เพราะเขาได้สำเร็จการศึกษาเรียบร้อย ส่วนทั้งเอ๋และโอต่างก็เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ชั้นมัธยม
ศึกษาปีที่ 5 และทั้งคู่ก็ยังคงอยู่ห้องเดียวกันเช่นเคย
เย็นวันหนึ่งที่ห้องชมรมซึ่งไม่มีใครอยู่เลยมีเพียงโอกับเจ็ทซึ่งแวะมาเท่านั้น
การเรียนเป็นไงบ้างโอ ? เจ็ทเอ่ยถามขึ้น
เรื่อย ๆ ครับ โอตอบสั้น ๆ
เกรดล่ะ เจ็ทถามต่อไป
1 กว่า ๆ ฮะ ส่วนเกรดสะสมอยู่ที่เกือบ ๆ 2 โอตอบคำถามนั้น
เอ๋ !? ทำไมมันตกลงมามากอย่างนั้นล่ะ ? มีอะไรหรือเปล่า ? ปรึกษาพี่ได้นะ
เจ็ทรีบสอบถามอย่างห่วงใยทันที
โอนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนที่จะบอกออกมาว่า
พี่เจ็ทรู้ใช่มั้ยฮะว่าผมเคยคบอยู่กับเอ๋ ? แต่แล้วอยู่ดี ๆ เอ๋ก็มาบอกปฏิเสธกับผม
ทั้ง ๆ ที่เราคบกันได้ระยะหนึ่งแล้ว ผมไม่รู้ว่าเอ๋คิดอะไรอยู่ แต่ผมรู้ว่าเอ๋ไม่เคยรักผมเลย
เอ๋รักผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ตลอดเวลา เอ๋หลอกใช้ผมเป็นเครื่องมือเท่านั้นเอง พี่เจ็ทพอจะรู้
มั้ยฮะว่าใครคือคนที่เอ๋รัก ?
เจ็ทนิ่งไปกับคำถามนั้น
โอมองอากัปกิริยาของคู่สนทนาอยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียง
เครียด ๆ ว่า
พี่เจ็ทใช่มั้ยฮะ ? ผมสงสัยตั้งแต่วันที่เอ๋กลับจากทะเลแล้ว พี่เองก็ไปทะเลมา
เหมือนกัน แล้วก็อีกหลาย ๆ เหตุการณ์ มันบ่งชี้ว่าเป็นพี่เจ็ท ใช่มั้ยฮะ ?
เจ็ทเลือกที่จะไม่ตอบคำถามนั้น
ใช่มั้ยฮะ พี่เจ็ท ? พี่ตอบคำถามผมสิ โอโน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมทั้งกระชาก
คอเสื้อที่เจ็ทสวมใส่อยู่อย่างร้อนใจ
ผมรู้แล้วว่าเป็นพี่จริง ๆ โอพูดออกมาเมื่อเจ็ทยังคงนิ่งอยู่เช่นนั้น เขาจึงปล่อย
กำปั้นของเขาไปตรงหน้าเจ็ททันที
พี่พูดออกมาสิว่าเป็นพี่ โอคาดคั้นพลางชกหน้าคู่สนทนาอย่างไม่ยั้งมือ
เกิดอะไรขึ้นน่ะ ? เสียงอาจารย์ท่านหนึ่งชะโงกหน้าเข้ามาดู แล้วก็ตกใจกับ
ภาพที่เห็นตรงหน้า
ไปเลย ไปคุยกันที่ห้องปกครองเดี๋ยวนี้ อาจารย์ท่านนั้นกล่าวอย่างเด็ดขาด
เกิดอะไรขึ้นเล่ามาเดี๋ยวนี้ อาจารย์ฝ่ายปกครองเอ่ยขึ้น
นายอรินไปก่อวิวาทกับนายจนัทพงศ์เรอะ ? หน้าตาของจนัทพงศ์ดูไม่ได้
เชียว อาจารย์ท่านนั้นกล่าวว่าโอเป็นฝ่ายทำร้ายร่างกายของเจ็ท
เปล่าฮะ ผมทำเขาก่อน โอ..เอ้อ อรินก็เลยป้องกันตัว เท่านั้นฮะอาจารย์ เจ็ท
รีบกล่าวปกป้องโอและบุคคลที่พาดพิงหากมีการสืบสาวราวเรื่องกันขึ้น
งั้นเรอะ จบแล้วยังซ่าอีกนะ อาจารย์ท่านนั้นพูดแต่แล้วก็เงียบลง มองใบหน้า
ของเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วก็หันไปมองใบหน้าของนักเรียนในปกครองอีกครั้งอย่างเคร่ง
คิด ก่อนที่จะเอ่ยว่า เอาล่ะ ครูไม่อยากให้เรื่องบานปลายกว่านี้ เธอไม่ใช่เด็กโรงเรียนนี้
เอาเป็นว่า อย่ามาวิวาทในโรงเรียนนี้อีกก็แล้วกัน ไม่งั้นครูจะส่งเรื่องไปทาง
มหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่
วันต่อมา
นี่ ๆ เอ๋ รู้เรื่องโอกับพี่เจ็ทหรือยัง ? จอยรีบถามเอ๋ทันทีอย่างตื่นเต้น
เรื่องอะไรเหรอ ? เอ๋รีบถามทันที
ก็เมื่อวานนี้ตอนเย็นในห้องชมรมเธอน่ะสิ พี่เจ็ทไปต่อยกับนายโอเค้า จอย
รีบบอกทันที
จริงเหรอ ? เอ๋ถามทวนอย่างตกใจ พลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก็พบว่าเพื่อน ๆ
ในห้องของเธอต่างก็โจษจันแต่เรื่องนี้
ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่เจ็ทท่าทางออกจะดีกลับเป็นคนเลวแบบนั้น รังแกคนป๊อบ
ของโรงเรียนเราเสียด้วย จอยเสริมขึ้น
เย็นวันนั้น
หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ เสียงปลายสายตอบกลับ
มาเมื่อเอ๋กดปุ่มโทรศัพท์เรียกไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ็ท
หลายวันต่อมา เจ็ทเดินเข้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองของจังหวัดหนึ่ง แล้ว
เดินดุ่ม ๆ ไปล้มตัวนอนบนสนามหญ้าที่ ๆ เขาชอบมานอนเล่นเสมอทั้งเวลาที่เขาศึกษา
อยู่หรือจบแล้วก็ตาม
ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ คงรู้เรื่องแล้วล่ะมั้ง คงเป็นห่วงแย่เลย มือถือก็ไม่ได้
เอาติดตัวมาซะด้วย เจ็ทคิดคำนึงในใจ
โทรไปหาซะหน่อยดีกว่า เจ็ทนึกต่อไปพลางลุกขึ้นไปยังตู้โทรศัพท์ที่อยู่ใกล้
ๆ กันนั้น
ฮัลโหล เก๋เหรอ ? เจ็ทนะฮะ เจ็ทกรอกเสียงลงไปตามสายโทรศัพท์เมื่อเขา
ทราบว่าใครเป็นผู้รับสายนั้น
เจ็ทเหรอ ? หายไปไหน เก๋เป็นห่วงแทบแย่เชียวนะ เก๋รีบร้องตอบกลับมา
อย่างยินดี
ก็หายไปพักหนึ่งเอง พอดีมีโอกาสได้ไปนอนคิดอะไรนิดหน่อย คิดถึงแล้วก็
เลยโทรมาหา เจ็ทบอก
ดีใจจังที่เจ็ทก็คิดถึงเก๋บ้าง ไม่ใช่เก๋คิดถึงอยู่แต่ฝ่ายเดียว เก๋บอกอย่างดีใจ
แต่ที่โทรมาไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ มีอีกเรื่องหนึ่ง อยากให้เก๋รับฟังหน่อย เจ็ท
บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
มีอะไรเหรอคะ ? เก๋รีบสอบถามทันที
เจ็ทนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนที่จะค่อย ๆ พูดออกมาว่า
เราเลิกกันได้มั้ย ? คบกันแบบเพื่อนดีกว่านะ
อะไรนะเจ็ท ? เจ็ทพูดว่าอะไรนะ ? เก๋นิ่งไปนิดหนึ่งก่อนที่จะถามออกมา
อย่างร้อนใจ
ผมบอกว่า เราคบกันแบบเพื่อนดีกว่า ได้มั้ย ? เจ็ททวนคำพูดของเขาอย่าง
หนักแน่นและจริงจัง
ทำไมล่ะเจ็ท เก๋ทำอะไรผิดหรือไง ? เก๋ถามออกมาเสียงแผ่วเบา
ไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเองที่ทำผิดกับเก๋ ผมไม่ได้รักเก๋เลย เจ็ทสารภาพอย่าง
ตรงไปตรงมา
เอ๋หรือคะ ? เจ็ทรักเอ๋เหรอ ? เก๋รีบยิงคำถามต่อไปทันที
เจ็ทนิ่งไปอึดใจหนึ่งก่อนที่จะบอกตรง ๆ ว่า
นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ผมขอเลิกกับเก๋หรอกนะ มันอยู่ที่ความรู้สึกนึกคิด
ของเราทั้งคู่ดีกว่า เก๋ก็รู้พอ ๆ กับที่ผมรู้แหละว่าเราไปด้วยกันไม่ได้
แต่ผมก็ยอมรับนะ
ว่าผมรักเอ๋จริง ๆ
ถึงคราวที่เก๋จะนิ่งไปบ้าง แล้วเก๋ก็บอกด้วยเสียงสั่นน้อย ๆ ว่า
ไม่เป็นไรค่ะ เก๋เข้าใจเจ็ท เก๋ไม่ว่าอะไรเจ็ทหรอก แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ แล้ว
เก๋ก็รีบวางหูโทรศัพท์ลงทันทีโดยไม่ยอมฟังคำทัดทานใด ๆ จากเจ็ทเลย
เอ๋
พี่ยอมแล้วล่ะ พี่ยอมยกเจ็ทให้เอ๋แล้ว เจ็ทไม่ได้รักพี่อย่างที่รักเอ๋ ทำไม
ต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ ? ทำไมโชคชะตาเล่นตลกกับเราอย่างนี้ ? ไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจ
จริง ๆ เก๋คำนึงในใจอย่างปวดร้าวพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลรินเป็นทางยาวอย่างไม่ขาด
สายจากนัยน์ตาคู่สวยของเธอ
วันงานนิทรรศการของโรงเรียน 1 เดือนผ่านมา
พี่เจ็ทไม่ติดต่อมาเลย พี่รู้มั้ยคะว่าหนูคิดถึงพี่มากแค่ไหน ? พี่เก๋ก็เหมือนกับหนู
วัน ๆ พี่เก๋กลับดึกทุกวันและไม่ค่อยแตะอาหาร จนผอมกว่าเดิมเยอะเลย พี่เก๋เอาแต่ร้อง
ไห้ตอนดึก ๆ เพราะคิดถึงพี่เจ็ท ทำไมพี่เจ็ทใจร้ายกับหนูและพี่เก๋อย่างนี้คะ ? เอ๋นึกใน
ใจอย่างเศร้าสร้อยด้วยความคิดถึงเจ็ทอย่างเต็มหัวใจและความสงสารพี่สาวของเธอด้วย
นึกไปว่าเจ็ทก็ไม่ติดต่อกับเก๋เช่นกัน ทั้ง ๆ ที่แท้ที่จริงแล้ว เก๋กำลังปวดร้าวกับรักที่ผิด
หวังของเธอต่างหาก
เอ๊ะ ! เอ๋ นั่นพี่เจ็ทหรือเปล่า ? จอยรีบหันมาสะกิดเพื่อนสนิทของเธอพร้อม
ทั้งบุ้ยใบ้ไปทางประตูโรงเรียนด้านหน้า
เอ๋รีบหันไปทางที่จอยบอกทันที แล้วเธอก็นิ่งตรึงอยู่กับที่เช่นนั้น จนกระทั่งเจ็ท
เดินเข้ามาใกล้ ๆ ตัวเธอ โดยไม่สนใจกับสายตาแปลก ๆ ของคนทั้งโรงเรียนที่มองเจ็ท
เป็นตาเดียว
เอ๋ว่างคุยกับพี่แป๊บมั้ย ? เจ็ทเอ่ยถามเธอทันที
เอ๋พยักหน้ารับ
เจ็ทจูงเอ๋ไปทางด้านหลังโรงเรียนทันที ท่ามกลางสายตาของเพื่อน ๆ ในห้องที่
มองเอ๋อย่างแปลกประหลาด
เฮ้ย ! โอ มึงปล่อยเอ๋ไปแบบนั้นได้ยังไงวะ ? ไอ้พี่เจ็ทมาเอาตัวไปนะเว้ย
เพื่อนสนิทคนหนึ่งของโอร้องบอกโอทันทีที่คนทั้งคู่ลับสายตาไป
สารเลวจริง ๆ ว่ะ ต่อยไอ้โอซะน่วมแล้วยังพาเอ๋ไปอีก มันคงต้องการหาเรื่อง
มึงแหง ๆ เลย เพื่อนอีกคนสนับสนุน
โอนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนที่จะทุบโต๊ะอย่างแรง
พวกมึงอย่าไปว่าพี่เจ็ทอย่างนั้นนะเว้ย พี่เค้าไม่ผิด วันนั้นกูเป็นคนชกพี่เค้าฝ่าย
เดียว แต่พี่เค้าปกป้องกู ไม่งั้นพวกมึงไม่เห็นหน้ากูแล้ว โอตะโกนลั่นห้องอธิบายความ
จริง ก่อนที่จะวิ่งออกจากห้องนั้นไปด้วยความสำนึกผิดที่เขาได้กระทำลงไป
ทางด้านหลังโรงเรียน
มาหาหนูระวังพี่เก๋จะรู้เรื่องนะคะ รีบกลับไปเถอะค่ะ หนูไม่อยากเจอพี่เจ็ท
แล้ว เอ๋พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นระหว่างที่กล่าวออกมา
เจ็ทมองร่างที่หันหลังอย่างปวดร้าวนิดหน่อยก่อนที่จะตรงเข้าไปสวมกอดร่าง
นั้นจากด้านหลังไว้แล้วบอกว่า
พอแล้วล่ะ เอ๋ พอแล้ว ไม่ต้องตัดใจเพื่อพี่ เพื่อเก๋หรือเพื่อใครอีกแล้ว ไม่ต้อง
แล้วล่ะ
ทำไมล่ะคะ ? เอ๋รีบหันมาเผชิญหน้ากับเจ็ทอย่างสงสัยทันที โดยลืมไปว่าเธอ
นั้นกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของเจ็ท
พี่รักเอ๋ เจ็ทบอกด้วยแววตาและคำพูดที่หนักแน่น จริงใจและจริงจัง
เอ๋ไม่เชื่อ พี่เก๋ล่ะคะ ? พี่เจ็ทเอาพี่เก๋ไปทิ้งไว้ที่ไหน ? หนูจำได้ดีนะคะว่า ตอน
ที่ไปทะเลนั่นน่ะ พี่เจ็ทเป็นคนบอกว่า ไม่ กับหนูเอง แล้วอยู่ ๆ พี่มาพูดแบบนี้เพื่อ
อะไรคะ ? เอ๋ส่ายหน้าประกอบคำพูดของเธอ
พี่เลิกกับเก๋แล้ว เพราะพี่ทนต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ พี่รักเอ๋จริง ๆ นะ พี่เหนื่อย
กับการหลอกตัวเอง หลอกเก๋ หลอกเอ๋ หลอกใคร ๆ ว่าพี่รักเก๋ เจ็ทอธิบาย
แล้วความรู้สึกของเอ๋ล่ะ ยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า ? เจ็ทถามต่อไปเมื่อเห็น
ว่าเอ๋ยังคงนิ่งอยู่
เอ๋อึ้งอยู่ชั่วครู่ ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจแท้ ๆ ที่บันดาลให้เธอพยักหน้าและ
พูดเสียงแผ่วเบาเกือบจะไม่ได้ยินว่า
ค่ะ หนูก็ยังรักพี่เจ็ทอยู่
เหมือนวันก่อน
ไม่เปลี่ยนไปเลย
เย็นวันนั้น
แล้วนี่เราจะเผชิญหน้าพี่เก๋ยังไงดีนะ ? ลำบากใจจัง เอ๋นึกในใจก่อนที่จะรวบ
รวมกำลังใจแล้วค่อย ๆ บิดลูกบิดบานประตู
ไง เอ๋ กลับมาแล้วเหรอ ? เก๋ทักขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะฝืน
ค่ะ เอ๋ตอบ เธอสังเกตเห็นรอยคราบน้ำตาที่ยังแห้งเกาะอยู่บนใบหน้าของเก๋
เธอจึงเดินไปทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เก๋
เก๋รีบลุกขึ้นเดินออกไปจากบ้านทันที เอ๋เห็นดังนั้นจึงรีบเดินตามพี่สาวของเธอ
ไป
ไม่ต้องตามมานะ พี่รู้ว่าเธอเป็นแฟนกับเจ็ทแล้ววันนี้ เก๋เริ่มต้น
พี่เก๋ ฟังเอ๋หน่อยสิคะ เอ๋ขอโทษ
เอ๋พูดไม่ทันจบ เก๋ก็ขัดขึ้นว่า
ตั้งแต่รู้ว่าเอ๋รักเจ็ทเหมือนกัน ชั้นก็ไม่คิดแล้วล่ะว่าเธอเป็นน้องชั้นน่ะ ไม่ต้อง
ตามมานะ เก๋บอกด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไป
พี่เก๋
เอ๋ร้องเรียกเสียงระโหย เพราะคำพูดที่เก๋กล่าวออกมา
ขอโทษค่ะพี่เก๋ เอ๋เองก็รักพี่เจ็ทมากพอ ๆ กับที่เอ๋รู้ว่าพี่รักพี่เจ็ทมากแค่ไหน แต่
เอ๋ก็ทำร้ายกับพี่ได้ลงคอ เอ๋รู้แล้วล่ะค่ะว่า ทำไมพี่ถึงนอนร้องไห้ทุกคืน เอ๋ไม่ได้ตั้งใจทำ
ร้ายพี่จริง ๆ นะคะ พี่คงจะเจ็บปวดและทรมานมากใช่ไหมคะ ? เอ๋ขอโทษค่ะ เอ๋ขอโทษ
จริง ๆ เอ๋นึกในใจอย่างเศร้าสร้อยพลางค่อย ๆ ซับน้ำตาที่ไหลรินออกมา
อ้าว ! เอ๋ มีอะไรหรือเปล่า ? เข้ามาข้างในก่อนสิ เจ็ทกล่าวอย่างประหลาดใจ
เมื่อพบว่าแขกผู้มาเยือนของเขาคือเอ๋นั่นเอง
พี่เจ็ทคะ เราอย่าเพิ่งพบกันสักระยะได้ไหมคะ ? เอ๋ถามออกมาพร้อมทั้งน้ำตา
ที่ยังคหยาดไหลรินอยู่
ทำไมล่ะ ? เกิดอะไรขึ้นอีก ? เจ็ทรีบสอบถามอย่างร้อนใจทันที
หนูสงสารพี่เก๋น่ะค่ะ หนูคิดว่าเราอย่าเพิ่งพบกันจนกว่าพี่เก๋จะทำใจได้ดีกว่า
นะคะ เอ๋บอกพร้อมทั้งโผเข้าไปสวมกอดและสะอื้นไห้อย่างใหญ่โต
เอ๋ทำใจได้เหรอ ? ที่เราจะไม่ได้พบกันนี่นะ แล้วถ้าเก๋เกิดทำใจไม่ได้ตลอดไป
ขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ? เจ็ทถาม
หนูทนได้ค่ะ เพื่อพี่เก๋แล้ว หนูทำได้ นะคะพี่เจ็ท หนูสงสารพี่เก๋ เอ๋เงยหน้า
ขึ้นอ้อนวอนทั้งคำพูดและสายตา
เจ็ทมองนิ่งที่เธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพยักหน้าช้า ๆ
แล้วแต่เอ๋ละกันนะ พี่จะรอ
คืนนั้น ในผับแห่งหนึ่ง
นั่นเก๋นี่นา มาทำอะไรคนเดียวนะ ? แล้วเจ็ทล่ะ ? ไม่เห็นมาด้วยเหมือนอย่าง
เคยเลย วอร์มมองร่างของเก๋ที่ฟุบอยู่ตรงเคาน์เตอร์อย่างประหลาดใจที่เธออยู่ในสภาพ
เช่นนี้
ไงเก๋ เกิดอะไรขึ้นเรอะ ? วอร์มเดินเข้ามาทักเก๋ แล้วทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ
เจ็ททิ้งฉันแล้ว เจ็ทรักเอ๋ ฉัน
ฉันไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว ไม่อยากเจอ
หน้า น้องสาวสุดที่รัก คนนั้น เก๋พูดออกมาด้วยเสียงยานคางคล้ายคนเมา
นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ เก๋ ? วอร์มสงสัยในคำพูดของเธอจึงรีบถามทันที
ก็ไอ้น้องสาวสุดที่รักของฉันน่ะสิ แย่งแฟนฉันไป เจ็ทบอกว่ารักเอ๋ ทั้ง ๆ ที่ฉัน
มาก่อน ทำไมล่ะวอร์ม ? เอ๋มีอะไรดีกว่าฉันงั้นเหรอ ? บอกหน่อยสิ เก๋บอกแล้วทำท่า
กระดกแก้วในมือ
วอร์มรีบจับมือของเก๋ที่จะกระดกแก้วนั้นไว้ แล้วบอกว่า
ทำอย่างนี้คิดหรือว่าจะลืมเรื่องร้าย ๆ นั่นได้น่ะ ? ทำไมเก๋ต้องเป็นแบบนี้ล่ะ ?
คนเก่ง คนมาดมั่นหายไปไหนแล้ว เราชื่นชมเก๋มาตลอดว่าเก๋เท่ห์ เป็นผู้หญิงที่มั่นมาก
มีฟอร์มนิดหน่อยพองาม น่ารัก แต่นี่
วอร์มพยายามเตือนสติเก๋ให้กลับคืนมา
เก๋นิ่งไปกับคำพูดของวอร์ม
คิดนะ ถ้าเก๋หายมึน เก๋ก็ยังนึกถึงเรื่องนั้นได้ใช่มั้ย ? ทำอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่
กว่าเก๋จะลืมเขาได้น่ะ ? ตลอดไปล่ะมั้ง แล้วแต่เก๋นะ เราแค่อยากเห็นเก๋เป็นเก๋คนเดิมเท่า
นั้น วอร์มพูดต่อเมื่อเห็นเก๋มีท่าทีที่ลังเล
นายพูดถูก วอร์ม ขอบใจมากนะ เก๋พูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยวหลังจากนิ่งคิด
อยู่พักหนึ่ง
เช้าวันต่อมา
ไงจ๊ะ เอ๋ วอร์มทักขึ้นเมื่อเห็นเอ๋เดินมากำลังจะเข้าโรงเรียนที่เธอศึกษาอยู่
อ้าว ! วอร์ม มีธุระอะไรเหรอ ? ถึงมาดักอยู่แถวนี้น่ะ เอ๋ทักอย่างประหลาดใจ
เมื่อคืนเจอเก๋แล้วนะ ไม่ต้องคิดมากล่ะ คบกับเจ็ทให้สบายใจเถอะ เก๋เค้าไม่คิด
อะไรแล้ว วอร์มบอกธุระของเขาทันที
เหรอ ? ขอบคุณนะที่บอก ฝากดูแลพี่เก๋ด้วยนะ หมู่นี้ไม่เจอหน้าพี่เก๋เลย เอ๋
บอกอย่างดีใจแล้วรีบฝากฝังเก๋ให้วอร์มช่วยดูแลเก๋แทนเธอ
ได้ ไม่ต้องห่วง ไปล่ะนะ โชคดี วอร์มพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนที่จะรีบผละ
ไป
และแล้ววันเกิดเอ๋ก็เวียนมาครบอีกปี
วันเกิดเราปีที่แล้วเป็นวันเกิดที่วิเศษมากเลย แต่ปีนี้เห็นทีคงจะไม่เป็นแบบ
นั้น เอ๋นึกในใจหลังจากที่เธอลืมตาตื่นขึ้นในเวลาเช้า
สุขสันต์วันเกิด 16 ปีจ้ะเอ๋ เสียงเด็กสาวดังขึ้นเมื่อเอ๋เดินเข้ามาในห้องเรียน
อย่างยิ้มแย้ม
ขอบใจจ้ะ ขอบใจทุก ๆ คนเลย เอ๋ยิ้มรับคำอวยพรนั้น พลางรับกล่องของ
ขวัญที่เพื่อน ๆ ของเธอต่างยื่นส่งให้เธอ
สุขสันต์วันเกิดนะเอ๋ ขอให้มีความสุขกับพี่เจ็ทมาก ๆ โอเดินเข้ามาอวยพร
พร้อมทั้งกล่องของขวัญเมื่อเขาเห็นว่า รอบ ๆ เอ๋นั้นไม่มีเพื่อนแล้ว
เอ๋เงยหน้าขึ้นมองผู้ให้ ก่อนที่จะยิ้มออกมา
ขอบใจจ้ะโอ ขอบใจในทุก ๆ สิ่งที่ทำให้นะ เอ๋ตอบ
โอถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเธอ แล้วเล่าให้เอ๋ฟังอย่างช้า
ๆ ว่า
รู้มั้ย ตอนอยู่ในห้องปกครองหลังจากที่มีเรื่องกับพี่เจ็ทน่ะ พี่เจ็ทเป็นคนดีมาก
นะ พี่เค้ามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธว่าไม่ได้ต่อยก็ได้ แต่พี่เค้าไม่ทำ เพราะเธอนะเอ๋ พี่เค้ากลัวว่า
ถ้าอาจารย์รู้ว่าเรา 2 คนชกกันเรื่องอะไร ไม่ใช่แค่เราที่จะถูกพักการเรียน เธอก็อาจจะ
โดนหางเลขไปด้วย เธอโชคดีนะที่มีคนดี ๆ อย่างพี่เจ็ทมาสนใจ
เอ๋นิ่งไปกับเรื่องที่ได้รับฟังนั้น
ขอบใจนะโอ ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง เอ๋ยิ้มนิดหนึ่งก่อนที่จะตอบออกมา
เย็นวันนั้น ขณะที่เอ๋เดินเข้ามาในบ้านนั้นเอง
อ้าว ! พี่เก๋
เอ๋อุทานร้องทักออกมาเมื่อพบหน้าเก๋ภายในบ้านส่วนหน้า
พี่เก๋จะไปไหนหรือคะ ? ตัดผมด้วย เอ๋ถามต่อไปอย่างสงสัย เมื่อเธอพบว่า เก๋
ทั้งตัดผมสั้นใหม่และลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาด้วย
อ้าว ! เก๋ยังไม่บอกน้องหรือลูก ? มารดาของทั้งคู่เดินออกมาทักพอดี
เก๋บอกเอ๋เองค่ะแม่ เดี๋ยวเก๋มานะคะ เก๋หันไปบอกมารดาของเธอก่อนที่จะจูง
มือเอ๋เดินออกไปจากบ้าน
พี่ตัดสินใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อที่เมืองนอก เอ๋ไม่ต้องกังวลว่าเอ๋เป็นคนทำ
หรอกนะ พี่ตัดสินใจเอง ขอเวลาไปรักษาใจที่เมืองนอกสักพัก วอร์มพูดซะพี่เจ็บเลย เก๋
บอกในขณะที่เดินไปตามถนนเส้นนั้น
จริง ๆ นะ ตั้งแต่พี่รู้ว่าเอ๋รักผู้ชายคนเดียวกับพี่ พี่ก็ไม่อยากมองเอ๋เป็นน้องแล้ว
ล่ะ ผู้หญิงเราอ่ะนะ เป็นพี่เป็นน้องกัน แต่ชอบผู้ชายคนเดียวกัน ก็ไม่ใช่พี่น้องแล้ว เป็น
คู่แข่งต่างหาก แต่สำหรับเราสองคน เอ๋คือคนชนะ ชนะอย่างงดงามด้วย พี่เองก็ชนะ
เหมือนกัน ชนะใจตัวเองที่ทนเห็นเอ๋กับเจ็ทมีความสุขได้โดยไม่คิดจะแย่งกลับมา
ก็
แหม
วอร์มว่าซะเจ็บเลยนี่นา เก๋พูดต่อไปในตอนท้ายเธอกล่าวราวกับพูดกับตัวเอง
พี่เก๋
เอ๋ร้องเรียกชื่อของพี่สาวเธอออกมาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ
แน่ะ ! เห็นเจ็ทมั้ย เขามารออยู่แน่ะ พี่เรียกเขาออกมาเอง เอาล่ะ ! ขอให้โชคดี
กับเจ็ทนะจ๊ะ มีความสุขกันมาก ๆ ไม่ต้องห่วงพี่ พี่จะไปเรียนต่อ แล้วจะเขียนจดหมาย
มาหานะ เก๋บอกพลางบุ้ยปากไปทางเจ็ทซึ่งยืนรออยู่ปากซอยบ้าน
ไม่ต้องห่วงเรื่องแม่จะดุนะ พี่ขอให้เอ๋แล้ว ไปสิจ๊ะ เจ็ทรออยู่นะ เก๋บอก
สำทับเมื่อเห็นว่าเอ๋ยังยืนนิ่งอยู่กับที่
พี่เก๋
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เอ๋โผเข้าไปพนมมือกราบลงบนไหล่ของพี่
สาวด้วยความปลาบปลื้มปีติยินดีและซึ้งในน้ำใจของอีกฝ่ายหนึ่ง
ขอให้พี่โชคดีเช่นกันนะคะ เอ๋ผละออกมาแล้วบอกด้วยเสียงสั่นเครือเพราะ
น้ำตาแห่งความยินดีนั้นก่อนที่จะวิ่งไปหาเจ็ทอย่างร่าเริง
นี่คือของขวัญวันเกิดจากพี่นะจ๊ะ เก๋บอกไล่หลังของเอ๋ไป พร้อมทั้งรอยยิ้ม
บนใบหน้าของเธอ
ขอบคุณค่ะ เอ๋หันมายิ้มให้ก่อนจะร้องบอกอย่างยินดี
พี่เจ็ท ! เอ๋ร้องเรียกอย่างยินดีด้วยน้ำเสียงร่าเริง
การที่เราได้ครอบครองอะไรบางอย่าง อาจทำให้บางคนเจ็บปวดได้ แต่มันก็
เป็นบทเรียนแห่งการครอบครองที่จะสอนให้เรารู้จักคิด รู้จักการเสียสละ และทำให้เรา
เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นได้ วันเวลาและประสบการณ์ที่ผ่านไปจะช่วยหล่อหลอมให้เรา
มีความคิดอย่างผู้ใหญ่ สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นสุข.
back to main page