เมื่อไปถึงกระท่อมบ้านไอ้น้อย เห็นข้าวของเกลื่อนกลาด ไอ้น้อย! สนตะโกน ไอ้น้อย! เอ็งเป็นอะไรหรือเปล่าวะ นี่เกิดอะไรขึ้นนี่ ไอ้เยื้องที่พึ่งวิ่งตามมาถึงกล่าวพลางหอบ สนเห็นร่างๆหนึ่งนอนอยู่ในเงาเรือนรางทำให้ใจชื้นขึ้นเป็นกอง ไอ้น้อยนั่นเอ็งใช่ไหม? เขาวิ่งไปดู ใช่แล้ว ร่างนั้นคือไอ้น้อย ...แต่เป็นไอ้น้อยที่ถูกฉีกพุงล้วงกินเครื่องในจนหมดสิ้น เลือดสดๆไหลท่วมบริเวณ! ไอ้น้อย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! สนเข้าไปกอดศพเพื่อนร้องไห้ ไอ้น้อยตายแล้ว เขาเป็นคนมีเพื่อนไม่มากแต่เพื่อนที่ดีที่สุดของเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว ทำไม ทำไมคนดีอย่างมันถึงต้องตาย ไอ้เยื้องยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก รอจนสนร้องไห้ฟูมฟายจนอารมณ์คลายลงระดับหนึ่งเขาจึงค่อยๆคิดพิจารณาสภาพการณ์ หลังจากฆ่าไอ้เขียวแล้วสัตว์ประหลาดนั่นคงตรงมาฆ่าไอ้น้อยต่อ ขาซ้ายของไอ้น้อยที่หลุดด้วนเสมอโคนก็คงถูกมันฉีกไปกินด้วย ความเสียใจของสนเปลี่ยนเป็นความแค้น มือไอ้น้อยถือมีดพร้าอยู่เล่มหนึ่งคงใช้สู้กับไอ้สัตว์นั่นก่อนตาย เอาซิวะ ข้าจะแก้แค้นให้เอ็งเอง สนหยิบมีดของไอ้น้อยขึ้นวิ่งตามรอยสัตว์ประหลาดที่เห็นชัดว่าทะลุออกทางประตูหลังบ้านไป ไอ้น้อยนั้นทำอาชีพชำแหละสัตว์อันสกปรกบ้านของเขาจึงอยู่ห่างจากบ้านอื่นๆดังนั้นแม้เกิดเสียงดังแค่ไหนจึงไม่ก้องพอจะปลุกใครให้ตื่นขึ้นมาได้ บริเวณนั้นจึงมีเพียงสนกับไอ้เยื้องแค่สองคนเท่านั้นและจะว่าไปนี่ก็เป็นบริเวณที่เหมาะสมสำหรับการล่าเหยื่อที่สุด สัตว์ประหลาดมันคงมีสติปัญญาพอตัว และหากเป็นอย่างที่สนคิด... ช้าๆหน่อยไอ้สน เรียกชาวบ้านคนอื่นก่อน ไอ้เยื้องพยายามร้องเรียกแต่ความโกรธแค้นบดบังไม่ให้สนได้ยินอะไรทั้งสิ้น ไอ้เยื้องไม่กล้าอยู่ตรงนั้นคนเดียวต้องวิ่งตามสนต่อไปอีกใจภาวนาให้สนตามรอยผิด ให้ไม่มีสัตว์ประหลาดใดๆโผล่มาและให้คืนนี้พวกเขาสามารถกลับไปนอนที่หมู่บ้านได้อย่างราบรื่น มีวันใหม่อันสุขสงบดังที่แล้วมา เสียดายที่ไอ้เยื้องไม่รู้อนาคต หากมันรู้มันจะไม่ตามสนไปเด็ดขาดเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นจะทำให้ชีวิตของมันทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล พวกสนเดินทางออกจากหมู่บ้าน ผ่านแม่น้ำ ผ่านแนวต้นไม้ จนไปถึงบริเวณที่เป็นป่าช้าร่องรอยที่ตามแกะมาก็หายไปเฉยๆเหมือนถูกแกล้งลบ น่าประหลาดที่เวลานั้นกลิ่นศพในป่าช้าเหม็นคลุ้งเป็นพิเศษ ไอ้เยื้องใจไม่ดีจับแขนสนไว้พลางกล่าวตัวสั่น ที่นี่น่ากลัวเรากลับกันเถอะ สนค่อยรู้สึกว่าตนไม่ควรทำให้คนอื่นลำบากไปด้วย ขณะกำลังลังเลว่าจะกลับดีหรือไม่ เสียงๆหนึ่งก็ดังแหลมเข้ามาในโสตประสาทของเขา กรุบๆ กรุบๆ กรุบๆ เสียงของแข็งกระทบกันเหมือนเสียงเคี้ยว ใช่ เสี้ยงเคี้ยวแน่ๆ สนรีบมองไปตามเสียง เงาดำทะมึนร่างหนึ่งนั่งอยู่บนโขดหินส่วนหัวก้มลงและสั่นไหวหยึบหยับ เมื่อลองจ่อไฟไปข้างหน้าเพื่อดูให้ชัดขึ้นแล้วภาพที่ปรากฏคือชายฉกรรจ์ร่างใหญ่กำลังกัดกินอะไรบางอย่างอยู่ด้วยความหิวโหย สนจำชายคนนั้นได้ทันที ผ่าสิ! มันคือไอ้คนยักษ์ที่มากับขอทานบ้านั่นเอง และถ้าดูดีๆอะไรบางอย่างที่มันกำลังกินก็คือเนื้อน่องของมนุษย์! ไอ้สัตว์!!!!!!!! ทำไมเราไม่สงสัยมันแต่แรก มันอาศัยความใจดีของไอ้น้อยมาขออยู่บ้านเพื่อหาโอกาสจับไอ้น้อยกิน!!! สนเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเสือสมิงที่สามารถแปลงร่างเป็นคนเพื่อออกล่าเหยื่อได้ ความโกรธความแค้นเดือดระอุถึงขีดสุด เขาพุ่งมีดเข้าไปแทงมารร้ายตนนั้นอย่างบ้าคลั่ง ชายร่างใหญ่เห็นสนแล้วแต่ยังอยู่ในอาการสงบนิ่ง ตราบจนสนถาโถมเข้ามาระยะหนึ่งเขาจึงทิ้งเนื้อที่กินแล้วยกไม้พลองข้างทิ่มสวนไป เสียงสวบเมื่อไม้พลองพุ่งตัดอากาศข้างๆตัวสนไปอย่างฉิวเฉียด การทิ่มครั้งนั้นพลาดเป้า สนเสือกเข้าถึงวงในจวนเจียนจะปาดคอได้อยู่รอมร่อแล้ว แต่ชายร่างใหญ่กลับใช้มืออีกข้างรั้งมีดของเขาเอาไว้ทัน ความมั่นคงของแรงนั้นทำให้สนค่อยสำนึกว่าความเหลื่อมล้ำของฝีมือระหว่างตนกับฝ่ายตรงข้ามนั้นมีมากเพียงใด ดู ชายร่างใหญ่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น นี่เป็นคำแรกที่นิษาทหนุ่มได้ยินจากปากของเขาและพบว่าเสียงนั้นแฝงพลังอำนาจอย่างหนึ่งซึ่งชักนำให้คนที่ได้ยินต้องนอบน้อมยอมตาม มันไม่เหมือนเสียงขู่ จะว่าไปก็คล้ายเสียงของพ่อเทิด สนอดเหลียวกลับไปมองไม่ได้ เบื้องหลังปรากฏร่างสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง มันมีส่วนตัวเป็นของคนธรรมดาชัดๆแต่หัวนั้นกลับเป็นหัวช้างและส่วนเอวตลอดปลายเท้าเป็นตีนของเสือโคร่ง ร่างพิลึกพิสดารอันคล้ายเกิดจากใครแกล้งผ่าชิ้นส่วนของสัตว์ต่างๆนำมาเย็บเข้าด้วยกันแล้วเสกให้มีชีวิตนี้กำลังยืนตัวแข็งทื่อไม่ไหวติง หากสังเกตดูจะพบว่าคอหอยของมันพึ่งถูกไม้พลองเสียบจนทะลุสิ้นชีวิตเสียแล้ว ที่แท้ชายร่างใหญ่ทิ่มไม้เมื่อครู่ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อฆ่าเขาแต่เป็นเพื่อช่วยชีวิตเขา ทำไม...? สนเข่าอ่อน เหตุการณ์เหล่านี้เขาจับต้นชนปลายไม่ถูกจริงๆ ชายร่างใหญ่ไม่ตอบเพียงมองศพสัตว์ประหลาดด้วยแววตาที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยจากนั้นจึงลุกขึ้นทำท่าจะเดินจากไป สนย้ำอีกครั้ง เดี๋ยวก่อน! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ...ได้โปรดเถอะ... พวกของข้า... เพื่อนข้าตายไปหลายคนแล้ว ข้ามีสิทธิที่จะรู้เรื่องนี้ เมื่อเห็นชายร่างใหญ่ไม่มีทีท่าสนใจจริงๆสนจึงร้องเป็นคำขาด ไม่ว่าอย่างไรนี่เป็นเขตหมู่บ้านของข้า หากท่านไม่อธิบายเรื่องสัตว์ประหลาดและเนื้อมนุษย์ที่ท่านรับประทานเมื่อครู่ ข้าจะถือว่าท่านเป็นคนทำร้ายพวกพ้องของข้าและจะจองเวรท่านตราบสิ้นชาติภพ! คราวนี้คำพูดอันรุนแรงของสนทำให้ชายร่างใหญ่นิ่งอยู่ครู่หนึ่งเขากล่าวช้าๆว่า เจ้าจะต้องรู้ให้ได้จริงๆ? ข้าต้องรู้ให้ได้ ต่อให้แลกด้วยชีวิตข้าก็ต้องรู้เรื่องนี้ให้ได้! หากมันจะทำให้เจ้าไม่อาจกลับมาเป็นอย่างเดิมได้อีกล่ะ? ...! ไอ้เยื้องซึ่งหลบอยู่หลังต้นไม้ตลอดจนบัดนี้จึงค่อยรวบรวมความกล้าออกมา ข้า... ข้าว่าเรารีบกลับกันเถอะสน อย่าตอแยเรื่องให้ยุ่งยากเลย แต่สนยังจ้องมองคนต่างถิ่นด้วยแววตาจริงจัง ชายร่างใหญ่ถอนหายใจกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น อืม ก็ได้... ...........................(อ่านต่อ) หมายเหตุหัวคน ตัวช้าง ขาเสือ ตัวนี้เปิดในสมุดสัตว์หิมพานต์มีชื่อว่า "วยาฆรบาท" ครับ (ถ้าอ่านยากแปลง่ายๆว่าพวกตีนเสือ) เกิดจากผมต้องการหาตัวอะไรดุๆที่มันคล้ายๆคน ตอนแรกกะจะเอานรสิงห์(ครึ่งคนครึ่งสิงห์) แต่มีเหตุผลบางประการที่ทำให้เอาไม่ได้ในเวลาต่อมา สรุปจึงเอาไอ้ตัวนี้แหละ(แต่ในเรื่องน่าจะไม่มีโอกาส กล่าวถึงชื่อของมันเลย) เชษฐา
|