ในที่สุดร่างของสนก็ลับตาไอ้เยื้องเข้าไปในป่ารกทึบ ... ... ... สักพักหนึ่งไอ้เยื้องจึงพึ่งรู้สึกตัวว่าอยู่คนเดียว เดี๋ยวก่อนไอ้สน อย่าทิ้งข้าไว้ที่นี่ เขาตะโกนด้วยความกลัว แล้ว... แล้วข้าจะทำอย่างไรดีล่ะ...? เสียงสวบสวบ มีคนโผล่มาข้างหลังไอ้เยื้อง เขาตกใจรีบคุกเข่าลงยกมือไหว้ท่วมหัว หวาย กลัวแล้ว กลัวแล้ว เจ้าพระคุณเจ้าป่าเจ้าเขาอย่าทำอะไรข้าเลย ฮือ... พอได้แล้วไอ้เยื้อง อย่าทำอะไรทุเรศๆ เสียงนั้นคุ้นหูอย่างยิ่ง ไอ้เยื้องหันหลังกลับไปพบพ่อเทิดยืนจังก้าอยู่ พ...พ่อ? ไอ้เยื้องจะถามว่าพ่อของเขามาที่นี่ได้อย่างไร แต่คำนั้นจุกอยู่ที่คอเมื่อสังเกตเห็นทั้งเนื้อตัวพ่อเทิดเปลอะเปื้อนไปด้วยเลือดสดๆ มองอะไร รีบทิ้งแหวนบ้าๆนั่นแล้วกลับหมู่บ้านกับข้า! แต่... พ่อไปโดนอะไรมา ใครทำร้ายพ่อ? ไอ้โง่ เอ็งดูสินี่ใช่เลือดของข้าที่ไหน? ไอ้เยื้องสังเกตดู พ่อเทิดไม่มีลักษณะว่าบาดเจ็บจริงๆ ในมือของยังถือมีดใหญ่ที่ชุ่มเลือดเล่มหนึ่งแสดงว่าพ่อเทิดพึ่งเป็นฝ่ายไปทำร้ายศัตรูมา เลือดของศัตรูจึงกระเด็นใส่ตัวเลอะเทอะ พ่อไปสู้กับใครมานี่? เออน่า... เอ็งอย่าพึ่งถาม รีบกลับไปกับข้าเร็ว! พ่อเทิดปัดแหวนของพรหมทัตร่วงจากมือไอ้เยื้องแล้วฉุดดึงเขาไปโดยแรง ไอ้เยื้องไม่ทันจะกล่าวอะไรเมื่อเข้าไปในแนวป่าพลันเห็นซากคนนอนตายอยู่! ไอ้กิ่ง!! ไอ้เยื้องร้องเมื่อพบว่าศพนั้นเป็นเพื่อนตน เขามองต่อไปเห็นศพของไอ้ภู ไอ้แดง ไอ้หยิก และคนอื่นๆนอนเรียงรายกัน ล้วนแล้วแต่เป็นพวกของเขาที่แตกตื่นหนีไปเมื่อตอนที่สัตว์ประหลาดบุกมาฆ่าไอ้เขียว เฮ้ย เงียบ! พ่อเทิดตวาด ตะ ...แต่ หากเอ็งยังไม่อยากอยู่ในหมู่บ้านเฮงซวยนี่ไปตลอดชีวิตก็จำไว้ว่าพวกมันทุกคนถูกไอ้สัตว์ประหลาดบ้านั่นฆ่าตายก็แล้วกัน แต่พ่อ... หรือพ่อเป็นคนฆ่าพวกมัน... พ่อเทิดตบหน้าลูกชายฉาดใหญ่ ไอ้ลูกชั่ว! รู้ไหม ที่ข้าทำทั้งหมดนี่ก็เพื่อเอ็ง เมื่อเห็นลูกชายอ้ำอึ้งพูดไม่ออก พ่อเทิดจึงกล่าวว่า เอาเถอะ เอ็งคงอยากรู้ว่าข้าตามมาถึงนี่ได้อย่างไร จะบอกให้หลังจากที่สัตว์ประหลาดฆ่าไอ้เขียวและเอ็งหนีไปอยู่กับไอ้สน พวกของเอ็งคนอื่นๆก็กลับมารวมกันแล้วไปแจ้งข้าที่บ้าน ข้าจึงพาพวกมันสะกดรอยตามเอ็งมาจนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่ป่าช้านี้ ไอ้เยื้องคุกเข่าน้ำหูน้ำตาไหลกล่าวเสียงอ่อย ...แล้วทำไมพ่อต้องฆ่าพวกมัน? เอ็งยังไม่เข้าใจอีกหรือ!? หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปจะต้องกลายเป็นประเด็นใหญ่โต เท่ากับข้าดูแลไม่รัดกุมปล่อยให้พวกอสูรเล็ดรอดเข้ามาได้ ถึงตอนนั้นนอกจากความพยายามทั้งหมดที่ข้าทุ่มเทให้เจ้าจะสูญสลายไปแล้ว สถานะของพวกเรายังไม่แน่ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ประเด็นใหญ่โต? ดูแลไม่รัดกุม? พ่อพูดอะไรอยู่น่ะ อีกไม่นานเจ้าก็จะทราบเองนั่นแหละ แต่ตอนนี้ต้องปล่อยให้เรื่องมันเงียบๆไปก่อน ...แล้วถ้าพวกอสูรยกทัพมาบุกเราจริงๆล่ะ? ก็ให้พวกในเมืองมันรับมือกันไปเองสิ! หมู่บ้านเล็กๆอย่างที่นี่ไม่มีใครสนใจเสียเวลามารุกรานหรอก พ่อเทิดฉุดไอ้เยื้องขึ้นมาเดินต่อ เอ้า ลุกขึ้นแล้วลืมเรื่องนี้ซะ จากนี้ไปเป็นช่วงสำคัญเอ็งห้ามเที่ยวเล่นไร้สาระอีก แค่อ่านหนังสือที่ข้าเตรียมไว้ให้เท่านั้นก็พอ! ใจไอ้เยื้องตอนนี้สับสนวุ่นวายไปหมด มันแค้น แค้นแสนแค้นที่เพื่อนมันถูกฆ่าตาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันกลัวพ่อของมันเหลือเกิน บัดนี้มันได้แต่รับเสียงอ่อยๆว่า ...ครับ... การปกครองด้วยความกลัวทำให้มันไม่กล้าว่ากล่าวขัดขืนบิดามาแต่เด็กแล้ว พ่อเทิดหัวเราะก้อง ฮาฮาฮา ต้องอย่างนี้สิ ให้มันรู้ว่าคนอย่างไอ้เทิดถึงจะถูกผลักไสมาอยู่แดนกันดารอย่างน้อยลูกมันต้องได้กลับไปแก้แค้น ฮาฮาฮา เอาให้สาสมทีเดียว! ตอนนี้เขาย่อมไม่หลงเหลือคราบแห่งความเมตตาปราณีที่แสดงให้ชาวหมู่บ้านเห็นแม้แต่น้อย แต่พ่อเทิดกับไอ้เยื้องไม่มีทางรู้เลยว่าหลังจากที่พวกเขาจากไปไม่นานร่างลึกลับสองสามร่างก็โผล่ขึ้นจากป่า ร่างเหล่านั้นคล้ายมนุษย์ผอมแห้งที่มีปากยาวแหลมดุจกรวย แต่ละร่างสูงกว่าคนธรรมดา ๔๕ เท่าต่างก้าวยาวๆข้ามต้นไม้มาโดยไม่เกิดเสียง จากนั้นก้มลงเก็บซากสัตว์ประหลาดและแหวนของพรหมทัตขึ้นแล้วจึงก้าวกลับไปในความมืดตามเดิม ...........................(อ่านต่อ) |