ไรน์ฮาร์ด ฟอน โรเอนกรัม (มิวเซล)
ไรน์ฮาร์ด มีนามสกุลเดิม คือ มิวเซล ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางแต่เพียงชื่อ หาได้มีฐานันดรและที่ดินหรือทรัพย์สินมรดกใด ๆ ไม่ เกิดเมื่อปีจักรวรรดิที่ 467 (ปีสากลอวกาศ 776)
เมื่อเขาอายุได้สิบขวบ เหตุการณ์ที่พี่สาวนามอันเนโรเซ (Annerose) ซึ่งแก่กว่าเขาห้าปี ถูกเชิญตัวไปเป็นนางสนมในวังหลังของจักรพรรดิฟรีดริชที่สี่ก็ทำให้ชะตาชีวิตของเด็กชายผู้นี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่ออายุได้เพียงสิบห้าปี เด็กหนุ่มผมทองเจ้าของดวงตาไอซ์บลูก็รับตำแหน่งเป็นร้อยตรีในกองทหารมหาดเล็ก และหลังจากนั้นเขาก็ไต่เต้าทั้งยศและตำแหน่งสูงขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้การสนับสนุนของจักรพรรดิเองซึ่งกำลังหลงไหลนางสนมคนใหม่และคนสุดท้ายคนนี้เป็นอย่างมาก และด้วยความสามารถของเด็กหนุ่มไรน์ฮาร์ดเอง
เมื่ออายุได้ยี่สิบปี ไรน์ฮาร์ดก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้สืบทอดฐานันดร เคานท์ ฟอน โรเอนกรัม (แทนที่ขุนนางคนเดิมที่ตายไปโดยไม่มีผู้สืบทอด) จากไรน์ฮาร์ด ฟอน มิวเซล เป็น เคานท์ ไรน์ฮาร์ด ฟอน โรเอนกรัม และในโอกาสเดียวกันยังได้รับเลื่อนยศเป็นพลเอกพิเศษอีกด้วย เหตุการณ์เช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ที่เจ้าเหนือหัวจะทรงแต่งตั้งขุนนางและข้าราชบริพารได้ตามพระทัยก็จริง แต่ยศและตำแหน่งที่สูงขึ้นก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบตามมาด้วยเช่นกัน หากไรน์ฮาร์ดเป็นขุนนางฐานันดรมาตั้งแต่เกิดแล้ว ก็คงไม่แคร์กับการสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์เท่าไรนัก แต่นี่เขาจะยอมให้ใครมาตราหน้าว่า ได้ดีเพราะพี่สาวเป็นนางสนมคนโปรดไม่ได้เป็นอันขาด
หยางเหวินหลี่
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทางสมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรีก็ได้นักการทหารชั้นยอดคนหนึ่งมาอยู่ในกองทัพ คือ หยางเหวินหลี่ ผู้ซึ่งเกิดเมื่อปีสากลอวกาศที่ 767 และเข้ารับราชการเป็นทหารยศร้อยตรีเมื่ออายุได้ยี่สิบปี
ที่จริง ชายหนุ่มผู้นี้ไม่มีความคิดที่จะเป็นทหารเลยแม้แต่นิดเดียว หากไม่มีเหตุการณ์บังเอิญประจวบเหมาะหลาย ๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นมาบังคับเขาให้สิ้นทางเลือกแล้วละก็ แทนที่จะเป็นคน "สร้าง" ประวัติศาสตร์เสียเอง หยางก็คงเป็นแค่ผู้ "สังเกตการณ์" การดำเนินไปของประวัติศาสตร์เท่านั้น
"เรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องที่เราเลือกได้ แต่บางเรื่องเราก็เลือกไม่ได้"
นั่นเป็นทฤษฎีส่วนตัวของหยาง และกับการเล่นตลกของโชคชะตาแล้ว หยางนับว่าเป็นผู้ที่ยืดหยุ่นมากกว่าและทำใจยอมรับสภาพของตนเองได้ดีกว่าไรน์ฮาร์ดหลายเท่านัก แต่อย่างไรก็ตาม หยางก็ยังคงรู้สึกแปลก ๆ ตลอดเวลาที่ตนอยู่ในเครื่องแบบทหารและเข้าร่วมทำสงครามในทุกครั้ง และเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จในการที่จะถอดเครื่องแบบและเลิกอาชีพทหารตามที่ตนตั้งใจไว้แต่แรกเลย แม้กระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต
...
ต้นปีสากลอวกาศที่ 796 (ปีจักรวรรดิที่ 487) ไรน์ฮาร์ดนำทัพเรือรบอวกาศจำนวนสองหมื่นลำเดินทางเข้าไปในแดนของพวก "กบฎ" ที่อ้างตัวเองว่าเป็น "สมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรี" เพื่อดำเนินการกวาดล้างทัพกบฏให้แตกกระเจิงไปเท่าที่กำลังฝ่ายตนจะอำนวยให้ แผนการรบและการตัดสินใจทุกอย่างล้วนเป็นสิทธิขาดของแม่ทัพไรน์ฮาร์ด
ข่าวจากยานลาดตระเวณที่บริเวณชายแดนถูกแจ้งไปยังดาวเคราะห์เมืองหลวงไฮเนสเซ่นอย่างรวดเร็ว และกองทัพสมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรีได้จัดกองยานรบจำนวนทั้งสิ้นสี่หมื่นลำออกมาเตรียมการต่อต้านการบุกรุก และ... หนึ่งในจำนวนนายทหารที่ออกรบในครั้งนี้ ก็มีพลจัตวาหยางเหวินหลี่ รวมอยู่ด้วยในฐานะเสนาธิการคนที่สองประจำกองบัญชาการกองยานรบที่สอง
ในปีนั้น เคานท์ ไรน์ฮาร์ด ฟอน โรเอนกรัม อายุยี่สิบปี ส่วนหยางเหวินหลี่อายุยี่สิบเก้าปี
...
(และแถมท้ายด้วย บางฉากที่เอามาจากเวอร์ชันการ์ตูนนะครับ ซึ่งเป็นฉากที่ในนิยายต้นฉบับไม่ได้เขียนไว้ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากรายละเอียดบางส่วน ในเวอร์ชันการ์ตูนก็ไม่ได้ยึดถือตามนิยายเสมอไป ดังนั้นจึงขอปรับรายละเอียดพวกนั้นให้สอดคล้องตามนิยายด้วย- ผู้แปลและเรียบเรียง)
แผนการของกองทัพสมาพันธ์ คือ ใช้กองยานรบที่สอง, ที่สี่และที่หก เข้าโอบล้อมทัพทรราชย์จากสามทิศทาง ... อันเป็นแผนการที่เลียนแบบจากการศึกที่เขตดาวดากอนเมื่อประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบปีก่อนนั่นเอง
ขณะที่บรรดานายทหารชั้นแม่ทัพและเสนาธิการคนอื่น ๆ พากันชูกำปั้นขึ้นเหนือศีรษะ พลางโห่ร้องด้วยความฮึกเหิมในแผนการของพวกตนนั่นเอง หยางได้แต่หรี่ตามองจอภาพที่แสดงการจำลองการรบ (ซิมูเลชัน) อยู่อย่างเงียบ ๆ คนเดียว
...
ที่ท่าอากาศยานของไฮเนสเซ่น
บรรดาทหารและนายทหารที่จะออกรบ ต่างกำลังร่ำลาญาติพี่น้องที่มาส่ง
มุมหนึ่งของห้องพักผู้โดยสาร
"ชนะกลับมาให้ได้นะคะ คุณหยาง"
หญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งกล่าวอย่างเอียงอายกับพลจัตวาหยาง ชายหนุ่มแปลกใจเล็กน้อยเพราะบุคลิกของเธอไม่ใช่แบบนี้ แต่แล้วก็เข้าใจเมื่อชายหนุ่มในชุดทหารอีกคนหนึ่งที่ยืนข้าง ๆ หญิงสาว ยื่นซองสีชมพูให้ตน
"ฮะฮ้า...."
การ์ดเชิญแต่งงานของทั้งสองนั่นเอง หยางเปิดออกมาดูแล้วก็ยิ้มออกมาในทันที จากนั้นบรรจงสอดมันกลับในซอง เงยหน้าขึ้นมองชายหญิงเบื้องหน้าตนสลับไปมา
"กันเพิ่งขอเจสสิก้าแต่งงานน่ะ.... ที่จริงก็กะว่าวันนี้จะเอาการ์ดเชิญให้แกแหละ แต่บังเอิญมีเรื่องออกรบมาคั่นซะก่อน"
"..."
"ไม่เป็นไร ไว้รบชนะกลับมาแล้ว เราคงได้มาฉลองกันในงานแต่งงานของกันด้วย เนอะ หยาง"
ชายหนุ่มผู้กำลังจะเป็นเจ้าบ่าว พันตรีแรพพูดอย่างมีความสุข ที่จริงเขาเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกับหยาง แต่ตอนนี้ ยศของหยางกลับทิ้งเพื่อนร่วมรุ่นไปถึงสามขั้นแล้ว
"...อืม ยินดีด้วย แรพ แล้วก็... คุณเจสสิก้า"
หยางฉีกยิ้ม ยื่นมือไปจับกับเพื่อนชาย และเพื่อนสาวตรงหน้าอย่างยินดี หากแต่สิ่งที่เขาคิดในใจคงไม่สามารถปล่อยให้มันหลุดปากออกมาได้เลย
'การรบครั้งนี้.... ไม่แน่ว่าจะชนะนา.....เพื่อนเอ๋ย สงสารก็แต่คุณเจสสิก้านะสิ...'
ภาพการจำลองแผนการรบผุดขึ้นในสมองอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับจุดบอดของแผนการที่ยังไม่มีใครเห็น
จุดบอดที่อาจจะพาให้กองยานรบของพวกเขาแตกพ่ายทั้งสามกองเลยก็ได้!
(อ่านตอนต่อไป)
|