นวนิยายแฟนตาซีอวกาศเรื่องยาว

วีรบุรุษทางช้างเผือก銀河英雄伝説

เรื่อง โดย ทะนะกะ โยะชิกิ (田中芳樹) แปลโดย Pae

บทที่ 2 การรบที่แอสทาเท
-3-


สี่ชั่วโมงหลังจากเปิดศึก กองยานรบที่สี่ของสมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรีก็ไม่เหลือสภาพที่จะให้เรียกว่าเป็น “กองยานรบ” ได้อีกต่อไป พวกเขาไม่เหลือซึ่งรูปขบวนที่พร้อมจะรบ, ไม่มีการควบคุมบังคับบัญชาอย่างมีประสิทธิภาพ, แต่ละส่วนถูกตัดแบ่งออกเป็นกองย่อย ๆ เล็ก ๆ ที่ยังคงมีบางส่วนสู้ตายถวายชีวิตกับข้าศึกที่อยู่เบื้องหน้าบ้าง อย่างกระจัดกระจายและสิ้นหวังเต็มที

เรือธงเลโอนิดัสเองก็กลายสภาพเป็นเพียงก้อนเหล็กก้อนมหึมาที่ล่องลอยอย่างไร้จุดหมายอยู่ในห้วงอวกาศ ภายในยาน ไม่เหลือสิ่งมีชีวิตแม้แต่สิ่งเดียว

ผู้บัญชาการกองยานรบพลโทพาสโทเรนั้น ทันทีที่ยานรบของเขาถูกข้าศึกรุมยิงหนักจนกระทั่งเกิดรอยแตกที่ผนังห้องบัญชาการ ร่างของเขาก็ถูกดูดออกไปห้วงอวกาศเบื้องนอก ด้วยผลต่างของความดันภายในและนอกยาน และบัดนี้ร่างของเขาจะเป็นตายร้ายดี ล่องลอยอยู่ ณ จุดใดในห้วงอวกาศก็ไม่มีใครทราบได้แล้ว

อีกทางหนึ่ง ไรน์ฮาร์ดเองก็ตระหนักถึงชัยชนะอันสมบูรณ์ของตนต่อข้าศึกกองนี้แล้ว และจังหวะนั้น เมลคัทซ์ก็ติดต่อผ่านเข้ามาทางจอภาพสื่อสาร

“ข้าศึกหมดสภาพที่จะต่อต้านพวกเราอย่างเป็นระบบแล้วขอรับ หลังจากนี้จะเข้าสู่การกวาดล้างข้าศึกที่ยังรอดอยู่ขอรับ”

“ไม่จำเป็น!”

“เอ๊ะ?”

เมลคัทซ์หรี่ตาของเขาที่หยีอยู่แล้วให้หยีลงไปอีก

“การรบเพิ่งจะสิ้นสุดไปเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น พวกข้าศึกที่ยังรอดอยู่ก็ปล่อยมันไปเถอะ ให้ถนอมตัวไว้เตรียมรับศึกครั้งต่อไปจะดีกว่า ทางนี้จะสั่งการลำดับต่อไปเอง ระหว่างที่รอคำสั่งให้พวกท่านจัดรูปขบวนกองเรือในสังกัดของตนให้พร้อมไว้ด้วย”

“รับทราบขอรับ ท่านแม่ทัพ”

หลังจากก้มศีรษะให้แล้ว ภาพของเมลคัทซ์ก็หายไปจากจอภาพ

ไรน์ฮาร์ดหันไปมองทางผู้ช่วยชั้นสูงของตน แล้วพูดขึ้น

“รู้สึกว่าเขาจะเปลี่ยนท่าทีไปหน่อยหนึ่งนะ”

“ขอรับ ต้องเปลี่ยนแหละขอรับ”

ชัยชนะในศึกแรกนี้มีความหมายยิ่งใหญ่นักในความคิดของเคียร์ชไอซ์ บรรดาผู้บังคับการกองเรือทั้งห้านั้นต้องยอมรับโดยดุษฎีแหละว่า แนวยุทธศาสตร์ของไรน์ฮาร์ดได้ผล และนอกจากนั้น ทหารยังมีขวัญกำลังใจดีขึ้นจากชัยชนะครั้งแรกนี้ด้วย ส่วนข้าศึกก็คงกำลังระส่ำระสาย เมื่อพบว่าแผนการที่ยอดเยี่ยมของพวกตนถูกทำลายลงแล้ว

“ต่อไป จะเลือกตีทางซ้ายหรือทางขวาดีล่ะ เคียร์ชไอซ์ นายคิดว่าไง?”

“จะเลือกทางไหน เราก็เคลื่อนทัพไปตีจากด้านหลังของพวกมันได้ทั้งนั้น แต่คุณไรน์ฮาร์ดคงเลือกไว้แล้วสิขอรับ”

“อืม”

“กองยานรบที่หกทางขวานี่มีกำลังน้อยกว่าอีกกองนะขอรับ”

“ใช่แล้ว”

รอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปากของแม่ทัพหนุ่มผมทอง

“แต่ข้าศึกอาจจะคาดการณ์ไว้แล้วก็ได้ ... ที่น่าห่วงก็ตรงนี้แหละขอรับ”

ไรน์ฮาร์ดส่ายหน้าแล้วตอบ

“ไม่มีอะไรต้องกังวลไป หากพวกมันรู้ตัวแล้วจริง คงไม่ดันทุรังเดินทัพตามแผนเดิมหรอก จะต้องรีบรวมกำลังกันโดยด่วนเลยล่ะ เพราะต่อให้พวกมันเหลือเพียงสองกองยานรบก็จริง พอรวมกันแล้วก็ยังมีกำลังเหนือกว่าทัพของเราอยู่เกือบสองเท่าอยู่ดี แต่ที่พวกมันไม่ทำอย่างนั้น ก็ย่อมแสดงว่ายังตามแผนของพวกเราไม่ทันนั่นเอง... เพราะฉะนั้น ต่อไปเราจะอ้อมเข้าตีจากด้านหลังขวาของกองยานรบที่หกล่ะ ต้องใช้เวลาเดินทัพเท่าไร?”

“สี่ชั่วโมงเศษขอรับ”

“ฮะ ๆ นายนี่ แอบคำนวณไว้ล่วงหน้าแล้วละสิ”

ไรน์ฮาร์ดยิ้มกว้างอีกครั้งหนึ่งอย่างชอบใจ ทันทีที่เขายิ้ม ใบหน้าของเขาก็สดใสเหมือนเด็กชายที่ไร้เดียงสาคนหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดยิ้ม เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของนายทหารในห้องบัญชาการหลายคนที่แอบจ้องมองมา สำหรับไรน์ฮาร์ดแล้ว นอกจากเคียร์ชไอซ์และพี่สาวของตนเอง เขาจะไม่ยอมยิ้มหรือหัวเราะกับใครง่าย ๆ เป็นอันขาด หรือแม้แต่จะให้เห็นรอยยิ้มของเขาก็ตาม

“ถ่ายทอดคำสั่งไปยังเรือทุกลำ ให้เบนเส้นทางวิ่งอ้อมในทิศตามเข็มนาฬิกา เพื่อเข้าโจมตีกองยานรบที่หกของข้าศึกของทางด้านหลังขวาของพวกมัน”

“ขอรับ”

เคียร์ชไอซ์รับคำ แต่ยังคงยืนนิ่งมองอีกฝ่ายอยู่เช่นนั้นเหมือนมีอะไรจะพูด ไรน์ฮาร์ดรู้สึกตัวรีบถามพลางย่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย

“มีอะไรจะท้วงเหรอ?”

“มิใช่ขอรับ เพียงแต่ว่า ... เรามีเวลาเหลือเฟืออีกถึงสี่ชั่วโมง จะไม่อนุญาตให้พวกทหารได้พักผ่อนกันสักหน่อยหรือขอรับ ก่อนจะเริ่มศึกอีก...”

“เออ จริง ฉันลืมคิดไป...”

ไรน์ฮาร์ดออกคำสั่ง ให้แบ่งทหารเป็นสองกะ ผลัดกันพักผ่อนกะละหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ในระหว่างนั้น ให้จัดการนอนพักในแทงค์เบด และรวมทั้งจัดแจงรับประทานอาหารให้เรียบร้อย

แทงค์เบดที่ว่า เป็นแทงค์ปิดที่ทำจากพลาสติกเบาชนิดหนึ่ง ภายในบรรจุน้ำเกลือเข้มข้นไว้ลึกสามสิบเซนติเมตร และรักษาอุณหภูมิน้ำเกลือไว้ที่ 33 องศาเซลเซียส เมื่อผู้ใช้เข้าไปนอนลอยตัวบนน้ำเกลือภายในแทงค์ปิดนี้ จะถูกตัดขาดจากสิ่งรบกวนภายนอกไม่ว่าจะเป็นแสงสีเสียงหรือความร้อนต่าง ๆ ร่างกายจะอยู่ในสภาพ “สงบนิ่ง” อย่างเต็มที่ กล่าวกันว่า การนอนหรือพักในแทงค์เบดหนึ่งชั่วโมงจะผ่อนคลายร่างกายได้เท่ากับการนอนเต็มอิ่มถึงแปดชั่วโมงเลยทีเดียว ในสนามรบ การที่จะฟื้นฟูความสดชื่นให้แก่ทหารที่เหน็ดเหนื่อยจากการรบทั้งกายและใจนั้น ไม่มีวิธีใดดีกว่าการใช้แทงค์เบดอีกแล้ว

ในกองย่อยที่ไม่มีแทงค์เบดติดไปด้วย มีวิธีใช้ยากระตุ้นประสาทให้ทหารเหมือนกัน แต่วิธีนี้นอกจากมีผลข้างเคียงมากแล้ว ยังไม่เป็นผลดีต่อระบบทหารเองอีกด้วย เพราะคนที่ติดยาเสพติดเสียแล้วย่อมไม่มีคุณค่าใด ๆ อีกต่อไป ดังนั้นวิธีใช้ยากระตุ้นให้ทหารจึงเป็นวิธีสุดท้ายทีจะใช้ในยามคับขันจริง ๆ

นอกจากการพักผ่อนแล้ว บรรดาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากศึกแรก ก็ได้รับการเยียวยาพยาบาลกันถ้วนหน้า มนุษย์ค้นพบไว้ตั้งแต่ปลายคริสตศตวรรษที่ 20 แล้วว่า อิเลกตรอนมีผลช่วยกระตุ้นให้เซลเนื้อเยื่อของมนุษย์ตื่นตัวขึ้นและสามารถทำการซ่อมแซมตัวเองได้เร็วกว่าเดิม และนอกจากนั้น เมื่อผนวกเข้ากับเทคโนโลยีโรบอทซึ่งถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ จนล่วงมาถึงขณะนี้ กล่าวได้ว่าเป็นยุคที่ ถ้าผู้ป่วยมาถึงมือแพทย์แล้วละก็มีโอกาสรอดชีวิตถึงเก้าสิบเปอร์เซนต์เลยทีเดียว ถึงแม้ว่า สภาพที่เรียกว่า “ตายเสียดีกว่า...” ซึ่งแพทย์เองก็ยังทำอะไรไม่ได้ จะยังคงหลงเหลืออยู่บ้างก็ตาม...

แต่สรุปแล้วก็คือ บรรดาทหารน้อยใหญ่ของทัพจักรวรรดิ ได้รับเวลาอันมีค่าในการพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งกันถ้วนหน้า ภายในห้องอาหารของเรือรบแต่ละลำเต็มไปด้วยเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจอย่างมีชีวิตชีวา ถึงแม้ว่าจะห้ามมิให้ดื่มเหล้าโดยเด็ดขาดก็ตาม ชัยชนะจากศึกครั้งแรกก็เป็นเครื่องชูรสชาติอาหารได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว คำพูดทำนองว่า แม่ทัพหนุ่มของเรานี่ก็เก่งเหมือนกันนี่นา.... นึกว่าจะเป็นแค่หนุ่มสำอางที่วัน ๆ เอาแต่จีบสาวซะอีก ดูท่าจะไม่ใช่แค่นั้นซะแล้ว ท่าทางจะเป็นนักยุทธศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียวละ อาจจะเก่งพอ ๆ กับผู้การวู้ดในสมัยก่อนโน้นเลยก็ได้ ฯลฯ ดังขึ้นจากแต่ละโต๊ะแทบจะเป็นเนื้อความเดียวกันทุกโต๊ะ

สำหรับทหารระดับล่างแล้ว พวกเขาไม่สนใจหรอกว่า การศึกแต่ละครั้งเป็นอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร รบไปเพื่อใคร และทำไมพวกเขาต้องมาไล่ฆ่าฟันกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยด้วย สิ่งที่พวกเขาคิดเหมือนกันก็คือ หวังว่าตนจะรอดชีวิตกลับไปหาครอบครัว ก็เท่านั้น พวกเขาดีใจอย่างซื่อ ๆ ในยามที่รบชนะและมีโอกาสรอดชีวิตกลับอีกครั้งหนึ่ง... แต่แน่นอนในบรรดาผู้รอดชีวิตจากศึกแรกนี้ อีกไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง พวกเขาบางคนก็อาจจะถึงฆาตบ้างล่ะ
(อ่านตอนต่อไป)

หมายเหตุ

ถ้าถามความรู้สึกคนแปลละก็.......... ก่อนอื่น.........
เหอ ๆ ๆ อย่างได้แทงค์เบดมั่งว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ใครลองทำขึ้นแล้วทดลองใช้ทีสิ ได้ผลจริงเปล่า จะได้ขอซื้อต่อมาใช้มั่ง เหอ ๆ ๆ ๆ

อย่างไรก็ตามแทงค์เบด แค่ช่วยทำให้กระปรี้กระเปร่าเท่านั้นครับ ร่างกายก็ยังต้องการการพักผ่อนอยู่ดี... ซึ่งคือการนอนหลับจริงๆ นั่นเอง (ในตอนหลัง ๆ จะมีบางฉากที่รบกันต่อเนื่องยาวเป็นสิบวันก็มี.... เรียกว่าประลองความอึด ผลัดกันเข้าแทงค์เบดสามวันทีอะไรทำนองนี้...)

ผมเข้าใจว่า แนวคิดที่ต้องใส่น้ำเกลือเข้มข้นลงในแทงค์ คงมาจาก ... น้ำทะเลในเรดซี (รึเปล่า) ที่ว่ากันว่า เข้มจนคนที่ลงไปในทะเลนี้จะไม่จม ทั้งที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม... กับอีกแนวคิดนึง มาจากสมมติฐานที่เคยมีใครไม่รู้เสนอไว้ว่า การพักผ่อนที่ให้ผลดี คือ ทำสภาพให้คล้ายกับอยู่ในครรภ์มารดา (แช่อยู่ในน้ำ และบรรยากาศเงียบสนิท)

สำหรับตอนที่ -3- ของบทนี้ ก็คงบอกได้คำเดียวว่า เคียร์ชไอซ์เท่ห์สุด ๆ ไม่มีคอมเมนท์อื่นแล้วครับ

กลับไปอ่านตอนที่แล้ว +++ กลับไปหน้าสารบัญ +++ ไปอ่านตอนต่อไป 1