นวนิยายแฟนตาซีอวกาศเรื่องยาว

วีรบุรุษทางช้างเผือก銀河英雄伝説

เรื่อง โดย ทะนะกะ โยะชิกิ (田中芳樹) แปลโดย Pae

บทที่ 7 ชูแต่หางเองอ้า อวดอ้าง ฤทธี
-5-


เบื้องหน้าของไรน์ฮาร์ด กำลังเรียงรายไว้ด้วยบรรดาผู้การหนุ่ม ๆ ในสังกัดจวนจอมพลของเขา

เคียร์ชไอซ์, มิตเตอร์ไมเยอร์, รอยเอนธาล, บิทเทนเฟลท์, รูทซ์, วาเลน, เคมป์ และสุดท้าย โอแบร์สไตน์ ทั้งหมดนี้ เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ไรน์ฮาร์ดเชื่อว่า เป็นหัวกะทิในบรรดากองทัพของจักรวรรดิด้วยกันแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังคงต้องเสาะหามาเพิ่มทั้งด้านคุณภาพและปริมาณอีก จนกว่าจะเป็นที่กล่าวขวัญกันต่อไปว่า การได้รับเลือกมาเข้าสังกัดจวนจอมพลแห่งนี้หมายถึงเป็นการรับรองความสามารถในระดับสูงสุดแล้วนั่นเอง ซึ่งที่จริงปัจจุบันก็ใกล้จะเป็นสภาพเช่นนั้นแล้ว แต่ไรน์ฮาร์ดก็ยังต้องการดำเนินการต่อไปอย่างไม่พอใจง่าย ๆ

“มีรายงานจากฝ่ายข่าวกรองของกองทัพจักรวรรดิดังต่อไปนี้”

ไรน์ฮาร์ดกวาดสายตามองบรรดาผู้การเหล่านั้นรอบหนึ่ง ผู้ที่ถูกมองพากันเกร็งตัวตรงโดยไม่ได้นัดหมาย

“วันก่อน พวกทัพกบฏชายแดนซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นกองทัพแห่งสมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรีได้ยกทัพเข้ามายึดป้อมปราการอิเซลโลนอันเป็นฐานแนวหน้าของเราไปได้สำเร็จ เรื่องนี้ พวกเจ้าทุกคนคงทราบดีกันหมดแล้ว และหลังจากนั้น พวกทัพกบฏก็ได้ระดมพลรบมารวมที่ป้อมปราการอิเซลโลนอย่างต่อเนื่องกัน จากการประมาณการ คาดว่าจำนวนยานรบของพวกมัน ตกประมาณ 2 แสนลำ นายทหารน้อยใหญ่ จำนวน 30 ล้านนาย และที่สำคัญ ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขประมาณการขั้นต่ำสุดแล้วด้วย”

บรรดาผู้การถึงกับร้องเบา ๆ ว่า อื้อฮือ ไปตาม ๆ กัน การได้มีโอกาสบังคับบัญชากองทหารขนาดใหญ่เช่นนี้นับเป็นความใฝ่ฝันของนายทหารทุกคน และต่อให้นี่เป็นเรื่องของฝ่ายข้าศึกก็ตาม ได้ฟังแล้วก็อดจะชื่นชมตามไปด้วยไม่ได้

“ความหมายของพฤติกรรมเช่นนี้ของพวกมันก็ย่อมชัดเจนแจ่มแจ้ง โดยมิต้องสงสัยแต่อย่างไร นั่นก็คือ พวกทัพกบฏกำลังเตรียมการที่จะบุกรุกอย่างเต็มพิกัดเข้ามาในดินแดนของจักรวรรดิเรานั่นเอง”

ดวงตาของไรน์ฮาร์ดเป็นประกายประดุจเพลิงที่โหมกระหน่ำ

“และมีคำสั่งลับจากเสนาบดีปกครองว่า ให้ข้าพเจ้ารับภารกิจในการป้องกันและรับมือพวกทัพกบฏที่กำแหงเหล่านี้แต่ผู้เดียว คาดว่าอีกสองสามวัน คำสั่งอย่างเป็นทางการคงจะประกาศตามออกมา นี่นับเป็นเกียรติยศสูงสุดสำหรับทหารอย่างพวกเรา และข้าพเจ้าก็หวังอย่างยิ่งว่า พวกเจ้าจักได้แสดงฝีมือในการรบครั้งนี้ให้เต็มที่”

จนถึงตรงนี้ ไรน์ฮาร์ดใช้สีหน้าและน้ำเสียงรวมทั้งคำพูดที่ค่อนข้างซีเรียสมาตลอด แต่แล้วใบหน้าของเขาก็ผุดรอยยิ้มขึ้นมา เป็นรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ที่เต็มไปด้วยความร่าเริงและพลังชีวิต แต่ก็หาใช่รอยยิ้มอันบริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่เขาแสดงต่อหน้าของเคียร์ชไอซ์และอันเนโรเซเท่านั้นไม่

“สรุปก็คือ พวกทหารกองอื่นเป็นแค่ไม้ประดับวัง พึ่งพาไม่ได้เลย นี่เป็นโอกาสอันดีของพวกเจ้าในการที่จะเลื่อนยศและหาเหรียญตราเกียรติยศมาประดับใส่ตัวแล้วนั่นเอง”

บรรดาผู้การทั้งหลายก็พากันหัวเราะออกมาด้วย พวกเขาล้วนมีจุดร่วมกันอย่างหนึ่งคือ ความรู้สึกต่อต้านต่อพวกขุนนางฐานันดรที่เอาแต่กอบโกยฐานะและอำนาจไปตามอำเภอใจ รู้สึกว่า เกณฑ์ที่ไรน์ฮาร์ดใช้คัดเลือกคนพวกนี้มาเข้าสังกัด หาได้มีเพียงเกณฑ์ด้านความสามารถแต่อย่างเดียวไม่

“ทีนี้ ข้าพเจ้าก็อยากจะปรึกษากับพวกเจ้าล่ะ ว่าพวกเราจะตั้งรับทัพข้าศึกที่พิกัดตำแหน่งใดดี...”

มิตเตอร์ไมเยอร์และบิทเทนเฟลท์เสนอความเห็นตรงกัน นั่นคือ ในเมื่อพวกทัพกบฏจะต้องเคลื่อนทัพผ่านช่องแคบอิเซลโลนเข้ามา ก็น่าจะไปตั้งรับรอพวกมันที่ตำแหน่งปากช่องแคบที่พวกทัพกบฏจะโผล่ออกมาเป็นตำแหน่งแรกจะดีหรือไม่? เหตุผลคือ หากเป็นที่ตำแหน่งนี้แล้วไซร้ ย่อมสามารถคาดการณ์ถึงพิกัดแน่นอนที่ข้าศึกจะโผล่ออกมาได้ อีกทั้งยังสามารถที่จะโจมตีทำลายกองหน้าของข้าศึกให้สิ้นสลายไป หรือจะเลือกจัดขบวนทัพแบบกึ่งโอบล้อมก็ย่อมได้ สรุปก็คือทัพของไรน์ฮาร์ดสามารถที่จะควบคุมการรบอย่างได้เปรียบต่อข้าศึกนั่นเอง

“อย่าเลย...”

ไรน์ฮาร์ดส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วอธิบายต่อว่า ข้าศึกเองก็คงคาดการณ์เอาไว้เหมือนกันว่า พวกเราน่าจะไปตั้งรับอยู่ที่ตำแหน่งนั้น และคงได้จัดเตรียมเอากองยานรบที่แข็งแกร่งที่สุดมาเป็นทัพหน้าไว้รับมือกับพวกเราเรียบร้อยแล้ว ต่อให้เราทำลายทัพหน้านั้นลงได้ก็จริง หากพวกข้าศึกกองที่เหลือหดหัวไม่ยอมปรากฏตัวออกมาจากช่องแคบอิเซลโลน พวกเราก็ไม่มีทางจะโจมตีพวกมันให้สิ้นซากได้เช่นกัน

“เพราะฉะนั้น เราควรจะล่อให้ข้าศึกทั้งหมดถลำลึกเข้ามาในแดนของเราก่อน”

ไรน์ฮาร์ดเสนอความเห็นของตนบ้าง หลังจากอภิปรายกันอยู่ชั่วเวลาสั้น ๆ บรรดาผู้การของเขาก็ยอมรับความคิดนี้กันทุกคน

ปล่อยให้ทัพข้าศึกถลำลึกเข้ามาในแดนจักรวรรดิก่อน รอจนกระทั่งตำแหน่งแนวหน้ากับแนวการส่งกำลังบำรุงยืดขยายจนที่สุดแล้ว ค่อยโจมตีพวกมันในคราวเดียว สำหรับฝ่ายตั้งรับแล้ว นี่นับเป็นกลยุทธที่ได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาดแน่นอน

“แต่ คงต้องใช้เวลานานหน่อยนะขอรับนี่”

มิตเตอร์ไมเยอร์แสดงความเห็นของตนออกมา เขาเป็นทหารหนุ่มในวัยฉกรรจ์ มีรูปร่างเล็ก ทะมัดทะแมง ร่างกายสมส่วนไม่มีเนื้อส่วนเกินแม้แต่น้อย เป็นเจ้าของผมฟู ๆ สีน้ำผึ้งและนัยน์ตาสีเทา

พวกทัพกบฏจากสมาพันธ์นั้น ลงได้ป่าวประกาศปาว ๆ ว่าพวกตนกำลังปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่แล้วไซร้ คงได้มีการเตรียมการมาอย่างพรักพร้อม ทั้งการจัดกระบวนทัพ, การขนอาวุธยุทโธปกรณ์และการส่งกำลังบำรุง นั่นหมายความว่า กว่าจะรอจนพวกนั้นขัดสนเสบียงและยุทธปัจจัยจนกระทั่งสูญเสียกำลังใจและความกระตือรือร้นในการรบไปแล้ว คงจะต้องกินเวลานานเป็นแน่ น้ำเสียงที่มิตเตอร์ไมเยอร์กล่าวนั้นเต็มไปด้วยความหนักแน่นและรอบคอบ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่สมควร ไรน์ฮาร์ดกวาดตามองไปยังบรรดานายทหารของตนรอบหนึ่งด้วยสายตาที่เปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจ แล้วจึงกล่าวว่า

“ไม่ต้องห่วงไป เราไม่ต้องรอยาวนานขนาดนั้นแน่นอน ปฏิบัติการครั้งนี้คงกินเวลาไม่เกิน 50 วันเป็นอย่างมาก โอแบร์สไตน์ อธิบายแผนการคร่าว ๆ ของเราให้พวกเขาฟังสิ”

นายทหารเสนาธิการเจ้าของผมหงอกครึ่งศีรษะซึ่งถูกระบุชื่อ ก้าวเดินออกมาเบื้องหน้าทั้งหมด แล้วเริ่มลงมืออธิบาย บรรยากาศแห่งความตกตะลึงก็เริ่มแผ่สร้านครอบงำรอบ ๆ กายของเหล่าผู้การเหล่านั้นอย่างเงียบ ๆ จนถ้วนหน้า


วันที่ 22 เดือนสิงหาคม ปีสากลอวกาศที่ 796 กองทัพออกรบของฝ่ายสมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรี ก็ได้มาตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ป้อมปราการอิเซลโลน พร้อม ๆ กันนั้น จากดาวเคราะห์เมืองหลวงไฮเนสเซนและดาวใกล้เคียง บรรดานายทหารน้อยใหญ่จำนวนกว่า 30 ล้านนาย ก็ทยอยกันออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจครั้งใหญ่นี้

(อ่านตอนต่อไป)


กลับไปอ่านตอนที่แล้ว +++ กลับไปหน้าสารบัญ +++ ไปอ่านตอนต่อไป 1