--ให้แต่ละกองยานรบดำเนินการจัดหาปัจจัยที่จจำเป็นเองในพื้นที่ จนกว่ายุทธปัจจัยจากสมาพันธ์จะถูกขนส่งมาถึง--
ทันทีที่นโยบายนี้ถูกประกาศออกมา กองบัญชาการของแต่ละกองยานรบอวกาศก็ถึงกับเต้นผาง ให้จัดหาปัจจัยที่จำเป็นในพื้นที่นี่นะ... จะให้พวกเราปล้นสดมภ์รึไง?!!! พวกที่อิเซลโลนมันคิดอะไรกันอยู่ นึกครึ้มใจตั้งตัวเป็นหัวหน้าโจรสลัดอวกาศแล้วรึ? ความล้มเหลวของการส่งกำลังบำรุง คือ ก้าวแรกของความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ นี่เป็นพื้นฐานทางการทหารที่ใคร ๆ ก็รู้ แล้วพวกมันยังดื้อดึงจะผลักความรับผิดชอบมาให้แนวหน้าหรือไง? ก็ไหนกองบัญชาการรบบอกว่า ระบบส่งกำลังบำรุงในการรบคราวนี้สมบูรณ์แบบที่สุดไง ไม่ทันไร ก็กลืนน้ำลายตัวเองแล้วรึ พวกชอบคุยโวเกินตัวนี่! ที่สำคัญ ในพื้นที่แนวหน้า มีอะไรให้พวกเราจัดหา (ปล้นสะดม) ได้ที่ไหนกันเล่า? หยางเอง ไม่ได้ร่วมขบวนบ่นกับคนอื่นด้วยก็จริง แต่ในใจก็รู้สึกเห็นด้วยกับทุกคนในทุกประเด็น ความมักง่ายขาดความรับผิดชอบของกองบัญชาการรบนี่มันสุดที่จะเอือมระอาก็จริง แต่จะว่าไป ยุทธการครั้งนี้มันก็เป็นยุทธการที่มีที่มาอันไร้เหตุผลและมักง่ายอยู่แล้ว การดำเนินยุทธการจะเต็มไปด้วยความมักง่ายก็ไม่แปลก นึกแล้ว ก็รู้สึกเห็นใจในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของแคสเซิร์นขึ้นมาตงิด ๆ อย่างไรก็ตาม... จวนได้เวลาเส้นตายแล้วสินะ หยางคิดในใจเช่นนั้น หลังจากที่แจกจ่ายอาหารและปัจจัยจำเป็นให้แก่พวกพลเมืองในดินแดนที่ยึดครองได้มาต่อเนื่องกันจนถึงตอนนี้ กองเสบียงของกองยานรบที่ 13 ของเขาตอนนี้ แทบจะว่างเปล่าแล้ว พันเอกอูโนะ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบกองเสบียงและยุทธปัจจัยของกองยานนี้ถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมาว่า สิ่งที่ราษฎรพวกนั้นต้องการไม่ใช่อุดมการณ์หรือเสรีภาพหรอกครับ พวกเขาต้องการแค่อาหาร อาหารเท่านั้น! หากพวกทัพจักรวรรดิขนอาหารมาแจกจ่ายให้ละก็ พวกเขาก็ยินดีที่จะคุกเข่าลงไปกราบกับพื้นพลางส่งเสียงอวยพร จักรพรรดิจงเจริญ! จักรพรรดิจงเจริญ! เป็นแน่ เพื่อที่จะเลี้ยงดูพวกที่ไม่มีความคิดอื่นอยู่ในหัวนอกจากคิดจะมีชีวิตไปวัน ๆ เท่านั้นนี่ ทำไมถึงกับต้องให้พวกเราอดตายแทนด้วยหรือครับ? ก็เพื่อที่ว่า พวกเราจะได้ไม่กลายเป็นลูดอร์ฟคนที่สองไงล่ะ หยางตอบแค่นั้น แล้วก็เรียกหาเฟรดเดอริก้า กรีนฮิลล์เข้ามา สั่งให้เปิดช่องสัญญาณ FTL (สายการติดต่อด้วยความเร็วเหนือแสง- Faster Than Light) เพื่อติดต่อสื่อสารกับพลโทอุลัมฟ์ ผู้บัญชาการกองยานรบที่ 10 โดยตรง อ้าว หยางเหรอ นึกยังไงติดต่อมาเนี่ย มีอะไรหรือ? ในจอภาพสื่อสาร ชายผู้สืบเชื้อสายจากชนเผ่าบนหลังม้าในยุคโบราณกล่าวขึ้น ท่าทางสบายดีเหมือนเดิมนะครับพลโทอุลัมฟ์ น่ายินดีจริง ๆ ครับ เป็นคำพูดโกหกชัด ๆ เพราะเห็นอยู่แล้วว่า อุลัมฟ์ผู้ห้าวหาญนี้ ถึงกับฉายแววของความเหนื่อยใจออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ปัญหามันเป็นคนละระดับกับเรื่องของความห้าวหาญในการรบหรือกลยุทธการรบแล้ว เล่นเอายอดนายทหารผู้นี้ถึงกับกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่เอาการทีเดียว พอถูกถามว่า สถานการณ์ของตู้เสบียงเป็นอย่างไรบ้าง อุลัมฟ์ก็ยิ่งแสดงสีหน้าหนักใจขึ้นไปอีก เหลืออีกแค่สำหรับอาทิตย์เดียวเท่านั้นแหละ ถ้าหากก่อนจะถึงตอนนั้น เสบียงเพิ่มเติมจากแนวหลังยังส่งมาไม่ถึงละก็ เห็นจะต้องจัดหา... อ่า พูดให้เพราะ ๆ ไปก็เท่านั้นแหละนะ... ต้องปล้นสดมภ์เอาจากในพื้นที่เสียแล้ว ให้ตายเถอะ อ้างตัวเองว่าเป็นทัพปลดแอกแล้วทำอย่างนี้ซะเองนี่ ได้ยินถึงไหนคนเขาคงหัวเราะเยาะถึงนั่น แต่ที่สำคัญคือ ถ้ามันมีอะไรให้ปล้นได้ก็ว่าไปอย่างนะ... ครับ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมมีความเห็นจะเสนอน่ะครับ... หยางพูดนำเพียงแค่นั้น แล้วก็เข้าเรื่องทันที กล่าวคือ ให้สละพื้นที่ยึดครอง แล้วรีบถอนตัวกันในตอนนี้เลย จะว่าอย่างไร ถอนทัพนี่นะ? อุลัมฟ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย โดยที่ยังไม่ได้รบกับข้าศึกแม้แต่แอะเดียวนี่นะคุณ ไม่เป็นการถอดใจเร็วเกินเหตุไปหน่อยรึ ครับ รีบถอนในเวลาที่เรายังมีแรงเหลืออยู่นี่แหละครับ ข้าศึกใช้กลยุทธตัดกำลังสนับสนุนของเรา และรอให้พวกเราอดตายอยู่นี่ ก็เพื่ออะไรล่ะครับ? ... คุณจะบอกว่า พวกเขากำลังรอจังหวะที่จะพลิกกลับเป็นฝ่ายโจมตีพวกเรานะหรือ? ครับ และน่ากลัวว่าจะเป็นการโจมตีเต็มพิกัดเสียด้วย ข้าศึกคุ้นเคยกับภูมิประเทศมากกว่าเรา และเส้นทางลำเลียงยุทโธปกรณ์ของพวกเขาก็สั้น ๆ ลำเลียงได้รวดเร็วด้วย ไม่เหมือนกรณีพวกเรา อืมห์... คราวนี้ แม้แต่อุลัมฟ์ซึ่งได้ชื่อว่ากล้าหาญชาญชัย ก็ถึงกับเสียวสันหลังวาบเหมือนกัน แต่ ถ้าเราถอนตัวสุ่มสี่สุ่มห้าละก็ กลับจะเร่งเชื้อเชิญให้ข้าศึกมาโจมตีเราให้เร็วขึ้นอีกนะ คราวนี้ละก็ไม่ต้องรอดกันพอดี โดนปิดประตูตีแมวเข้าให้ ครับ นั่นหมายความว่า ถ้าจะถอนตัว ก็ต้องเตรียมรบกับข้าศึกที่จะมาไล่ตีเราด้วย นี่เป็นเงื่อนไขขั้นต้นของเราเลยครับ ซึ่งถ้าเป็นตอนนี้ละก็ เรายังทำอย่างนั้นได้บ้าง แต่ถ้ารอจนทหารอดอยากกันแล้วก็หมดสิทธิ์ สรุปก็คือ รีบ ๆ ถอนตัวก่อนถึงเวลานั้นจะดีที่สุดครับ หยางอธิบายอย่างเอาจริงเอาจัง อุลัมฟ์ได้แต่นิ่งฟังอย่างครุ่นคิด ยิ่งกว่านั้น พวกข้าศึกก็คงจะกำลังกะเวลาที่พวกเราจะเริ่มขัดสนเสบียงกันอยู่เป็นแน่ครับ ถ้าพวกเราชิงถอนตัวในขณะที่เราพร้อม แล้วข้าศึกนึกว่าพวกเรากำลังแตกหนีเพราะขาดเสบียงแล้วออกมาไล่ตีพวกเราละก็ เราก็ได้เตรียมตัวสู้กับพวกเขาไว้แล้ว ไม่เสียเปรียบมากนัก แต่ถ้าพวกข้าศึกคิดว่า นี่พวกเราถอนตัวเร็วเกินไป จะเป็นกับดักหรือเปล่า แล้วพวกเขาไม่กล้าตามตีพวกเรา ก็ยิ่งดีใหญ่ เราจะได้ถอนทัพกลับได้โดยไม่ต้องสูญเสีย... อย่างหลังนี่คงมีความเป็นไปได้น้อยแหละครับ แต่ถ้ายิ่งเวลาผ่านไป ความน่าจะเป็นที่ว่าก็มีแต่จะต่ำลง ๆ เรื่อย ๆ อุลัมฟ์ทำท่าคิดหนัก แต่ก็ใช้เวลาไม่นานนักที่จะได้ข้อสรุปของตน เข้าใจแล้ว ความเห็นของคุณน่าจะถูกต้องที่สุดในตอนนี้ล่ะ ผมจะสั่งให้กองยานรบของผมเตรียมถอนทัพกลับเลย ว่าแต่ กองยานรบอื่นล่ะ จะติดต่อบอกพวกเขายังไง? เดี๋ยวผมจะติดต่อผู้การบิวค็อกเองครับ แล้วให้ท่านช่วยพูดกับทางอิเซลโลนให้หน่อย น่าจะได้ผลกว่าผมเสนอความเห็นด้วยตัวเอง โอเค ถ้างั้น พวกเราต่างก็เร่งมือกันหน่อยละกัน โชคดีนะไอ้เกลอ หลังจากเสร็จสิ้นการหารือกับอุลัมฟ์แล้ว ก็มีรายงานด่วนเข้ามา พื้นที่ยึดครองของกองยานรบที่ 7 ได้เกิดจราจลขึ้นค่ะ เป็นเหตุจราจลใหญ่พอสมควร สาเหตุมาจากการที่กองทัพหยุดการแจกจ่ายอาหารค่ะ สีหน้าของเฟรดเดอริก้าที่กำลังกล่าวรายงาน เต็มไปด้วยแววไม่สบายใจ แล้วกองยานรบที่ 7 จัดการยังไง? ใช้แกสสลบเข้าจัดการปราบฝูงชนค่ะ แต่หลังจากนั้นก็เกิดจราจลซ้ำขึ้นมาอีก มาตรการที่กองทัพจะใช้คงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ช้าก็เร็วแหละค่ะ หยางได้แต่คิดในใจว่า กลายเป็นเรื่องสลดใจขึ้นมาจนได้ ทัพสมาพันธ์ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นทัพปลดแอก ทัพของประชาชนได้ทำให้ประชาชนกลายเป็นศัตรูไปเสียแล้วนั่นเอง การที่จะแก้ความแตกร้าวระหว่างสมาพันธ์กับประชาชนในตอนนี้คงยังเป็นไปไม่ได้ สรุปก็คือ ทัพจักรวรรดิประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการฉีกแยกสมาพันธ์กับประชาชนของเขาออกจากกันโดยสิ้นเชิงนั่นเอง ให้ตายเถอะ สุดยอดจริง ๆ เคานท์ออฟโรเอนกรัม! ถ้าเป็นตนเองละก็ คงไม่สามารถดำเนินการอย่างเลือดเย็นได้ถึงเพียงนี้แน่นอน ต่อให้รู้ว่าถ้าทำอย่างนี้แล้วจะชนะก็ตามเถิด เขาคงทำไม่ลงแน่ นี่คือ ข้อแตกต่างระหว่างเคานท์ออฟโรเอนกรัมกับตน และนี่คือเหตุผลที่ตนเองกลัวเคานท์ผู้นี้นั่นเอง
-- และความแตกต่างข้อนี้ อาจจะนำมาซึ่งผลลัพพธ์ร้ายแรงเข้าให้จนได้สักวันหนึ่ง... ใครจะรู้--
เมื่อผู้บัญชาการกองยานรบที่ 5 แห่งกองทัพสมาพันธ์ พลโทบิวค็อกส่งสัญญาณทางช่องการสื่อสาร FTL เพื่อติดต่อกับทางป้อมปราการอิเซลโลน ปรากฏว่าผู้ที่ปรากฏตัวออกมาทางจอภาพกลับเป็นเสนาธิการฝ่ายแผนการรบ พลจัตวาโฟ้ก เจ้าของใบหน้าไร้สีเลือดผู้นั้น ผมจำได้ว่า ผมบอกอย่างชัดเจนนะ ว่าต้องการพบท่านผู้บัญชาการรบ ไม่ใช่คุณ ตัวเป็นแค่เสนาธิการฝ่ายแผนการรบเท่านั้น อย่าสะเออะหน้ามาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เรียกได้ไหม? น้ำเสียงของผู้การเฒ่าผู้นี้แข็งกร้าวไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย ทั้งความดุดันก็ดี รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาก็ดี ไม่ใช่ระดับที่คนอย่างโฟ้กจะทนรับได้ง่าย ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เสนาธิการหนุ่มก็เพียงแต่เปลี่ยนสีหน้าไปแวบเดียว แล้วก็ตั้งหลักได้ ตอบกลับมาอย่างถือดีว่า การขอเข้าพบหรือรายงานกับท่านผู้บัญชาการรบ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ล้วนต้องติดต่อผ่านกระผมทั้งสิ้นครับ ไม่ทราบว่า ท่านต้องการพบท่านผู้บัญชาการรบด้วยเรื่องอะไร? เรื่องอะไรก็ช่าง ไม่จำเป็นต้องบอกคุณ บิวค็อกถึงกับลืมอายุตัวเอง ลดตัวลงไปชวน ทะเลาะ กับอีกฝ่ายเข้าให้ ถ้างั้น กระผมก็คงจะจัดการให้ท่านเข้าพบผู้บัญชาการรบไม่ได้หรอกครับ ว่าไงนะ?... ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ใหญ่ตำแหน่งสูงเพียงใด ก็ต้องรักษากฎครับผม กระผมขออนุญาตตัดการติดต่อนะครับ กฎที่เอ็งตั้งขึ้นเองนะสิ ไอ้กร๊วกเอ๊ย บิวค็อกคิดในใจอย่างเดือดดาล แต่ในตอนนี้เขามีแต่ต้องยอมผ่อนตามอีกฝ่ายไปก่อน เดี๋ยวก่อน... ธุระของผมก็คือ ตอนนี้กองยานรบที่แนวหน้าทุกกองกำลังต้องการถอนตัวกลับ เพราะฉะนั้นผมในฐานะตัวแทน ขอพบท่านผู้บัญชาการรบเพื่อขออนุมัติตามนี้ ถอนตัวนะหรือครับ?!!! ริมฝีปากของโฟ้กบิดเบี้ยวเป็นรูปร่างที่บิวค็อกคาดการณ์ไว้จริง ๆ นึกไม่ถึงเลยครับว่า แม้แต่ท่านผู้การบิวค็อกที่ได้ชื่อว่าห้าวหาญที่สุด ก็ยังคิดจะถอนตัวจากสนามรบทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สู้กับข้าศึกสักแอะเดียวนี่นะครับ ถ้าเป็นผู้การหยางก็ว่าไปอย่าง หุบปากพล่อย ๆ ของคุณเดี๋ยวนี้! บิวค็อกตวาดกลับทันทีอย่างไม่อดทน ถ้าพวกคุณไม่บ้าเสนอแผนการบ้าบิ่นนี่ขึ้นมาตั้งแต่แรกละก็ ก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก หัดสำนึกตัวซะบ้าง ถ้าเป็นกระผมละก็ จะไม่ยอมถอนทัพกลับอย่างแน่นอนครับ นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะปราบพวกจักรวรรดิให้สิ้นซากในคราวเดียวแล้ว พวกท่านมัวกลัวอะไรกันอยู่ไม่ทราบ? คำพูดที่เสียมารยาทและไร้สาระอย่างรุนแรงประโยคนี้ ทำเอานัยน์ตาของผู้การชราทอประกายแสงวาบอย่างแรงกล้าประดุจแสงจากซุปเปอร์โนวาขึ้น อ้อ... อย่างนั้นหรือ? ได้ ถ้างั้นผมจะกลับไปอยู่ที่อิเซลโลน แล้วให้คุณเปลี่ยนตัวมาอยู่แนวหน้าแทนบ้าง เอาไหมล่ะ? ริมฝีปากของโฟ้กเบี้ยวจนไม่รู้จะเบี้ยวไปกว่านี้ได้อย่างไรอีกแล้ว อย่าพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้สิครับ คนที่เอาแต่พูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็คือคุณนั่นแหละ ในขณะที่ตัวเองก็เอาแต่หดหัวอยู่ในที่ที่ปลอดภัยอยู่อย่างนี้ ... ท่านกำลังดูถูกกระผมหรือครับ? เปล่า แค่เบื่อฟังคำพูดอวดใหญ่อวดโตแล้วเท่านั้นแหละ แทนที่คุณจะแสดงความสามารถของตัวเองด้วยการใช้ลิ้นของคุณน่ะนะ หัดใช้ผลงานมาแสดงบ้างจะเป็นไหม ลองแสดงให้ทุกคนเห็นสิว่า สิ่งที่คุณสั่งให้คนอื่นเขาทำนั้น ตัวคุณเองก็ทำเป็นเช่นกัน ว่าไงล่ะ? อุปาทานหรืออะไรก็เหลือเดา ผู้การชรารู้สึกเหมือนตนได้ยินเสียงของระดับเลือดที่ลดหายออกจากใบหน้าตอบของโฟ้กในคราวเดียว แล้วภาพที่เกิดขึ้นในลำดับถัดมา ก็เป็นภาพที่บิวค็อกไม่เคยคาดคิดมาก่อน นัยน์ตาของนายทหารหนุ่มสูญเสียโฟกัสไปเดี๋ยวนั้นเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยแววตื่นกลัวและกระวนกระวาย รูจมูกขยายออก และปากก็อ้ากว้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานที่เบี้ยว ๆ เขายกมือขึ้นมาปิดหน้าตนเอง ทำให้บิวค็อกมองไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย แล้วอีกหนึ่งวินาทีต่อมา ก็มีเสียงที่ไม่รู้ว่าเป็นเสียงครางหรือเสียงกรีดร้องดังขึ้น ต่อหน้าต่อตาบิวค็อกที่เฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างงง ๆ นั้นเอง ร่างของโฟ้กก็ลดระดับต่ำลงแล้วหายไปจากจอภาพทางด้านล่าง ภาพที่ปรากฏขึ้นแทนคือ เงาคนวิ่งไปวิ่งมาอย่างสับสนวุ่นวาย แต่ในระหว่างนี้ ไม่มีคำอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นทางนั้นให้ฟังแต่อย่างไร เขาเป็นอะไรไปล่ะนี่? ไม่ทราบเหมือนกันครับผม... นายทหารผู้ช่วยซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ บิวค็อก- ร้อยเอกครีเมนเต้ ก็ตอบคำถามของเจ้านายของตนไม่ได้ ผลสุดท้าย ผู้การชราผู้นี้ต้องยืนคอยอยู่ต่อหน้าจอภาพที่ว่างเปล่านานถึงสองนาที ในที่สุด หนุ่มใหญ่ในชุดแพทย์ทหารสีขาวผู้หนึ่ง ก็ปรากฏตัวขึ้นในจอภาพ แล้วยกมือทำความเคารพ พันตรีนายแพทย์ยามามูระครับผม ขณะนี้ ท่านพลจัตวาโฟ้กกำลังรับการปฐมพยาบาลอยู่ที่ห้องพยาบาล และกระผมขออนุญาตอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านทราบครับผม ท่าทางไม่ค่อยอยากพูดเท่าไรนา... บิวค็อกแอบคิดในใจ เขาเป็นอะไรหรือ? อาการฮิสทีเรียเรื้อรังกำเริบ ทำให้ประสาทตาเป็นอัมพาต ตาบอดชั่วขณะ ครับผม ฮิสทีเรียนี่นะ?!!! ครับผม ความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงทำให้เกิดอาการตื่นตระหนกจนบังคับตัวเองไม่อยู่ แล้วประสาทตาก็เลยเป็นอัมพาตไปชั่วขณะน่ะครับ อีกสักสิบนาทีก็คงจะหายและมองเห็นได้ใหม่ แต่ในอนาคต อาการจะกำเริบอีกเป็นพัก ๆ ครับผม ทั้งนี้เพราะว่าสาเหตุมันมาจากทางด้านจิตใจน่ะครับ ถ้าไม่แก้ไขที่สาเหตุแล้วละก็... แล้วจะต้องทำยังไงหรือ ถึงจะรักษาได้ ห้ามขัดใจเขาครับผม ห้ามทำให้เขารู้สึกผิดหวังหรือล้มเหลว ไม่ว่าใครก็ตามต้องเชื่อฟังและทำตามเขาเท่านั้น รวมทั้งเรื่องต่าง ๆ ก็ต้องดำเนินไปอย่างที่เขาต้องการด้วย ... นี่คุณพูดจริงหรือพูดเล่นนี่ คุณหมอ? อันนี้เป็นอาการเดียวกับที่จะพบในเด็กเล็ก ๆ ที่เติบโตมาด้วยการเอาอกเอาใจอย่างสุดขั้วจนทำให้เป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเองอย่างที่สุดน่ะครับ เพราะฉะนั้น ปัญหาไม่ใช่ว่าอะไรถูกอะไรผิด ประเด็นสำคัญสำหรับเขาคือ ความต้องการและความอยากของเขาจะต้องได้รับการตอบสนองเท่านั้นน่ะครับ เพราะฉะนั้น พวกท่านผู้การจะต้องขอโทษที่เสียมารยาทต่อเขา แล้วอุทิศแรงกายแรงใจทำตามแผนยุทธการครั้งนี้ให้สำเร็จ รบให้ชนะพวกจักรวรรดิ เพื่อให้ผลงานทั้งหมดเป็นของเขา ให้เขาได้รับคำสรรเสริญแต่ผู้เดียว... นั่นแหละครับ โรคของเขาถึงจะถูกรักษาได้ที่ต้นเหตุอย่างหายขาด เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ให้ตายเถอะ บิวค็อกถึงกับหมดอารมณ์ที่จะโกรธอีกต่อไป เพื่อที่จะรักษาโรคฮิสทีเรียของหมอนี่ ต้องให้นายทหารถึง 30 ล้านคนเข้าไปเสี่ยงชีวิตอยู่ในสมรภูมินี่นะ? ดี! ดีมาก! ผมซาบซึ้งน้ำตาไหลจนแทบจะจมทะเลน้ำตาตัวเองตายแล้วเนี่ย แพทย์ทหารเองก็ได้แต่หัวเราะเฝื่อน ๆ ถ้าพูดกันเฉพาะในแง่ของการรักษาอาการของท่านพลจัตวาโฟ้กละก็ ก็ต้องเป็นตามที่กระผมว่ามาแหละครับ แต่ถ้าเราขยายมุมมองกว้างออกไปในระดับกองทัพ แน่นอน เราก็คงต้องมีวิธีอื่นที่เหมาะสมกว่า ถูกต้อง ให้เขาลาออกไปซะ หมดเรื่อง ผู้การชราพูดตรง ๆ อย่างไม่เกรงใจใคร ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ละก็ นับว่าเป็นบุญของพวกที่ยังเหลืออยู่ด้วย ฮึ กุนซือของกองทัพที่มีนายทหารอยู่ถึง 30 ล้านคน เป็นคนที่มีเมนทอลลิตี้อยู่ในระดับเดียวกับเด็กเล็ก ๆ ที่งอแงจะขอกินช็อกโกแลตให้ได้นี่... รู้ไปถึงพวกจักรวรรดิ มีหวังพวกนั้นหัวเราะตกเก้าอี้กันเป็นแถวแน่ ... ครับผม ถ้าเรื่องอื่นที่เกินจากขอบเขตของแพทย์ละก็ ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ที่กระผมจะพูดคุยกับท่านได้ครับ เดี๋ยวกระผมจะเปลี่ยนให้ท่านหัวหน้าเสนาธิการมาพูดแทนนะครับผม... นักการเมืองที่มุ่งหวังผลชัยชนะทางการเมือง กับนักการทหารอัจฉริยะที่เป็นอาการฮิสทีเรียแบบเด็กเอาแต่ใจตัวเอง คนสองพวกนี้มาเจอกันแล้วผลก็คือทำให้นายทหารน้อยใหญ่จำนวนถึง 30 ล้านคนต้องถูกระดมพลออกรบในครั้งนี้... บิวค็อกได้แต่คิดอย่างขมขื่นในใจว่า ทราบอย่างนี้แล้ว ถ้าใครยังมีกะใจรบต่อละก็ ถ้าไม่ใช่คนหลงตัวเองแถมเป็นมาโซคิสต์นิด ๆ ก็คงจะต้องเป็นพวกชอบทำสงครามเป็นชีวิตจิตใจล่ะ ... ผู้การครับ บุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นบนจอภาพแทนที่ของนายแพทย์ทหารก็คือ หัวหน้าเสนาธิการของกองทัพออกรบครั้งนี้ พลเอกกรีนฮิลล์ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของเขาปรากฏแววลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด โอ้ หัวหน้าเสนาธิการนั่นเอง ขออภัยที่ผมรบกวนเวลาที่คุณกำลังยุ่งนะ ขนาดกล่าวคำพูดประชดประชันอย่างซึ่งหน้าแบบนี้แล้ว คนฟังก็ยังไม่รู้สึกโกรธ นี่คงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้การเฒ่าผู้นี้กระมัง กรีนฮิลล์ยิ้มด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกับนายแพทย์ทหาร ทางนี้ต่างหาก ที่เสียมารยาทไปต้องขอโทษด้วยครับ พลจัตวาโฟ้กคงจะต้องถูกสั่งพักราชการโดยทันทีครับ แต่นี่ต้องรอคำอนุมัติจากท่านผู้บัญชาการรบก่อน... แล้ว เรื่องข้อเสนอขอถอนทัพที่ทางกองยานรบที่ 13 เสนอมาละครับว่ายังไง? โดยส่วนตัวผมสนับสนุนข้อเสนอนี้เต็มที่เลยนะครับ ทหารของเราในแนวหน้าตอนนี้ ไม่อยู่ในสภาพที่จะรบได้แล้ว ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ กรุณารออีกสักครู่ได้ไหมครับ? นี่ก็ต้องรอคำอนุมัติจากท่านผู้บัญชาการรบเหมือนกัน ผมต้องขออภัยอย่างสูงด้วยที่ไม่สามารถให้คำตอบได้ในทันทีครับ พลโทบิวค็อกทำสีหน้าเบื่อหน่ายคำตอบแบบข้าราชการเจ้าพิธีรีตองเต็มที ถ้าเช่นนั้นก็คงต้องขอรบกวนหัวหน้าเสนาธิการล่ะครับ ช่วยจัดการติดต่อให้ผมได้พบหน้าท่านผู้บัญชาการรบสักหน่อยได้ไหม? ตอนนี้ ท่านผู้บัญชาการรบกำลังนอนกลางวันอยู่ครับผม! ผู้การเฒ่าขมวดคิ้วเข้าหากัน พลางกระพริบตาถี่ ๆ แล้วจึงได้เอ่ยปากถามย้ำช้า ๆ ว่า เมื่อกี้ว่าอะไรนะครับ? หัวหน้าเสนาธิการ คำตอบของพลเอกกรีนฮิลล์ที่กลับมา ถูกพูดเน้นชัดเจนกว่าเดิมว่า ผู้บัญชาการรบกำลังนอนกลางวันอยู่ครับ และสั่งไว้ว่า ถ้าไม่ใช่ข้าศึกบุกละก็ ห้ามปลุกท่านเด็ดขาด เพราะฉะนั้น ที่ท่านผู้การถามมานั้น ต้องรอไว้หลังจากท่านตื่นนอนแล้วถึงจะรายงานให้ทราบได้ครับ กรุณารอถึงตอนนั้นได้ไหมครับ? บิวค็อกไม่ตอบคำถามนี้ ได้แต่ยืนคิ้วกระดิกถี่ ๆ จนมองแทบไม่ทัน ... โอเค ผมเข้าใจทุกอย่างดีแล้ว กว่าที่น้ำเสียงที่ผ่านการบังคับอารมณ์อย่างเต็มที่แล้วจะหลุดผ่านริมฝีปากของผู้การเฒ่าออกมาได้ ก็ต้องรออีกหนึ่งนาทีให้หลัง ถ้าเป็นอย่างนี้ละก็ ในฐานะของผู้บัญชาการในแนวหน้า ผมก็จะขอปฏิบัติตามแนวทางที่ผมเห็นสมควร เพื่อรับผิดชอบต่อชีวิตของบรรดาลูกน้องที่อยู่ด้วยกันในแนวหน้าให้ดีที่สุด ขออภัยด้วยที่ทำให้คุณลำบากใจ ฝากถามท่านผู้บัญชาการรบหลังจากท่านตื่นนอนแล้วด้วยว่า บิวค็อกถามว่าฝันดีไหม ผู้การ... ช่องสัญญาณติดต่อสื่อสารถูกตัดขาดจากฝั่งของบิวค็อก พลเอกกรีนฮิลล์ได้แต่ยืนจ้องจอภาพสีเทาที่ว่างเปล่าอยู่เช่นนั้น ด้วยสีหน้าที่ยุ่งยากใจสุดขีด |