นวนิยายแฟนตาซีอวกาศเรื่องยาว

วีรบุรุษทางช้างเผือก เล่ม ๒ : ความทะเยอทะยาน
銀河英雄伝説 第二巻:野望篇

เรื่อง โดย ทะนะกะ โยะชิกิ (田中芳樹) แปลโดย Pae

บทที่ 1 ลมสงบก่อนพายุใหญ่
-3-


การแลกเปลี่ยนเชลยศึกนั้น ไม่ได้กระทำระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้เพราะต่างฝ่าย ต่างก็ถือว่าตนเองเป็นรัฐบาลหรือศูนย์รวมการปกครองที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียวของมวลมนุษยชาติ และไม่ยอมรับการคงอยู่ของอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น ย่อมไม่มีหนทางที่จะสร้างความสัมพันธ์ในเชิงทูต อีกทั้งความสัมพันธ์ในระดับ ‘ประเทศ’ ต่อกัน

หากนี่เป็นความขัดแย้งในระดับบุคคลแล้ว ผู้คนก็คงจะหัวเราะเอือมระอาในความหัวแข็งดื้อรั้นของคนสองคนนี้เป็นแน่ แต่เมื่อเป็นเรื่องระดับประเทศ และมีคำว่า ความชอบธรรม, อำนาจอธิปไตยมาเกี่ยวข้องแล้ว ผู้คนก็พากันยอมรับความไร้สาระนี้ไปได้โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ

พิธีแลกเปลี่ยนเชลย ได้ถูกจัดขึ้น ณ ป้อมปราการอิเซลโลน เมื่อวันที่ 19 เดือนกุมภาพันธ์ของปีนั้น ผู้แทนของกองทัพแต่ละฝ่ายได้เข้าร่วมพิธีนั้น แลกเปลี่ยนรายชื่อเชลยศึกกัน แล้วก็ลงนามในหนังสือสำคัญ ความว่า

“กองทัพแห่งจักรวรรดิทางช้างเผือก และกองทัพแห่งสมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรี ให้การรับรองว่า ต่างฝ่ายจะดำเนินการปลดปล่อยทหารและนายทหารของอีกฝ่ายหนึ่งที่ฝ่ายตนได้ควบคุมไว้ กลับไปสู่บ้านเกิดของตน ภายใต้การดำเนินการด้วยมนุษยธรรมและกฎทหารของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีเป็นประกัน

ลงนาม

ผู้แทนกองทัพจักรวรรดิทางช้างเผือก พลเอกพิเศษ ซี้กฟรีด เคียร์ชไอซ์ วันที่ 19 เดือนกุมภาพันธ์ ปีจักรวรรดิที่ 488

ผู้แทนกองทัพสมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรี พลเอกหยาง เหวินหลี่ วันที่ 19 เดือนกุมภาพันธ์ ปีสากลอวกาศที่ 797”

เคียร์ชไอซ์หันมายิ้มให้หยางซึ่งเพิ่งจะเซ็นชื่อเสร็จ ด้วยรอยยิ้มจริงใจ

“พิธีการพวกนี้ อาจจะเป็นสิ่งจำเป็นก็จริง แต่จะว่าไป ก็ไร้สาระดีนะครับ ผู้การหยาง”

“เห็นด้วยครับ ฮะ ๆ”

หยางพินิจมองอีกฝ่ายอย่างเต็มตา ตัวของเขาเองนั้นจัดเป็นนายพลที่อายุน้อยแล้ว แต่เคียร์ชไอซ์ผู้นี้กลับอายุน้อยลงไปอีกด้วยวัยเพียง 21 ปีเท่านั้นเอง รูปร่างที่สูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา ผมสีแดงประดุจย้อมด้วยของเหลวที่เกิดจากการหลอมละลายของทับทิม และดวงตาสีฟ้าสดใสคู่นั้น ทำให้บรรดาสาว ๆ ในอิเซลโลนพากันนิยมชมชอบแม่ทัพของข้าศึกผู้นี้ไปตาม ๆ กัน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า นี่คือ แม่ทัพตัวฉกาจของจักรวรรดิทางช้างเผือกเลยทีเดียว หยางเองก็เช่นกัน แม้จะเคยรบกับเคียร์ชไอซ์มาโดยตรงเมื่อคราวศึกอัมริทเซอร์ อีกทั้งยังรู้อยู่เต็มอกว่า ชายผู้นี้แหละ คือ มือขวาของไรน์ฮาร์ด แต่เขาก็ทำใจให้เกลียดชังหนุ่มผมแดงนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ดูเหมือนว่าเคียร์ชไอซ์เองก็รู้สึกเช่นกัน การจับมือในตอนที่จะลาจากกันนั้น เป็นการจับมือที่เต็มไปด้วยไมตรียิ่ง หาได้เป็นเพียงการกระทำอย่างแกน ๆ ขอไปทีแต่อย่างไรไม่

“น่ารักดีนะครับ”

ตอนหลังจูเลียนได้วิจารณ์ถึงเคียร์ชไอซ์ให้หยางฟังเช่นนี้ ซึ่งหยางก็พยักหน้ารับ จะว่าไป การที่พวกเขารู้สึกชื่นชมแม่ทัพฝ่ายข้าศึกมากกว่านักการเมืองของบ้านเกิดตัวเองเสียอีกนี่ ออกจะเป็นเรื่องที่แปลกอยู่เหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ ศัตรูที่กำลังเผชิญหน้ากันซึ่ง ๆ หน้า ยังน่ากลัวน้อยว่าพวกลอบกัดจากด้านหลังเสียอีก อีกทั้ง คำว่ามิตรและศัตรูนั้นก็ใช่ว่าจะต้องเป็นมิตรและศัตรูกันถาวรตลอดไปเสียเมื่อไรเล่า

แต่สรุปแล้ว ด้วยเหตุฉะนี้ หยางก็มีข้ออ้างอย่างสมบูรณ์แบบ ที่จะกลับไปเมืองหลวงเป็นการชั่วคราว เพื่อร่วมพิธีต้อนรับทหารผ่านศึก (เชลยศึกที่รับการปลดปล่อย) เหล่านี้ (อ่านตอนต่อไป)


กลับไปอ่านตอนที่แล้ว +++ กลับไปหน้าสารบัญ +++ ไปอ่านตอนต่อไป 1