ฮิลด้าใช้เวลาเดินทาง 6 วันจึงมาถึงดาวเมืองหลวงโอดีน สำหรับเธอแล้ว การเดินทางครั้งนี้เรียกว่า กลับมาเมืองหลวง น่าจะถูกต้องกว่า ทั้งนี้ เธอใช้ชีวิตในเมืองหลวงจวนจะครบ 4 ปีแล้วนั่นเอง ฮิลด้าโดยสารโรบอทคาร์จากสนามบิน ตรงดิ่งไปยังจวนจอมพลของไรน์ฮาร์ดทันที โดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลแม้แต่น้อย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเธอกำลังตื่นเต้นอยู่ก็เป็นได้ อีกทั้งยังคิดไปว่า เวลาสำหรับพักผ่อนนั้น ยังมีให้เธออีกเหลือเฟือ หลังจากเสร็จภารกิจการเจรจาครั้งสำคัญนี้แล้วนั่นเอง ฟรอยไลน์ (คุณผู้หญิง) ได้นัดล่วงหน้าไว้หรือไม่ขอรับ? นายทหารหนุ่มน้อยที่เคานท์เตอร์ติดต่อสอบถาม ถามฮิลด้าเช่นนั้น จากป้ายชื่อทำให้ทราบว่าเขามีนามว่า ร้อยโทริวเก้ ไม่มีค่ะ แต่ดิฉันมาโดยมีชะตาชีวิตและความหวังของผู้คนจำนวนมากเป็นเดิมพันด้วย คาดว่าท่านจอมพลคงต้องยินดีให้ดิฉันพบเป็นแน่ ช่วยติดต่อให้หน่อยได้ไหมคะ? ด้วยสีหน้าน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแวววิงวอน- ถึงแม้ว่าสามสิบเปอร์เซนต์เป็นมารยาหญิงก็เถิด- ทำให้ร้อยโทริวเก้ถูกปลุกสำนึกของอัศวินม้าขาวขึ้นมา เขาบอกให้เธอรออยู่ก่อน แล้วก็ทดลองติดต่อไปยังที่ต่าง ๆ หลายที่ ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มกว้างอย่างจริงใจ ดีใจประดุจเป็นเรื่องของตนเองกระนั้น ท่านอนุญาตให้พบได้ขอรับ ขอเชิญขึ้นลิฟต์หมายเลข 4 ไปยังชั้น 10 ได้เลยขอรับ ขอบคุณมากค่ะ ขอโทษที่ทำให้คุณยุ่งยากนะคะ ฮิลด้ากล่าวขอบคุณจากใจจริง แล้วก็เดินไปยังลิฟต์ที่ระบุ ซึ่งตัวลิฟต์เองเป็นเครื่องตรวจจับอาวุธและวัตถุอันตรายในตัวด้วย วันนั้น ไรน์ฮาร์ดกำลังรอรายงานสำคัญชิ้นหนึ่งอยู่ แต่รอเท่าไรก็ไม่มีการติดต่อเข้ามาสักที ในจังหวะนั้นเอง ก็มีการแจ้งเข้ามาว่า มีสุภาพสตรีแสนสวยผู้หนึ่งมาขอพบ ทำให้เขาเกิดความสนใจขึ้นมา อันที่จริงแล้ว เขาเองก็หาใช่เป็นผู้ที่สนใจความงามของสตรีเท่าไรนัก เพราะเห็นมามากแล้ว แต่ถึงกระนั้น เขาก็อดรู้สึกประทับใจไม่ได้ เมื่อพบเห็นดวงหน้างามสดใสไร้เครื่องสำอางของฮิลด้า อันเป็นความงามที่แตกต่างไปจากบรรดาหญิงสูงศักดิ์ในตระกูลขุนนางฐานันดรทั่วไป เสียดายที่เคียร์ชไอซ์ไม่อยู่ ไรน์ฮาร์ดทรุดกายลงนั่งบนโซฟารับแขก แล้วก็เอ่ยปากขึ้นเช่นนั้น นายนั่นมีดวงสมพงษ์กับตระกูลมารีนดอร์ฟอยู่พอสมควร เจ้าคงทราบกระมัง? แน่นอนเจ้าค่ะ ท่านเคียร์ชไอซ์ได้กรุณาช่วยชีวิตของเคานท์ฟอนมารีนดอร์ฟ-บิดาของดิฉันไว้ เมื่อคราวกบฏคัสทรอปเมื่อปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีโอกาสพบหน้ากันโดยตรงก็เถิด... ... อืมห์ แล้ว เจ้ามาครานี้ มีธุระอันใดกับเราหรือ? เด็กหนุ่มในเครื่องแบบที่บ่งบอกว่าเป็นนักเรียนของโรงเรียนยุวชนทหารคนหนึ่ง ยกกาแฟมาเสริฟให้ ตอนที่ไรน์ฮาร์ดเอื้อมมือไปกำลังจะเปิดฝากระปุกครีมนั่นเอง ฮิลด้าก็เอ่ยขึ้นว่า ตระกูลมารีนดอร์ฟขอแสดงเจตจำนงเป็นพันธมิตรของท่านมาร์ควิสโรเอนกรัม ในสงครามกลางเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เจ้าค่ะ! ไรน์ฮาร์ดชะงักการเคลื่อนไหวไปวูบหนึ่ง แต่แล้วเขาก็จัดการปรุงกาแฟของตนต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สงครามกลางเมืองอะไรหรือ? ก็สงครามระหว่างท่านมาร์ควิสกับดยุคฟอนเบราสไวก์ที่กำลังจะปะทุขึ้นในวันนี้พรุ่งนี้แล้วสิเจ้าคะ! เจ้าช่างเป็นคนกล้าหาญเสียจริง เอาเถิด สมมติว่าเกิดสงครามขึ้นจริง ก็ไม่แน่ว่าเราจักต้องเป็นฝ่ายชนะนี่ ถึงกระนั้นเจ้าก็ยังคงยืนยันว่าจะเป็นฝ่ายเราเช่นนั้นหรือ? ฮิลด้าสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะเริ่มต้นอธิบายเหตุผลที่เธอเคยอธิบายให้บิดาฟังมาก่อนแล้วครั้งหนึ่งให้กับไรน์ฮาร์ดฟังจนจบ นัยน์ตาสีไอซ์บลูของจอมพลหนุ่มทอประกายวาบขึ้น อย่างนี้นี่เอง เจ้าช่างมองการณ์ได้เฉียบขาดนัก ถูกต้องของเจ้า ในสถานการณ์เช่นนี้เราเองก็ย่อมต้องการพันธมิตรเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน เราสัญญาว่าจักให้การต้อนรับและตอบแทนแก่ตระกูลมารีนดอร์ฟเป็นอย่างดี ให้สมกับความหวังดีของเจ้า และรวมทั้งสำหรับบรรดาตระกูลขุนนางอื่น ๆ ที่จะตามเจ้ามาเป็นพวกเราในภายหน้าด้วย ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ด้วยคำพูดนี้ของท่านมาร์ควิสโรเอนกรัม ดิฉันก็ย่อมจะเกลี้ยกล่อมหาพันธมิตรจากบรรดาญาติมิตรได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่เป็นไร พวกเจ้าอุตส่าห์จะเป็นพวกเราทั้งที จะให้เราเฉยชาต่อพวกเจ้าได้อย่างไร มีแต่จะต้องตอบแทนต่อความกล้าหาญและความลำบากของเจ้าให้ถึงที่สุดเท่านั้นจึงจักถูกต้อง หากเจ้ามีเรื่องอันใดที่ต้องการให้เราช่วยแล้วไซร้ ขอจงอย่าได้ลังเลหรือเกรงใจเลย บอกเรามาเถิด เจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นดิฉันก็จะไม่เกรงใจล่ะ มีเรื่องที่อยากขอร้องท่านหนึ่งเรื่องเจ้าค่ะ กล่าวมาเถิด ดิฉันอยากจะได้หนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรจากท่าน เพื่อแสดงว่า ท่านได้ให้สัญญาว่าจะรับประกันสวัสดิภาพและทรัพย์สินที่ดินของตระกูลมารีนดอร์ฟทั้งหมด เพื่อเป็นการตอบแทนต่อความภักดีของตระกูลเราเจ้าค่ะ อืมห์ หนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือ...? ไรน์ฮาร์ดทวนคำด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความระแวดระวัง สายตาที่เขาใช้มองฮิลด้ามีแววที่แตกต่างจากที่ผ่านมาเล็กน้อย ในขณะที่บุตรีของเคานท์มารีนดอร์ฟก็จ้องตอบกลับสายตานั้นอย่างไม่พรั่นพรึงแม้แต่น้อย ไรน์ฮาร์ดนิ่งคิดอะไรบางอย่าง แต่ก็ใช้เวลาไม่นานนัก ได้ เราจักทำหนังสือสัญญาแล้วมอบให้เจ้าภายในวันนี้เลย ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ฮิลด้าก้มศีรษะที่ตัดผมทรงช็อตคัทของเธอลงอย่างนอบน้อม นับจากบัดนี้ไป ตระกูลมารีนดอร์ฟขอให้สัตย์ปฏิญาณว่า จักจงรักภักดีต่อใต้เท้าตลอดไป และยินดีรับใช้ใต้เท้าในทุกเรื่องเท่าที่เราทำได้เจ้าค่ะ รบกวนเจ้าแล้ว ว่าแต่... ฟรอยไลน์มารีนดอร์ฟเอ๋ย เจ้าคะ? สำหรับบรรดาตระกูลขุนนางอื่นที่เจ้าจะช่วยเกลี้ยกล่อมมาเป็นพวกให้นี้ เราก็ต้องมอบหนังสือรับประกันให้เช่นนี้ทุกตระกูลไปหรือ? หากมีผู้เอ่ยปากขอหนังสือสัญญาด้วยตัวของเขาเองแล้ว ก็กรุณามอบให้เขาเถิดเจ้าค่ะ แต่นอกนั้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำหนังสือสัญญาให้แต่อย่างไร น้ำเสียงของฮิลด้าไม่มีแววลังเลแม้แต่น้อย เอาเช่นนั้นเลยรึ...? ไรน์ฮาร์ดถึงกับยิ้มอย่างพึงพอใจ เจตจำนงค์ของเขานั้น ย่อมอยู่ที่การกวาดล้างกลุ่มอำนาจเก่าที่หนุนบัลลังค์ของราชวงศ์โกลเดนบาวม์ให้สิ้นสลายไปในคราวเดียว เขาไม่มีความคิดแม้แต่น้อยที่จะปล่อยให้บรรดาอภิสิทธิ์ชนที่กอบโกยความมั่งคั่งและอำนาจล้นฟ้ามาตลอดห้าศตวรรษเหล่านี้ เหลือรอดอยู่ในการปกครองยุคใหม่ที่เขากำลังจะสร้างขึ้นเลย ทันทีที่เขาขึ้นถึงตำแหน่งอำนาจสูงสุด เว้นแต่คนที่มีความสามารถจริง ๆ แล้วเขาตั้งใจไว้ว่าจะประหารชีวิตคนพวกนี้ให้หมดสิ้น หรือหากราษฎรอยากจะได้เลือดเนื้อของพวกนี้ละก็ เขาก็ยินดีจะโยนบรรดาขุนนางฐานันดรเก่าเหล่านี้เข้าใส่กลุ่มฝูงชนโดยไม่ลังเล พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ หากใครไม่มีความสามารถพอที่จะมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้วไซร้ ก็จงตายไปเสียให้หมด ให้สมกับความเชื่อของต้นราชวงศ์โกลเดนบาวม์ที่พวกเขาจงรักภักดีนั่นเอง นี่เรียกว่า กงเกวียนกำเกวียน ก็ว่าได้ และฮิลด้าก็มองออกถึงเจตนารมณ์นี้ของไรน์ฮาร์ด จึงได้ขอหนังสือรับประกันสวัสดิภาพของตระกูลตนเป็นลายลักษณ์อักษรนั่นเอง เมื่อเป็นสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนแล้วไซร้ ย่อมแตกต่างจากคำสัญญาปากเปล่า ไม่สามารถจะบิดพลิ้วหรือผิดสัญญาได้โดยง่าย เพราะหากทำเช่นนั้นแล้ว ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของไรน์ฮาร์ดเองจะหม่นหมองไป แต่ยังส่งผลถึงความชอบธรรมในระบบการเมืองใหม่ภายใต้การนำของไรน์ฮาร์ดอีกด้วย ฮิลด้าเตรียมการสำหรับปกป้องตระกูลของตนอย่างหนาแน่นถึงปานนี้ แต่เธอกลับบอกอย่างชัดเจนว่า สำหรับตระกูลอื่นแล้ว ขอเชิญท่านฆ่าแกงได้ตามใจชอบ ความหมายของเธอนั้นหาใช่เพียงความหมายตื้น ๆ ในแง่ที่ว่า ขอให้ตัวเองรอดไว้ก่อนคนอื่นจะเป็นเช่นใดก็ช่าง- แต่ประการใดไม่ หากแต่เธอบอกไรน์ฮาร์ดกลาย ๆ ว่า ตระกูลมารีนดอร์ฟจักจงรักภักดีต่อไรน์ฮาร์ดอย่างแท้จริง และจะไม่แอบติดต่อช่วยเหลือ (ให้คำแนะนำ) ตระกูลอื่น ๆ เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ตน (และเป็นการขัดต่อเจตนาของไรน์ฮาร์ด) เป็นอันขาดนั่นเอง ช่างเป็นหญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลม เปี่ยมพร้อมด้วยสายตากว้างไกลที่อ่านเกมการเมืองและการทูตได้อย่างปรุโปร่งเสียนี่กระไร! ดูเหมือนว่า เขาจะค้นพบบุคคลที่ควรค่าแก่การยกย่องแล้ว จากในบรรดาตระกูลขุนนางฐานันดรนับพันตระกูลของจักรวรรดินี้ และที่สำคัญ บุคคลผู้นั้นกลับเป็นสตรีผู้มีวัยเพียงยี่สิบปีเท่านั้นเอง แต่จะว่าไป ตัวไรน์ฮาร์ดเองก็ใช่ว่าจะสูงวัยกว่าเธอนัก เขาแก่กว่าเธอเพียงปีเดียวเท่านั้น ไรน์ฮาร์ดถึงกับรู้สึกว่านี่เป็นลางบอกเหตุว่า ยุคสมัยของคนแก่คร่ำครึกำลังจะสิ้นสุดไปแล้วนั่นเอง ไม่เพียงแต่ในจักรวรรดิทางช้างเผือกนี้เท่านั้น ในฟรีพลาเน็ตก็เช่นนั้น ผู้การหยางเหวินหลี่ก็เพิ่งจะมีอายุขึ้นหลักเลขสาม ส่วนทางด้านแดนปกครองตนเองเฟซานนั้นเล่า? เฟซานลันท์คนปัจจุบัน- ลูวินสกี้ก็ยังมีอายุอยู่ในช่วงสี่สิบเศษ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หญิงสาวผู้นี้ช่าง... ไรน์ฮาร์ดจ้องมองฮิลด้าอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่เขาทำท่าจะเอ่ยปากอยู่นั้นเอง... ด้านนอกประตูห้องก็เกิดเสียงดังอึกทึกขึ้น แล้วในอึดใจต่อมา ประตูห้องก็เปิดออก ชายฉกรรจ์ในชุดนายทหารชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งวิ่งทะเร่อทะร่าเข้ามา ใบหน้าของเขากำลังแดงเรื่อด้วยความตื่นเต้นสุดขีด ร่างอันบึกบึนใหญ่โตของเขาเพียงพอที่จะปิดบังประตูนั้นได้เกือบมิดด้วยตัวเพียงคนเดียว ใต้เท้าขอรับ! ไอ้พวกขุนนางฐานันดรที่ไม่รักดีทั้งหลายมันเคลื่อนไหวแล้วขอรับ! น้ำเสียงของเขาก็ดังสมกับความใหญ่โตของตัวเลยทีเดียว เขาผู้นี้คือ คาร์ล กุสตัฟ เคมป์ ซึ่งเป็นผู้การคนหนึ่งในสังกัดจวนจอมพลของไรน์ฮาร์ด แต่เดิมนั้นเคยเป็นเอซ (เจ้าเวหา) มาก่อน ส่วนปัจจุบัน ก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดแม่ทัพที่ห้าวหาญที่สุดคนหนึ่ง ไรน์ฮาร์ดลุกขึ้นยืนทันทีอย่างสง่างามจนแม้แต่ฮิลด้าเองก็ยังต้องตะลึงมอง ที่แท้แล้วเขากำลังรอรายงานชิ้นนี้อยู่นั่นเอง ฟรอยไลน์มารีนดอร์ฟ เราดีใจจริง ๆ ที่วันนี้ได้มีโอกาสพบเจ้า เอาไว้วันหลัง หวังว่าจะได้มีโอกาสไปทานอาหารด้วยกันสักมื้อนะ ขอตัวก่อน เคมป์ซึ่งกำลังเดินตามหลังไรน์ฮาร์ดออกไปนอกห้อง ต้องอดลอบชำเลืองมองหญิงสาวด้วยสายตาที่แสดงความทึ่งแวบหนึ่งไม่ได้ |