|
หยางจัดแจงเรียกประชุมบรรดานายทหารในกองบัญชาการของตน แล้วถ่ายทอดคำสั่งของพลเอกดอร์สันให้พวกเขาฟัง สรุปก็คือ ให้พวกเราไปปราบความไม่สงบทั้งสี่ที่เลยนะหรือครับ? ฟิชเชอร์, แคสเซิร์น, เชนค็อป, มุระอิ, ปาตริเชฟ บรรดานายทหารคู่ใจของหยางล้วนพากันตกตะลึงกับคำสั่งนี้กันถ้วนหน้า แต่ในบรรดานี้ ผู้ที่คุมสติได้ก่อน คือ เชนค็อป ดูท่าพวกเขาต้องการจะเก็บทหารของตัวเองไว้ แล้วก็จิกหัวใช้พวกเราอย่างกะทาสเลยนะครับผม ชายหนุ่มผู้นี้มองออกถึงเจตนาของคำสั่งนี้ในทันทีเช่นเดียวกับหยาง แต่ที่ต่างกันคือ เขามองทะลุถึงสาเหตุที่ทำให้ดอร์สันแกล้งพวกตนเช่นนี้ด้วย และปากกับสายตาก็ไวเท่าความคิด เขาหันไปมองหน้าเจ้านายของตน แล้วก็ยิ้มกวน ๆ ออกมาตามสไตล์พลางเปรยว่า ท่าทางท่านจะโดนเกลียดชังอยู่ไม่เบานะครับผม ส่วนหยางได้แต่นิ่งไม่ตอบอะไร ไม่ใช่ว่าเชนค็อปหรือ จูเลียนหัวไวเกินไปในเรื่องนี้หรอก แต่เพราะเขาซื่อบื้อเกินไปต่างหาก แต่อย่างไรก็ตาม ลงเป็นคำสั่งจากกองบัญชาการทหารสูงสุดแล้วละก็ เราก็คงจะได้แต่ทำตามแหละ... จากที่นี่ไป ดาวแชมพูลอยู่ใกล้ที่สุด เราเริ่มจากที่นั่นกันไหมครับ? ขณะที่มุระอิกำลังจะเอื้อมมือไปกดสวิทช์ของจอภาพสามมิติอยู่นั่นเอง เสียงหวอก็ดังขึ้น และจอภาพใหญ่ที่กำแพงก็ฉายภาพของเจ้าหน้าที่สื่อสารออกมา หยางสังเกตเห็นรอยด่างบนผ้าพันคอที่บริเวณหน้าอกของนายทหารสื่อสารผู้นั้นอย่างชัดเจน ท่าทางเขาคงจะกำลังดื่มกาแฟหรืออะไรทำนองนั้นอยู่ ก่อนที่จะได้รับข่าวที่น่าตกใจจนกระทั่งทำกาแฟหกรดตัวเองเข้าให้ และก็จริงดังคาด เกิดเรื่องใหญ่ที่เมืองหลวงแล้วครับผม! ข่าวใหญ่เพิ่งมาเดี๋ยวนี้เองครับ... เกิดเรื่องใหญ่อะไรรึ? มุระอิถามเสียงหนัก ๆ เป็นเชิงตำหนิ นายทหารผู้นั้นกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ เค้นเสียงตอบว่า ระ... รัฐประหารครับผม! ยกเว้นหยางแล้ว ทุกคนในที่นั้นล้วนแต่กลั้นหายใจอย่างลืมตัวกันทั่วหน้า ยิ่งปาตริเชฟแล้ว ถึงกับลุกขึ้นยืนด้วยร่างใหญ่ ๆ บึกบึนของเขาเลยทีเดียว ภาพบนจอถูกตัดเปลี่ยนไปเป็นภาพการถ่ายทอดสดด้วยช่องสัญญาณเหนือแสง (FTL) จากศูนย์สื่อสารที่เมืองหลวง ผู้ที่ปรากฏตัวบนจอ ไม่ใช่ผู้ประกาศข่าวที่มักปรากฏตัวพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม (แม้ว่าจะเป็นรอยยิ้มปั้นแต่งก็ตาม) อย่างทุกคราว หากแต่เป็นนายทหารวัยกลางคนนายหนึ่งนั่งอยู่แทนด้วยท่าทีแข็งกระด้าง ...ประกาศซ้ำอีกครั้ง ณ วันที่ 13 เมษายน ปีสากลอวกาศที่ 797 กองกำลังกอบกู้วิกฤติแห่งฟรีพลาเน็ต ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองในไฮเนสเซนไว้แล้วอย่างสมบูรณ์ พวกเราขอประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งสมาพันธ์นับตั้งแต่บัดนี้ไป และให้ถือว่า คำสั่งและมติของกองกำลังกอบกู้วิกฤติแห่งชาตินี้เป็นกฎหมายสูงสุดแทน บรรดานายทหารระดับสูงของป้อมปราการอิเซลโลนได้แต่มองหน้ากันไปมา และท้ายสุด พวกเขาก็หันไปมองหน้าผู้บัญชาการหนุ่มผมดำของตนเป็นจุดเดียว หยางยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไร จ้องมองจอภาพอยู่เช่นนั้น ในสายตาของบรรดาลูกน้องของเขาแล้ว รู้สึกว่าเจ้านายตนช่างใจเย็นเสียจริง ๆ สุดท้ายแล้ว แนวคิดของดอร์สันก็ไม่ได้มีผลช่วยยับยั้งปฏิบัติการของพวกคณะรัฐประหารจนได้ ต้องเรียกว่า การลงมือของพวกหลังรวดเร็ว เฉียบขาดเกินไปมากกว่า หรือไม่ก็ การตัดสินใจออกคำสั่งของดอร์สันช้าเกินกว่าที่พวกเขาคาดหวังไว้ แต่น่าจะเป็นเพราะทั้งสองประการรวมกันมากกว่า กองกำลังกอบกู้วิกฤติแห่งชาติหรือ... น้ำเสียงที่หยางพึมพำออกมานั้นเจือด้วยแววไม่พอใจอย่างชัดเจน เขาไม่เคยรู้สึกถึงความสวยงามหรือความจริงใจในคำสวย ๆ ประเภท รักชาติ เอย กู้ชาติ เอย เพื่อชาติ เอย เลย ก็คนเหล่านี้ที่สามารถประกาศก้องปาว ๆ ว่าตนเป็นคนรักชาติ คิดเพื่อชาติ ทำเพื่อชาติได้โดยไม่รู้สึกอายในคำพูดของตนเองเลยไม่ใช่หรือ ที่มักจะหลบอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และมีชีวิตอย่างสะดวกสบายสุขีสโมสรทุกคนไป อีกทางหนึ่ง ในจอภาพ ก็ได้มีการประกาศใช้ คำสั่งกองกำลังกอบกู้วิกฤติแห่งชาติ เพื่อบังคับใช้แทนรัฐธรรมนูญ เนื้อหาของคำสั่งคณะรัฐประหารดังกล่าวมีดังนี้ 1. เร่งสร้างชาติให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อก้าวสู่เป้าหมายอันสูงส่ง ได้แก่ การล้มล้างจักรวรรดิทางช้างเผือก 2. ควบคุมการดำเนินกิจกรรมการเมืองและการแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นระเบียบ เพื่อมิให้สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ 3. ให้ทหารทุกคนมีอำนาจหน้าที่ของตำรวจและมีอำนาจศาล 4. ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ และด้วยการนี้ ห้ามจัดกิจกรรมการชุมนุมประท้วงหรือเรียกร้องใด ๆ โดยเด็ดขาด 5. ให้รัฐรวบกิจการการเดินอวกาศและการสื่อสารระหว่างหมู่ดาวฤกษ์ทั้งหมดอย่างเบ็ดเสร็จ และด้วยการนี้ กองทัพจะเป็นผู้ควบคุมดำเนินการสนามบินอวกาศทุกแห่ง 6. ไล่ออกจากราชการซึ่งผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านสงครามหรือต่อต้านกองทัพ 7. ยุบสภาผู้แทนราษฎร 8. เอาโทษอย่างหนักแก่ผู้ที่หนีทหาร 9. ดำเนินการสอบสวนซักฟอกและลงโทษสถานหนักแก่บรรดานักการเมืองและข้าราชการที่มีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ ฉ้อราษฎร์บังหลวง สำหรับผู้ที่มีกระทงความผิดหนักให้ประหารชีวิต 10. ยกเลิกการจัดงานบันเทิงรื่นเริงเพื่อมอมเมามวลชน ให้ฟื้นฟูวิถีชีวิตที่เรียบง่ายสู่สังคม 11. ยกเลิกการสงเคราะห์ผู้อ่อนแอ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสในสังคมจนเกินควร เพื่อหยุดยั้งความอ่อนแอของสังคม อะไรกันนี่ ให้ตายเถอะ... หยางที่จ้องมองจอภาพอยู่ถึงกับเอือมระอาอย่างสุดขีด สิ่งที่กองกำลังกอบกู้วิกฤติแห่งชาติกำลังพยายามกระทำอยู่นี้คือ การสร้างอาณาจักรทหารที่เผด็จการเบ็ดเสร็จดี ๆ นี่เอง และนั่นหมายถึง สิ่งที่เมื่อ 500 ปีก่อน ลูดอร์ฟ ฟอน โกลเดนบาวม์เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่มีผิดเพี้ยนกันสักมากน้อยเลย ระยะเวลาชั่ว 500 ปีที่ผ่านมานี้ไม่มีความหมายใด ๆ ต่อมวลมนุษย์ที่จะได้เรียนรู้บ้างเลยหรือ? มนุษยชาติไม่ได้เรียนรู้อะไรจากบุรุษที่นามลูดอร์ฟผู้นั้นเลยแม้แต่น้อยหรือกระไร? ขณะที่กองกำลังกอบกู้วิกฤติแห่งชาติอ้างว่า สิ่งที่พวกตนกำลังพยายามจะทำก็เพื่อล้มล้างจักรวรรดิทางช้างเผือกอันเป็นผลผลิตอันเลวร้ายของลูดอร์ฟผู้นั้น พวกเขากลับกำลังพยายามจะปลุกผีลูดอร์ฟให้ฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งไม่ใช่หรือ!!! หยางแค่นหัวเราะออกมา เขาไม่รู้จะทำอย่างไรได้นอกจากแค่นหัวเราะแบบนี้ สิ่งที่เขากำลังรับรู้มันเป็นละครตลกงี่เง่า ๆ ฉากหนึ่งเท่านั้น มิหนำซ้ำ ยังเป็นตลกที่มีมุขถ่อยสุดขีดอีกด้วย แต่ละครตลกฉากนี้ไม่ได้ดำเนินความตลกขบขันนั้นต่อไปจนจบ ดั่งที่มันได้เป็นมา ลำดับต่อไป ขอแนะนำ ผู้นำกองกำลังกอบกู้วิกฤติแห่งชาติให้แก่ราษฎรและทหารในกองทัพทุกท่านได้รู้จัก... ทันทีที่นามของบุคคลผู้นั้นถูกประกาศออกมา พวกของหยางก็รู้สึกว่า อากาศในห้องนั้นประดุจหนึ่งเปลี่ยนเป็นของเหลวหนัก ๆ ที่ไหลกดดันพวกเขาแทนอย่างน่าอึดอัด ภาพของชายวัยกลางคนที่ปรากฏตัวขึ้นบนจอภาพสื่อสารนั้น เป็นบุคคลที่หยางรู้จักดีทีเดียว ผมสีน้ำตาลที่มีผมขาวแซมประปรายแบบนี้ ใบหน้าที่ยังคงความหล่อเหลาคมคายแบบนี้ หยางเคยคุยด้วยหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งยังเคยร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกันด้วยซ้ำ และที่สำคัญบุคคลผู้นี้มีบุตรีอยู่คนหนึ่ง บุตรีของเขานั้น... เสียงร้องอุทานหนัก ๆ ดังขึ้นเบื้องหลัง ทำให้หยางต้องหันขวับกลับไปมอง นายทหารผู้ช่วยของเขา- ร้อยเอกหญิง เฟรดเดอริก้า กรีนฮิลล์กำลังยืนอยู่ข้างหลังเขาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด นัยน์ตาสีเฮเซล (น้ำตาลอ่อน) ของหล่อนเบิ่งกว้างอย่างที่ไม่สามารถจะกว้างไปกว่านี้ได้อีกแล้ว เพื่อส่งสายตาจับจ้องไปยังหน้าจอ และจอภาพนั้นกำลังแสดงภาพของบิดาบังเกิดเกล้าของเธอ พลเอก ดไวท์ กรีนฮิลล์!!! |