นวนิยาย เรื่องสั้น บทความ เรื่องที่อยากเล่า |
เรื่องสั้น เขาเดินอย่างไร้จุดหมายไปตามถนนที่แสนจะยุ่งเหยิงเส้นหนึ่งในเมืองใหญ่ สายตาสอดส่ายไปตามป้าย ที่ติดอยู่หน้าร้าน หว้งว่าจะอ่านพบป้ายรับสมัครคนงานซักป้าย แต่ระยะทางที่ผ่านมาร่วมสิบๆกิโล และเวลาที่เริ่ม บ่ายคล้อยจวนเย็นทำให้เขารู้ว่า ความหวังของเขาเหลือน้อยเต็มที เขายกนาฬิกาโบราณสายถลอกจนจำสีเดิมไม่ ได้ของเขาขึ้นดูอีกครั้ง มันบอกเวลาห้าโมงสี่สิบนาที แขนข้างเดียวกับที่ยกขึ้นมาดูนาฬิกายกเลยขึ้นไปปาดเหงื่อ ที่ใบหน้า หน้าของเขามีเค้าของความคมสันอยู่มาก แต่ถูกความคล้ำกร้านของผิว และความท้อแท้สิ้นหวังใน แววตาบดบังจนมิด ถึงรูปร่างหน้าตาเขาจะไม่อ่อนวัยนัก แต่เขาก็ดูแกร่งและยังแข็งแรงอยู่มาก เมื่อเทียบกับคน อายุเลข 4 ต้นๆคนอื่นๆ ความจริงเขาก็มีงานทำเป็นช่างก่อสร้างรับจ้างอิสระ ในช่วงที่เศรษฐกิจยังเฟื่องฟูเมื่อ 3-4 ปีก่อน เขาและพวกเพื่อนๆก็มี งานเข้ามาให้ทำไม่ขาดทั้งวันทั้งคืน ได้เงินกันเป็นกอบเป็นกำจนพอมีเหลือเก็บไว้บ้าง รายได้ในช่วงนั้นทำให้เขาและเมียสาวที่อ่อนกว่าเกือบรอบ ตัดสินใจมีพยานรักโดยเขาตั้งชื่อให้เองว่า โกยทอง หลังจากโกยทองลืมตามาดูโลกไม่เท่าไหร่เศรษฐกิจก็เริ่มดิ่งลง รู้สึกได้จากงานก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่ผู้ว่าจ้าง เลิกจ้างซะเฉยๆ ปล่อยให้งานทั้งค้างครึ่งๆกลางๆอยู่อย่างนั้น งานใหม่ก็ไม่เคยมีเข้ามาอีก นอกจากงานก่ออิฐเป็น คันกั้นน้ำตามบ้านต่างๆตอนฝนเริ่มชุก ซึ่งเป็นงานเล็กๆน้อยๆรายได้หลังหักค่าวัสดุก็แค่พอซื้อข้าวกินกันได้ ไม่กี่มื้อ เงินที่เคยออมไว้ก็ร่อยหรอลงทุกที เป็นอันว่านอกจากจะมีทองให้โกยแล้ว เขายังต้องโกยเงินที่มีอยู่ ออกใช้เพื่อประทังทั้ง 3 ชีวิตให้อยู่รอด แต่เขาและเมียก็ไม่เคยงอมืองอเท้า หรือตีอกชกตัว หาทางฆ่าตัวตายยกครัวอย่างที่เป็นข่าวกันอยู่บ่อยๆ เมียสาวของเขาออกรับจ้างซักรีดเสื้อผ้าตามบ้าน แต่หล่อนก็ทำได้ไม่เต็มที่นัก เนื่องจากมีภาระต้องดูแลไอ้หนูไปด้วย ส่วนเขาก็ออกรับจ้างทั่วไปโดยไม่เคยเกี่ยงค่าจ้างหรือความหนักหนาของงาน แต่ผู้ชายอย่างเขากลับหางาน ยากกว่าผู้หญิงหลายเท่า ในยุดสังคมร้อนเงินอย่างนี้ นายจ้างไม่ค่อยไว้ใจจ้างคนแปลกหน้าอย่างเขาเท่าไรนัก ฉะนั้นงานเล็กๆน้อยๆในบ้านอย่างตัดหญ้า ตัดต้นไม้ หรือทำสวน เค้าก็จะจ้างเจ้าประจำที่เคยรู้จักหรือไม่ก็ทำเอง เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ตัวเขาเป็นช่างก่อสร้าง เคยแต่ร่อนเร่ไปตามไซต์งานจึงไม่มี เจ้าประจำ ที่พอจะ ว่าจ้างกันได้ เขาจึงต้องเป็นฝ่ายเดินหาผู้ว่าจ้างซะเอง ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จบ่อยนัก แต่เขาก็ยังเดินหามันอยู่ทุกวัน หลายวันมานี่เมียของเขาดูหน้าตาหมองคล้ำซีดเซียว ไม่มีน้ำไม่มีนวลเหมือนก่อน หล่อนอ่อนเพลียง่าย นอนไม่ค่อยหลับ และหน้ามืดเป็นลมบ่อยๆ เขาเคยสงสัยว่าหล่อนกำลังจะมีตัวเล็ก ให้เขาอีก แต่จากการซื้อ อุปกรณ์มาตรวจปัสสาวะตามคำแนะนำของอาตี๋ร้านขายยาปากซอย เขาก็รู้ว่ามันไม่ใช่ เขาไปหาซื้อยาแก้ปวด ยี่ห้อที่หล่อนเคยกินตอนทำงานหนักๆมาให้ แต่เมียของเขาก็ไม่มีทีท่าว่าอาการจะดีขึ้น กลับอิดโรยลงเรื่อยๆ จนเดี๋ยวนี้หล่อนไม่สามารถรับจ้าง ซักรีดเสื้อผ้าได้มากเหมือนเมื่อก่อน ยังคงรับทำอยู่แค่บ้านสองบ้านเท่านั้น ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่าบางครั้งเมียของเขาต้องนอนพักโดยมีลูกชายวนเวียนอยู่ใกล้ๆ และดูเหมือนโกยทอง จะรู้หน้าที่เพราะมันไม่ค่อยงอแงและกวนแม่เหมือนเดิม ถ้าเห็นแม่หลับ มันก็จะหาอะไรเล่นอยู่แถวนั้นไม่มากวน พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว อีกวันกำลังจะหมดไป เขาจะต้องกลับบ้านมือเปล่าไปหาเมียและลูก แล้วเมียของเขาก็จะปลอบโยนเขาด้วยคำพูดเดิมๆ ไม่เป็นไรพี่ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ แล้วทั้งครอบครัวก็ต้อง กินข้าวต้มกับผักบุ้งลวกเป็นอาหารเย็นติดต่อกันเป็นวันที่เจ็ด ไม่..เขาจะยอมให้มันเป็นอย่างนั้นอีกไม่ได้ เขาไม่ อยากดูหนังซ้ำ แค่สองรอบยังพอทนได้ แต่นี่มันรอบที่เจ็ดแล้ว เท้าทั้งสองข้างพาเขามาหยุดอยู่หน้าร้านขาย ของชำแห่งหนึ่ง เขาเดินเข้าไปในร้าน มือข้างหนึ่งล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง เขาชี้ไปที่ขนมไข่ถุงหนึ่ง โกยทองคงชอบ เขาคิดในใจพลางถามเจ้าของร้านอาซิ้มแก่ๆ เท่าไหร่? ยี่สิบ ซิ้มตอบพลาง ตามองกวาดสารรูปของเขาไปพลาง แล้วปลากระป๋องนั่นล่ะ? เขาถามต่อ มือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง ยังกำเหรียญสิบบาทสุดท้ายไว้แน่น สามสิบห้า ซิ้มตอบมะนาวไม่มีน้ำ เผอิญมีลูกค้าอีกคนเดินเข้ามา ในร้าน ซิ้มจึงเดินรี่เข้าไปต้อนรับ ด้วยอาการยิ้มแย้มผิดกับที่ปฏิบัติกับเขาอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ เขายังยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สายตายังสอดส่ายหาสินค้าราคาเยาว ์ที่เงินสิบบาทในกระเป๋าจะพอซื้อหาได้ ในที่สุดเขาก็ออกจากร้านนั้นมาโดยที่เหรียญสิบบาทยังคงอยู่ในอุ้งมือชื้นเหงื่อ เขากลับมาถึงบ้านด้วยอาการรีบร้อน เมียและลูกของเขานั่งรออยู่แล้ว เป็นไงมั่งพี่ วันนี้ เขาส่ายหน้า เป็นคำตอบโดยไม่กล้าสบตาหล่อน ไม่เป็นไรพี่ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่นะ เขาไม่ได้รอฟังหล่อนพูดต่อ เดินตรงเข้าไปในครัวเตรียมตั้งสำรับกับข้าว เมียของเขาดูซูบลงไปมาก หล่อนผอมเหมือนคนอดอาหาร ที่เขาเคยเห็นในค่ายผู้อพยพที่มีแต่หนังหุ้มกระดูก ตาลึกโหลเป็นรอยคล้ำ โหนกแก้มโปนออกมาจนเห็นได้ชัด บางทีอาการอ่อนเพลีย และไม่สบายของหล่อนอาจจะมีสาเหตุมาจากการขาดอาหารก็เป็นได้ ถ้าได้กินอาหารดีๆซักมื้อ บางทีหล่อนจะ อาการดีขึ้น เขายกสำรับกับข้าวออกมาตั้ง เมียของเขามองหน้าเขา อย่างแปลกใจ แต่เขาไม่มองตอบหล่อน ลงมือตักข้าวใส่จานจนครบ ลงมือกันเถอะ กินเข้าไปเยอะๆนะ จะได้แข็งแรง เขาบอก หล่อนมองหน้าเขาเหมือนจะถามอะไรอยู่เป็นครู่ แต่เมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจ และเริ่มลงมือกินข้าว หล่อนก็ก้มลงตักข้าวป้อนลูก และ เริ่มลงมือกินบ้าง วันนี้ทุกคนกินข้าวได้มากกว่าทุกวัน แต่ไม่มีการสนทนาเหมือนอย่างเคย เขาวางช้อนเป็นคนแรก และรู้สึกอยากเริ่มบทสนทนา โกยทองอิ่มเป็นคนสุดท้าย หลังจากกวาดข้าวเลอะเทอะไปหมด แต่เขาก็ ยังหาคำพูดเพื่อเริ่มสนทนากับหล่อน ไม่ได้ หล่อนคงเห็นเขาอึกอักจึงเงยหน้าขึ้นสบตา ไม่เป็นไรพี่ พรุ่งนี้ค่อยว่า กันใหม่ เขาถอนหายใจรู้สึกหายอึดอัดอย่างประหลาด ก็ดีหรอกที่หล่อนเข้าใจเขา เขายิ้มอย่างเป็นสุขพร้อมกับ ยกจานปลากระป๋องที่เหลืออยู่ก้นจานเข้าไปเก็บในครัว โดย E-Om กรุงเทพฯ |
You are Poet 2543 |
| Home
| การแต่งร้อยแก้ว
| การแต่งร้อยกรอง
| วิธีการร่วมสนุก | About Us | Top |
Weekly Poems | วันจันทร์ | วันอังคาร | วันพุธ | วันพฤหัสบดี | วันศุกร์ | วันเสาร์ | วันอาทิตย์ |
| นวนิยาย | บทละคร | เรื่องสั้น | บทความ | เรื่องที่อยากเล่า | นิทาน | ตำนาน-ชาดก | แนะนำหนังสือ | สาระ-เกร็ดความรู้ |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999
poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com