นวนิยาย เรื่องสั้น บทความ เรื่องที่อยากเล่า |
เรื่องสั้น "ธัชคะ คุณลืมอะไรหรือเปล่าเอ่ย?" เปรมิกาเอียงคอมองชายหนุ่มตรงหน้า ดวงหน้าสวยของหล่อน ระบายไปด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มขี้เล่น นัยน์ตาโตเป็นประกายล้อมรอบด้วยขนตาดกหนา ยิ่งจุดดวงหน้าของหล่อน ให้งดงามอย่างประหลาดท่ามกลางแสงไฟลางๆ ในยามค่ำคืนเช่นนี้ ธัชชัยอดไม่ได้ที่จะยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้และ ประทับรอยบนริมผีปากนุ่มปราศจากสีสันแต่งเติมจากเครื่องสำอางค์ของหล่อน เปรมิกาหน้าแดงไปหมด แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ห้าร้อยแล้วกระมังที่เขาแสดงการร่ำลาเช่นนี้กับหล่อน เปรมิกาก็ยังรู้สึกชุ่มชื่นและตื่นเต้นราวกับ มันเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกกระนั้น หล่อนกับเขารักกันมาได้เกือบสองปีแล้ว หลังจากเพื่อนของเปรมิกาแนะนำธัชชัยให้รู้จักในงานสังสรรค์งานหนึ่ง ทั้งสองสะดุดตากันแต่แรกเห็น ธัชชัยดูสง่างามในชุดสูทสีเข้ม ซึ่งเข้ากันดีกับผิวสีแทนและมาดขรึมๆของเขา เปรมิกาก็ดูเด่นในชุดสีน้ำเงินสว่างสไวที่ช่วยขับผิวที่ขาวอยู่แล้วให้ดูเด่นมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ได้พูดคุยทำ ความรู้จักกันอยู่สักพัก ทั้งสองก็คุยกันถูกคอและดูเหมือนจะถูกใจซึ่งกันและกันมาก ทั้งคู่เพิ่งเรียนจบจากอเมริกามา หมาดๆ โดยที่ธัชชัยเพิ่งจบปริญญาโททางด้านคอมพิวเตอร์ และเปรมิกาเพิ่งสำเร็จปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจ ก่อนที่จะได้งานในบริษัทข้ามชาติที่เป็นที่รู้จักกันดี จึงไม่น่าสงสัยว่าหัวข้อการสนทนาจะดำเนินไปอย่างออกรส จนกระทั่งงานเลิก การติดต่อพบปะพูดคุยกันหลังจากนั้นนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆของทั้งสอง ธัชชัยมักจะมารับเปรมิกาไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลงอยู่เสมอหลังเลิกงาน แล้วก็จะพาหล่อนกลับมาส่งในเวลาที่ ไม่ดึกจนเกินไปนัก เหมือนอย่างวันนี้ ธัชชัยกลับไปแล้วหลังจากส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ราวกับการจากกันเป็นเรื่องทรมานอย่างยิ่งสำหรับเขา เปรมิกาเดินเข้าบ้านขนาดเล็กกระทัดรัดที่พ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัดซึ้อไว้ให้หล่อนกับน้องชายอยู่ตั้งแต่เริ่มเข้ามาเรียน ในกรุงเทพฯใหม่ๆ พ่อแม่ของหล่อนก็ไม่ใช่ว่าจะร่ำรวยอะไรนัก แต่เพื่อความสุขและความสำเร็จของลูกๆ สองตายายยอมตรากตรำทำงานหนักสายตัวแทบขาด ไม่ว่าจะงานในสวนผลไม้ที่มีอยู่ประมาณ 10 ไร่ หรือว่า อู่ซ่อมรถในตลาดที่มีรถมาซ่อมไม่ได้ขาด จนสามารถส่งหล่อนจนจบปริญญาโทถึงอเมริกา และน้องชายของหล่อน ก็กำลังจะจบปริญญาโทกลับมาเหมือนกันภายในปีหน้า เปรมิการะลึกถึงความจริงข้อนี้อยู่เสมอ ทำให้หล่อนไม่เคย ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือทำตัวฟุ้งเฟ้อเหมือนคนอื่นๆ ชีวิตนักเรียนนอกของหล่อนเป็นชีวิตที่เรียบง่ายและต่อสู้กับงานหนัก มาทุกอย่าง ตั้งแต่ล้างจาน เสริฟอาหาร จนถึงรับจ้างเลี้ยงเด็ก เงินทุกเหรียญที่ได้มาทำให้หล่อนภูมิใจที่สามารถผ่อน ภาระของผู้มีพระคุณทั้งสองของหล่อนได้บ้าง ความเย็นชื่นจากการอาบน้ำทำให้หล่อนสบายตัวและหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง อดคิดถึงธัชชัยไม่ได้ ป่านนี้เขาจะกลับถึงบ้านรึยังนะ.... ธัชชัยเป็นเหมือนพลังชีวิตสำหรับหล่อน ถ้าขาดเขา เปรมิกาเหมือนจะหมดกำลัง ทำอะไรเอาดื้อๆ หล่อนอยากให้เขาอยู่ใกล้ทุกวินาทีแต่ติดที่ประเพณีอันดีงามของสังคมไม่ยอมให้หล่อนทำตามใจชอบ ถึงหล่อนและเขาจะเรียนจบจากเมืองนอกเมืองนา แต่จากรากฐานการอบรมทำให้ยังมีความเป็นไทยอยู่ครบถ้วน ยิ่งได้ไปอยู่ ได้เห็นขนบธรรมเนียมของต่างชาติ หล่อนก็ยิ่งเห็นคุณค่าของความเป็นไทยมากขึ้นอีกหลายร้อยเท่า และนึกโกรธทุกครั้งกับพฤติกรรมและคำพูดของคนไทยใจนอกหลายๆคน ที่เหยียบย่ำวัฒนธรรมอันดีงาม ของปู่ย่าตายาย แล้วไปชื่นชมกับวัฒนธรรมของต่างชาติ เปรมิกาเอนตัวลงครึ่งนั่งครึ่งนอนบนเตียงนุ่มของหล่อน มองออกไปที่นอกหน้าต่าง ฟ้าคืนนี้สวยจริงๆ พระ จันทร์ทอแสงสว่างเต็มดวงแข่งกับแสงดาวระยิบระยับอยู่บนผืนฟ้าสีดำสนิท ธรรมชาติมักจะสร้างสรรค์งานศิลปะได้ งดงามเสมอ หล่อนชอบเวลากลางคืน ความมืดช่วยปกปิดความสกปรกและความทรุดโทรมของทัศนีภาพในเมืองใหญ่ ในขณะที่แสงไฟอวดความมีสีสันสว่างไสวกลบเกลื่อนชีวิตที่มืดมนของคนอีกหลายคนที่โลดแล่นอยู่นอกบ้านใน ยามนี้ เปรมิกาไม่ชอบสถานบริการยามราตรีที่มีอยู่เกลื่อนไปหมด นานๆครั้งหล่อนจึงนึกสนุกอยากจะไป แต่ก็ไป เพื่อที่จะซุกตัวอยู่ในมุมห้องคอยสังเกตชีวิตที่ผ่านเข้ามาแสดงตัวคนแล้วคนเล่า หล่อนชอบที่จะนั่งเดาว่าพวกเขาเหล่า นั้นอยู่ในจังหวะชีวิตไหนกันบ้าง หล่อนเคยเดาเมื่อเห็นสาวน้อยคนนึงนั่งดื่มแก้วแล้วแก้วเหล้าโดยมีเพื่อนสาวนั่งลูบ หลังลูบไหล่อยู่ข้างๆว่า แม่หนูน้อยคงจะเสียใจเรื่องใดเรื่องนึงในสองเรื่อง ถ้าไม่ใช่อกหักจากแฟน ก็ต้องมีปัญหากับ ครอบครัว หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง ก็หล่อนเคยผ่านวัยนั้นมาก่อนทำไมจะไม่รู้ว่าผู้หญิงในวัยขนาดนี้มีเรื่องให้คิดหนัก อยู่ก็แค่สองเรื่องที่ว่านั่นเท่านั้นเอง อ้อ อาจจะมีเรื่องเพื่อนๆอีกเรื่องนึง ธัชชัยหายไปไหนนี่ ทำไมเขาไม่โทรมาหาหล่อนซะที ก็นัดกันซะดิบดีแล้วนี่นา ว่าจะโทรคุยกันเรื่องไป พักผ่อนต่างจังหวัดด้วยกันสุดสัปดาห์นี้ เปรมิกาดีใจจนเนื้อเต้น ในขณะที่ธัชชัยดูไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าที่ควร หล่อนคิดว่าเขาคงไม่ชอบสถานที่ที่จะไป เลยคิดว่าจะลองให้เขาเสนอมาใหม่ว่าอยากไปที่ไหน แล้วก็เลยคิดไว้ ล่วงหน้าเลยว่าหล่อนจะตกลงตามใจเขา ขอให้ได้ไปกับเขาเท่านั้น จะให้ไปที่ไหนหล่อนไปได้ทั้งนั้น "กรี๊งๆ" เสียงโทรศัพท์ปลุกหล่อนจากภวังค์ "ฮัลโหล ธัชเหรอคะ ถึงบ้านแล้วเหรอ?" เปรมิกากรอกเสียง หวานลงไป "ถึงแล้วสิครับ เตรียมตัวจะเข้านอนแล้วด้วย พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีสาวสวยนัดไว้ให้โทรไปหา แล้วคุณล่ะกำลังทำอะไรอยู่" "โทรศัพท์อยู่สิคะ ถามได้" หล่อนแกล้งตอบ "ตกลงว่าไงคะ คิดได้รึยังว่าอยากไปไหน?" "ไม่รู้สิ ก็คุณอยากไปเที่ยวทะเลไม่ใช่เหรอ ก็ไปทะเลสิ" เสียงเขาตอบกลับมาอย่างตามใจหล่อนเต็มที่ "ก็ธัชทำท่าไม่อยากไปเลยนี่คะ ก็เลยคิดว่าบางทีธัชอาจจะอยากไปที่อื่น" เปรมิกาตั้งใจจะแสดงให้เขาเห็นว่าหล่อนแคร์เขา และอยากให้เขาสนุกกับการไปเที่ยวด้วยกันครั้งนี้แต่...... "คือ.....ถ้าให้ผมเลือกนะ... ผมเลือกไม่ไปได้มั้ยครับ อ๊ะๆ คุณอย่าเพิ่งโกรธผมสิ ผมมีคำอธิบายนะ" เหตุผลที่เขานำมาสาธยายให้หล่อนฟังหลังจากนั้น ถึงแม้เปรมิกาจะรู้สึกผิดหวังจนไม่อยากฟัง แต่ก็พอจะจับใจความ ได้ว่าธัชชัยมีงานด่วนที่บริษัท ซึ่งมีผลกับความก้าวหน้าในการงานของเขาค่อนข้างมาก เขาไม่แน่ใจว่าจะสามารถปลีก ตัวออกมาได้หรือเปล่า "มีงานวันเสาร์อาทิตย์เนี่ยนะคะธัช" เปรมิกาพูดออกไปอย่างมีอารมณ์ หล่อนกำลังผิดหวังก็เลย พาลรู้สึกโกรธตัวการที่ทำให้ความฝันของหล่อนพังไปด้วย "พอดีลูกค้าสำคัญของบริษัทเขาจะบินมาจากญี่ปุ่น วันศุกร์ที่จะถึงนี้น่ะจ้ะ แล้วเขาจะอยู่เมืองไทยถึงแค่วันจันทร์ ก็เลยต้องนัดคุยกับเค้าวันเสาร์อาทิตย์ อย่าโกรธผมเลย นะ นะ" เสียงธัชชัยอ้อนมาตามสาย ถ้าเปรมิกาไม่ฝันไว้มากกับการไปเที่ยวครั้งนี้ หล่อนก็คงทนเสียงอ้อนของเขา ไม่ไหว แต่นี่หล่อนผิดหวังจนกลายเป็นโกรธ "ไม่โกรธหรอกค่ะ ธัชไม่ไป เปรมไปคนเดียวก็ได้" หล่อนตอบเสียงเย็น อย่างกับทะเลก่อนเกิดพายุใหญ่ "นั่นไง คุณประชดผม" เขาจับความรู้สึกหล่อนได้ หลังจากนั้นก็เป็นการสนทนาที่ใช้อารมณ์โต้ตอบกัน โดยที่ ส่วนใหญ่จะเป็นอารมณ์ของหล่อน ธัชชัยวางหูไปแล้ว ประโยคสุดท้ายเขาพูดว่า "เอาไว้เปรมใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์เมื่อไหร่ เราค่อยคุยกัน" เปรมิกานึกอยากจะออกไปดื่มให้เหมือนกันเด็กสาวคนที่หล่อนเคยเห็น แต่คุณวุฒิและวัยวุฒิทำให้หล่อนมีสติเกินกว่า จะหาทางออกอย่างนั้น หล่อนลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะข้างหน้าต่างหยิบกรอบรูปขึ้นมาดู รูปหล่อนกำลังกอดคอธัชชัย ทั้งเขาและหล่อนกำลังยิ้มอย่างมีความสุข จำได้ว่าถ่ายไว้ตอนที่ไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ของหล่อนที่ต่างจังหวัด ธัชชัยสุภาพและ เข้ากับพ่อแม่ของหล่อนได้ดี เขาไม่เคยรังเกียจว่าท่านทั้งสองเป็นคนบ้านนอกไม่รู้จักการ เข้าสังคม การแสดงออกทั้งคำพูดและท่าทางก็เป็นไปอย่างซื่อๆ ไม่มีการขัดเกลาหรือปรุงแต่งอย่างคนกรุง ตอนแรกหล่อนก็กลัวว่าเขาจะยอมรับ ไม่ได้เพราะพื้นฐานครอบครัวที่ต่างกัน พ่อแม่ของธัชชัยรับข้าราชการใหญ่โต เป็นที่รู้จักในวงสังคมชั้นสูง หล่อนเคยไปพบท่านทั้งสองมาครั้งนึง ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แต่หล่อนก็ยังรู้สึก เกร็งๆอยู่บ้าง เพราะยังคุ้นอยู่กับภาพพ่อกับแม่ของตนที่ช่างพูดช่างคุย และไม่มีพิธีรีตรองอะไรมากมาย แต่กับพ่อแม่ของธัชชัยหล่อนต้องสงบเสงี่ยม เรียบร้อย และไม่ค่อยกล้าพูดคุยด้วย เนื่องจากกลัวว่าจะหลุดกิริยา กระโดกกระเดก หรือคำพูดทื่อๆตามปกติของหล่อนออกมา ความจริงธัชชัยเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่เปรมิกาเคยพบ ถึงเขาจะไม่หวานเหมือนน้ำตาล แต่ก็ทำให้ หล่อนมีความสุขตามสมควร พฤติกรรมหวานแหววที่แสดงต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการจูบลาหรือการโทรศัพท์ราตรี สวัสดิ์ เปรมิกาเป็นคนบัญญัติขึ้นเองทั้งนั้นโดยที่ธัชชัยก็ปฏิบัติตามโดยดี ดูเหมือนเขาจะพยายามไม่ขัดใจหล่อน อะไรที่ไม่เกินกำลังเขาก็จะทำให้ ยกเว้นเวลาที่หล่อนเอาแต่ใจและไม่มีเหตุผลอย่างวันนี้ เปรมิกาก็ไม่อยากใช้อารมณ์ แต่ความนิ่งของธัชชัยทำให้หล่อนไม่แน่ใจนักในความรักที่เขามีให้ อาจเป็นเพราะหล่อนรักเขามากไปเลยทำให้ ระแวงไปว่าจะได้รับความรักตอบมาจากเขาน้อยกว่า หล่อนก็เหมือนผู้หญิงทั้งโลก ที่อยากจะมีความสำคัญเหนือสิ่ง อื่นใดสำหรับผู้ชายที่ตนรัก อยากสวยที่สุด ดีที่สุด และอะไรที่สุดอีกหลายๆอย่างในความคิดของเขา นี่หล่อนต้องการ มากไปหรือเปล่า จริงสิ บางทีความต้องการของหล่อนจะมากไป ดึกแล้วแต่เปรมิกายังไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ความรู้สึกหนึ่งก็อยากจะโกรธที่เขาทำให้หล่อนผิดหวัง อีกความรู้สึกนึงก็เข้าใจเหตุผลที่เขาไม่สามารถไปกับหล่อนได้ นี่หล่อนควรจะทำยังไงดี ถ้าธัชชัยโทรมา หล่อนควร จะทำเป็นว่ายังงอนเขาอยู่ หรือว่าจะขอโทษเขาที่หล่อนไม่มีเหตุผลและเอาแต่ใจ เปรมิกากำลังคิดถึงความดีของเขา สลับกับเหตุการณ์ที่เขาทำให้หล่อนผิดหวังและเสียใจ หล่อนยอมรับว่าความดีของเขามีอยู่มาก และหล่อนก็คงไม่ สามารถหาผู้ชายดีๆอย่างธัชชัยได้ง่ายนัก บางที.. บางทีพรุ่งนี้หล่อนอาจจะเป็นฝ่ายโทรไปหาเขาเอง ถ้าหล่อนต้องการ แค่อยู่ใกล้เขา จะไปที่ไหนมันจะแปลกอะไร สุดสัปดาห์นี้ หล่อนอาจจะเปลี่ยนโปรแกรมเป็นทานข้าวด้วยกันซักมื้อ หรือดูหนังด้วยกันซักรอบ ธัชชัยคงจะหายโกรธที่หล่อนเอาแต่ใจ หล่อนจะจูบแก้มเขาเป็นการปลอบใจ คิดได้แล้ว เปรมิกาก็หลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข แก้มของหล่อนยังแดงอยู่แม้นัยน์ตาจะหลับไปนานแล้ว โดย E-Om กรุงเทพฯ |
You are Poet 2543 |
| Home
| การแต่งร้อยแก้ว
| การแต่งร้อยกรอง
| วิธีการร่วมสนุก | About Us | Top |
Weekly Poems | วันจันทร์ | วันอังคาร | วันพุธ | วันพฤหัสบดี | วันศุกร์ | วันเสาร์ | วันอาทิตย์ |
| นวนิยาย | บทละคร | เรื่องสั้น | บทความ | เรื่องที่อยากเล่า | นิทาน | ตำนาน-ชาดก | แนะนำหนังสือ | สาระ-เกร็ดความรู้ |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999
poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com