เชิญแสดงความคิดเห็นในผลงาน E-OM
ของคุณ   E-OM
อ่าน    ความคิดเห็น

E-OM
จากกรุงเทพฯ ผลงานกลอนเปล่า และเรื่องสั้นสะท้อนสังคม...เยี่ยมจ๊ะ

E-OM

เรื่องสั้น

Bl004905bdmdb.gif (888 bytes)   ห่วง   อย่านึกว่าพ่อแม่ไม่รักที่ยกลูกให้คนอื่น พ่อกับแม่รักลูกมาก อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี มีอนาคต
Bl004905bdmdb.gif (888 bytes)  
ยาย    ความรัก ของแม่ยังยิ่งใหญ่และมั่นคงเสมอในหัวใจที่เหี่ยวแห้งและโหยหาของยายแก่ๆที่ขดตัวนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนสะพานลอย
Bl004905bdmdb.gif (888 bytes)   สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเมีย    เขาไม่ต้องรอนานนักก็รู้คำตอบ ถึงร่างกายส่วนอื่นๆของเขาจะเสื่อมสภาพ แต่สมองของเขายังคงใช้การได้ดี
Bl004905bdmdb.gif (888 bytes)   ความรักกับเหตุผล    เปรมิกาก็หลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข แก้มของหล่อนยังแดงอยู่แม้นัยน์ตาจะหลับไปนานแล้ว

Bl004905bdmdb.gif (888 bytes)   ทาง(ที่ถูก)เลือก   เขาถอนหายใจรู้สึกหายอึดอัดอย่างประหลาด ก็ดีหรอกที่หล่อนเข้าใจเขา เขายิ้มอย่างเป็นสุข
Bl004905bdmdb.gif (888 bytes)  
เรื่องของขิง   ก่อนกลับบ้าน ขิงอาจจะแวะที่ ตลาดนัดสินค้าราคาถูกใกล้บ้าน หาซื้อกระเป๋าลิงห้อยซักใบสำหรับไปสมัครงานวันพรุ่งนี้....

new002.gif (1181 bytes)      เรื่องสั้น     new002.gif (1181 bytes)
คติตลาด

                 ตลาดประชานิเวศน์ตอน 7 โมงเช้าคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ที่มาจับจ่ายของสด ของแห้ง รวมทั้งกับข้าวสำเร็จรูปมากมายหลายชนิดที่วางเรียงรายเป็นหม้อๆ รอให้ลูกค้าเข้ามาเลือกสรร ที่จอดรถหน้าตลาด ถูกจับจองไปหมดตั้งแต่ราวหกโมงเช้ากว่าๆ ทำให้รถคันอื่นๆ ที่มาสายกว่าต้องออกไปจอดท้าทายเทศกิจเป็นแถวยาว ตรงเลนแรกของถนนริมฟุตบาทอีกด้านหนึ่ง ผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมาอยู่ในตลาดดูคึกคักทั้งที่เป็นวันอาทิตย์ และยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งยังนอนกรนครอกๆอยู่ในบ้านเสียด้วยซ้ำ

                 ฉันถูกปลุกตั้งแต่เช้าเพื่อขับรถพาแม่มาจ่ายตลาด เนื่องจากเป็นเช้าที่ฉันน่าจะได้นอนตื่นสายเพราะไม่ต้อง แหกขี้ตาไปทำงาน แถมเมื่อคืนกว่าจะกลับบ้านก็ปาเข้าไปตีสอง ทำให้อารมณ์ของฉันในเช้าวันนี้ไม่ค่อยจะแจ่มใสนักโชคยังดีที่ฉันได้ที่จอดรถหน้าตลาดพอดิบพอดี เพราะมาได้จังหวะพอดีกับที่รถกระบะคันหนึ่งกำลังถอยออก ไม่ยังงั้นฉันคงต้องเสียอารมณ์กับการวนรถรอบตลาดเพิ่มขึ้นไปอีก ความจริงตรงด้านข้างและหลังตลาดก็มีที่ไว้ สำหรับจอดรถ แต่ฉันไม่ค่อยอยากจะไปจอดเท่าไรนัก ไม่ใช่ว่าฉันจะงก กะอีเงินแค่ 5 บาทที่ต้องจ่ายให้คนแต่ง เครื่องแบบประหลาดๆ จะว่ายามก็ไม่ใช่ เทศกิจหรือตำรวจก็ไม่เชิง ฉันไม่เข้าใจว่าคนพวกนั้นเค้าถือสิทธิ์อะไร มากกว่า ที่อยู่ดีๆก็มาเก็บค่าที่จอดรถตรงนั้นตรงนี้ ทั้งๆที่เมื่อ 4 - 5 ปีก่อนเค้าก็จอดกันได้ตามสบาย ใครใคร่จอด ตรงไหนก็จอด ไม่เห็นมีใครมาคอยอ้างว่าเก็บค่าดูแลรถ แล้วก็ไม่เห็นจะมาดูแลอะไรเป็นพิเศษนอกจากโบกเข้า โบกออกจากที่จอดก็เท่านั้น เงินที่เก็บไปก็ ไม่เห็นมีใครบอกว่าเข้ากระเป๋าใครกันแน่ เจ้าของที่ เทศกิจ หรือกรรมการคณะไหนก็ยากจะเดา ในเศรษฐกิจเช่นนี้ อะไรก็ดูเป็นเงินเป็นทองไปหมด

                 ฉันเปิดประตูรถออกไปยืนหน้ายุ่งอยู่หน้ารถ แม่เดินลิ่วๆไปโน่นแล้ว ทุกทีฉันต้องเดินตามไปช่วยหิ้วของ แต่วันนี้ฉันขี้เกียจจนอยากจะนอนรออยู่ในรถ หากแสงแดดที่ส่องแผดเข้ามาทางกระจกไม่เป็นใจก็เลยต้องตัดใจ ออกจากรถก่อนจะกลายร่างเป็นไก่อบตัวโต ฉันยืนกอดอกพิงหน้ารถตัวเองพร้อมกับสอดส่ายสายตาในแว่นกันแดด สีชาไปเรื่อยๆ ที่ตรงหน้าตลาดมีพระสงฆ์ยืนถือบาตรเรียงกันเป็นแถว เด็กวัดสามสี่คนคอยกุลีกุจอถ่ายของในบาตร ลงสู่กระป๋องพลาสติกสีเหลืองสด หลังจากที่พุทธศาสนิกชนทะยอยซื้ออาหารที่ใส่จานวางขายอยู่เป็นชุดๆบนโต๊ะที่ แม่ค้าเอามากางขายกันอยู่แถวนั้นใส่ลงในบาตร เสียงแม่ค้าแย่งกันตะโกนโหวกเหวกมาเข้าหู........

"เอ้า ! ชุดละยี่สิบจ้า ใส่บาตรมั๊ยจ๊ะ เลือกได้เลยจ้า กับข้าวมีหลายอย่าง ใส่บาตรมั๊ยจ๊า ได้บุญนะจ๊า"

ฉันปรายตามองไปที่กับข้าวเหล่านั้นอย่างคนกิเลสหนา กับข้าวที่จัดเป็นชุดๆใส่จานสีเหลือง ดูไม่น่ากินนัก นี่ถ้าคนใส่ บาตรได้ยินเหมือนที่ฉันเคยฟังมาว่าอาหารพวกนี้จะไปตั้งรอให้เราไปกินตอนหาชีวิตไม่แล้วล่ะก็ ฉันเป็นยอมอดตาย เด็ดขาด ฉันนึกถึงพระสงฆ์ที่และเด็กวัดที่ยืนเรียงอยู่เป็นแถว สงสัยวันนี้เป็นต้องได้ฉันและกินไอ้แกงหน้าตาคล้ายๆ กันสองสามอย่างที่อยู่บนโต๊ะนั่นแน่ๆ นี่ยังไม่ได้คิดถึงกรณีที่แม่ค้าคิดเมนูไม่ออก เกิดแกงไก่ขาย 3 วันติด หรือ ต้มจืดฟักซะวันเว้นวันล่ะก็ คงได้ตัดกิเลสทางลิ้นได้อย่างเหี้ยนเตียนเป็นแน่แท้ ฉันยืนนึกถึงการใส่บาตรย้อนไปซัก 10 ปี ตอนนั้นพระสงฆ์จะออกเดินบิณฑบาตรตอนเช้าตรู่ บ้านไหนจะใส่บาตรก็ต้องตระเตรียมสำรับกันตั้งแต่ไก่โห่ สมาชิกที่เด็กที่สุด ช่วยทำอะไรไม่ค่อยจะได้ก็มีหน้าที่ดูต้นทาง และคอยนิมนต์พระสงฆ์มารับบาตร แล้วทุกคนก็จะ ค่อยๆประคองทัพพีตักข้าว ถุงกับข้าว ดอกไม้ธูปเทียนใส่ลงในบาตรอย่างนิ่มนวล เสร็จแล้วพระสงฆ์ก็จะให้ศีลให้พร ดูช่างเป็นบรรยากาศที่อิ่มเอิบ เปี่ยมไปด้วยความเย็นกายเย็นใจโดยแท้ อาหารที่พระท่านได้กลับไปฉันก็จะแตกต่างกัน ไปแต่ละวัน แต่ละบ้าน และเป็นสิ่งที่ผู้ใส่บาตรบรรจงปรุงอย่างสุดฝีมือ อาหารที่ดีที่สุดเท่านั้นจึงจะทำถวายพระ ต่างคนก็ต่างพยายามสรรหากับข้าวแปลกๆ ที่เจ้าตัวคิดว่าหาทานได้ไม่บ่อยนัก เพียงเพื่อจะให้ได้ "บุญ" มากๆ

                   ฉันหันไปมองอาหารชุดห่อหมกชุดที่สี่ ที่หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งประจงใส่ลงไปในบาตรต่อจาก คุณผู้ชายในชุดออกกำลังกาย คุณผู้หญิงในชุดยาวลำลอง และหญิงสาวกระโปรงสั้นจู๋ ทั้งสี่ดูเหมือนจะใจตรงกัน โดยมิได้นัดหมาย ฉันอดคิดเล่นๆไม่ได้ว่า คนทั้งสี่นี้อาจจะได้ไปนั่งเปิบห่อหมกเป็นอาหารหลักในสัมปรายภพ ด้วยกันก็ได้ อ้อ.... อาจจะมีแม่ค้าตั้งโต๊ะคนนั้นร่วมวงด้วยอีกคนหนึ่ง เฮ้อ ฉันเนี่ยมือก็ไม่พายยังเอาเท้าราน้ำซะอีก

                   แม่ยังไม่เดินกลับมาซักที ป่านนี้คงกำลังหิ้วของพะรุงพะรังอยู่ที่ไหนซักแห่ง ฉันก็เบื่อที่จะยืนขวางทางบุญ คนอื่นเค้าเหมือนกัน จึงตัดสินใจเดินเข้าซอยเล็กๆไปในตลาด ต้นๆซอยทั้งสองข้างทางเป็นอาหารสำเร็จรูปนานาชนิด วางเรียงรายจนลานตาไปหมด ร้านที่ขายดีที่สุดเห็นจะเป็นปาท่องโก๋ มีคนมุงรอบกะทะเต็มไปหมดในมือก็ถือสตางค์ ไว้คอยท่า ทั้งๆที่กะทะก็ออกจะใหญ่และคนปั้นก็ดูท่าทางชำนิชำนาญคล่องแคล่วอยู่ไม่น้อย แต่หากใครอยากจะกิน ปาท่องโก๋ซักสิบบาทในยามนี้ ล่ะก็คงต้องรอไม่ต่ำกว่าสิบห้านาที ไม่วายที่เด็กผู้หญิงที่เป็นผู้ช่วยคีบใส่ถุงจะพูดซ้ำๆ ซากๆ ให้สั่งไว้แล้วไปเดินซื้อของอย่างอื่นก่อน แต่ไทยมุงปาท่องโก๋ของเราก็ไม่ถอย ยังตั้งหน้าตั้งตารออยู่อย่างใจจด ใจจ่อ ผ่านปาท่องโก๋มาซักหน่อยก็เป็นร้านขายน้ำเต้าหู้ของคู่กัน ร้านนี้ก็มีคนแวะเวียนมาซื้อไม่ใช่น้อย เพราะเป็นอาหารที่มีประโยชน์และราคาย่อมเยาว์ ฉันละสายตาจากอาหารต่างๆเพื่อมองไปรอบๆเพื่อหาแม่ แต่ก็ไม่เจอ เลยตัดสินใจเดินวนเข้าซอยโน้นออกซอยนี้จนทั่วตลาด ก็ยังไม่เจอแม่อีก ฉันอดคิดถึงฉากลิเกที่เขาเล่น ตอนพระเอกกับผู้ร้ายรบกันไม่ได้ เดินสวนกันไปสวนกันมา ไม่เห็นจะลงดาบกันซักที จนเหนื่อยกันทั้งสองฝ่าย ฉันกับแม่ก็คงเดินสวนกันเหมือนลิเกนี่เอง

                   ขณะที่ฉันกำลังเดินออกจากซอยเล็กๆย้อนกลับมาทางเก่าจนเกือบจะถึงรถ เท้าก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง จนหน้าคะมำ ดีที่ยังทรงตัวไว้ได้ ไม่งั้นคงต้องลงไปนอนเค้เก้อยู่ที่พื้น พอฉันก้มลงมองก็เห็น "อะไรบางอย่าง" นั้น ฉันสะดุดเอาคนเข้าให้แล้ว ฉันรีบก้มตัวลงไปขอโทษขอโพย แต่เขาก็เพียงมองหน้าฉันเล็กน้อย ก่อนจะพึมพำ ประโยคซ้ำๆของเขาต่อไป ฉันฟังอยู่ตั้งนานก็จับใจความไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรกันแน่ จึงกลับมายืนพิงรถด้วยท่าทาง เดิม อีกครั้ง แต่สายตายังจับอยู่ที่ชายขอทานคนนั้น

                   เขาเป็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆอายุราวๆสามสิบเศษ ที่เขาต้องอยู่ในท่าทางนอนคว่ำราบลงกับพื้น จนฉันไปสะดุดเข้า ก็เพราะเขาไม่มีขาทั้งสองข้าง มันกุดตั้งแต่เหนือเข่าลงไปทีเดียว มือสองข้างของเขา ที่ไพล่ไปข้างหลังเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยในการเคลื่อนที่ไปตามพื้น ถึงมันจะดูไม่สมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็ยังใช้การได้ดี มีบ้างบางครั้งที่ฉันแอบสังเกตเห็นอาการสั่นเล็กน้อย ในยามที่เขาหยิบเงินในขันตรงหน้า ใส่ลงไปในย่ามสะพายใบโตที่แนบอยู่ ตามลำตัวที่อยู่ติดกับพื้น

                   แม่ค้าแผงลอยที่อยู่บนศีรษะเขาตะโกนไล่เสียงไม่เบานักเมื่อหันมาเห็น

"อ้าว หลบๆไปหน่อยไป๊ อย่ามาเกะกะหน้าแผงเค้า คนเค้าจะทำมาหากิน"

แม้มันจะไม่ใช่คำพูดที่รุนแรงนัก แต่การเห็นร่างพิการของเขากุลีกุจอกึ่งถัดกึ่งกระเถิบ หนีออกมาจากตรงนั้นอย่าง ทุลักทุเล ก็ไม่ใช่ ภาพที่เจริญหูเจริญตานัก

                   ฉันยังยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบๆจนเวลาผ่านไปราวสิบนาที ตลอดเวลาที่ฉันยืนอยู่นี้ คนที่ผ่านไปผ่านมาหน้า ตลาดประมาณ 70 เปอร์เซนต์ควักเศษสตางค์ให้เขา เป็นเศษเหรียญบ้าง ธนบัตรบ้าง บางคนให้ถึงยี่สิบสามสิบบาทก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆวัยประมาณ 3 - 4 ขวบคนหนึ่งเดินเอาเศษสตางค์มาหย่อนลงไปในขันพลาสติกตามคำบอกของ คุณพ่อ ที่คงตั้งใจจะสอนให้ลูกสาวตัวน้อยเป็นคนมีเมตตาและอ่อนโยน แม่หนูก็เด็กเกินกว่าที่จะรู้ประสีประสา ดังนั้น ก่อนที่เหรียญในมือจะถูกหย่อนลงไป สองมือน้อยๆนั้นก็ยกขึ้นประนมสาธุจนท่วมหูท่วมหัว ราวกับกำลัง ใส่บาตรพระอยู่กระนั้น ฉันอดยิ้มอย่างเอ็นดูแกไม่ได้

                   ในช่วงเวลาที่ฉันยืนอยู่ ฉันเห็นคุณขอทานคนนั้นถ่ายเงินลงในย่ามถึงสามครั้ง ลองคิดเล่นๆดูว่าในแต่ละครั้งมีเงินอยู่ในขันยี่สิบบาท เขาก็จะทำเงินได้ประมาณหกสิบบาทภายในสิบนาที ถ้าคิดเป็นชั่วโมงก็ได้สามร้อยหกสิบ บาทต่อชั่วโมง รายได้ของเค้าจะเป็นเท่าไหร่ต่อเดือนก็คำนวณได้ไม่ยาก คิดสะระตะแล้วมากกว่าเงินเดือนคนจบ ปริญญาตรีอย่างฉันตั้งพะเรอ แต่ถ้าให้ฉันมีรายได้เท่านั้นแต่เป็นอย่างเขาฉันก็ไม่เอาหรอก กลไกของการอยู่รอดมัก กำหนดมาแบบนี้เสมอ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง ทุกสิ่งมีการทดแทนทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่แย่ร้อยเปอร์เซนต์พอๆกับที่ไม่มี อะไรที่ดีร้อยเปอร์เซนต์

                    เสียงแม่ปลุกฉันจากภวังค์ ฉันทิ้งความคิดทั้งหมดที่อยู่ในหัวแล้วรีบกุลีกุจอไปไขกุญแจเปิดประตูรถให้แม่ แม่ซื้อของมาเยอะแยะสมกับเวลาที่หายไปจริงๆ ถุงก๊อบแก๊บหลากสีสันมากมายในมือรวมกันมีน้ำหนักไม่น้อยเลย แม่หิ้วจนข้อปลายนิ้วม่วงช้ำไปหมด ฉันเห็นแล้วก็อดโกรธตัวเองไม่ได้ เป็นเพราะความขี้เกียจชั่ววูบของฉันทีเดียว ฉันขึ้นไปนั่งสตาร์ทรถหลังจากช่วยรับของจากมือแม่มาใส่รถจนหมด กำลังจะถอยรถออกอยู่แล้วเมื่อนึกขึ้นได้ฉันควานมือเข้าไปในเก๊ะเล็กๆหน้ารถ หยิบเศษสตางค์ที่ฉันมักจะมีติดรถเอาไว้เสมอได้ประมาณยี่สิบบาท

"เดี๋ยวมานะแม่ แป๊บเดียว"

ฉันเปิดประตูรถเดินตรงไปที่แผงขายอาหารใส่บาตร ชี้มือไปที่ชุดห่อหมกที่เหลืออยู่ชุดสุดท้าย ก่อนจะยื่นเงินในมือ ให้คนขาย แล้วฉันก็เดินเอาอาหารชุดนั้นไปหย่อนลงในขันพลาสติกสีสวยหน้าชายขอทานก่อนจะบอกกับเขาว่า

"เมื่อกี๊นี้ ขอโทษนะ"

แล้วฉันก็ขึ้นรถและขับกลับบ้านอย่างแจ่มใส ผิดกับตอนขามาเป็นขาวกับดำ บางทีฉันอาจจะได้นั่งร่วมวงกินห่อหมก กับคนอีกหลายๆคนในเช้าวันนี้บนสวรรค์ก็เป็นได้

 E-Om 

น้ำตาร่วงเป็นสายเหมือนพรายฝน
ระบายความทุกข์ทนของคนเหงา
เขาก็อยู่ของเขา.....เราก็เรา
ระบายแค้นระคนเศร้าเคล้าสายน้ำ

จะตีอกชกตัวลงกลั้วพื้น
ไม่อาจคืนหัวใจที่ใครย่ำ
เป็นรอยร้าวรานใจให้จดจำ
ต่อนี้ไปจะไม่ช้ำซ้ำรอยเดิม
        ..............................
               E-Om
ถ้าไม่อยากจะเอาใจ
ก็อย่าทำให้แย่ไปกว่านี้
ที่แล้วมาให้มันจบไปด้วยดี
จะไม่เซ้าซี้ให้เธอรำคาญ

วันนี้เรามาเริ่มกันใหม่
ไม่อยากบังคับให้เธอพูดหวานๆ
แค่อย่ามาทำท่าทางพาลๆ
และระรานฉันด้วยสายตา

แค่นี้..มากไปหรือเปล่า
เพื่อเราจะรักกันจนวันข้างหน้า
หรือเธออยากให้เราเลิกรา
ก็บอกมาที่ขอกัน..มันมากไป.
        โดย E-Om
อย่ามาเล่นเกมกับฉัน
ซ่อนหา..ไม่มัน ฉันไม่เล่น
ตี่จับ..ไม่ดี ตี่ไม่เป็น
หมากเก็บ..อี๋ ไม่เห็นจะสนใจ
เธอซ่อน เธอหนี เธอหลบ
ฉันหา..หาไม่พบ ก็หวั่นไหว
ฉันจับ..จับไม่ทัน ก็หวั่นใจ
ฉันจะเก็บ..เก็บไม่ได้ ก็จบกัน
ไปเถอะ..ไปเล่นกับคนอื่น
คนที่ยืนพะวักพะวงอยู่ตรงนั้น
ฉันเหนื่อย เขายังหาเก่งกว่ากัน
เลิกกับฉัน เล่นกับเขาคงเข้าที
     โดย E-Om กรุงเทพฯ
เธอ...หายไปไหน
เมื่อฉันไม่มีใครใส่ใจ
เมื่อฉันไม่ได้สิ่งต้องการ

เมื่อฉันต้องการเธอปลอบ
ที่ได้รับตอบ คือความร้าวฉาน
รักของเธอคงมีให้ใครไม่ได้นาน
ขอแต่อย่าซานกลับมา...ให้ฉันสาแก่ใจ
จาก E-Om กรุงเทพฯ
หลับตาซะ......คนดี
หัวใจดวงนี้ที่อ่อนไหว
ยังคงรักเธอมากกว่าใคร
และไม่หวังอะไรจากเธอ
ลืมเถิด......ความเจ็บช้ำ
ไม่ต้องเก็บมาจำ...เพ้อเจ้อ
ที่ผ่านมาถือว่าไม่เคยเจอ
ฉันจะอยู่เคียงเธอ เมื่อไม่มีใคร

  E-OM /กรุงเทพฯ

E-OM

 

7smooth.com

 

| Home | การแต่งร้อยแก้ว | การแต่งร้อยกรอง | วิธีการร่วมสนุก | About Us | Top |
Weekly Poems | วันจันทร์ | วันอังคาร | วันพุธ | วันพฤหัสบดี | วันศุกร์ | วันเสาร์ | วันอาทิตย์ |
| นวนิยาย | บทละคร | เรื่องสั้น | บทความ | เรื่องที่อยากเล่า | นิทาน | ตำนาน-ชาดก | แนะนำหนังสือ | สาระ-เกร็ดความรู้ |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999

poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com

1