ปีที่ 3 ฉบับที่ 904 ประจำวันอังคารที่ 4 เดือนมกราคม พ.ศ. 2543 |
สหัสวรรษที่ 3 ของชาวพุทธ และ สหัสวรรษที่ 2 ของ
คริสตจักร
สวัสดีปีมังกรทอง พุทธศักราช 2543
ต้องกราบขออภัยท่านผู้มีอุปการคุณ นสพ.พิมพ์ไทย ทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
เนื่องจากทางกองบรรณาธิการไม่ได้ชี้แจงกับท่านผู้อ่าน ถึงเรื่องวันหยุดเทศกาลปีใหม่
เนื่องจากขัดข้องทางเทคนิคบางประการ
โดยนสพ.พิมพ์ไทย ได้หยุดทำการ
(ไม่มีวางจำหน่าย) ในวันเสาร์ที่ 1 และอาทิตย์ที่ 2 มกราคมศกนี้
และได้ปิดต้นฉบับล่วงหน้าวางจำหน่ายในวันจันทร์ที่ 3 มกราคม 2543 นี้
ครับ
เป็นการหยุดพักผ่อน เพื่อให้ทีมงานตั้งหลัก และพัฒนาองค์กรแห่งนี้
ให้เป็นเวทีแห่งความยุติธรรม
ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องแม่นยำ
นับแต่วินาทีนี้ไป ทีมงานขอให้สัตย์ว่า
จะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน
เพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมทั้งปวง
ช่วงรอยต่อสหัสวรรษใหม่
หรือบางคนเข้าใจว่า เป็นสหัสวรรษที่ 3 เป็นปี คริสต์ศักราช 2000 หรือ
ปีใหม่ของชาวคริสต์
ก็ทำให้ชาวโลกพากันตื่นตระหนกหวาดกลัวกันข้ามปีทีเดียว
ด้วยปัญหาเทคโนโลยี ที่ทำงานภายใต้การควบคุมของคอมพิวเตอร์
ซึ่งกำหนดให้มีการนับเวลาสิ้นสุด ที่ ค.ศ.1999
แต่เอาเข้าจริงๆ
ก็ไม่มีปรากฏการณ์ใดเกิดขึ้น
สร้างความเสียหายให้กับประชาชนบนโลกใบนี้
มนุษย์อาจหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้ว
เทคโนโลยีล้ำสมัย หรือคอมพิวเตอร์เป็นผลงานจากมันสมองของมนุษย์
สองมือสองเท้านี่เอง
ความผันเปลี่ยนของปี 2000 แท้จริงแล้ว ก็คือ
การเฉลิมฉลองให้ชาวคริสต์จักร ที่มองเห็นความรุ่งเรืองของศาสนาตัวเอง
เดินทางมาสู่ปีค.ศ.2000 เท่านั้น
แต่มีคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ จำนวนไม่น้อย
ให้ความสำคัญกับคำทำนายโลกจะแตกในปี 2000 จนเกินหน้า
เรียกได้ว่า
ฝรั่งมังค่าเขาเห่อสิ่งใด ก็ขอเห่อกับเขาไปด้วย
เข้าใจได้ว่า
เป็นผู้รับแบบขาดสติปัญญาโดยแท้
และก็ควรเข้าใจถึงความหมายของคำว่า
"สหัสวรรษ" อีกด้วย
โดยส่วนตัวของผมเข้าใจความหมายของคำว่า "สหัสวรรษ"
หมายถึง การนับจำนวนระยะเวลา หากศตวรรษเท่ากับระยะเวลา 1000 ปี สหัสวรรษ
ก็ต้องเป็นระยะเวลา 1000 ปี
อนุมานถึงปีค.ศ.2000
จึงไม่อาจพูดหรือเข้าใจได้ว่า เป็นสหัสวรรษใหม่ หรือสหัสวรรษที่ 3 อย่งเด็ดขาด
หากแต่เป็นการเดินทางสู่สหัสวรรษที่ 2
อย่างสมบูรณ์แบบถึงจะถูกต้อง
หากจะเรียกสหัสวรรษใหม่หรือที่ 3 แล้ว
จะต้องขึ้นปีค.ศ.2001 และหากจะเรียกสหัสวรรษที่ 3 ได้อย่างเต็มปากเต็มคำแล้ว
ก็น่าจะหมายเอาพุทธศักราช 2543 เพราะผ่านพ้น รอยต่อห้วงเวลามาแล้วกว่า 500
ปี
ครับ เป็นความเห็นส่วนตัวของผม
ที่ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องผิดพลาดเกี่ยวกับคำว่า
MILLENNIUM
ไม่ใช่เรื่องผิดที่ชาวตะวันออกจะรับอารยธรรมของชาวตะวันตก
แต่การรับเทคโนโลยี
หือ นวตกรรมใดๆ ก็ต้องดูว่า มันเข้ากับวิถีชาวไทย หรือชาวพุทธหรือไม่
ต้องตีความให้แตก จับให้มั่น
พิจารณาให้ละเอียดถ้วนถี่เสียก่อน
อย่าด่วนสรุปมองว่า ฝรั่งชาติเจริญ
ทำอะไรก็เป็นเรื่องที่ดีไปเสียหมด เหมาะกับชาวไทย
หรือชาวตะวันออกไปเสียทุกเรื่อง
ความเห็นข้างต้น
ถือเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
หลายท่านคงเคยพบเห็นหรือได้ยินได้ฟัง
ผลวิจัยในวงการแพทย์ เกี่ยวกับอุปนิสัยบริโภคของคนไทย หรือชาวตะวันออก
ที่ต้องการเลียนแบบชาวตะวันตก กลับกลายเป็นผลเสียหาย นำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ
เนื่องจากโครงสร้างอวัยวะระหว่างชนสองซีกไม่เหมือนกัน
ไม่อยากเห้นผู้คนในบ้านเมือง
เข้าลักษณะเห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง
ช่วงเทศกาลปีใหม่
พ.ศ.2543
วัดพระธรรมกายที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวข้ามปี
จัดงานบุญยิ่งใหญ่
ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2542 และ 1-2 มกราคม ปีใหม่ ภายใต้งานบุญที่ว่า
"สหัสวรรษที่ 3 แห่งพระรัตนตรัย " หรือ Millennium of
Gems
งานนี้ถูกสำนักข่าวต่างประเทศนำภาพการร่วมมือร่วมใจ
ของชาวพุทธจำนวนนับแสนคน ตีแผ่ภาพข่าวไปทั่วโลก มีผู้ใหญ่จากองค์การสหประชาชาติ
ส่งสาส์น แสดงความยินดี กับการรวมตัวเพื่อสันติภาพ
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของชาวพุทธ
อันหมายถึงการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแด่มวลมนุษยชาติ
ทว่าสื่อมวลชนไทยกลับมามองว่า
เป็นเรื่องราคาคุย สร้างภาพ ซ้ำยังมีการพาดหัวข่าวทำนองว่า "ไชยบูลย์ปลื้ม
คนร่วมงานนับแสน คุยฟุ้งยูเอ็นแสดงความยินดี"
ขณะที่เนื้อข่าวข้างในระบุว่า
มีคนร่วมงานบางตา จำนวนแค่พันกว่าคนเท่านั้น
แล้วอย่างนี้ จะเชื่อพาดหัวข่าว
หรือ เนื้อหาของข่าวดีล่ะครับ
ยุคแห่งการแข่งขัน ไม่อยกาเห็นใครเด่นดัง
ดีเกิน จริงหรือ?
จึงมีความเห็นสรุปติเตียนกันแบบทำลายล้างให้สิ้นซาก
มองไม่เห็นความดีงามของผู้อื่น แม้แต่ธุลี
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
มรณภาพไปหลายสิบปี
หลวงพ่อสด สร้างคุณงามความดีให้กับแผ่นดินสยามไว้มากมาย
ชี้แนะนำทางที่ถูกต้องดีงามให้กับชาวโลก
โดยเฉพาะคนไทย
มีข้อวัตรปฏิบัติที่งดงามยิ่ง จนติดในผลสำรวจโพลของ อ.ธีรยุทธ
บุญมี ว่า เป็นพระที่มีผู้คนนับถือมากในรอบ 50 ปี ที่ผ่านมา
วันนี้
หลวงพ่อสดกลับถูกพุทธบริษัท บางกลุ่ม บางคน ตั้งข้อรังเกียจ
ดูหมิ่นเหยียดหยามไปต่างๆ นานา
สหัสวรรษที่ 3 ของชาวพุทธ
จะตั้งอยู่บนอุดมการณ์ จับผิดกันอย่างไร้ปัญญา
และเหตุผลกระนั้นหรือ??
ที่สำคัญสังคมที่ศีลธรรมถดถอย
กำลังจะลบล้างความรู้สึกที่ว่า ความดีไม่มีวันตาย
เพราะจากภาพการณ์จะมีชาวพุทธหน้าไหนเล่า กล้าตั้งข้อรังเกียจรังงอน ท่านสมัยที่ท่าน
มีชีวิตอยู่
โซตัส