ปีที่ 3 ฉบับที่ 915 ประจำวันเสาร์ที่ 15 เดือนมกราคม พ.ศ. 2543

สหัสวรรษที่ 3

วีรบุรุษแหงความหยุดนิ่ง อรุณรุ่งแห่งความยุติธรรม

เมื่อวันพุธที่ 12 ที่ผ่านมานี้ เป็นวันที่โลกยิ้มแย้มแจ่มใส วันที่ชาวธรรมกายนั่งฟังการไต่สวนมูลฟ้อง การสืบปากคำพยานโจทก์นัดแรก คือ ทนายของกรมการศาสนา ที่ฟังแล้ว ทำให้คนฟังมีอารมณ์ที่เบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นบรรยากาศที่ชื่นมื่นที่สุด นับตั้งแต่มีการพยายามยัดเยียดความผิดใส่ความ ตั้งข้อกล่าวหาหลวงพ่อธัมมชโย

นั่นคือบรรยากาศการพิจารณาในศาลที่เต็มไปด้วยความสงบเรียบร้อย เพราะทุกคนมีความเชื่อมั่นในที่พึ่งแหล่งสุดท้ายของผู้ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม นั่นคือ ศาลสถิตยุติธรรม

หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมถึงชื่นมื่นเบิกบานกันนัก เพราะเป็นเพียงการนำสืบพยานโจทก์นัดแรก และหลวงพ่อฯ ก็ต้องไปนั่งฟังในฐานะจำเลยอยู่

ถ้าใครไปถามคนที่ฟังการพิจารณาวันนั้น ทุกคำตอบของพยานโจทก์ สร้างความหรรษาให้กับคนฟังเป็นอันมาก ถ้าใครอยากรู้ว่า ทนายของเราซักพยานโจทก์อย่างไร ก็ไปถามกัน เอาเองก็แล้วกันครับ เพราะเราต้องให้การเคารพต่อสถาบันศาล ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ชี้นำ เหมือนสื่อบางฉบับ ที่พอวันรุ่งขึ้น ก็จะหน้าที่สื่อเลี้ยงแกะ ตามนิสัยสันดานเดิมที่แก้ยาก

เพราะฉะนั้น ทุกวันพุธ ทุกคนไม่ควรพลาดนะครับ จะมีการนำสืบพยานโจทก์ต่ออีกหลายยก แถมยังจะมีพยานโจทก์ตัวเจ๋งๆ ไปปรากฏที่ศาลอีกหลายคน และต่อไปนี้ ทุกคน จะต้องพูดแต่ความจริงเท่านั้นในศาล เพราะขืนมั่วในศาลเหมือนที่ให้ข่าวกับสื่อมวลชนสนุกปาก

คราวนี้ ไม่เพียงแต่ข้อหาให้การเท็จในศาลที่ต้องติดคุกหัวโตที่สามารถโดนฟ้องได้ทุกคดี การพูดจาก็ต้องระมัดระวัง จะกล่าวหาใครก็จะทำอย่างเลื่อนลอย เหมือนที่แล้วๆ ไม่ได้

เพราะฉะนั้น พวกเราต้องไปฟังกันเยอะๆ ให้สมกับที่ผู้ใหญ่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองบางคนท้าทายไว้ ว่า ไปฟังกันเยอะๆ นะ แล้วจะได้รู้ว่า หลวงพ่อของคุณน่ะทำผิดอะไร

ครับ ไปฟังกันเยอะๆ อย่างที่เขาเชิญชวนนะครับ ผมเห็นบรรยากาศที่ศาลคึกคัก และเต็มไปด้วยความสงบ เป็นระเบียบเรียบร้อย สมกับที่เป็นชาววัดผู้ถือศีลปฏิบัติธรรม และยิ่งเมื่อ ฟังเรื่องราวที่หลวงพ่อถูกกล่าวหา ยิ่งเมื่อทนายของเรารุกไล่จี้ประเด็น คนฟังก็ถึงกับฮือฮา จนทนายเราต้องขอร้องว่า ช่วยกันรักษาความสงบนะครับ อย่าได้เผลอปรบมือเข้าล่ะ

ผมมีความรู้สึกว่า ณ วันนี้ ชาวธรรมกายมีความมั่นใจในกระบวนการพิจารณา ไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ของรัฐเหมือนที่เคยผ่านมา การไปศาลก็เป็นเรื่องปกติไม่น่ากลัว เพราะเราเชื่อ อยู่แล้วว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป หลวงพ่อเองก็ยิ้มแย้มแจ่มใส สบายดี ทักทายผู้มาให้กำลังใจ ด้วยเสียงแจ่มใส นุ่มนวลเหมือนเดิม

แต่ที่สนุกยิ่งกว่านั้น ในเมื่อมีผู้กล่าวโทษอย่างไม่เป็นความจริง ต่อทั้งหลวงพ่อและวัดพระธรรมกาย จนทำให้ภาพพจน์เสียหาย ทำให้คนเข้าใจผิดกันทั้งเมือง เพื่อมุ่งทำลายผลงาน ของหลวงพ่อ ที่มุ่งมั่นในการสร้างคนดีให้เพิ่มขึ้นในเมืองไทย ต่อสู้กับกระแสศีลธรรมตกต่อของสังคม

30 ปี แห่งความดีงาม แต่ถูกทำลายย่อยยับ โดยสื่อมวลชนที่ไร้จรรยาบรรณ ที่อาศัยความมีอิทธิพลต่อประชาชนและนักการเมือง กว่าหนึ่งปีเต็มของวิกฤติการณ์ และความเลวร้าย ที่ชาวธรรมกายนับแสนถูกกล่าวร้าย ด้วยความสลดใจ

วันนี้ วัดพระธรรมกายและหลวงพ่อธัมมชโย ได้ใช้สิทธิปกป้องความบริสุทธิ์ของท่าน ตามที่พวกเราอ้อนวอน ขอร้องมานานแล้ว คือ ใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมทุกประการ

บัดนี้ ทนายของท่านได้รับมอบหมายให้ฟ้องผู้กล่าวร้าย เป็นหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับ และ สถานีโทรทัศน์หนึ่งช่อง และบุคคลผู้เกี่ยวข้อง จำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมดกว่า 900 คดี ทั้ง คดีแพ่งและคดีอาญา เรียกค่าเสียหายนับร้อยๆ ล้านบาท

นับเป็นคดีที่ต่างกรรมต่างวาระ เฉลี่ยเป็นคดีอาญาประมาณ 3 ใน 4 น่าจะถือว่า เป็นการพลิกประวัติศาสตร์ ที่อาจทำลายสถิติการขึ้นศาลในประเทศไทย หรือในโลกก็ว่าได้

ไม่เคยปรากฏมาก่อนที่จำเลยที่เป็นสื่อมวลชน จะกระทำความผิดมากมายอย่างนี้ ต่อโจทก์คนเดียวกัน

ใครๆ ต่อใคร ที่เรียกร้องมานานให้หลวงพ่อท่าน ต่อสู้เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของท่าน ก็คงสมใจนึกแล้วนะครับ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อมีใครกล่าวร้าย เราก็ต้อง นิ่งเฉยไว้ก่อน ให้โอกาสเขากลับตัวกลับใจก่อน ถ้ายังไม่หยุด เราก็ขอปกป้องสิทธิ์และความบริสุทธิ์

แม้เราสู้ด้วยความสงบนิ่งและให้อภัยมาตลอด มิใยที่เราจะถูกคุกคาม ถูกขู่ด้วยสื่อ การใส่ความ จนทำให้ประชาชนทั้งประเทศ เข้าใจผิดหมด เกิดความเกลียดชัง มีขบวนการ โกนหัวกรีดเลือด คอยทำหน้าที่สร้างข่าว เพื่อขึ้นหัวข่าว เพื่อเอาไว้ถ่ายรูป น่าเกลียดน่าชัง

แล้วไม่ต้องรอนานครับ ณ วันนี้ เรามีศาลสถิตยุติธรรม เป็นที่พึ่ง เมื่อเอาหลวงพ่อท่านขึ้นศาล เพื่อไปพิสูจน์ตัวเองเช่นเดียวกัน เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง ของ บ้านเมือง

เหมือนอย่างที่นิตยสารระดับโลก เอเชียวีค เขาวิจารณ์ไว้ด้วยความกังขา นี่ขนาดศาลไทยยังไม่ตัดสิน แต่บรรดาสื่อมวลชนไทย ก็ตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว และทำการประชาทัณฑ์ อย่างน่าเกลียด มาเป็นเวลาปีกว่า ครับ ก็เก่งกว่าศาลนี่ครับ แถมมีสื่ออยู่ในมือด้วย ยิ่งยุคนี้ มันทำบาปง่ายดี ตอนนี้ สนุกมาก สื่อระดับโลกกำลังสนใจเรื่องสื่อมวลชนไทยมากเลย แห่มากันใหญ่แล้วครับ

ผมรู้สึกว่า นับตั้งแต่เราเปิดศักราชใหม่ ฉลองปีใหม่ด้วยภาพดวงประทีป มหัศจรรย์ที่กระจายไปทั่วโลก ภาพของวัดที่สดใสขึ้น งดงามด้วยทะเลลาปน้อยๆ หน้าวัด แสงไฟทุกยาม ราตรี เจดีย์ทองสง่างาม สภาธรรมกายหรือโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฝีมือพวกเราทั้งนั้น ท่ามกลางเสียงระงมของผู้ไม่ทำบุญ ไม่เข้าวัด แต่เราสงบนิ่งเฉย และสำเร็จงดงามท้าทาย ทุกคำกล่าวหา

ปีนี้ปีแห่งมหาชิตัง เม อมตะ นิรันดร์กาลครับ วีรบุรุษแห่งความหยุดนิ่งทุกคน 

"กาขาว"


1